รวมประสบการณ์มีชู้

รวมประสบการณ์มีชู้

nugkeanransawat

5.0
ความคิดเห็น
834
ชม
21
บท

รวมเรื่องเล่าประสบการณ์แอบมีชู้ นอกใจคนรัก ร้อนแรง ผิดบาป ncทุกตอน มีหลายเรื่องราว

บทที่ 1 สาวธนาคารกับยาม

หนูนาในวัยสามสิบสองปี เป็นที่จับตาของผู้คนเสมอ ด้วยรูปร่างระหงสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดราวกับกลีบซากุระยามต้องแสงอาทิตย์ เรือนผมสีดำขลับยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบร้อย เผยให้เห็นลำคอระหงและใบหน้าเรียวสวยได้รูป ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นฉายแววฉลาดเฉลียวและอ่อนโยน จมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ ยามเมื่อเธอแย้มยิ้ม จะปรากฏรอยบุ๋มเล็กๆ ที่แก้มทั้งสองข้าง สร้างเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างเป็นธรรมชาติ

วันนี้หนูนาสวมชุดสูทกระโปรงสีเทาอ่อน เนื้อผ้าเรียบลื่นเข้ารูปพอดีตัว เสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีขาวสะอาดตาถูกสอดไว้ด้านในอย่างประณีต กระโปรงทรงดินสอผ่าด้านหลังเล็กน้อย เผยให้เห็นเรียวขาสวยเมื่อยามก้าวเดิน รองเท้าส้นสูงสีดำขลับช่วยเสริมให้รูปร่างของเธอสง่างามยิ่งขึ้น เครื่องประดับมีเพียงต่างหูมุกเม็ดเล็กๆ และนาฬิกาข้อมือเรือนบางสีเงิน ดูเรียบง่ายแต่ก็บ่งบอกถึงรสนิยมที่ดี

ชีวิตภายนอกของหนูนากับภัทร สามีนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ดูราวกับภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง รถยนต์ราคาแพง และการเข้าสังคมในวงแคบๆ ที่ดูดี แต่ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกัน ความเงียบงันกลับเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างน่าอึดอัด ภัทรทุ่มเทเวลาให้กับธุรกิจจนแทบไม่มีเวลาให้หนูนา ความเอาใจใส่และความเสน่หาที่เคยมีในช่วงแรก กลับกลายเป็นความเคยชินและหน้าที่ ความโหยหาความรักและความเร่าร้อนในหัวใจของหนูนาจึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่รอวันผลิบาน

ธนาคารสาขาที่หนูนาทำงานตั้งอยู่ในอาคารสูงใจกลางเมือง แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกบานใหญ่เข้ามาในห้องโถง ทำให้บรรยากาศดูสว่างและพลุกพล่าน พนักงานต่างทำงานกันอย่างขะมักเขม้น เสียงพูดคุยโทรศัพท์ เสียงพิมพ์เอกสาร และเสียงประกาศต่างๆ ดังคลอเคลียอยู่ตลอดเวลา รัฐ พนักงานรักษาความปลอดภัยหนุ่มในชุดเครื่องแบบสีกรมท่าเข้ม ยืนตระหง่านอยู่บริเวณประตูทางเข้า รูปร่างสูงโปร่งของเขาอยู่ในชุดที่รีดเรียบ ใบหน้าคมสันดูเคร่งขรึม แต่แววตาที่ทอดมองผู้คนที่เดินเข้าออกกลับดูสุภาพและระมัดระวัง

รัฐมีอายุย่างเข้าสามสิบปี ผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียดรับกับโครงหน้าคมสัน ดวงตาเรียวคมสีดำสนิทมักจะซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ภายใต้รอยยิ้มบางๆ ที่นานๆ ครั้งจะปรากฏให้เห็น ไหล่กว้างและแผ่นหลังตรงของเขาบ่งบอกถึงความแข็งแรงและน่าเชื่อถือ หนูนาสังเกตว่ารัฐมักจะยืนประจำการอยู่บริเวณใกล้เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นจุดที่เธอต้องเดินผ่านอยู่เสมอ

ในวันที่วุ่นวาย หนูนาจะสังเกตเห็นรัฐคอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและพนักงานด้วยความเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประตู การให้ข้อมูล หรือแม้แต่การช่วยเหลือยกของหนัก แววตาที่เขามองมายังเธอในบางครั้ง มันมีความแตกต่างจากสายตาของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มันแฝงไปด้วยความชื่นชมอย่างเงียบๆ และความใส่ใจที่ทำให้หัวใจของหนูนาเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย

บ่ายวันหนึ่ง ฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางวัน ทำให้ลูกค้าในธนาคารบางตา หนูนาต้องอยู่เคลียร์เอกสารสำคัญที่โต๊ะทำงานของเธอจนเย็นย่ำ แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียงแสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์สีขาวสว่างจ้าในห้องทำงาน รัฐเป็นยามที่เข้าเวรดึกในคืนนั้น เดินตรวจตราความเรียบร้อยของธนาคารเป็นระยะ เสียงฝีเท้าหนักแน่นของเขาดังแว่วมาในความเงียบ

เมื่อรัฐเดินผ่านโต๊ะทำงานของหนูนา เขาลดความเร็วในการเดินลงเล็กน้อย หันมาสบตาเธอด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก

"เลิกงานดึกนะครับคุณหนูนา ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนไหมครับ?" น้ำเสียงทุ้มนุ่มของเขากระซิบแผ่วเบา ท่าทางสุภาพและเป็นห่วงเป็นใยนั้น ทำให้ความรู้สึกเหงาในใจของหนูนาจางหายไปเล็กน้อย

"ค่ะ ใกล้เสร็จแล้วค่ะคุณรัฐ ขอบคุณมากนะคะที่ยังอยู่" หนูนาตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มหวาน ดวงตาของเธอสบกับดวงตาคมเข้มของรัฐนานกว่าปกติ ราวกับมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่านระหว่างกัน

"ยินดีเสมอครับ ถ้าต้องการอะไรเรียกผมได้เลยนะครับ" รัฐพูดจบก็เดินจากไป ทิ้งให้หนูนาอยู่กับความเงียบสงัดอีกครั้ง แต่ความรู้สึกอบอุ่นที่เขาเพิ่งมอบให้ยังคงอบอวลอยู่รอบตัวเธอ หนูนาเหม่อมองไปยังแผ่นหลังกว้างของรัฐที่เดินห่างออกไป แสงไฟสีขาวสว่างจ้าสะท้อนกับเครื่องแบบสีกรมท่าของเขาเป็นเงาเข้มยาวบนพื้น ความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของหนูนาเริ่มก่อตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ... ความรู้สึกที่อันตรายและเย้ายวนใจ

แสงไฟสีขาวนวลจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ยังคงส่องสว่างจ้าในห้องทำงานของหนูนา นิ้วเรียวยาวของเธอยังคงพิมพ์เอกสารบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างคล่องแคล่ว แต่ความคิดกลับล่องลอยไปยังร่างสูงสง่าของยามหนุ่มที่เดินตรวจตราอยู่ด้านนอก ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่รัฐมอบให้เมื่อครู่ยังคงอบอวลอยู่ในความทรงจำ ราวกับสัมผัสที่แผ่วเบาแต่กลับลึกซึ้ง

เวลาล่วงเลยไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งเอกสารกองสุดท้ายถูกจัดเก็บเข้าแฟ้ม หนูนาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก มองนาฬิกาข้อมือเรือนบาง บอกเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว เธอเก็บของบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย สะพายกระเป๋าถือหนังสีดำ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน

ห้องโถงธนาคารในยามดึกสงัดวังเวงกว่าที่คิด แสงไฟถูกหรี่ลงจนเหลือเพียงแสงสลัวตามทางเดินและบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เสียงฝีเท้าของหนูนาดังสะท้อนก้องกังวานในความเงียบ ร่างสูงของรัฐยืนอยู่บริเวณประตูทางออกด้านหน้า มองตรงไปยังความมืดมิดภายนอก

เมื่อเห็นหนูนาเดินออกมา รัฐหันกลับมายิ้มให้เธออีกครั้ง รอยยิ้มที่ทำให้ดวงตาคมของเขาดูอ่อนโยนลงอย่างน่าประหลาด

"เสร็จแล้วเหรอครับคุณหนูนา ให้ผมไปส่งที่รถไหมครับ?" รัฐเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

"ขอบคุณมากค่ะคุณรัฐ แต่รถจอดอยู่ในที่จอดรถของธนาคาร ไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ" หนูนาตอบกลับไป แต่ในใจกลับรู้สึกเสียดายที่ช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้เขาใกล้จะสิ้นสุดลง

"ถ้าอย่างนั้น... เดินทางปลอดภัยนะครับ" รัฐกล่าวลา

"ขอบคุณค่ะ คุณรัฐก็ดูแลความปลอดภัยด้วยนะคะ" หนูนาตอบกลับไป ก่อนจะหันหลังเดินไปยังประตูทางออก แต่แล้วเธอก็ชะงักเท้า หันกลับมาหารัฐอีกครั้ง

"เอ่อ... คุณรัฐคะ คือว่าลิฟต์มันปิดให้บริการแล้วหรือเปล่าคะ?" หนูนาถามด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นไม่แน่ใจ

รัฐขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยความสุภาพ "ครับคุณหนูนา ลิฟต์ปิดให้บริการหลังสี่ทุ่มครับ ถ้าอย่างนั้นคุณหนูนาต้องใช้บันไดหนีไฟ..." เขาผายมือไปยังประตูสีเขียวทึบที่อยู่สุดทางเดิน

"อ๋อ... ค่ะ" หนูนาตอบรับเบาๆ แต่ในใจกลับเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เธอเดินไปยังประตูบันไดหนีไฟ เปิดออกแล้วก้าวเข้าไปด้านใน ความมืดและกลิ่นอับชื้นปะทะเข้ามาเล็กน้อย แสงไฟสีส้มจากหลอดไฟฉุกเฉินส่องสว่างเป็นระยะตามขั้นบันได

หนูนาค่อยๆ ก้าวเท้าลงบันไดทีละขั้น เสียงส้นสูงสีดำกระทบกับพื้นปูนดังเป็นจังหวะเงียบๆ ความเงียบและความเปลี่ยวทำให้เธอรู้สึกใจหวิวอย่างประหลาด

ขณะที่เธอกำลังจะเดินลงไปถึงชั้นล่าง เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นมาจากด้านหลัง หนูนาหันกลับไปด้วยความสงสัย แสงไฟสลัวๆ ทำให้เธอเห็นร่างสูงของรัฐกำลังก้าวลงบันไดตามมา

"คุณรัฐคะ มีอะไรรึเปล่าคะ?" หนูนาถามด้วยความแปลกใจ

รัฐเดินลงมาจนถึงขั้นเดียวกับเธอ ยืนประจันหน้ากันในแสงไฟสลัวๆ ดวงตาคมของเขาจ้องมองมาที่ดวงตาของหนูนาอย่างลึกซึ้ง แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้หัวใจของหนูนาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก

"ผม... ผมเป็นห่วงคุณหนูนาครับ บันไดหนีไฟมันค่อนข้างเปลี่ยว" รัฐกระซิบเสียงแหบพร่า น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปจากความสุภาพตามปกติเล็กน้อย

ความเงียบปกคลุมระหว่างคนทั้งสอง มีเพียงเสียงลมหายใจถี่กระชั้นของพวกเขาที่ดังแข่งกัน หนูนาสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดที่รุนแรงระหว่างเธอกับรัฐ มันเป็นความรู้สึกที่อันตราย แต่ก็หอมหวานและเย้ายวนใจจนเธอไม่อาจปฏิเสธได้

รัฐค่อยๆ เอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเนียนของหนูนาอย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นนุ่มนวลและอบอุ่น ราวกับลูบไล้ความปรารถนาที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของเธอให้ตื่นขึ้น

"คุณหนูนา..." รัฐเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อของเธอ

หนูนาหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกปรารถนาที่ท่วมท้นนำทางเธอ ริมฝีปากของรัฐแตะลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความหนักหน่วงและดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความโหยหาและความปรารถนาที่เก็บกดไว้เนิ่นนาน

มือเรียวของหนูนาค่อยๆ ยกขึ้นโอบรอบคอของรัฐอย่างแนบแน่น ตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ ปล่อยให้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจางหายไปในความมืดสลัวของบันไดหนีไฟ

ร่างของทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น ความรู้สึกร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของหนูนา เธอไม่เคยรู้สึกถึงความปรารถนาที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน มันเป็นความตื่นเต้น หวาดเสียว และความต้องการที่ถาโถมเข้ามาอย่างที่ไม่เคยมีใครมอบให้เธอ

มือที่แข็งแรงของรัฐเริ่มซุกซน ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของหนูนาภายใต้เสื้อสูทเนื้อดี ก่อนจะเลื่อนลงมาสัมผัสสะโพกกลมกลึงของเธออย่างแผ่วเบา หนูนาครางออกมาเบาๆ ในลำคอ ปล่อยให้ความรู้สึกเสียวซ่านครอบงำทุกสิ่ง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามปีรักพลั้ง : เธอไม่กลับมาอีก

สามปีรักพลั้ง : เธอไม่กลับมาอีก

Shelby Stonich
5.0

ลี่สิงหยวนมีอาการเสพติดเซ็กส์กำเริบเป็นครั้งแรก แล้วก็เผลอมีอะไรกับเจียงหว่านหนิงโดยไม่รู้ตัว ตลอดสามปีหลังจากนั้น เขาไม่เคยเอ่ยปากสารภาพรัก แต่กลับหลงใหลในร่างกายของเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น เจียงหว่านหนิงคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานพอ จะสามารถละลายหัวใจของเขาได้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา คือข่าวว่าเขากำลังคบกับรุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่ง “ตามจีบเธอมาตั้งนาน ในที่สุดเธอก็ยอมเป็นแฟนฉันสักที” ชายหนุ่มมองเข้าไปในดวงตาของเธอแล้วพูดว่า “จากนี้ไปเราอย่าติดต่อกันอีกเลย” หลังจากนั้น เจียงหว่านหนิงก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตามที่เขาต้องการ แต่ลี่สิงหยวนกลับเสียใจ แล้วออกตามหาเธอไปทั่วอย่างคนเสียสติ ชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้าเธออย่างต่ำต้อย วิงวอนว่า “หว่านหนิง กลับมาอยู่ข้าง ๆ ฉันได้ไหม?”

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

คุณหมอสายรุก

คุณหมอสายรุก

ชนิตร์นันท์
4.9

รักร้อนๆ ที่ซุกซ่อนไว้ด้วยเข็มฉีดยาอันโตฉีดได้ทุกเมื่อที่ปรารถนาเข็มใหญ่ ยาว และปริ่มน้ำสุดๆ #คุณหมอขาขอเข็มใหญ่(นายแพทย์เจนจบ ครบทุกท่า) ‘เจนจบ’ คุณหมอหนุ่มรูปหล่อ ถูกใจนักพยาบาลหยิ่งๆ เขาจีบแต่หล่อนไม่สน ทำตัว ‘สวย เริ่ด เชิด โสด’ แต่ ‘พลอยใส’ ดันเร่าร้อน ต้องรักษาโดยด่วน! คุณหมอเลยต้องจัดเข็มใหญ่ฉีดยาให้ งานนี้จะหายหรือจะเป็นมากขึ้น เมื่อเข็มใหญ่ๆ นั้น พลอยใสถูกใจเหลือเกิน #คุณหมอขาขอเข็มยาว(นายแพทย์ติณณ์ ทั้งใหญ่ทั้งยาว) ‘หนูนา’ พยาบาลสาวร่างเล็กมีปัญหาหนักใจ คงมีแค่คุณหมอสูติฯ เท่านั้น ที่จะช่วยหล่อนได้ แต่จะให้ไปถามเอาดื้อๆ หล่อนไม่กล้าหรอก ใครจะรู้จู่ๆ คุณหมอหนุ่มใหญ่ก็ตกใส่หล่อนโครมเบ้อเร่อ จะปล่อยให้หลุดมือได้ไง ก็หล่อนอยากรู้ว่ายาวจริงไหม ‘ติณณ์’ สูตินรีแพทย์หนุ่มใหญ่ถึงกับอึ้ง เมื่อพยาบาลสาววัยใสยืนบิดกายครางกระเส่าให้เขาเห็น หล่อนโดนยา และเขาต้องช่วย! #คุณหมอขาฉีดยานะคะ(นายแพทย์ไมเคิล เข็มเดียวเสียวถึงชาติหน้า) ‘พรพรรณ’ สาวโสดวัยใกล้เลข ๓ เป็นภูมิแพ้กินยาไม่หาย หล่อนอยากฉีดยา! แต่หมอดันจ่ายแต่ยาเม็ด แถมยังลวนลามดึงสายเสื้อในหล่อนอีก หล่อนจะฟ้องร้อง! แต่!!! ผู้บริหารที่หล่อนขอพบ กลับเป็นหนุ่มโสดในฝันที่หล่อนบริจาคเงินหลักพันเผื่อฟลุคได้ออกเดท เพี้ยง!! ขออย่าให้หล่อนเป็นผู้โชคดีเลย ‘ไมค์’ หัวเสียกับแม่สาวชื่อแปลกจักจี้หัวใจ หล่อนร่ำร้องจะ ‘ฉีดยาๆ’ จนเขาอยากกดเข็มยาวใหญ่ใส่หล่อนสักทีสองที โชคดีเข้าข้างเขาชะมัด เมื่อเจ้าหล่อนได้รับสิทธิ์นั้น “จ่ายยาเม็ดไม่ชอบอยากได้ยาเซ็กซ์! มาสิ ฉันจะฉีดให้เธอหาย รับรอง ‘เข็มเดียว’ เสียวถึงชาติหน้า!”

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

Berne Beer
4.9

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รวมประสบการณ์มีชู้
1

บทที่ 1 สาวธนาคารกับยาม

02/05/2025

2

บทที่ 2 สาวธนาคารกับยาม2

02/05/2025

3

บทที่ 3 สาวธนาคารกับยาม 3

02/05/2025

4

บทที่ 4 สาวธนาคารกับยาม 4

02/05/2025

5

บทที่ 5 สาวธนาคารกับยาม5

02/05/2025

6

บทที่ 6 โดนยามรุมโทรม (3p)

02/05/2025

7

บทที่ 7 โดนยามรุมสวิงกิ้งจนติดใจ

02/05/2025

8

บทที่ 8 แอบเล่นชู้กับเพื่อนผัว

03/05/2025

9

บทที่ 9 แอบเล่นชู้กับเพื่อนผัว ต่อ

03/05/2025

10

บทที่ 10 เมียรักเล่นชู้กับฝรั่งสองคน

03/05/2025

11

บทที่ 11 เมียรักเล่นชู้กับฝรั่งสองคน (ต่อ)

03/05/2025

12

บทที่ 12 แฟนสาวแอบเล่นชู้กับวินมอเตอร์ไซค์

04/05/2025

13

บทที่ 13 แฟนสาวแอบเล่นชู้กับวินมอเตอร์ไซค์ (ต่อ)

04/05/2025

14

บทที่ 14 คุณนายคนสวยเล่นชู้กับยาม

04/05/2025

15

บทที่ 15 โดนน้องเขยย่องเข้ามากระหน่ำ

05/05/2025

16

บทที่ 16 คุณนายสาวโดนคนขับรถกระแทกจนท้อง

06/05/2025

17

บทที่ 17 โดนแท่งครูใหญ่ขยายรู

06/05/2025

18

บทที่ 18 โดนครูพละเข้ามาซ้ำต่อจากครูใหญ่

06/05/2025

19

บทที่ 19 โดนแฟนมอมเหล้าแล้วให้วินมาเอา

07/05/2025

20

บทที่ 20 คุณนายสาวโดนวัยรุ่นลงแขก

07/05/2025

21

บทที่ 21 คุณนายสาวโดนวัยรุ่นลงแขก (ต่อ)

07/05/2025