เมียรักหมอชยันต์

เมียรักหมอชยันต์

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
14
ชม
14
บท

เธอเคยเห็นคนอื่นโดนจับคลุมถุงชนแต่งงาน แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง แรกเริ่มเดิมทีจะปฏิเสธหัวชนฝา แต่ที่ไหนได้ รู้ตัวอีกทีก็ตอบตกลงไปเสียแล้ว หลังจากได้เห็นหน้าคุณหมอหนุ่มแสนสุภาพ ปากแดงแก้มใสน่าลูบไล้เสียเหลือเกิน!

บทที่ 1 1

คู่บ่าวสาวที่เพิ่งเดินลงมาจากบนห้องทำให้คุณย่าภัทรลดายิ้มหวานออกมาในทันที ในขณะที่รัศมีกับจิราพรหันไปมองหน้ากันก่อนที่จะแอบเบ้ปากออกมาเพราะไม่ชอบวิรากานต์ สะใภ้คนใหม่ของตระกูล

“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ มากินข้าวกันจ้ะ” คุณย่าเอ่ยกับหลานชายและหลานสะใภ้ด้วยรอยยิ้ม

ชยันต์ทำท่าจะนั่งลงที่เก้าอี้ประจำของตัวเอง แต่คุณย่าก็รีบพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

“เลื่อนเก้าอี้ให้เมียเราด้วยสิ” เขาทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน

คุณหมอหนุ่มใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ทำให้ทุกคนไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่คนเป็นภรรยาอย่างวิรากานต์

วิรากานต์เหลือบมองเขาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปขอบใจสาวใช้ที่เริ่มตักข้าวใส่จานให้

เธอเข้าห้องหอกับเขาแล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ไล่ไปนอนบนพื้นหรือบนโซฟา แต่แบ่งเตียงให้นอนครึ่งหนึ่ง โดยมีหมอนข้างกั้นเอาไว้

หญิงสาวแอบคิดว่าเขาอาจจะเป็นเกย์ก็ได้ เพราะตั้งแต่รู้จักกันก่อนแต่งงานเขาทำตัวห่างเหินจนน่าสงสัย

ซึ่งจริง ๆ แล้วเธอกับเขาเจอกันแค่ครั้งเดียวจริงๆ ตอนที่เขานัดเธอไปดูชุดแต่งงานก่อนแต่งงาน จึงไม่ได้ทำความรู้จักกันมากกว่านั้นเลย

เธอไม่รู้ว่าเขามีเหตุผลอะไรที่ยอมมาแต่งงานกับลูกหนี้เช่นเธอ เพราะเขามีความเพียบพร้อมทั้งฐานะและหน้าที่การงาน แถมการศึกษาก็ดี หน้าตาก็ยังหล่อเหลาเสียอีก

“ตักอาหารให้เมียเราบ้างสิ เมื่อคืนหนูนอนหลับสบายไหมจ๊ะ” คุณย่าภัทรลดาเอ่ยถามหลานสะใภ้ด้วยรอยยิ้มมีความสุข

“นอนหลับสบายค่ะคุณย่า” วิรากานต์เอ่ยตอบอย่างสุภาพ ก็เมื่อวานเหนื่อยทั้งวัน พอทิ้งตัวลงนอนก็ระแวงว่าคนข้าง ๆ จะทำอะไร แต่ที่ไหนได้ เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองหลับจนถึงเช้า

“ดีแล้วจ้ะ หนูมาอยู่ที่นี่ก็ให้ถือว่าเป็นบ้านของหนูนะจ๊ะ มีปัญหาอะไรก็บอกย่าได้เลย”

“ค่ะคุณย่า” วิรากานต์รับคำ เธอรับรู้ได้ถึงสายตาอำมหิตของแม่สามีและน้องสาวของสามีอย่างจิราพรที่ไม่ชอบใจเธอนัก แต่จิราพรรณน้องสาวของชยันต์อีกคนกลับยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร เธอจึงยิ้มตอบกลับไปอย่างเป็นมิตรเช่นกัน

“แต่งงานแล้วจะให้มานั่ง ๆ นอน ๆ เป็นคุณนายคงไม่ได้หรอกนะคะคุณแม่ ถ้าไม่ทำงานนอกบ้านก็ต้องทำงานในบ้าน” รัศมีพูดขึ้น เธอเป็นสะใภ้ของที่นี่ก็ต้องทำงานเหมือนกัน

“หนูกานต์เขามีความสามารถหลายอย่าง หล่อนไม่ต้องกลัวหรอกว่าเขาจะทำอะไรไม่เป็นเลย เขาเป็นผู้ดีมีการศึกษา ไม่ใช่คนกระจอกงอกง่อยเสียหน่อย ฉันหาภรรยาให้หลานชายของฉันก็ต้องเลือกดี ๆ อยู่แล้ว ไม่ใช่ไปคว้าผู้หญิงที่ไหนมาก็ไม่รู้” ภัทรลดาเหน็บลูกสะใภ้ที่นั่งหน้าตึงอยู่อีกด้านของโต๊ะอาหาร

“ไม่กระจอกแต่ติดหนี้บ้านเรามหาศาลนี่เหรอคะ แหม... คุณแม่นี่ช่างยกยอเสียจริงนะคะ” รัศมีเหน็บกลับ

“เขาเป็นหนี้จริง แต่หนูกานต์แต่งงานกับชยันต์แล้วก็ถือว่าหนี้สินจบสิ้นกันไป” ภัทรลดาสวนกลับอีกดอก

วิรากานต์มองคนทั้งสองโต้ตอบกันไปมาก็พบว่าแม่สามีกับลูกสะใภ้ไม่กินเส้นกัน เธอเหลือบมองสามี ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกินข้าวเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร สงสัยจะชินกระมัง

ท่าทีของเขาดูดีทุกระเบียบนิ้ว สมกับมีอาชีพที่เขาทำอยู่

หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จ ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน คุณย่าอยู่บนตึกใหญ่ เธอกับชยันต์อยู่ปีกซ้ายของตึก ส่วนแม่สามีของเธอกับลูกสาวของพวกนางอยู่ปีกขวา คิดว่าคงไม่ต้องเจอหน้ากันหรือเกี่ยวข้องอะไรกันมาก แต่ที่ไหนได้!

“หล่อนมาอยู่ที่นี่จะงอมืองอเท้าไม่ทำอะไรเลยไม่ได้นะ อย่างน้อยก็ต้องทำงานบ้าน” รัศมีเจอหน้าลูกสะใภ้ก็ใส่เต็มที่ ถ้าไม่เพราะแม่สามีคิดสั้น เรียกร้องให้ลูกชายของนางต้องแต่งงานเพื่อมีทายาทสืบสกุล นางไม่มีวันยอมให้วิรากานต์มาแต่งงานกับลูกชายของนางแน่ เพราะหมายตาศิรินภาเอาไว้ให้ลูกชายแล้ว

“คุณแม่จะให้ช่วยอะไรบอกมาได้เลยนะคะ หนูเต็มใจค่ะ” วิรากานต์คิดว่าการทำดีเอาใจแม่สามีไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เป็นธรรมดาที่แม่สามีกับลูกสะใภ้ย่อมเขม่น

กันเป็นธรรมดา แต่ถ้าเธอทำดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ ยังไงก็ต้องเอาชนะใจแม่สามีได้แน่นอน

“หล่อนเต็มใจแน่นะ”

“ค่ะคุณแม่” วิรากานต์ยิ้มหวานให้แม่สามี

“หล่อนไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่หรอก ฉันฟังแล้วขนลุก”

“งั้นจะให้หนูเรียกว่าอะไรเหรอคะ” วิรากานต์เอ่ยถามกลับ เธอเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย ๆ นางไม่ชอบให้เรียกว่าอย่างไร เธอก็ไม่เรียกอย่างนั้น

“เรียกชื่อฉันดีกว่า ฉันมีลูกชายกับลูกสาวแค่สามคน ไม่มีลูกสาวที่ไหนอีก”

“ค่ะคุณรัศมี”

“งั้นไปซักผ้าด้วย ผ้าวางไว้ที่ลานซักล้าง หล่อนต้องซักให้หมดภายในวันนี้”

“ค่ะ ได้อยู่แล้ว” วิรากานต์ยิ้มแฉ่ง ก็แค่ซักผ้ามันจะไปยากอะไร

“ห้ามให้คนอื่นช่วยเด็ดขาด”

“อ้อ... ค่ะ” เธอรับคำก่อนจะเดินไปยังลานซักผ้าหลังบ้าน แล้วก็ต้องอ้าปากค้างตาโตเมื่อเห็นผ้ากองโตตรงหน้า

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ