รวมเรื่องเล่าประสบการณ์แอบมีชู้ นอกใจคนรัก ร้อนแรง ผิดบาป ncทุกตอน มีหลายเรื่องราว
หนูนาในวัยสามสิบสองปี เป็นที่จับตาของผู้คนเสมอ ด้วยรูปร่างระหงสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดราวกับกลีบซากุระยามต้องแสงอาทิตย์ เรือนผมสีดำขลับยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบร้อย เผยให้เห็นลำคอระหงและใบหน้าเรียวสวยได้รูป ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นฉายแววฉลาดเฉลียวและอ่อนโยน จมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ ยามเมื่อเธอแย้มยิ้ม จะปรากฏรอยบุ๋มเล็กๆ ที่แก้มทั้งสองข้าง สร้างเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างเป็นธรรมชาติ
วันนี้หนูนาสวมชุดสูทกระโปรงสีเทาอ่อน เนื้อผ้าเรียบลื่นเข้ารูปพอดีตัว เสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีขาวสะอาดตาถูกสอดไว้ด้านในอย่างประณีต กระโปรงทรงดินสอผ่าด้านหลังเล็กน้อย เผยให้เห็นเรียวขาสวยเมื่อยามก้าวเดิน รองเท้าส้นสูงสีดำขลับช่วยเสริมให้รูปร่างของเธอสง่างามยิ่งขึ้น เครื่องประดับมีเพียงต่างหูมุกเม็ดเล็กๆ และนาฬิกาข้อมือเรือนบางสีเงิน ดูเรียบง่ายแต่ก็บ่งบอกถึงรสนิยมที่ดี
ชีวิตภายนอกของหนูนากับภัทร สามีนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ดูราวกับภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง รถยนต์ราคาแพง และการเข้าสังคมในวงแคบๆ ที่ดูดี แต่ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกัน ความเงียบงันกลับเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างน่าอึดอัด ภัทรทุ่มเทเวลาให้กับธุรกิจจนแทบไม่มีเวลาให้หนูนา ความเอาใจใส่และความเสน่หาที่เคยมีในช่วงแรก กลับกลายเป็นความเคยชินและหน้าที่ ความโหยหาความรักและความเร่าร้อนในหัวใจของหนูนาจึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่รอวันผลิบาน
ธนาคารสาขาที่หนูนาทำงานตั้งอยู่ในอาคารสูงใจกลางเมือง แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกบานใหญ่เข้ามาในห้องโถง ทำให้บรรยากาศดูสว่างและพลุกพล่าน พนักงานต่างทำงานกันอย่างขะมักเขม้น เสียงพูดคุยโทรศัพท์ เสียงพิมพ์เอกสาร และเสียงประกาศต่างๆ ดังคลอเคลียอยู่ตลอดเวลา รัฐ พนักงานรักษาความปลอดภัยหนุ่มในชุดเครื่องแบบสีกรมท่าเข้ม ยืนตระหง่านอยู่บริเวณประตูทางเข้า รูปร่างสูงโปร่งของเขาอยู่ในชุดที่รีดเรียบ ใบหน้าคมสันดูเคร่งขรึม แต่แววตาที่ทอดมองผู้คนที่เดินเข้าออกกลับดูสุภาพและระมัดระวัง
รัฐมีอายุย่างเข้าสามสิบปี ผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียดรับกับโครงหน้าคมสัน ดวงตาเรียวคมสีดำสนิทมักจะซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ภายใต้รอยยิ้มบางๆ ที่นานๆ ครั้งจะปรากฏให้เห็น ไหล่กว้างและแผ่นหลังตรงของเขาบ่งบอกถึงความแข็งแรงและน่าเชื่อถือ หนูนาสังเกตว่ารัฐมักจะยืนประจำการอยู่บริเวณใกล้เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นจุดที่เธอต้องเดินผ่านอยู่เสมอ
ในวันที่วุ่นวาย หนูนาจะสังเกตเห็นรัฐคอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและพนักงานด้วยความเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประตู การให้ข้อมูล หรือแม้แต่การช่วยเหลือยกของหนัก แววตาที่เขามองมายังเธอในบางครั้ง มันมีความแตกต่างจากสายตาของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มันแฝงไปด้วยความชื่นชมอย่างเงียบๆ และความใส่ใจที่ทำให้หัวใจของหนูนาเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย
บ่ายวันหนึ่ง ฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางวัน ทำให้ลูกค้าในธนาคารบางตา หนูนาต้องอยู่เคลียร์เอกสารสำคัญที่โต๊ะทำงานของเธอจนเย็นย่ำ แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียงแสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์สีขาวสว่างจ้าในห้องทำงาน รัฐเป็นยามที่เข้าเวรดึกในคืนนั้น เดินตรวจตราความเรียบร้อยของธนาคารเป็นระยะ เสียงฝีเท้าหนักแน่นของเขาดังแว่วมาในความเงียบ
เมื่อรัฐเดินผ่านโต๊ะทำงานของหนูนา เขาลดความเร็วในการเดินลงเล็กน้อย หันมาสบตาเธอด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก
"เลิกงานดึกนะครับคุณหนูนา ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนไหมครับ?" น้ำเสียงทุ้มนุ่มของเขากระซิบแผ่วเบา ท่าทางสุภาพและเป็นห่วงเป็นใยนั้น ทำให้ความรู้สึกเหงาในใจของหนูนาจางหายไปเล็กน้อย
"ค่ะ ใกล้เสร็จแล้วค่ะคุณรัฐ ขอบคุณมากนะคะที่ยังอยู่" หนูนาตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มหวาน ดวงตาของเธอสบกับดวงตาคมเข้มของรัฐนานกว่าปกติ ราวกับมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่านระหว่างกัน
"ยินดีเสมอครับ ถ้าต้องการอะไรเรียกผมได้เลยนะครับ" รัฐพูดจบก็เดินจากไป ทิ้งให้หนูนาอยู่กับความเงียบสงัดอีกครั้ง แต่ความรู้สึกอบอุ่นที่เขาเพิ่งมอบให้ยังคงอบอวลอยู่รอบตัวเธอ หนูนาเหม่อมองไปยังแผ่นหลังกว้างของรัฐที่เดินห่างออกไป แสงไฟสีขาวสว่างจ้าสะท้อนกับเครื่องแบบสีกรมท่าของเขาเป็นเงาเข้มยาวบนพื้น ความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของหนูนาเริ่มก่อตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ... ความรู้สึกที่อันตรายและเย้ายวนใจ
แสงไฟสีขาวนวลจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ยังคงส่องสว่างจ้าในห้องทำงานของหนูนา นิ้วเรียวยาวของเธอยังคงพิมพ์เอกสารบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างคล่องแคล่ว แต่ความคิดกลับล่องลอยไปยังร่างสูงสง่าของยามหนุ่มที่เดินตรวจตราอยู่ด้านนอก ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่รัฐมอบให้เมื่อครู่ยังคงอบอวลอยู่ในความทรงจำ ราวกับสัมผัสที่แผ่วเบาแต่กลับลึกซึ้ง
เวลาล่วงเลยไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งเอกสารกองสุดท้ายถูกจัดเก็บเข้าแฟ้ม หนูนาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก มองนาฬิกาข้อมือเรือนบาง บอกเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว เธอเก็บของบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย สะพายกระเป๋าถือหนังสีดำ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน
ห้องโถงธนาคารในยามดึกสงัดวังเวงกว่าที่คิด แสงไฟถูกหรี่ลงจนเหลือเพียงแสงสลัวตามทางเดินและบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เสียงฝีเท้าของหนูนาดังสะท้อนก้องกังวานในความเงียบ ร่างสูงของรัฐยืนอยู่บริเวณประตูทางออกด้านหน้า มองตรงไปยังความมืดมิดภายนอก
เมื่อเห็นหนูนาเดินออกมา รัฐหันกลับมายิ้มให้เธออีกครั้ง รอยยิ้มที่ทำให้ดวงตาคมของเขาดูอ่อนโยนลงอย่างน่าประหลาด
"เสร็จแล้วเหรอครับคุณหนูนา ให้ผมไปส่งที่รถไหมครับ?" รัฐเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"ขอบคุณมากค่ะคุณรัฐ แต่รถจอดอยู่ในที่จอดรถของธนาคาร ไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ" หนูนาตอบกลับไป แต่ในใจกลับรู้สึกเสียดายที่ช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้เขาใกล้จะสิ้นสุดลง
"ถ้าอย่างนั้น... เดินทางปลอดภัยนะครับ" รัฐกล่าวลา
"ขอบคุณค่ะ คุณรัฐก็ดูแลความปลอดภัยด้วยนะคะ" หนูนาตอบกลับไป ก่อนจะหันหลังเดินไปยังประตูทางออก แต่แล้วเธอก็ชะงักเท้า หันกลับมาหารัฐอีกครั้ง
"เอ่อ... คุณรัฐคะ คือว่าลิฟต์มันปิดให้บริการแล้วหรือเปล่าคะ?" หนูนาถามด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นไม่แน่ใจ
รัฐขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยความสุภาพ "ครับคุณหนูนา ลิฟต์ปิดให้บริการหลังสี่ทุ่มครับ ถ้าอย่างนั้นคุณหนูนาต้องใช้บันไดหนีไฟ..." เขาผายมือไปยังประตูสีเขียวทึบที่อยู่สุดทางเดิน
"อ๋อ... ค่ะ" หนูนาตอบรับเบาๆ แต่ในใจกลับเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เธอเดินไปยังประตูบันไดหนีไฟ เปิดออกแล้วก้าวเข้าไปด้านใน ความมืดและกลิ่นอับชื้นปะทะเข้ามาเล็กน้อย แสงไฟสีส้มจากหลอดไฟฉุกเฉินส่องสว่างเป็นระยะตามขั้นบันได
หนูนาค่อยๆ ก้าวเท้าลงบันไดทีละขั้น เสียงส้นสูงสีดำกระทบกับพื้นปูนดังเป็นจังหวะเงียบๆ ความเงียบและความเปลี่ยวทำให้เธอรู้สึกใจหวิวอย่างประหลาด
ขณะที่เธอกำลังจะเดินลงไปถึงชั้นล่าง เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นมาจากด้านหลัง หนูนาหันกลับไปด้วยความสงสัย แสงไฟสลัวๆ ทำให้เธอเห็นร่างสูงของรัฐกำลังก้าวลงบันไดตามมา
"คุณรัฐคะ มีอะไรรึเปล่าคะ?" หนูนาถามด้วยความแปลกใจ
รัฐเดินลงมาจนถึงขั้นเดียวกับเธอ ยืนประจันหน้ากันในแสงไฟสลัวๆ ดวงตาคมของเขาจ้องมองมาที่ดวงตาของหนูนาอย่างลึกซึ้ง แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้หัวใจของหนูนาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก
"ผม... ผมเป็นห่วงคุณหนูนาครับ บันไดหนีไฟมันค่อนข้างเปลี่ยว" รัฐกระซิบเสียงแหบพร่า น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปจากความสุภาพตามปกติเล็กน้อย
ความเงียบปกคลุมระหว่างคนทั้งสอง มีเพียงเสียงลมหายใจถี่กระชั้นของพวกเขาที่ดังแข่งกัน หนูนาสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดที่รุนแรงระหว่างเธอกับรัฐ มันเป็นความรู้สึกที่อันตราย แต่ก็หอมหวานและเย้ายวนใจจนเธอไม่อาจปฏิเสธได้
รัฐค่อยๆ เอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเนียนของหนูนาอย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นนุ่มนวลและอบอุ่น ราวกับลูบไล้ความปรารถนาที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของเธอให้ตื่นขึ้น
"คุณหนูนา..." รัฐเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อของเธอ
หนูนาหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกปรารถนาที่ท่วมท้นนำทางเธอ ริมฝีปากของรัฐแตะลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความหนักหน่วงและดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความโหยหาและความปรารถนาที่เก็บกดไว้เนิ่นนาน
มือเรียวของหนูนาค่อยๆ ยกขึ้นโอบรอบคอของรัฐอย่างแนบแน่น ตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ ปล่อยให้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจางหายไปในความมืดสลัวของบันไดหนีไฟ
ร่างของทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น ความรู้สึกร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของหนูนา เธอไม่เคยรู้สึกถึงความปรารถนาที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน มันเป็นความตื่นเต้น หวาดเสียว และความต้องการที่ถาโถมเข้ามาอย่างที่ไม่เคยมีใครมอบให้เธอ
มือที่แข็งแรงของรัฐเริ่มซุกซน ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของหนูนาภายใต้เสื้อสูทเนื้อดี ก่อนจะเลื่อนลงมาสัมผัสสะโพกกลมกลึงของเธออย่างแผ่วเบา หนูนาครางออกมาเบาๆ ในลำคอ ปล่อยให้ความรู้สึกเสียวซ่านครอบงำทุกสิ่ง
หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat
ข้อมูลเพิ่มเติม