Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เพราะรักจึงยอมเลิก

เพราะรักจึงยอมเลิก

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
220
ชม
10
บท

นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม

บทที่ 1 No.1

ขณะที่ นรา นักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 4 คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ กำลังนั่งทำข้อสอบวิชาสุดท้ายของการสอบกลางภาคอย่างตั้งอกตั้งใจเธอก็โดนอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกออกไปหน้าห้องกลางคัน

“นรา หยุดทำข้อสอบแล้วตามอาจารย์ออกมาข้างนอก”

“ค่ะ” เจ้าของชื่อวางปากกาแล้วปิดข้อสอบที่ใกล้จะทำเสร็จอยู่แล้วลง

นักศึกษาสาวไม่แปลกใจเพราะสถานการณ์เช่นนี้เคยเกิดกับตัวเองบ่อยเกือบทุกเทอมจนแทบจะกลายเป็นความเคยชินที่ไม่น่าภาคภูมิใจนัก เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชั้นที่ทำเพียงเงยหน้าขึ้นมามอง บางคนแอบกลั้นขำแล้วกลับไปก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบต่อ ไม่มีใครให้ความสนใจราวสิ่งที่กำลังเกินขึ้นนี้เป็นเรื่องปกติ

นราเดินตามอาจารย์สาวออกมาหน้าห้อง...ปีแรก ๆ เธอยังรู้สึกอายที่โดนเรียก แต่พอเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเข้าปีที่สี่เธอก็ชาชินจนไม่รู้สึกอะไรเสียแล้ว จะเรียกว่าหน้ามันด้านจนชาก็คงไม่เกินจริงนัก

“หนูขอทำข้อสอบต่อให้เสร็จไม่ได้เหรอคะอาจารย์ นี่เป็นวิชาสุดท้ายของการสอบกลางภาคแล้ว เดี๋ยวสิ้นเดือนหนูจะรีบเอาเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษไปจ่ายค่าเทอมนะคะ” นักศึกษาสาวยกมือไหว้ขอความเห็นใจ

เธอใกล้จะเรียนจบแล้ว ความหวังที่จะได้มีงานดี ๆ ทำ มีรายได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและช่วยเหลือครอบครัวอยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอเพียงแค่เธอผ่านเทอมนี้และเทอมสุดท้ายไปได้เท่านั้น...อีกแค่อึดใจเดียว

“แต่เธอก็ค้างมาหลายเดือนแล้วนะ ทางการเงินเขาแจ้งมาว่าไม่อนุญาตให้เธอเข้าสอบ อาจารย์ก็จนใจ”

“แต่ถ้าหนูไม่ได้สอบ หนูต้องติดเอฟวิชานี้แน่ ๆ เลยนะคะอาจารย์ อีกเทอมเดียวหนูก็จะเรียนจบแล้วด้วย...อาจารย์ช่วยหนูหน่อยไม่ได้เหรอคะ ขอกลับเข้าไปสอบให้เสร็จโดยยังไม่ต้องนับคะแนนก็ได้ค่ะ หนูจ่ายค่าเทอมครบเมื่อไหร่ค่อยนับ” นราไหว้ปรก ๆ พยายามต่อรองให้ได้กลับเข้าไปทำข้อสอบอย่างสุดความสามารถ

เนื่องจากนราเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่ทำงานรับจ้างรายวันอยู่ที่ตลาดในชุมชนแออัด ขนผักบ้าง รับจ้างทำความสะอาดบ้านตัดหญ้าบ้างแล้วแต่ชาวบ้านแถวนั้นจะจ้าง รายได้จึงไม่มากมายนัก การที่เธอจะมาเรียนมหาวิทยาลัยได้จึงต้องทำงานพิเศษอย่างหนัก ทั้งรับจ้างเฝ้าร้านกาแฟหลังมหาวิทยาลัย ทำเอกสารกวดวิชาขาย บางครั้งก็รับสอนพิเศษให้น้อง ๆ ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เรียกได้ว่าอะไรที่พอจะเปลี่ยนเป็นเงินได้นราเอาหมด

ความจริงเทอมนี้เธอเก็บค่าเทอมครบแล้ว แต่เพราะพ่อป่วยจึงต้องแบ่งเงินไปซื้อยาทำให้ค่าเทอมยังขาดไปนิดหน่อย ถ้าได้ค่าจ้างเดือนล่าสุดเมื่อไหร่ก็จะครบพอดี

“นะคะอาจารย์หนูขอร้อง ช่วยหนูด้วยเถอะค่ะ” นักศึกษาสาวเริ่มน้ำตาคลอ

คนเป็นอาจารย์ก็ใช่จะใจไม้ไส้ระกำกับลูกศิษย์ ที่สำคัญนราก็เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน แม้จะไม่ค่อยมีเวลามาร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ในคณะเพราะเจ้าตัวบอกว่าต้องทำงานแต่ผลการเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้มาโดยตลอด...หากทำตามที่นักศึกษาเสนอให้เธอเข้าสอบให้เสร็จไปก่อนแต่ยังไม่เก็บคะแนนคงไม่เสียหายกระมัง

ระหว่างอาจารย์กำลังตัดสินใจนักศึกษาชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในวงสนทนา

“สวัสดีครับอาจารย์” เขายกมือไหว้ก่อนดันแว่นสายตากรอบเหลี่ยมให้กลับไปอยู่บนสันจมูกโด่ง “ถ้าผมไปจ่ายค่าเทอมให้ตอนนี้อาจารย์จะอนุญาตให้นราเข้าสอบได้ใช่ไหมครับ” ตุลย์ถาม

“ตุลย์!” นาราเรียกแฟนหนุ่มอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอถึงที่คณะแล้วต้องมาเห็นภาพน่าอายพวกนี้...ไหนว่าวันนี้ก็มีสอบเหมือนกันอย่างไรล่ะ

ตุลย์เป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ชั้นปีที่ 4 เขาเป็นแฟนหนุ่มของนราที่คบหากันมาได้สองปี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วยมีนิสัยหลายอย่างคล้าย ๆ กัน แทบไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง จะมีก็แต่นรานี่ล่ะที่ชอบเก็บงำหลายเรื่องเป็นความลับจนทำให้เขาน้อยใจอยู่บ่อย ๆ

เช่นเรื่องที่เธอมีเงินไม่พอจ่ายค่าเทอม เทอมล่าสุดเป็นต้น

“เธอเป็นญาติของนราเหรอ?” อาจารย์สาวถาม

“ผมเป็นแฟนครับ เดี๋ยวผมจะไปจ่ายค่าเทอมให้เดี๋ยวนี้เลย อาจารย์ปล่อยนราให้เข้าสอบเถอะครับ”

“ตุลย์แต่ว่า...” นราหมายจะห้าม เพราะที่ตุลย์เคยช่วยจ่ายให้เธอเมื่อเทอมก่อน ๆ เธอยังไม่ได้ใช้คืนเลย จะปล่อยให้เขาไปช่วยจ่ายอีกครั้งได้อย่างไร

“อย่าดื้อ” ตุลย์ดุแฟนสาวเสียงนุ่ม “รีบกลับเข้าไปสอบให้เสร็จแล้วออกมารอตุลย์หน้าห้อง ทำธุระเสร็จแล้วจะกลับมารับ”

ในที่สุดนราก็สามารถสอบกลางภาคได้เสร็จครบทุกวิชา เมื่อเธอออกมาจากห้องก็เห็นว่าตุลย์มานั่งอ่านหนังสือรออยู่แล้ว

“ตุลย์...” เธอเรียกเบา ๆ

“เป็นไง ทำข้อสอบได้ไหม?”

“เราขอโทษนะที่ทำให้ตุลย์เดือดร้อนอีกแล้ว” แทนที่จะตอบคำถามนรากลับเลือกที่จะขอโทษแทน เธอไม่ชอบเลยที่ตัวเองต้องกลายไปเป็นตัวภาระของแฟนหนุ่ม...ความจริงเธอควรวางแผนรับผิดชอบชีวิตของตัวเองให้ดีกว่านี้

“ขอโทษทำไม...” ว่าที่คุณหมอหนุ่มถอนหายใจ “เดือดร้อนเรื่องเงินทำไมไม่บอก ตุลย์เคยบอกนราแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องเกรงใจเงินแค่นี้เอง มันไม่ได้มากมายอะไรจนถึงขั้นต้องเอาอนาคตตัวเองเข้าแลก”

“มันไม่มากสำหรับตุลย์ก็จริง แต่มันมากสำหรับเรานี่”

นรารู้ว่าครอบครัวแฟนของตัวเองรวยจนเข้าขั้นเศรษฐี แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้เธอเอาเปรียบเขาได้...

ตุลย์เก็บหนังสือเรียนลงกระเป๋า เขาเดินไปลูบหัวแฟนสาวเบา ๆ นึกอยากหอมกระหม่อมเธอสักทีแต่พวกเขายังอยู่ในอาคารเรียนจึงยังไม่สามารถทำตามใจได้

เพราะนราไม่เคยคิดเอาเปรียบใคร เธอเป็นคนขยัน รักศักดิ์ศรีและภูมิใจที่ได้ยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เขาเคยผ่านมาที่พอรู้ว่าเขารวยก็ร่ำร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่หยุด...ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้ตุลย์รักนราจนคิดจะจริงจังกับเธอมากกว่าใคร

“ถ้านราไม่สบายใจ เรียนจบได้งานทำเมื่อไหร่ก็กลับมาเลี้ยงดูนักศึกษาอย่างตุลย์ด้วยก็แล้วกัน ตุลย์ยังต้องเรียนอีกตั้งสองปีกว่าจะจบ” เขาบอกยิ้ม ๆ “เฮอ...อีกหน่อยก็จะได้มีแฟนเป็นสาวออฟฟิศแล้ว ตื่นเต้นจังเลย”

“ตุลย์ก็ เปลี่ยนเรื่องอีกจนได้...เราจะหาเงินมาคืนนะ เราจดเอาไว้ทุกบาททุกสตางค์เลย เราไม่เอาเงินตุลย์มาเฉย ๆ หรอก” นราบอกอย่างมุ่งมั่น

หลาย ๆ ครั้งความใจดีของตุลย์ก็ทำให้นราอดละอายใจไม่ได้

“ตามใจ...ว่าแต่ วันนี้วันอะไรนราจำได้หรือเปล่า” ตุลย์เปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้แฟนสาววนเวียนคิดถึงแต่เรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ

“วันอะไร...ก็วันสอบวันสุดท้ายไง” หญิงสาวตอบพาซื่อ

“เฮอ ลืมจริง ๆ ด้วยสินะ”

ตุลย์จูงมือแฟนสาวออกไปที่ลานจอดรถหลังอาคารเรียนรวม รถยุโรปคันหรูสีน้ำเงินเข้มที่เขาได้เป็นของขวัญจากครอบครัวจอดเด่นเป็นสง่าที่สุดในลาน

ตอนแรก ๆ นราก็รู้สึกอายที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของนักศึกษาคนอื่น ๆ ในคณะที่มองมาทางเธอกับแฟนหนุ่ม แต่พอนานวันเข้าเธอก็เริ่มชิน...ใครจะมองหรือแอบนินทาว่าเธอจับผู้ชายรวย ๆ ก็ปล่อยให้พวกเขาพูดไป เพราะเธอรู้แก่ใจตัวเองดีว่าคบกับตุลย์เพราะเขาเป็นคนดี น่ารัก ไม่ใช่เพราะเงิน

ตุลย์ช่วยคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนรักหลังจากพาเธอเข้ามานั่งในห้องโดยสารเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากรถคันนี้ติดฟิล์มดำ ตอนนี้จึงคล้ายกับทั้งโลกมีพวกเขาเพียงสองคน

“สรุปว่าเราลืมอะไรเหรอ...วันนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดตุลย์นี่” นราเอียงคอถามด้วยท่าทางน่ารักที่สุดในสายตาของแฟนหนุ่ม

“ใช่วันนี้ไม่ใช่วันเกิดตุลย์ แต่เป็นวันเกิดของนราต่างหาก...” เขาเฉลยยิ้ม ๆ

“จริงด้วยสิ! เราลืมไปเลย ขอบคุณตุลย์มากเลยนะที่จำวันเกิดเราได้” นราเอ่ยน้ำตาคลออย่างซาบซึ้งใจ...ปีที่แล้วก็เป็นเขาที่พาเธอไปเซอร์ไพรส์ที่ริมทะเล ปีนี้ก็เป็นเขาอีกแล้วที่มาเตือน

ชายหนุ่มดีดหน้าผากคนรักเบา ๆ แล้วจูบตาม...คนอะไรลืมวันเกิดตัวเองก็ได้

“ตุลย์มีของขวัญอะไรจะให้”

“ของขวัญเหรอ...”

“อืม”

ตุลย์หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงเลือดหมูทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นมาเปิดตรงหน้านรา ภายในบรรจุล็อกเกตทองคำขาวรูปหัวใจอันเท่าหัวแม่มือของหญิงสาวตัวเรือนประดับเพชรหลากสีพราวพรายเอาไว้

“สวยจังเลย” นราอุทานน้ำตาคลอ “แต่เราคงรับเอาไว้ไม่ได้หรอก...ราคามันคงแพงมาก แค่ตุลย์จำวันเกิดของเราได้ทุกปีเราก็ดีใจแล้ว” เธอบอกอย่างเกรงใจ

“คงไม่รับไม่ได้...ดูนี่สิ”

ตุลย์พลิกให้นราดูชื่อที่สลักอยู่ตรงตัวเรือนด้านหลัง มันเป็นอักษรภาษาอังกฤษ เขียนชื่อของตุลย์กับเธอเอาไว้คู่กัน

“เวลานราสวมมันจะได้รู้สึกว่ามีตุลย์อยู่ข้าง ๆ อีกไม่นานเราก็ต้องห่างกันมากกว่านี้ นราเข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน ส่วนตุลย์ยังต้องเรียนต่อ เราไม่อยากให้นรารู้สึกว่าพวกเราไกลกัน...มาใกล้ ๆ สิ เดี๋ยวตุลย์สวมให้นะ”

ชายหนุ่มสวมสร้อยคอให้คนรัก ก่อนถอยห่างออกมามองเธออย่างมีความสุข

“สุขสันต์วันเกิดนะครับ ตุลย์ขอให้นรามีความสุขมาก ๆ ต่อจากนี้ไปขอให้ชีวิตมีแต่ความราบรื่น คิดหวังอะไรก็สมดั่งใจปรารถนา สุขภาพแข็งแรงเพราะมีหมอหล่อ ๆ อย่างตุลย์คอยดูแล...และที่สำคัญที่สุดขอให้รักให้หลงตุลย์คนเดียวไปนาน ๆ”

เจ้าของวันเกิดหัวเราะคิก “ข้อหลังนี่ชักจะแปลก ๆ นะว่าไหม”

“ไม่เห็นแปลกเลย ข้อสุดท้ายต่างหากที่สำคัญที่สุด”

ตุลย์ค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้แฟนสาว เขาเชยคางของเธอขึ้นเพื่อปรับองศาใบหน้าให้รับจุมพิตของเขาได้ถนัด สองหนุ่มสาวแลกเปลี่ยนความหวานหอมจากริมฝีปากของกันและกันอย่างไม่รู้เบื่อหน่าย

“ตุลย์รักนรามากนะ” เขากระซิบบอกกับริมฝีปากเธอ

“นราก็รักตุลย์เหมือนกัน”

“แฟนของเราสวยมาก” จู่ ๆ เขาก็ชมขึ้นมาดื้อ ๆ

“ตุลย์ก็พูดเกินไป เราสอบมาทั้งวันหน้ามันจนดูแทบไม่ได้...ยังจะมาชมว่าสวยอีก” เธอบอกอาย ๆ พลางหยิบเครื่องประดับที่ห้อยอยู่บนลำคอขึ้นมาพินิจอย่างมีความสุข

“ชอบสร้อยไหม?”

“ชอบมาก ๆ เลย ตั้งแต่เกิดมาเรายังไม่เคยมีเครื่องประดับที่สวยขนาดนี้มาก่อน อันนี้เป็นเส้นแรก” นราบอกตามประสาซื่อ

“ตุลย์ดีใจที่นราชอบนะ แต่ของขวัญวันเกิดปีนี้ของนรายังไม่หมด”

“ยังมีอีกเหรอ!”

“ใช่ วันพรุ่งนี้เราจะไปกินข้าวกับแม่ของตุลย์กัน ตุลย์นัดไว้แล้ว...นราแต่งตัวสวย ๆ รอตุลย์ไปรับที่บ้านเลยนะ”

“มันจะไม่เร็วเกินไปเหรอ” หญิงสาวยังไม่มั่นใจ

“ไม่เร็วไปหรอก ตุลย์อยากให้นรามั่นใจว่าตุลย์จริงจังกับความสัมพันธ์ของเรา ไม่ได้อยากคบเล่น ๆ อีกอย่างต่อไปพอนราไปเจอพวกรุ่นพี่พนักงานบริษัทหล่อ ๆ จะได้ไม่เปลี่ยนใจไปจากตุลย์ด้วยไง” ว่าที่คุณหมอเจ้าเล่ห์ยักคิ้ว...เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

test
3.5

เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ