Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
2.3K
ชม
38
บท

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

บทที่ 1 บทนำ

“พอแล้วครับทุกคน เดี๋ยวพี่ผมได้เมาก่อนพอดี ฉลองแต่พอหอมปากหอมคอก็พอนะครับ”

ฟ้าครามบอกทุกคนในห้องอาหารส่วนตัวที่เอาแต่รินเหล้าให้ลัพธวิทย์ ก่อนจะก้มลงถามชายหนุ่มอีกทีเพื่อเช็กสภาพ “ไหวไหมพี่”

“กลับ” เสียงแหบแห้งบอกกลับมาคำเดียว ฟ้าครามถึงได้เข้ามาช้อนร่างสูงของคนสั่งให้ลุกออกจากโต๊ะโดยไว ท่าทางจะไม่ปกติแล้วแบบนี้

“โหย คออ่อนอย่างงี้ไม่ไหวนา เดี๋ยวพอเป็นท่านรองก็ต้องดื่มบ่อยกว่านี้อีก มา ๆ นั่งลงก่อน” ประเสริฐศิลป์บอกอย่างต้องการเย้าแหย่ชายหนุ่มรุ่นลูก พร้อมส่งสายตาให้ลูกสาวเข้ามาดูแลชายหนุ่มอนาคตไกลอย่างลัพธวิทย์ และเผด็จศึกคืนนี้ให้ได้ ไหน ๆ อีกฝ่ายก็กำลังจะหย่าอยู่แล้ว เลิกจากเมียเก่าเรียบร้อย ก็จะได้จัดงานให้ลัพธวิทย์และลูกสาวของตนแบบทันทีทันใดไปเลย

“มาค่ะฟ้า พี่พาพี่เขื่อนกลับเองดีกว่า”

ฟ้าครามมองไปยังลัพธวิทย์ อ่านสายตากันออกก็รีบบอกหญิงสาวคนนั้นไปว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมพาพี่แกกลับเองดีกว่า”

พรหมภัสสรไม่อาจปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยจากมือไปได้ หญิงสาวพยายามยื้อแย่ง ด้วยการเข้าไปช่วยประคองชายที่หมายตา แต่แล้วฟ้าครามกลับดึงไปประคองแทน แล้วแสร้งทำท่าหัวเราะแบบคนสติไม่ดี ก่อนจะรีบพากันออกจากห้องไป พรหมภัสสรยังคงตามติด และพฤติกรรมแบบนี้ของหญิงสาวก็ทำให้ฟ้าครามไม่อาจวางใจได้

“มันจะน่าเกลียดนะครับพี่ปูน ผมพาพี่เขื่อนกลับเองดีกว่าครับ”

“น่าเกลียดอะไรกันน้องฟ้า พี่กับพี่เขื่อนไปแฮงเอาท์ ไปดื่มด้วยกันอยู่เรื่อย มาค่ะ เดี๋ยวพี่พาพี่เขื่อนขึ้นรถแล้วพากลับเอง แล้วฟ้าครามเข้าไปนั่งดื่มต่อนะ”

“ไม่เป็นไรปูน พี่กลับกับเจ้าฟ้าดีกว่า” เสียงแหบห้าวพูดยับยั้งหญิงสาวเอาไว้แค่นั้น แล้วหันไปสบตากับฟ้าครามให้ช่วยพากลับบ้าน เขารู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ ในวินาทีนี้

ฟ้าครามพาเดินหลุดออกมาจากตรงนั้นได้แล้วก็ถามคำถามเดิมอีกครั้ง “ไหวไหมเนี่ยพี่”

“ไม่รู้ว่ะ แม่งรู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้”

“พี่ปูนแกก็เกาะพี่ไม่ยอมปล่อยเหมือนกันนะครับ ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องอยากพาพี่กลับบ้านด้วย” ฟ้าครามตั้งข้อสังเกต “ไม่ใช่ว่าอยากได้พี่จนถึงกับวางยาหรอกนะครับรอบนี้”

คนฟังอย่างลัพธวิทย์ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะอาการที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ มันแปลกอยู่เหมือนกัน และถ้ามันเป็นอย่างที่ฟ้าครามพูดจริง ๆ เขาก็คงจะลำบากแล้วล่ะในค่ำคืนแบบนี้ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไปให้น้องมันตกใจ รอจนฟ้าครามหามขึ้นรถ พามาส่งถึงหน้าบ้านแล้ว ฟ้าครามค่อยหันมาถามเขาอย่างลังเล

“เข้าบ้านยังไงครับพี่”

“ลงไปกดออดเลย”

“แต่มันดึกแล้วนะครับพี่ ข้างในจะไม่นอนแล้วหรือ”

“ช่างแม่ง!” ลัพธวิทย์สบถอย่างที่ฟ้าครามเองก็ไม่เคยได้ยินเสียงพูดเชิงฉุนเฉียวเช่นนี้มาก่อน เพราะปกติลัพธวิทย์มักเป็นคนสุภาพ พูดไม่เยอะ แต่อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของเหล้า ถึงได้ทำให้มีท่าทีไม่สบอารมณ์แบบนี้

ฟ้าครามค่อยลงไปกดออดเรียก ที่ด้านในของบ้านที่สว่างเป็นบางจุด พลันสว่างโร่ทั้งบ้านในทันที หลังเสียงออดดังไม่นาน แล้วถึงค่อยเห็นร่างเล็ก ๆ เดินออกมาจากประตูบ้าน ก่อนจะตรงมาที่ประตูรั้ว

“ผมพาคนมาส่งให้แล้วครับ” ฟ้าครามบอกด้วยท่าทีเป็นมิตร เขารู้จักภาวรีอยู่บ้าง หญิงสาวเป็นภรรยาของลัพธวิทย์

“ขอบคุณมากนะฟ้า” เสียงหวานบอกไปทางฟ้าคราม ฟ้าครามมีท่าทางเก้อเขินเล็กน้อย แต่พอเห็นสายตาสั่งการของลัพธวิทย์ก็นึกได้ บอกด้วยอาการเก้ ๆ กัง ๆ จากนั้น

“รบกวนอบเชยเปิดประตูให้หน่อยครับ เดี๋ยวผมพาพี่แกเข้าไปข้างในเอง”

“ไม่ต้อง” ลัพธวิทย์เสียงดังใส่ แล้วยื่นมือหาหญิงสาวที่จะถือครองสถานะภรรยาของเขาต่อไปอีกแค่ไม่กี่เดือนนี้แล้ว ก็จะจบสิ้นลงเสียที ตามสัญญาผูกขาดระหว่างครอบครัวของเขาและเธอ

ภาวรีเห็นท่าทางแบบนั้นของสามีก็รีบตรงเข้าไปช่วยเขา ลัพธวิทย์ส่งเสียงขัดใจในลำคอ แล้วบอกฟ้าครามให้ไปเสีย

“นายกลับได้เลยฟ้า ขอบใจมาก”

“พากันไปได้แน่นะครับ” ฟ้าครามถามอย่างไม่วางใจ เพราะอัตราส่วนของร่างกายระหว่างสามีกับภรรยาต่างกันมาก ลัพธวิทย์ก็เมาและเหมือนจะทรงตัวแทบไม่อยู่อีกต่างหาก

ลัพธวิทย์ส่งเสียงตอบอือในลำคออย่างที่ฟังออกว่าเขาเริ่มรำคาญแล้ว แต่ฟ้าครามก็ยังไม่กล้ากลับอยู่ดี ชายหนุ่มรอจนคนทั้งสองพากันเข้าบ้านแล้ว ถึงได้ช่วยปิดประตูให้

“ทำไมยังไม่นอนอีก นี่มันไม่ใช่จะตีสองแล้วหรือ” ลัพธวิทย์ถามเธอเมื่อเข้ามาในห้องแล้ว ภาวรีบอกเสียงนุ่มนวลตอบเขาออกไป

“เชยรอพี่เขื่อนไง”

บอกจบก็ค่อยประคองเขาลงบนเตียง แม้จะแต่งงานกันมาสองปีกับอีกสิบเดือนแล้ว แต่เธอกับเขาไม่เคยนอนร่วมห้อง มีเพียงร่วมบ้าน อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันเท่านั้น

“ช่วยพี่หน่อย”

เขาผงกศีรษะขึ้น ส่งเสียงเข้ม ๆ บอกเธอ ภาวรีขยับตัวเข้าไปหาเขา เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มช่วยเขาที่ตรงไหน หมายถึงให้ถอดเสื้อผ้า แล้วเช็ดตัวเหมือนที่เคยเมาแบบรอบก่อน ๆ หรือเปล่า

“ให้เชยช่วยอะไรอะ”

จบคำถามของเธอแล้ว มือใหญ่ของลัพธวิทย์ก็ยื่นสาวมาหาเธอ จนถูกตัวเธอแล้ว เขาคว้าข้อมือของเธอไว้ กระตุกไม่แรงมากนัก ก็ดึงเอาเธอล้มลงไปที่บนเตียงด้วยกัน ก่อนที่ร่างหนาของเขาจะพลิกขึ้นมาคร่อมที่บนตัวเธอ

“ช่วยทำหน้าที่ของเมียหน่อย”

จบคำพูดของเขาแล้ว ปากของเธอถูกปิดด้วยริมฝีปากอุ่นจัดของลัพธวิทย์ที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นเหล้า ลิ้นของเขาสอดเข้ามาในโพรงปากของเธออย่างเร่งรีบ มือของเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเขาออกอย่างเร็วไว แล้วปลดชุดนอนของเธอออกอย่างเร่งรีบ เขาดันขาของเธอให้เปิดอ้าออก แล้วค่อย ๆ สอดตัวตนแข็งแกร่งของเขาเข้ามาอย่างที่เรียกได้ว่าไม่ได้อ่อนโยนเลยสักนิด

ภาวรีสะดุ้งเฮือก ความรู้สึกครั้งแรกควรต้องอ่อนหวาน อ่อนโยนกว่านี้หน่อยไหม แต่นี่เปล่าเลย เขาเร่งร้อน เร่งรีบ และตักตวงเอาแต่ใจ จนปลดปล่อยเสร็จสิ้น แล้วก็ทิ้งเธอไว้แบบนั้น เมื่อเขาสุขสมไปเพียงคนเดียว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ