Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ย้อนเวลาไปเป็นคู่หมั้นชาวสวนผู้ร่ำรวย ยุค 80

ย้อนเวลาไปเป็นคู่หมั้นชาวสวนผู้ร่ำรวย ยุค 80

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
161
ชม
10
บท

ชิงเหม่ยพึ่งเรียนจบต้องดิ้นรนสู้ในชีวิตเมือง ระหว่างทางข้ามถนนก็ถูกรถชนตาย ก่อนจะได้รับชีวิตใหม่อีกครั้ง เธอพบว่าตัวเองย้อนเวลาไปในยุค 80 ไม่ทันจะอะไรก็พบว่าพ่อของเธอจะนำเธอไปขาย ชิงเหม่ยจึงหนีแอบขึ้นรถของชายแปลกหน้า ใครจะคิดว่ารถคันนั้นจะพาเธอไปยังต่างอำเภอ เธอพบว่าเขาเป็นชาวสวนธรรมดา ปลูกผลไม้ขายมีลูกสาวและลูกชาย จนกระทั่งวันหนึ่งเธอพบหนทางที่จะร่ำรวย จึงร่วมมือกับเขาเพื่อนำพาพวกเราร่ำรวยไปด้วยกัน

บทที่ 1 No.1

เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!

เสียงฟ้าร้องดังในขณะที่ท้องฟ้าอึมครึม ก่อนจะมีเม็ดฝนโปรยปรายลงมาเป็นเส้นยาวราวกับม่านบาง ๆ ทำให้ถนนใหญ่ของเมืองหลวงเปียกชุ่มจนเกิดเงาสะท้อนจากแสงไฟริมขอบถนนที่เริ่มสว่างขึ้นในช่วงที่ท้องฟ้ามืดครึ้มและฝนพรำ

ชิงเหม่ย เจ้าของร่างอ้อนแอ้นราวกับว่าเมื่อลมพัดมาก็จะปลิวไปได้ง่าย ๆ เธอสวมเสื้อคลุมผ้าบางที่แทบไม่กันฝน รีบวิ่งไปบนถนนพลางยกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ชายกระโปรงเปียกน้ำฝนที่พื้นถนนเอาได้ ชิงเหม่ยกอดห่อผ้าขนาดเล็กไว้แน่นใต้เสื้อคลุม นั่นคืออาหารเช้าที่เธอเตรียมไปกินระหว่างพักเที่ยงที่ทำงาน

เสียงย่ำเท้าของชิงเหม่ยดังปนไปกับเสียงล้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่แล่นผ่านน้ำขังจนสาดกระเซ็น คนบนถนนบางคนถือร่มเดินอย่างระวัง บางคนก็ใช้กระเป๋าหรือของใช้ที่ติดมือมาบังศีรษะของตัวเองเอาไว้

แต่สำหรับชิงเหม่ยแล้ว ไม่มีเวลาพอจะคิดถึงฝนที่เย็นยะเยือก เธอมีเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่จะไปทำงานสาย ชิงเหม่ยวิ่งหลบฝนไปพลางพึมพำกับตัวเองไปว่า…

‘ต้องรีบไปให้ทันก่อนที่จะประชุม นี่เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะทำผลงานได้ และผลงานชิ้นนี้จะเป็นใบเบิกทางให้เราได้เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนและสวัสดิการก็จะมากขึ้นอีกด้วย สู้ ๆ ชิงเหม่ย ฝนตกแค่นี้อย่าไปกลัว’

และระหว่างที่ชิงเหม่ยกำลังคิดถึงอนาคตอันสดใสของตัวเองอยู่นั้น เสียงแตรรถก็ดังขึ้นมาจากระยะไกล พร้อมกับเสียงยางรถเบียดพื้นถนนที่เกิดจากการเบรกอย่างกะทันหัน

ปี๊น! ปี๊น! เอี๊ยด!

เสียงแตรรถพร้อมกับเสียงเบรก ทำให้ชิงเหม่ยหยุดนิ่งและเงยหน้าขึ้นมองรถยนต์ที่เหมือนจะเสียหลักกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ตัวของเธอ พอชิงเหม่ยรู้ตัวก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ

“ว๊าย!”

“หลบไป ๆ เบรกไม่อยู่!”

เหมือนเวลาหยุดนิ่ง ห่อผ้าในมือบางหลุดร่วง น้ำฝนไหลลงบนใบหน้า จิตสุดท้ายของชิงเหม่ยคิดได้แค่ว่า…

‘ชีวิตของเราต้องจบลงแล้วเหรอ’

ชิงเหม่ยรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนั้นกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ ไม่มีน้ำหนักหรือความเจ็บปวด ทุกอย่างขาวโพลนไปหมด แสงขาวสว่างจ้าคลายกับเมฆหมอกจนมองไม่เห็นสิ่งอื่นใดรอบตัว ก่อนจะมีเสียงของหญิงสาวลึกลับดังขึ้นกึกก้อง

“เจ้าคือผู้ถูกลิขิต ชีวิตของเจ้าที่นี่สิ้นสุดแล้ว แต่หนทางของเจ้ายังไม่จบลงเพียงเท่านี้”

“นะ นี่คือความตายอย่างนั้นหรือ ฉันยังตายไม่ได้นะ ฉันยังสาวอยู่เลย แฟนก็ยังไม่เคยมีสักคน หน้าที่การงานก็ยังต่ำเตี้ย ที่สำคัญฉันยังทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นฉันยังตายไม่ได้จริง ๆ ฮือ…”

“เจ้าอย่าพึ่งตีโพยตีพายไป เจ้าจะได้โอกาสมีชีวิตอีกครั้ง เพื่อแก้ไขสิ่งที่เจ้ามิอาจทำได้ในชีวิตที่เคยมี แต่ว่าที่ที่เจ้าต้องไปนั้น จะมิใช่ที่ที่เจ้าจากมา”

“…ละ แล้วฉันจะได้ไปที่ใดกัน”

“หึหึ ย้อนกลับไปยังอดีต ที่นั่นคือโลกที่เจ้าจะได้เริ่มต้นใหม่ในร่างเดิม เพียงแต่ยุคสมัยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

“อะ อดีตอย่างนั้นหรือ แต่ฉันยังมีสิ่งที่ยังทำไม่สำเร็จอีกตั้งเยอะเลยนะ ฉันต้องการกลับไปยังโลกปัจจุบัน คุณ! คุณได้ยินฉันไหม”

และทุกอย่างก็เงียบลง ก่อนที่ชิงเหม่ยจะหมดสติไปอีกครั้งในแสงสีขาว อย่างกับทุกอย่างเป็นเพียงความฝันหรือนิมิตอย่างไรอย่างนั้น…

เสียงนกและกลิ่นดินหลังฝนตก ทำให้เปลือกตาบางของคนที่กำลังหลับใหลค่อย ๆ ลืมขึ้นมาอย่างช้า ๆ เมื่อยกศีรษะขึ้นก็รู้สึกปวดและมึนเมาเล็กน้อย สายตาที่ยังคงพร่ามัวมองไปรอบ ๆ เห็นผนังไม้เก่า

‘ที่นี่คือที่ใด หรือว่านี่คืออดีตที่เสียงนั้นกล่าวถึง’

นอกจากนี้ยังได้ยินเสียงพูดคุยของผู้หญิงและผู้ชายดังมาจากข้างนอกห้องอีกด้วย ถึงแม้ว่าอาการจะยังไม่สู้ดี แต่สมองก็สั่งให้ตั้งใจฟัง

“เถ้าแก่ฟงให้ราคาดี จะมัวรออะไรอีก เด็กคนนี้ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรในบ้านอยู่แล้ว”

“แต่ชิงเหม่ยยังไม่หายดีเลยนะ ถ้าหากเธอรู้ว่าเราจะขายเธอให้คนอายุมากกว่าหลายปี เธอจะรับไม่ได้จนยอมกัดลิ้นตัวเองตายไปเลยเหรอ”

“อย่ามัวแต่ใจอ่อน! เงินที่เขาให้มามากพอที่จะปลดหนี้ทั้งหมดของบ้านเราได้ แล้วยังเหลือพอให้เธอไปซื้อผ้าใหม่อีกด้วย”

ชิงเหม่ยได้ยินทุกคำอย่างชัดเจน ทำให้หัวใจเต้นแรงด้วยความตกใจ พลางพึมพำกับตัวเองในใจว่าคนที่สองคนข้างนอกนั้นจะขายนั้นใช่ตัวเธอหรือไม่ แต่ชื่อที่เอ่ยออกมามันก็คือชื่อของเธอ

‘ขาย? พวกเขาคิดจะขายฉันอย่างนั้นหรือ’

เมื่อชิงเหม่ยคิดได้อย่างนั้น ก็รีบลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะเดินไปมองร่างกายของตัวเองในกระจกเก่าบานเล็ก ก็พบว่าร่างกายนี้เหมือนเค้าโครงเดิมของเธอแทบจะทุกอย่าง เพียงแต่ว่าอาจจะผอมบางกว่าหน่อยเท่านั้น บ่งบอกได้เลยว่าบ้านหลังนี้กำลังประสบปัญหาทางการเงินมากแค่ไหน ทั้งยังมีรอยแผลฟกช้ำตามตัวเล็กน้อยตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายอีกด้วย

“นี่ฉันกลายเป็นลูกสาวของครอบครัวที่แสนจะลำบากแบบนี้จริง ๆ เหรอ และก็กำลังจะถูกพวกเขาคิดจะขายให้คนแก่อีกด้วย มอบชีวิตใหม่ให้แบบนี้ ส่งเราไปอยู่นรกเสียยังดีกว่า”

ในระหว่างที่ชิงเหม่ยกำลังตัดพ้อในโชคชะตาของตัวเองอยู่นั้น เสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้น

“ชิงเหม่ย ฟื้นแล้วเหรอ”

บุคคลที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของชิงเหม่ยนั้นเป็นหญิงและชายวัยกลางคน ซึ่งชิงเหม่ยคาดเดาในใจว่าสองคนนี้น่าจะเป็นพ่อกับแม่ของเธอในยุคนี้ และตอนที่ทั้งสองกำลังจะเดินเข้ามาหาชิงเหม่ยนั้น เธอก็ค่อย ๆ ก้าวเดินถอยหลังด้วยความหวาดหวั่น

“ทำไมลูกถึงมีสีหน้าและท่าทางที่กลัวพ่อกับแม่อย่างนั้นล่ะ”

“ฉัน เอ่อ…ลูกได้ยินทุกอย่างทั้งหมดแล้ว พ่อกับแม่จะพาตัวลูกไปขายให้กับคนแก่ใช่หรือไม่”

“ชิงเหม่ย! นี่ลูกได้ยินทั้งหมดเลยหรือ”

คนเป็นแม่มีสีหน้าและน้ำเสียงที่ตกใจ แต่ผู้เป็นพ่อมีสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นดุดัน ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง

“เจ้าเด็กคนนี้! นี่ไม่ใช่เรื่องที่ลูกควรยุ่ง ครอบครัวของเรายากจนมาก หากไม่ขายลูกไป พวกเราทั้งหมดก็ต้องอดตาย!”

เมื่อชิงเหม่ยได้ฟังคำพูดอันสุดแสนจะเห็นแก่ตัวของผู้เป็นพ่อ ก็อดที่จะกัดฟันแน่นด้วยความโกรธไม่ได้ แต่ก็พยายามที่จะสงบจิตสงบใจเอาไว้

“ลูกไม่ใช่สิ่งของที่พวกท่านจะขายไปเพื่อเงิน และอีกอย่าง ผู้เฒ่าฟงคนนั้น เขาอายุมากกว่าลูกหลายสิบปีเป็นแน่ พ่อกับแม่คิดจะส่งลูกไปเป็นบ่าวรับใช้ของเขาหรืออย่างไรกัน”

“ชิงเหม่ย แม่ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่เฒ่าฟงบอกว่าเขาจะให้เงินก้อนใหญ่กับเรา เราจะได้ไม่ต้องทนลำบากอีกต่อไป ลูกเองไปอยู่กับเขา เขาก็จะยกให้เป็นเมีย สบายไปทั้งชีวิต แล้วแบบนี้ลูกจะกลัวสิ่งใดกันเล่า”

ผู้เป็นแม่พยายามเข้าไปพูดกับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถทำให้ชิงเหม่ยเปลี่ยนใจได้ เธอหลบการสัมผัสของแม่เหมือนไม่เคยมีเยื่อใยกันมาก่อน ทั้งยังจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชาอีกด้วย

“แต่ลูกต้องเสียทั้งชีวิตเพื่อความสุขของพวกท่านใช่ไหม ลูกต้องการเลือกทางของลูกเอง!”

คำเถียงและความดื้อรั้นของชิงเหม่ยทำให้พ่อเกิดอารมณ์โมโหขึ้นมาอีกครั้ง ตบโต๊ะเสียงดังลั่นและกล่าวยื่นคำขาดพร้อมกับชี้หน้าของชิงเหม่ยอย่างออกคำสั่ง ก่อนที่พ่อกับแม่จะพากันเดินออกจากห้องไป

“ลูกไม่มีสิทธิ์เลือก! ลูกกินอยู่ในบ้านนี้และเป็นลูกของพวกเรา ลูกต้องทำตามที่พ่อกับแม่บอกเท่านั้น”

เมื่อทั้งสองออกจากห้องไปแล้ว ชิงเหม่ยก็พ่นลมหายใจออกมาเป็นทางยาว ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าว่า…

“นี่คงเป็นบททดสอบจากเบื้องบนที่ส่งฉันมาที่นี่สินะ ฉันต้องหาทางรอดจากสถานการณ์นี้ไปให้ได้ ฉันจะไม่ยอมถูกขายไปเป็นเมียของคนแก่อย่างเด็ดขาด”

ระหว่างวันที่อยู่ในห้อง ชิงเหม่ยเอาแต่คิดวางแผนหนีออกจากบ้านที่เต็มไปด้วยความยากลำบากหลังนี้ จนกระทั่งสายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นว่าพ่อของเธอกำลังพูดคุยกับใครบางคนอย่างออกรสชาติ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความพอใจ ซึ่งชิงเหม่ยคิดว่าคนผู้นั้นต้องเป็นผู้เฒ่าฟงอย่างแน่นอน เพราะชายผู้นั้นเป็นคนแก่

‘ฉันต้องหนีคืนนี้หากรอจนถึงพรุ่งนี้ ฉันคงไม่มีโอกาสหนีรอดแล้ว’

แกร๊ก!

เสียงเปิดประตูทำให้ชิงเหม่ยหลุดออกมาจากความคิด แล้วทอดสายตาไปตรงประตูห้อง ก็เห็นว่าเป็นแม่ที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมอาหารเรียบง่าย ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีเนื้อสัตว์ มีเพียงผักที่หาเก็บเอาได้เท่านั้น

“ชิงเหม่ย กินอะไรเสียหน่อยเถอะ พรุ่งนี้ลูกต้องตื่นแต่เช้าไปบ้านผู้เฒ่าฟง”

แม่เอ่ยเสียงเศร้า ถึงแม้ในใจอยากจะช่วยบุตรสาวมากแค่ไหน แต่ความจนมันบีบบังคับให้ต้องทำเช่นนี้

“ลูกรู้แล้ว ลูกจะรีบพักผ่อน”

ชิงเหม่ยแกล้งทำเป็นว่าง่ายเพื่อให้เรื่องมันจบ และแม่ก็ยอมออกจากห้องไปโดยง่าย เพราะถ้าอยู่ต่อไปบรรยากาศในห้องคงจะเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ส่วนชิงเหม่ยทำได้แค่เพียงกำมือแน่น น้ำตาคลอ แต่สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

เวลาหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ จนถึงช่วงกลางดึก ท้องฟ้าในคืนนี้มืดหม่นกว่าปกติ มีแต่ดวงดาวให้แสงสว่างเท่านั้น ชิงเหม่ยเตรียมข้าวของจำเป็นเล็กน้อยใส่ห่อผ้า ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าเก่า ๆ ไม่มีของมีค่าอันใด

ชิงเหม่ยเปิดหน้าต่างแคบ ๆ แล้วพยายามปีนออกไปอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะรีบวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดโดยเร็ว ในใจก็ยังคงคิดวางแผนอยู่ตลอดเวลา

‘ต้องไปให้ถึงถนนใหญ่ก่อนรุ่งสาง ถ้าเฒ่าฟงรู้ว่าฉันหนี เขาคงตามตัวฉันจนเจอเป็นแน่ เพราะคงจะเป็นบุคคลที่กว้างขวางอยู่ไม่น้อย’

ชิงเหม่ยวิ่งจนมาถึงถนนเส้นใหญ่ของหมู่บ้าน เสียงเครื่องยนต์ของรถและแสงไฟสาดส่องเข้ามาที่ใบหน้าใส ชิงเหม่ยมองเห็นรถคันใหญ่จอดอยู่ริมถนน เหมือนกับว่าเจ้าของรถกำลังทำอะไรบางอย่าง ทำให้ชิงเหม่ยคิดได้ว่าควรจะแอบขึ้นรถคันนี้ไป

‘นี่แหละโอกาสของเรา เราต้องซ่อนตัวไปกับรถคันนี้”

เมื่อคิดได้อย่างนั้นชิงเหม่ยก็ค่อย ๆ เดินย่องไปที่ท้ายรถ รอจนเจ้าของรถไม่สังเกตมา จึงปีนขึ้นไปท้ายรถอย่างเงียบเชียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร แต่ก็ดีกว่าอยู่ในบ้านหลังนั้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ซีไซต์
5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด

ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด

ซีไซต์
5.0

ความสุขในฐานะคุณหนูอันดับหนึ่งของหนานอิงต้องพังลงทันใด เมื่อนางถูกโจรชั่วจับตัวมาและยังกระทำย่ำยี กระทั่งมารดาของนางยังถูกคร่าชีวิต สาวใช้ข้างกายถูกตัดลิ้นจนเสียสติกลายเป็นคนบ้าใบ้ ทั้งหมดด้วยความริษยาของฮูหยินใหญ่ผู้นั้น หนานอิงได้พบกับหานเซียวและลู่หนิงหวังสองอ๋องพี่น้องที่คอยช่วยเหลือนาง อ๋องผู้ป่าเถื่อนโหดร้ายและแสนเย็นชา แม้จะให้การช่วยเหลือแต่นางก็กลายเป็นนางบำเรอของพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าสองอ๋องจะโหดร้ายแต่นางจำต้องอดทน สุดท้ายนางกลายเป็นมือสังหารที่วางชีวิตไว้กับพวกเขาเพื่อแลกกับการแก้แค้น นางถูกฝึกอย่างหนักจนเก่งกาจยิ่ง หนานอิงจะทำเช่นใดเมื่อได้รู้ว่า คนที่ย่ำยีนางและเป็นศัตรูที่นางต้องการสังหารคือ สองอ๋องทั้งสองที่เป็นผู้กระทำย่ำยีนางจนปางตาย ฆ่า หรือ ไม่ฆ่า ล้วนเป็นนางที่ต้องเลือก! หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นความรักแบบ 3P โปรดดาวน์โหลดตัวอย่างก่อนอ่านค่ะ ภาคต่อของนิยายเรื่องนี้คือเรื่อง Trigger warning: 3P

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ