#ยัยตัวร้ายสุดที่รัก Hate to Love You [enemy to lover]

#ยัยตัวร้ายสุดที่รัก Hate to Love You [enemy to lover]

Wariphat

5.0
ความคิดเห็น
125
ชม
11
บท

“ถ้าเกลียดฉันจริง... ทำไมตามมาขนาดนี้?” "ในสงครามธุรกิจ ใครแพ้คือผู้ถูกลบ… ในสงครามหัวใจ ใครเผลอคือผู้ถูกครอบครอง" พิมพ์ใจ... CEO สาวผู้ไม่เคยยอมพ่ายแพ้ให้ใคร รัญชน์... นักธุรกิจหญิงที่พร้อมใช้ทุกกลยุทธ์เพื่อครอบครองทุกสิ่ง เมื่อสงครามที่ดินพันล้านระหว่างสองผู้หญิงอันตรายเริ่มต้นขึ้น เรื่องราวไม่จบแค่บนเวทีประมูล แต่ลามไปถึงห้องประชุม, ลิฟต์กระจก, ปาร์ตี้ไฮโซ และแม้กระทั่ง... เตียงของศัตรู! เพราะศัตรูที่น่ากลัวที่สุด... คือศัตรูที่เราห้ามใจไม่ให้หลงใหลไม่ได้!

บทที่ 1 ตอนที่ 1 ดีลโหด

แสงไฟคริสตัลแชนเดอเลียร์สาดส่องกระจายไปทั่วห้องโถงใหญ่ของโรงแรมริเวอร์ไซด์ แกรนด์ บอลรูมที่

ประดับประดาไปด้วยดอกไม้ออร์คิดสีม่วงหายาก ราวกับยกป่าดิบชื้นจากเชียงใหม่มาวางไว้กลางกรุงเทพฯ

เสียงเครื่องเงินกระทบจานกระเบื้องดังลั่นเป็นระยะ ท่ามกลางกลุ่มนักธุรกิจหญิงชายในชุดสูทผ้าไหมมีระดับ

สุดหรูหราที่กำลังซุบซิบกันระงมเกี่ยวกับ "ที่ดินผืนทอง" แห่งย่านใจกลางเมืองที่กำลังจะถูกประมูลในค่ำคืนนี้

"เริ่มต้นที่ 500 ล้านบาท!"

เสียงก้องของนายหน้าประมูลมือหนึ่งของเมืองดังตัดผ่านความเงียบอย่างกะทันหัน หลังจอ LED ขนาดยักษ์

ด้านหลังเขาปรากฏภาพแผนที่ทำเลทองสีแดงสด พร้อมตัวเลขเรืองแสงที่กระโดดขึ้นตามจังหวะการยกป้าย

ของผู้เข้าร่วมประมูล

'พิมพ์ใจ' สาวสวยวัย 28 ปีในชุดสูททรงชายกระบอกสีดำผ้าฝ้ายผสมไหมพรม ยืนพิงผนังด้านหลังสุดของห้อง

โดยเลือกสังเกตการณ์ผ่านแว่นตาไร้กรอบที่สะท้อนแสงสีฟ้าจากจอภาพ เธอกำมือแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด

ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงตัวเลขใหม่ถูกประกาศขึ้น

ภาพเหตุการณ์ในวันนั้น…วันที่พ่อของเธอต้องเซ็นยื่นฟ้องล้มละลายพร้อมน้ำตา...ก็ผุดผ่านขึ้นมาในความทรงจำ

ของเธออย่างเด่นชัด

"700 ล้าน!"

เสียงผู้หญิงทุ้มลึกที่ฟังดูคุ้นหูทำให้พิมพ์สะดุ้ง เธอเหลือบตามองไปยังเวทีด้านหน้าที่ซึ่ง 'รัญชน์' สาวสวมชุด

เดรสคัทเอวสูงสีแดงเลือดนกผ่าข้างโชว์ขาที่ยาวเรียว กำลังนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้อย่างสะดุ้งสะดิ้ง นิ้วมือประดับ

ไปด้วยแหวนเพชรเม็ดโตสะท้อนแสงวิบวับ เธอตวัดผมบอบเบย์สีเอสเปรสโซที่ร่วงเป็นลอนลงไหล่อย่าง

สง่างาม

"ผู้เสนอราคาคือคุณรัญชน์ จากกลุ่มศรีรัญชน์! ได้รับการยืนยันครับ!"

พิมพ์กัดริมฝีปากล่างจนแทบเป็นรอย กลิ่นน้ำหอมแบล็กโอปิอัมที่รัญชอบใช้ราวกับแทรกซึมผ่านเข้ามาใน

โพรงจมูกของเธอแม้ว่าจะอยู่ห่างกันเป็นสิบเมตร เธอรีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมา พิมพ์ข้อความหาทีม

กฎหมายของบริษัทด้วยความเร็วแสง: เพิ่มวงเงินกู้ฉุกเฉินอีก 20% เดี๋ยวนี้

"900 ล้าน! จากบริษัทเทคแลนด์!"

เสียงฮือฮาดังลั่นห้องเพราะยอดประมูลเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พิมพ์รีบชำเลืองดูนาฬิกาโรเล็กซ์สีทองที่ข้อมือ

19:45 น. อีก 15 นาทีการประมูลจะสิ้นสุดลง เธอหายใจเข้าลึกๆ ก่อนยกป้ายสีดำที่มีโลโก้บริษัท

PIM Tech สีเงินแวววาว

"1,200 ล้าน! จาก PIM Tech!"

ความเงียบงันแผ่ปกคลุมห้องประมูลเป็นวงกว้าง กล้องทุกตัวหันมาที่สาวสวยที่ยืนอยู่ตรงหลังห้องเป็นจุดเดียว

พิมพ์ยังคงยืนแบบเชิ่ดๆ เข้าสู้ ส่วนรัญชน์ค่อยๆ หมุนเก้าอี้มาหาเธอ และสบตาเธอผ่านแว่นกันแดด

มิวมิว ลินส์ สีน้ำตาลช็อกโกแลตที่แม้แต่ในห้องมืดก็ยังไม่ยอมถอดออก

"1,250 ล้าน!"

รัญพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยขณะตวัดปากกาเซฟไฟร์สีทองไปที่ใบป้าย

พิมพ์รู้สึกเหงื่อซึมตามร่องหลัง ชุดชั้นในสปันเด็กซ์รัดรูปเริ่มทำให้หายใจลำบาก แต่ภาพใบหน้าพ่อที่กำลัง

ยิ้มเศร้าในวันสุดท้ายก่อนโรงงานถูกยึดทำให้เธอกระชับป้ายที่ถือแน่นขึ้น

"1,500 ล้าน!"

คราวนี้มีเสียงโหวตฮือตามมาจากผู้ร่วมงานหลายคน รัญผลักแว่นตาไว้ผมอย่างช้าๆ ริมฝีปากที่ฉาบเคลือบ

ด้วยสีกุหลาบกำลังบานเบี้ยวเป็นรอยยิ้มเยาะ

"เล่นใหญ่จริงๆ นะคุณพิมพ์"

เสียงเธอทิ่มแทงผ่านระบบเสียงส่วนตัวที่เชื่อมกับไมโครโฟนหลัก

"แต่คุณลืมไปรึเปล่าว่า... เงินก้อนนี้เท่ากับ 70% ของมูลค่าบริษัทคุณ?"

พิมพ์รู้สึกโกรธจนแก้มแดง แต่ยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉย เธอก้าวออกจากเงามืดมาใต้แสงสปอตไลท์

ที่สาดส่องกลางห้อง

"การลงทุนที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์"

เสียงของเธอดังชัดเจนราวกับมีดโกน "เพราะฉันรู้ดีว่าควรลงทุนที่ 'คน'... ไม่ใช่ที่ดินเปล่า"

จังหวะนั้นเอง ที่โทรศัพท์ของรัญบนโต๊ะสั่นสะเทือนด้วยข้อความจากเลขาส่วนตัว: พบการโอนหุ้นด่วน

จากบัญชีลับของ PIM Tech 20% เข้าธนาคารที่สิงคโปร์

รัญกัดริมฝีปากจนเป็นรอยช้ำ ก่อนยื่นปากกาเซฟไฟร์ชี้ตรงมาที่พิมพ์อย่างไม่ปรานี

"1,600 ล้าน!"

"1,600 ล้านครั้งที่หนึ่ง... 1,600 ล้านครั้งที่สอง..."

พิมพ์หลับตาลงชั่วครู่ ภาพเด็กหญิงวัย 12 กำลังถูกเพื่อนๆ ล้ออย่างหนักจนน้ำตานองหน้าเพราะใส่ชุด

นักเรียนมัธยมปลายที่ต่อชายผ้าจากเสื้อเก่าๆ ของแม่เธอผุดขึ้นในเห็นในความคิด

"2,000 ล้าน!"

เสียงกรีดร้องของหญิงชราในห้องดังขึ้นก่อนจะเงียบกริบ พิมพ์เดินตรงไปยังเวที ทิ้งรัญที่นั่งแข็งเป็นหิน

ไว้เบื้องหลัง

"และผู้ชนะคือ PIM Tech ด้วยราคา 2,000 ล้านบาท!"

เสียงปรบมือดังกึกก้องแต่ไร้ซึ่งความยินดีกับราคาที่ปั่นกันอย่างโหดร้ายซึ่งดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด

พิมพ์รับป้ายผู้ชนะจากนายหน้าด้วยมือที่สั่นเทา เธอหันไปสบสายตาเยือกแข็งของรัญที่กำลังจ้องเธอ

ราวกับมีดพิฆาต

"นี่ไม่ใช่เกมเด็กๆ นะคุณพิมพ์"

รัญลุกขึ้นยืน โค้งตัวเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นแบล็กโอปิอัมหอมกรุ่น

"คุณเพิ่งจุดไฟในป่าที่เต็มไปด้วยเชื้อเพลิง..."

"และคุณก็ไม่ใช่คนดับเพลิงคนแรกที่คิดจะขู่ฉัน"

พิมพ์ตอบกลับโดยไม่กะพริบตา มือขวาบีบป้ายไม้มะเกลือแน่นจนลายนิ้วมือแทบทิ่มเข้าไปในเนื้อไม้

รัญหัวเราะคิกคักขณะตวัดนิ้วชี้แตะจีบผ้าคอเสื้อของพิมพ์

"เดี๋ยวเราก็จะได้รู้... ว่าไฟของใครร้อนแรงกว่ากัน"

เมื่อเธอเดินจากไปด้วยส้นสูงสีดำที่ดังกระทบพื้นหินอ่อนเป็นจังหวะดุดัน พิมพ์จึงรู้ตัวว่าได้เผลอกลืนน้ำลาย

เฮือกใหญ่ลงคอไปสามครั้งโดยไม่รู้ตัว...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Wariphat

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

แก้วใบเล็ก
5.0

โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว            “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ”            “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย”            “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้”            “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่”            “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย            “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้            “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน            “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ            “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้”            ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน            เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด            “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง            คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม            ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน

คลื่นรักอสูร

คลื่นรักอสูร

มาชาวีร์
4.8

(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ