เพลิงแค้นภรรยา ราชวงศ์เป็นเถ้าถ่าน

เพลิงแค้นภรรยา ราชวงศ์เป็นเถ้าถ่าน

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
4
ชม
10
บท

ในวันครบรอบการตายของลูกชาย ฉันเจอสามีของฉันอยู่ในบ้านพักส่วนตัวของเรากับเมียน้อยที่กำลังตั้งท้องของเขา เขาส่งการ์ดเชิญงานแต่งงานของพวกเขาสองคนมาให้ฉัน พร้อมกับคลิปเสียงที่เขาเรียกฉันว่า ‘ผู้หญิงมีมลทิน’ จากเหตุการณ์เลวร้ายที่พรากชีวิตลูกชายของเราไป และเขายังสารภาพว่าแอบทำให้ฉันเป็นหมันเพื่อที่จะได้มีทายาทที่ ‘บริสุทธิ์’ เขาคิดว่าเขากำลังจะสร้างราชวงศ์ใหม่ แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไปร่วมงานแต่งงานของเขา และจะเผามันให้วอดวายไปกับตา

บทที่ 1

ในวันครบรอบการตายของลูกชาย ฉันเจอสามีของฉันอยู่ในบ้านพักส่วนตัวของเรากับเมียน้อยที่กำลังตั้งท้องของเขา

เขาส่งการ์ดเชิญงานแต่งงานของพวกเขาสองคนมาให้ฉัน พร้อมกับคลิปเสียงที่เขาเรียกฉันว่า ‘ผู้หญิงมีมลทิน’ จากเหตุการณ์เลวร้ายที่พรากชีวิตลูกชายของเราไป และเขายังสารภาพว่าแอบทำให้ฉันเป็นหมันเพื่อที่จะได้มีทายาทที่ ‘บริสุทธิ์’

เขาคิดว่าเขากำลังจะสร้างราชวงศ์ใหม่ แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไปร่วมงานแต่งงานของเขา และจะเผามันให้วอดวายไปกับตา

บทที่ 1

ไอวี่ วรโชติ POV:

กฎข้อแรกที่ภาคินกับฉันตั้งขึ้นมาก็คือ เราต้องรับโทรศัพท์ของกันและกันเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม มันเป็นกฎที่หล่อหลอมขึ้นจากเลือดและความสิ้นหวังบนถนนที่เปียกแฉะของกรุงเทพฯ ในตอนที่เรายังเป็นแค่เด็กเหลือขอที่ท้องว่างเปล่า แต่กำปั้นเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ดังนั้น เมื่อโทรศัพท์ของสามีฉันตัดเข้าสู่ระบบฝากข้อความเสียงเป็นครั้งที่ห้า ในวันครบรอบการตายของลูกชายของเรา ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ได้แค่ไม่ว่าง แต่เขาอยู่กับคนอื่น

ทุกปีในวันนี้ เราจะตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีดีลธุรกิจ ไม่มีการประชุม ไม่มีการรับสาย เราจะขับรถสองชั่วโมงขึ้นเหนือไปยังบ้านพักริมทะเลสาบที่กาญจนบุรี หลังที่เราซื้อมันด้วยเงินสะอาดก้อนแรกสิบล้านบาท ที่นั่นคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เป็นพื้นที่สงบที่เราอนุญาตให้ตัวเองได้โศกเศร้าถึงลูกชายที่เราไม่มีวันได้อุ้ม เราจะจุดเทียนสีขาวหนึ่งเล่ม นั่งบนระเบียงไม้เก่าๆ และจะไม่พูดอะไรกันเลยจนกว่าพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ท้องน้ำจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีส้มและสีม่วง

มันเป็นพิธีกรรมของเรา เป็นคำสัญญาเงียบๆ ว่าแม้ในความเงียบงันที่อึดอัดของการสูญเสีย เราจะไม่มีวันเดียวดาย เรายังมีกันและกัน

เช้านั้น ฉันตื่นขึ้นมาคนเดียวบนเตียงคิงไซส์ ผ้าปูที่นอนฝั่งของเขายังคงเย็นเฉียบและเรียบตึง เหมือนมีก้อนน้ำแข็งก่อตัวขึ้นในท้องของฉัน พอถึงตอนเที่ยง ไร้วี่แววของเขา ก้อนน้ำแข็งนั้นก็เริ่มปริแตก พอถึงบ่ายสามโมง มันก็กลายเป็นเศษน้ำแข็งแหลมคมที่ทิ่มแทงปอดของฉัน

ฉันจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน เขาเคยเอาตัวบังฉันจากคมมีดของศัตรู คมมีดฝังลึกลงไปที่แผ่นหลังของเขา ทิ้งรอยแผลเป็นน่าเกลียดไว้ถาวร เขาล้มทับลงบนตัวฉัน เลือดอุ่นๆ ของเขาเปรอะแก้มฉัน และกระซิบว่า “พี่อยู่นี่นะไอวี่ พี่จะอยู่ตรงนี้เสมอ” และเขาก็อยู่จริงๆ ตลอดเวลายี่สิบปี ภาคิน เตชะวิวัฒน์ คือสิ่งเดียวที่มั่นคงในชีวิตที่วุ่นวายของฉัน เขาคือคู่ชีวิต คือนักวางแผน คือสถาปนิกผู้ออกแบบอาณาจักรที่เราสร้างขึ้นมาจากความว่างเปล่า

แต่ตอนนี้ เขาแค่... หายไป

“ลีโอ” ฉันพูดใส่โทรศัพท์ เสียงของฉันสงบนิ่งจนน่ากลัว “ตามรอยรถของภาคิน เดี๋ยวนี้”

ไม่มีความลังเลใดๆ “ครับนายหญิง”

สัญญาณจีพีเอสดังขึ้นในไม่ถึงนาทีต่อมา เลือดในกายฉันเย็นเฉียบ เขาอยู่ที่บ้านพักหลังนั้น เขาไปที่นั่นโดยไม่มีฉัน

ภาพระหว่างทางขับรถเลือนลาง มีเพียงต้นไม้ไร้ใบในฤดูหนาวกับท้องฟ้าสีเทา ลูกน้องของฉัน ขบวนรถ SUV สีดำสนิท ขับขนาบข้างรถของฉัน พวกเขารู้โดยไม่ต้องเอ่ยถาม พวกเขารู้ว่าวันนี้คือวันอะไร และพวกเขารู้ว่าแววตาของฉันเป็นอย่างไร มันเป็นแววตาเดียวกับที่ฉันมีก่อนจะเข้าเทคโอเวอร์กิจการของศัตรู ก่อนที่ฉันจะขยี้คนที่ทรยศเราให้แหลกคามือ มันคือแววตาของราชินีที่เตรียมพร้อมสำหรับสงคราม

เราจอดรถบนถนนกรวดยาว เสียงยางรถบดกับกรวดดังเหมือนเสียงกระดูกแตก ฉันเห็นรถซีดานสีดำของเขาจอดอยู่ใกล้ระเบียง แต่มีรถอีกคันหนึ่ง เป็นรถคอมแพคเก่าๆ ราคาถูก จอดอยู่ข้างๆ มันดูไม่เข้ากับความหรูหราเรียบง่ายของบ้านพักอย่างรุนแรง เหมือนเป็นการจงใจดูถูกกัน

ฉันก้าวลงจากรถ ส่งสัญญาณให้ลูกน้องรออยู่กับที่ อากาศหนาวเย็นยะเยือก กัดกินผิวที่เปลือยเปล่าของฉัน ฉันมองผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้าไป เห็นไฟกำลังลุกโชนอยู่ในเตาผิง และแล้วฉันก็เห็นพวกเขา

ภาคินยืนอยู่ข้างเตาผิง หันหลังให้ฉัน มีผู้หญิงสาวคนหนึ่ง อายุคงไม่พ้นวัยรุ่น ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เธอตัวเล็ก ผมสีเข้มยาวสลวยระหลัง เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งของเขา เสื้อแคชเมียร์สีเทาอ่อนที่ฉันให้เป็นของขวัญวันเกิดล่าสุดแก่เขา มันหลวมโพรกบนร่างผอมบางของเธอ แขนเสื้อยาวจนกลืนมือของเธอหายไป

เขายื่นมือไปทัดผมที่หลุดลุ่ยของเธอไว้หลังใบหู สัมผัสของเขาอ่อนโยนอย่างเหลือเชื่อ มันเป็นแบบเดียวกับที่เขาเคยสัมผัสฉันตอนที่เขาคิดว่าฉันหลับไปแล้ว เป็นท่าทีที่อ่อนโยนและแสดงความเป็นเจ้าของที่เคยทำให้หัวใจฉันเจ็บปวดด้วยความรักเสมอ การได้เห็นเขาทำแบบนั้นกับคนอื่นมันรู้สึกเหมือนกำลังกลืนแก้วที่แตกละเอียด

เธอหัวเราะคิกคัก เสียงใสๆ เบาๆ ที่เสียดแทงแก้วหูของฉัน จากนั้นเธอก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบเขา

โลกรอบตัวฉันหมุนคว้าง อากาศในปอดกลายเป็นเถ้าถ่าน นี่ไม่ใช่แค่การทรยศ แต่มันคือการลบหลู่ เขาพาผู้หญิงคนอื่นมาที่นี่ ที่ของเรา ที่ของลูกชายเรา

ความโกรธแค้นที่บริสุทธิ์และมืดบอดเข้าครอบงำฉันจนหมดสิ้น ฉันเดินผ่านประตูหน้าไป อ้อมไปยังอนุสรณ์หินเล็กๆ ที่เราสร้างไว้ริมน้ำ มันเป็นหินแบนเรียบง่ายที่สลักชื่อไว้เพียงชื่อเดียว: ลีโอ ลีโอของเรา ข้างๆ กันนั้นมีม้าโยกไม้แกะสลักตัวเล็กๆ ที่ภาคินใช้เวลาเป็นเดือนในการทำตอนที่ฉันกำลังท้อง เขาบอกว่าราชาทุกคนต้องมีม้าศึกคู่ใจ

ฉันมองม้าไม้ตัวน้อย ดวงตาที่ถูกวาดขึ้นจ้องมองผืนน้ำสีเทาอย่างว่างเปล่า แล้วฉันก็หันกลับไปมองที่หน้าต่าง มองสามีของฉันกำลังจูบกับผู้หญิงอีกคนในความอบอุ่นของบ้านเรา

เท้าของฉันฟาดออกไป ฉันเตะม้าโยกไม้อย่างสุดแรงเกิด มันแตกกระจายกระทบกับพื้นดินที่เย็นจัด เสียงไม้แตกดังลั่นเหมือนเสียงกระดูกหัก หัวของมันขาดกระเด็นออกมา กลิ้งมาหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของฉัน

เสียงนั้นดังพอที่จะได้ยิน ประตูหน้าบ้านพักเปิดผางออก ภาคินยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาและเจ้าเล่ห์อย่างรวดเร็ว เด็กสาวคนนั้น เกวลิน แอบมองออกมาจากข้างหลังเขา ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความกลัวระคนท้าทาย กลิ่นน้ำหอมดอกไม้ราคาถูกของเธอโชยออกมาตามลมร้อน เป็นความหอมหวานที่น่าคลื่นไส้จนฉันอยากจะอาเจียน

ตอนนี้ลูกน้องของฉันลงจากรถแล้ว มือของพวกเขาวางอยู่บนอาวุธ สร้างกำแพงมนุษย์ที่เงียบงันและน่าเกรงขามอยู่ข้างหลังฉัน

สายตาของภาคินกวาดจากใบหน้าของฉัน ไปยังลูกน้องของฉัน แล้วก็ลดลงมองเศษซากของม้าโยกที่แตกหัก แววตาของเขาฉายแววบางอย่าง—อาจจะเป็นความเจ็บปวด—ก่อนที่มันจะหายไป

“ไอวี่” เขาพูด เสียงเรียบ “เธอมาทำอะไรที่นี่”

“ฉันมาในวันครบรอบของลูกชายเรา” ฉันพูด เสียงของฉันเองก็ต่ำและอันตรายไม่แพ้กัน ฉันพยักพเยิดไปทางเด็กสาวที่หลบอยู่ข้างหลังเขา “แล้วคุณพานังนี่มาทำไม”

เด็กสาวคนนั้น เกวลิน เกาะแขนเขาแน่น เธอดูเด็กมาก เปราะบางมาก เธอดูเหมือนฉันในอดีต ก่อนที่ชีวิตข้างถนนจะทุบทำลายความอ่อนโยนทั้งหมดไปจากตัวฉัน

ภาคินค่อยๆ ดันเธอไปหลบข้างหลังเขามากขึ้น ท่าทีปกป้องนั้นยิ่งทำให้ฉันเจ็บปวดรวดร้าว เขาเคยทำแบบนั้นเพื่อฉัน เขาเคยเป็นโล่กำบังให้ฉัน

“มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ” เขาพยายามอธิบาย เป็นประโยคที่เก่าแก่และน่าสมเพชที่สุดในโลก

“เหรอ” ฉันก้าวเข้าไปหนึ่งก้าว “คุณพาอีตัวของคุณมาในที่ที่เราใช้ไว้อาลัยให้ลูกของเรา คุณปล่อยให้มันใส่เสื้อของคุณในบ้านที่เราสร้างขึ้นมา บอกฉันหน่อยสิภาคิน ว่าส่วนไหนที่ฉันเข้าใจผิด”

เขาไม่สะทกสะท้าน เขายังคงมองฉันด้วยสายตาที่แน่วแน่ เขามักจะเป็นนักวางแผนเสมอ คนที่มองเห็นล่วงหน้าได้สิบก้าว แต่เขาไม่เห็นก้าวนี้ เขาไม่ได้คาดคิดว่าฉันจะปรากฏตัวขึ้น

“เธอชื่อเกวลิน” เขาพูด ราวกับว่ามันสำคัญนักหนา

“ฉันไม่สนว่ามันชื่ออะไร” ฉันถ่มน้ำลาย “ฉันสนแค่ว่ามันอยู่ที่นี่ ในบ้านของเรา ในวันนี้” ฉันก้าวเข้าไปอีกก้าว สายตาจับจ้องไปที่เขา “คุณมีเวลาสิบวินาที เอาตัวมันออกไปให้พ้นสายตาฉัน แล้วเราสองคนค่อยมาคุยกัน”

เขามองไปที่เกวลิน สีหน้าของเขาอ่อนโยนลงในแบบที่ทำให้เศษเสี้ยวสุดท้ายของหัวใจฉันแหลกสลาย เขาพึมพำอะไรบางอย่างกับเธอ เสียงเบาเกินกว่าที่ฉันจะได้ยิน แล้วก็หันกลับมามองฉัน

“ไม่” เขาพูดเสียงเรียบ “เธอจะอยู่ที่นี่”

โลกของฉันไม่ได้แค่หมุนคว้าง แต่มันหยุดหมุนไปเลย

เขาเลือกมัน ที่นี่ เดี๋ยวนี้ ต่อหน้าลูกน้องของฉัน ต่อหน้าดวงวิญญาณของลูกชายเรา

ฉันมองเขา มองเขาจริงๆ เป็นครั้งแรกในรอบนานมาก ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นบนหลัง ผู้ชายที่เคยขโมยขนมปังให้ฉันเพราะฉันหิวโซ ผู้ชายที่กอดฉันสามวันเต็มหลังจากที่เราเสียลูกไป ฉันจำเขาไม่ได้อีกแล้ว

“ได้” ฉันพูด คำเดียวนั้นลอยค้างอยู่ในอากาศที่หนาวเหน็บ ฉันหันไปหาลูกน้องของฉัน เสียงของฉันชัดเจนและมั่นคง เป็นเสียงของราชินีที่กำลังออกคำสั่ง

“ไปเอามันมา”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
การหลอกลวงห้าปี การชดใช้ตลอดชีวิต

การหลอกลวงห้าปี การชดใช้ตลอดชีวิต

สยองขวัญ

5.0

ฉันคืออลินา ธีรโชติ ทายาทที่หายสาบสูญไปนานของตระกูลดัง ในที่สุดก็ได้กลับบ้านหลังจากต้องระหกระเหินในบ้านเด็กกำพร้ามาทั้งชีวิต พ่อแม่รักและเอ็นดูฉัน สามีทะนุถนอมฉัน ส่วนผู้หญิงที่พยายามทำลายชีวิตฉันอย่างคีรติก็ถูกขังอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ฉันปลอดภัย ฉันเป็นที่รัก ในวันเกิดของฉัน ฉันตัดสินใจจะไปเซอร์ไพรส์ไอศูรย์ สามีของฉันที่ออฟฟิศ แต่เขาไม่อยู่ที่นั่น ฉันตามไปเจอเขาที่แกลเลอรี่ส่วนตัวแห่งหนึ่งอีกฟากของกรุงเทพฯ เขายืนอยู่กับคีรติ เธอไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลบ้า เธอดูสดใสเปล่งปลั่ง กำลังหัวเราะอย่างมีความสุขขณะยืนอยู่ข้างๆ สามีของฉันและลูกชายวัยห้าขวบของพวกเขา ฉันมองผ่านกระจกใส เห็นไอศูรย์ก้มลงจูบเธอ เป็นจูบที่แสนคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความรักแบบเดียวกับที่เขาเพิ่งจูบฉันเมื่อเช้านี้ ฉันแอบเข้าไปใกล้ขึ้นและได้ยินบทสนทนาของพวกเขา คำขอของฉันที่อยากไปเที่ยวสวนสนุกในวันเกิดถูกปฏิเสธ เพราะเขาสัญญาไว้แล้วว่าจะเหมาสวนสนุกทั้งสวนให้กับลูกชายของพวกเขา ซึ่งเกิดวันเดียวกับฉัน “ยัยนั่นซาบซึ้งที่มีครอบครัวจนเราพูดอะไรก็เชื่อไปหมด” ไอศูรย์พูด น้ำเสียงของเขาเจือความเหยียดหยามที่โหดร้ายจนฉันแทบหยุดหายใจ “น่าสมเพชชะมัด” โลกทั้งใบของฉัน—พ่อแม่ที่แสนดีซึ่งคอยให้เงินทุนสนับสนุนชีวิตลับๆ นี้ สามีผู้ทุ่มเท—เป็นเพียงเรื่องโกหกที่ดำเนินมานานถึงห้าปี ฉันเป็นแค่ตัวตลกที่พวกเขาจับมาเล่นละครตบตา โทรศัพท์ของฉันสั่น เป็นข้อความจากไอศูรย์ที่ส่งมาขณะที่เขายืนอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของเขา “เพิ่งประชุมเสร็จ เหนื่อยมากเลย คิดถึงนะ” คำโกหกง่ายๆ นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย พวกเขาคิดว่าฉันเป็นแค่เด็กกำพร้าผู้น่าสงสารที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับความรัก และจะควบคุมยังไงก็ได้ พวกเขาคิดผิด และกำลังจะได้รู้ว่าผิดมหันต์แค่ไหน

การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

วัยรุ่น

5.0

ครั้งที่เก้าสิบเก้าที่ ‘เจต’ ทำให้ฉันใจสลาย คือครั้งสุดท้ายของเรา เราสองคนเคยเป็นคู่รักดาวเด่นของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา อนาคตของเราถูกวางแผนไว้อย่างสวยหรูว่าจะเข้าเรียนที่จุฬาฯ ด้วยกัน แต่แล้วในช่วงปีสุดท้ายของม.ปลาย เขากลับไปหลงรักผู้หญิงคนใหม่ที่ชื่อ ‘แคท’ เรื่องราวความรักของเรากลายเป็นละครน้ำเน่าราคาถูกที่น่าเบื่อหน่าย เต็มไปด้วยการทรยศของเขาและการขู่ว่าจะเลิกอย่างไร้ความหมายของฉัน ในงานเลี้ยงจบการศึกษา แคท ‘บังเอิญ’ ดึงฉันตกลงไปในสระว่ายน้ำกับเธอ เจตกระโดดลงไปช่วยโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขากลับว่ายผ่านฉันที่กำลังตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดไปอย่างไม่ใยดี แล้วโอบแขนรอบตัวแคทก่อนจะพาเธอขึ้นจากสระอย่างปลอดภัย ขณะที่เขาช่วยพยุงเธอขึ้นจากสระ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ เขาหันกลับมามองฉันที่ตัวสั่นเทา มาสคาร่าไหลเป็นทางสีดำอาบแก้ม “ชีวิตเธอ ไม่ใช่ปัญหาของฉันอีกต่อไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนน้ำในสระที่ฉันกำลังจะจมดิ่งลงไป คืนนั้นเอง บางสิ่งในตัวฉันก็แตกสลายลงอย่างสมบูรณ์ ฉันกลับบ้าน เปิดโน้ตบุ๊ก และคลิกปุ่มยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อ ไม่ใช่ที่จุฬาฯ กับเขา แต่เป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คนละฟากฝั่งของกรุงเทพฯ

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

โรแมนติก

5.0

คริสโตเฟอร์ อัศวโยธิน สามีของฉัน คือเพลย์บอยตัวพ่อที่ฉาวที่สุดในกรุงเทพฯ เขามีชื่อเสียงเรื่องการควงเด็กสาวอายุสิบเก้าเป็นฤดูกาล ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันเชื่อมาตลอดว่าฉันคือข้อยกเว้นที่สามารถทำให้เขาหยุดได้ ภาพลวงตานั้นพังทลายลง เมื่อพ่อของฉันต้องการการปลูกถ่ายไขกระดูก ผู้บริจาคที่เข้ากันได้สมบูรณ์แบบคือเด็กสาวอายุสิบเก้าชื่อไอริน ในวันผ่าตัด พ่อของฉันเสียชีวิต เพราะคริสเลือกที่จะนอนอยู่บนเตียงกับเธอ แทนที่จะพาเธอไปโรงพยาบาล การหักหลังของเขายังไม่จบแค่นั้น ตอนที่ลิฟต์ร่วง เขาดึงเธอออกไปก่อนแล้วทิ้งให้ฉันร่วงลงไป ตอนที่โคมระย้าถล่มลงมา เขาใช้ตัวเองบังร่างเธอแล้วก้าวข้ามฉันที่นอนจมกองเลือดไป เขายังขโมยของขวัญชิ้นสุดท้ายที่พ่อผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้ฉันไปให้เธอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเรียกฉันว่าคนเห็นแก่ตัวและไม่รู้จักบุญคุณ โดยไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของฉันจากไปแล้ว ฉันจึงเซ็นใบหย่าเงียบๆ แล้วหายตัวไป วันที่ฉันจากมา เขาส่งข้อความมาหาฉัน "ข่าวดีนะ ผมหาผู้บริจาคคนใหม่ให้พ่อคุณได้แล้ว เราไปนัดวันผ่าตัดกันเถอะ"

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

โรแมนติก

5.0

ห้าปีที่แล้ว ฉันช่วยชีวิตคู่หมั้นของฉันไว้บนภูเขาที่เชียงใหม่ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้สายตาของฉันเสียหายอย่างถาวร—เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจที่พร่าเลือนอยู่เสมอถึงวันที่ฉันเลือกเขาแทนที่จะเป็นดวงตาที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง เขาตอบแทนฉันด้วยการแอบเปลี่ยนสถานที่จัดงานแต่งงานของเราจากเชียงใหม่ไปเป็นภูเก็ต เพราะแอนนี่ เพื่อนสนิทของเขาบ่นว่าที่นั่นหนาวเกินไป ฉันได้ยินเขากับหูตัวเองว่าเขาเรียกการเสียสละของฉันว่า “เรื่องดราม่าน้ำเน่า” และเห็นเขากับตาว่าเขาซื้อชุดราคาเกือบสองล้านบาทให้หล่อน ขณะที่ดูถูกชุดของฉัน ในวันแต่งงานของเรา เขาทิ้งให้ฉันรอที่แท่นพิธีเพื่อรีบไปอยู่ข้างๆ แอนนี่ที่เกิด “อาการแพนิค” ขึ้นมาได้ถูกจังหวะพอดิบพอดี เขามั่นใจเหลือเกินว่าฉันจะให้อภัยเขา เขามั่นใจแบบนั้นเสมอ เขาไม่ได้มองว่าการเสียสละของฉันคือของขวัญ แต่เป็นเหมือนสัญญาที่ผูกมัดให้ฉันต้องยอมจำนนต่อเขา ดังนั้น เมื่อในที่สุดเขาโทรเข้ามายังสถานที่จัดงานที่ว่างเปล่าในภูเก็ต ฉันจึงปล่อยให้เขาได้ยินเสียงลมภูเขาและเสียงระฆังโบสถ์ ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากพูด “งานแต่งของฉันกำลังจะเริ่มแล้ว” ฉันบอกเขา “แต่ไม่ใช่กับคุณ”

คู่หมั้นที่ทิ้งเธอให้ตาย

คู่หมั้นที่ทิ้งเธอให้ตาย

โรแมนติก

5.0

สัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าฉันกำลังจะตาย ไม่ใช่พายุหิมะ ไม่ใช่ความหนาวเหน็บที่กัดกินลึกถึงกระดูก แต่มันคือแววตาของคู่หมั้นของฉัน ตอนที่เขาบอกว่าเขายกผลงานทั้งชีวิตของฉัน ซึ่งเป็นหลักประกันเดียวที่จะทำให้เรารอดชีวิตไปให้ผู้หญิงคนอื่น “เค้กหนาวจะตายอยู่แล้ว” เขาพูดเหมือนกับว่าฉันกำลังไร้เหตุผล “คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญนี่ คุณรับมือได้อยู่แล้ว” จากนั้นเขาก็เอาโทรศัพท์ดาวเทียมของฉันไป ผลักฉันลงไปในหลุมหิมะที่ขุดไว้อย่างลวกๆ แล้วทิ้งฉันไว้ให้ตายตรงนั้น เค้ก แฟนใหม่ของเขาปรากฏตัวขึ้น เธอห่มผ้าห่มอัจฉริยะผืนที่เป็นประกายของฉันไว้อย่างอบอุ่น เธอยิ้มขณะที่ใช้ขวานน้ำแข็งของฉันเอง กรีดทำลายชุดของฉัน ซึ่งเป็นเกราะป้องกันพายุชั้นสุดท้าย “เลิกดราม่าสักที” เขาพูดกับฉัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจขณะที่ฉันนอนรอความตายอย่างหนาวเหน็บ พวกเขาคิดว่าได้เอาทุกอย่างไปจากฉันแล้ว พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ แต่พวกเขาไม่รู้เรื่องสัญญาณฉุกเฉินลับที่ฉันเย็บซ่อนไว้ในแขนเสื้อ และด้วยแรงเฮือกสุดท้ายที่มี ฉันได้เปิดใช้งานมัน

ไม่เป็นตัวแทนอีกแล้ว ราชินีกลับมา

ไม่เป็นตัวแทนอีกแล้ว ราชินีกลับมา

โรแมนติก

5.0

ห้าปีเต็มที่ฉันเป็นคู่หมั้นของเจตน์พัฒน์ วงศ์วิริยะ ห้าปีที่ในที่สุดพี่ชายของฉันก็ปฏิบัติต่อฉันเหมือนน้องสาวที่พวกเขารัก แล้วฝาแฝดของฉัน หทัย—คนที่ทิ้งเขาไว้หน้าแท่นพิธี—ก็กลับมาพร้อมกับเรื่องโกหกว่าเป็นมะเร็ง แค่ห้านาที เขาก็แต่งงานกับเธอ พวกเขาเชื่อทุกคำโกหกของเธอ ตอนที่เธอพยายามจะฆ่าฉันด้วยแมงมุมพิษ พวกเขาก็หาว่าฉันดราม่า ตอนที่เธอใส่ร้ายว่าฉันทำลายงานเลี้ยงของเธอ พี่ชายก็เฆี่ยนฉันจนเลือดอาบ พวกเขาเรียกฉันว่าตัวแทนไร้ค่า เป็นแค่คนคั่นเวลาที่มีใบหน้าเหมือนเธอ ฟางเส้นสุดท้ายขาดลงตอนที่พวกเขาจับฉันมัดกับเชือกแล้วปล่อยให้ห้อยต่องแต่งอยู่ริมหน้าผา รอวันตาย แต่ฉันไม่ตาย ฉันปีนกลับขึ้นมา จัดฉากการตายของตัวเอง แล้วหายตัวไป พวกเขาอยากได้ผีนักใช่ไหม ฉันก็จะจัดให้

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน

เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน

Zuey
5.0

จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจภายหลังจากมารดาเสียชีวิตเด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลกอีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกพรากไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
4.5

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ