"เธอรู้ตัวไหมว่าเธอทำให้ฉันต้องแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก!" เสียงเย็นชาของเขาบาดลึกเข้ามาในใจฉันเหมือนคมมีดที่กรีดแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงง ในหัวยังคงปวดร้าว ภาพสุดท้ายที่จำได้คือความเจ็บปวดที่กัดกินจนฉันเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลง แต่ตอนนี้ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ ในห้องนอนที่คุ้นเคย ห้องนอนที่เต็มไปด้วยความทรงจำทั้งสุขและทุกข์กับผู้ชายตรงหน้า ศรัณย์พรยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาของเขาเย็นชาไร้ความรู้สึก ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยทำให้ฉันหลงใหลบัดนี้กลับเป็นเหมือนน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลายให้ฉันได้สัมผัส เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว เขาเป็นเพียงเปลือกนอกที่เหลือไว้ให้ฉันเจ็บปวด ฉันมองศรัณย์พร เขายังคงหนุ่มแน่นและหล่อเหลาเหมือนเดิม อายุยี่สิบเจ็ดปีที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและพลังในการสร้างสรรค์ แต่แววตาของเขาที่มองมาที่ฉันมันเต็มไปด้วยความเกลียดชังและผิดหวัง ฉันจำได้ทุกอย่าง จำได้ถึงความเจ็บปวดที่ต้องทนอยู่กับความเย็นชาของเขาในชาติที่แล้ว จำได้ถึงคำพูดที่เขาใช้ทำร้ายจิตใจฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจำได้ถึงวันที่ฉันจากไปอย่างโดดเดี่ยว
"เธอรู้ตัวไหมว่าเธอทำให้ฉันต้องแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก!" เสียงเย็นชาของเขาบาดลึกเข้ามาในใจฉันเหมือนคมมีดที่กรีดแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ฉันลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงง ในหัวยังคงปวดร้าว ภาพสุดท้ายที่จำได้คือความเจ็บปวดที่กัดกินจนฉันเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลง แต่ตอนนี้ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ ในห้องนอนที่คุ้นเคย ห้องนอนที่เต็มไปด้วยความทรงจำทั้งสุขและทุกข์กับผู้ชายตรงหน้า
ศรัณย์พรยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาของเขาเย็นชาไร้ความรู้สึก ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยทำให้ฉันหลงใหลบัดนี้กลับเป็นเหมือนน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลายให้ฉันได้สัมผัส เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว เขาเป็นเพียงเปลือกนอกที่เหลือไว้ให้ฉันเจ็บปวด
ฉันมองศรัณย์พร เขายังคงหนุ่มแน่นและหล่อเหลาเหมือนเดิม อายุยี่สิบเจ็ดปีที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและพลังในการสร้างสรรค์ แต่แววตาของเขาที่มองมาที่ฉันมันเต็มไปด้วยความเกลียดชังและผิดหวัง
ฉันจำได้ทุกอย่าง จำได้ถึงความเจ็บปวดที่ต้องทนอยู่กับความเย็นชาของเขาในชาติที่แล้ว จำได้ถึงคำพูดที่เขาใช้ทำร้ายจิตใจฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจำได้ถึงวันที่ฉันจากไปอย่างโดดเดี่ยว
บทที่ 1
ชมพูนุท POV:
"เธอรู้ตัวไหมว่าเธอทำให้ฉันต้องแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก!" เสียงเย็นชาของเขาบาดลึกเข้ามาในใจฉันเหมือนคมมีดที่กรีดแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ฉันลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงง ในหัวยังคงปวดร้าว ภาพสุดท้ายที่จำได้คือความเจ็บปวดที่กัดกินจนฉันเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลง แต่ตอนนี้ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ ในห้องนอนที่คุ้นเคย ห้องนอนที่เต็มไปด้วยความทรงจำทั้งสุขและทุกข์กับผู้ชายตรงหน้า
ศรัณย์พรยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาของเขาเย็นชาไร้ความรู้สึก ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยทำให้ฉันหลงใหลบัดนี้กลับเป็นเหมือนน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลายให้ฉันได้สัมผัส เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว เขาเป็นเพียงเปลือกนอกที่เหลือไว้ให้ฉันเจ็บปวด
ฉันมองศรัณย์พร เขายังคงหนุ่มแน่นและหล่อเหลาเหมือนเดิม อายุยี่สิบเจ็ดปีที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและพลังในการสร้างสรรค์ แต่แววตาของเขาที่มองมาที่ฉันมันเต็มไปด้วยความเกลียดชังและผิดหวัง
ฉันจำได้ทุกอย่าง จำได้ถึงความเจ็บปวดที่ต้องทนอยู่กับความเย็นชาของเขาในชาติที่แล้ว จำได้ถึงคำพูดที่เขาใช้ทำร้ายจิตใจฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจำได้ถึงวันที่ฉันจากไปอย่างโดดเดี่ยว
ฉันย้อนเวลากลับมาแล้วจริงๆ ย้อนเวลากลับมาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ก่อนที่ความรักที่ฉันมีให้เขาจะกลายเป็นความเจ็บปวดที่ฆ่าฉันตาย
ในใจฉันเต็มไปด้วยความปรารถนาเดียว ตอนนี้ฉันอยากให้เขาได้สมหวังกับคนที่เขารักและมีชีวิตที่มีความสุข ฉันอยากแก้ไขความผิดพลาดในอดีตที่ฉันเคยกดดันเขาให้ต้องแต่งงานกับฉัน
ฉันมองหน้าศรัณย์พร สายตาของฉันจับจ้องไปที่เขาอย่างแน่วแน่
"คนที่คุณรัก...เธอเป็นเลขาสาวของคุณหรือเปล่าคะ คุณศรัณย์พร?" ฉันถามออกไป เสียงของฉันแหบพร่า แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจ
ศรัณย์พรหัวเราะเยาะออกมาอย่างดูถูก
"เลิกแกล้งโง่สักทีชมพูนุท ทุกคนก็รู้ว่าฉันรักลดาวัลย์แค่ไหน" คำพูดของเขาแทงทะลุหัวใจของฉัน แต่ครั้งนี้ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าเมื่อก่อนแล้ว ฉันเข้มแข็งขึ้นแล้ว
ฉันพยักหน้าช้าๆ
"งั้นเราถอนหมั้นกันนะคะ ศรัณย์พร"
คำพูดของฉันทำให้เขานิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
"อะไรนะ? เธอพูดว่าอะไร?" ศรัณย์พรเอ่ยถาม สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
"ฉันบอกว่าเราถอนหมั้นกันค่ะ" ฉันย้ำอีกครั้งอย่างชัดถ้อยชัดคำ
ศรัณย์พรหัวเราะเยาะอีกครั้ง เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
"เล่นอะไรของเธอชมพูนุท? คิดว่าฉันจะหลงกลเธอเหรอ? เธอก็แค่กลัว กลัวว่าฉันจะทนเธอไม่ได้และทิ้งเธอไปใช่ไหมล่ะ?"
ฉันมองเขาด้วยสายตาที่สงบนิ่ง
"ฉันไม่ใช่คนเดิมแล้วค่ะ ศรัณย์พร ฉันจะไม่บังคับคุณอีกต่อไปแล้ว"
ศรัณย์พรส่ายหน้า ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ
"เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธอเหรอ? เธอคิดว่าฉันจะลืมได้ง่ายๆ เหรอว่าเธอใช้พินัยกรรมของคุณปู่มาบีบบังคับฉันให้แต่งงานกับเธอ"
"ฉันรู้ค่ะ" ฉันตอบอย่างแผ่วเบา "ฉันรู้ว่าฉันทำผิดไปมาก แต่ตอนนี้ฉันอยากแก้ไขมัน"
ศรัณย์พรหัวเราะเยาะอีกครั้ง
"แก้ไข? เธอจะแก้ไขอะไรได้? เธอทำให้ลดาวัลย์ต้องตายเพราะไม่มีไตที่เข้ากันได้ นั่นคือสิ่งที่เธอจะแก้ไขได้งั้นเหรอ!"
คำพูดของเขาเหมือนมีดกรีดลงกลางใจฉันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ความเจ็บปวดที่กัดกิน แต่เป็นความเข้าใจ
"ฉันจะแก้ไขมันค่ะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "ฉันจะทำให้ลดาวัลย์มีชีวิตรอด และคุณก็จะได้อยู่กับคนที่คุณรัก"
ศรัณย์พรจ้องมองฉันด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ
"เธอจะทำอะไรได้? เธอจะเอาชีวิตของลดาวัลย์กลับคืนมาได้ยังไง?"
"ฉันจะบริจาคไตให้เธอค่ะ" ฉันพูดออกไปอย่างไม่ลังเล
ดวงตาของศรัณย์พรเบิกกว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าของเขาซีดเผือด
"เธอ...เธอพูดอะไรของเธอ?"
"ฉันจะบริจาคไตให้ลดาวัลย์ค่ะ ฉันอยากชดใช้ความผิดที่ฉันเคยทำไว้"
ศรัณย์พรยังคงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะหัวเราะเยาะออกมาอีกครั้ง
"เธอคิดว่าฉันจะหลงกลเธอเหรอ? เธอคิดว่าฉันจะไม่รู้ว่าเธอมีแผนอะไรอีก?"
"ฉันไม่มีแผนอะไรแล้วค่ะ ศรัณย์พร ฉันแค่อยากให้คุณมีความสุข"
ศรัณย์พรจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
"เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธอเหรอ? ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีทางที่จะทำอะไรที่เสียสละขนาดนั้นได้หรอก"
ฉันมองเขาด้วยสายตาที่เจ็บปวด แต่ฉันก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้
"ฉันจะทำให้คุณเห็นค่ะ"
ศรัณย์พรส่ายหน้า
"ฉันไม่จำเป็นต้องเห็นอะไรทั้งนั้น เธอจะทำอะไรก็เรื่องของเธอ แต่จำไว้ว่าฉันไม่มีวันรักเธอ"
คำพูดของเขาทำให้หัวใจฉันชาวาบ แต่ฉันก็พยักหน้าช้าๆ
"ค่ะ ฉันเข้าใจ"
ศรัณย์พรหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวในห้องที่เต็มไปด้วยความทรงจำ
ฉันมองแผ่นหลังของเขา น้ำตาของฉันไหลลงมาอย่างเงียบๆ
ฉันรักเขามานานเหลือเกิน นานเท่าที่ฉันจำความได้ ตั้งแต่เขายื่นมือมาช่วยฉันในวัยเด็ก เขาทั้งปกป้องและดูแลฉันมาตลอด
ฉันจำวันที่เขาช่วยฉันจากพวกอันธพาลได้ดี เขายอมเจ็บตัวเพื่อปกป้องฉัน
ฉันจำวันที่ฉันป่วยหนัก เขาไม่หลับไม่นอนเพื่อดูแลฉัน และยอมบุกป่าฝ่าดงไปหายาที่หายากมาให้ฉัน
ฉันจำวันที่เขาจากไปในชาติที่แล้วได้ดี เขาตายเพราะปกป้องฉัน
แต่ฉันก็เข้าใจดีว่าความดีของเขาไม่ได้หมายความว่าเขารักฉัน
ในชาติที่แล้ว ฉันเป็นคนตาบอดด้วยความรัก ฉันคิดว่าความดีของเขาคือความรัก ฉันคิดว่าถ้าฉันอยู่ข้างเขา เขาจะรักฉันในที่สุด
ฉันใช้พินัยกรรมของคุณปู่บีบบังคับเขาให้แต่งงานกับฉัน
ฉันคิดว่าฉันจะมีความสุข แต่ฉันคิดผิด
ตลอดสิบปีของการแต่งงาน เขาเย็นชาใส่ฉัน พูดจาทำร้ายจิตใจฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาไม่เคยสัมผัสฉัน ไม่เคยแม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยความรัก
ฉันทรมานอยู่กับความรักที่ไม่มีวันสมหวัง จนกระทั่งลดาวัลย์ป่วยตายเพราะไม่มีไตที่เข้ากันได้
ศรัณย์พรโกรธแค้นฉันมาก เขาโทษว่าเป็นความผิดของฉันที่ทำให้ลดาวัลย์ต้องตาย
เขาทำร้ายจิตใจฉันจนฉันทนไม่ไหว และเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลง
ก่อนที่ฉันจะจากไป อาจารย์ที่สอนวิชาสมุนไพรและเรื่องราวเหนือธรรมชาติให้ฉันเคยทำนายไว้ว่า
ถ้าเธอได้กลับไปแก้ไขอดีต เธอต้องช่วยศรัณย์พรให้เขาสมหวังในความรัก ปลดเปลื้องปมสามประการในใจเขา แล้วเขาจะมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข
แต่การแก้ไขเรื่องราวในอดีตนั้นมีราคาที่ต้องจ่าย เธออาจจะต้องเสียสละบางสิ่งบางอย่างที่มีค่าที่สุดในชีวิตไป
ฉันรู้ดีว่าราคาที่ต้องจ่ายนั้นคืออะไร มันคือชีวิตของฉัน
แต่ฉันไม่เสียใจเลย ขอแค่ศรัณย์พรได้มีชีวิตที่มีความสุข ฉันยอมทุกอย่าง
ฉันปาดน้ำตาออกจากใบหน้า
ฉันจะทำให้เขาได้สมหวังกับคนที่เขารัก และฉันจะทำให้เขาได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข
ฉันตัดสินใจแล้ว
รุ่งขึ้น ฉันเข้าไปในวังหลวงและขอเข้าเฝ้าพระราชา
"พระองค์เพคะ หม่อมฉันชมพูนุท ขอพระราชทานให้ศรัณย์พร แก้วมีศรี ได้แต่งงานกับลดาวัลย์ คนไว เพคะ"
ฉันพูดออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ ในใจฉันรู้สึกเจ็บปวด แต่ฉันก็รู้ว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้อง
ฉันรู้ว่าศรัณย์พรมีปมสามประการในใจ
ปมแรกคือการที่เขาไม่สามารถเลือกคนที่เขารักได้
ตอนนี้ฉันได้ปลดเปลื้องปมแรกให้เขาแล้ว
ฉันกลับมาที่บ้านและเดินเข้าไปในห้องนอนของศรัณย์พร เขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าต่าง มองออกไปข้างนอกด้วยแววตาที่ว่างเปล่า
ฉันยื่นเอกสารการหมั้นฉบับใหม่ให้เขา
"นี่คือเอกสารการหมั้นฉบับใหม่ค่ะ ศรัณย์พร"
ศรัณย์พรหันมามองฉันด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม
"เธอคิดว่าฉันจะยอมรับมันเหรอ? เธอคิดว่าฉันจะหลงกลเธอได้ง่ายๆ เหรอ?"
เขายื่นมือออกไปและกำลังจะฉีกเอกสารในมือฉัน
ฉันยิ้มอย่างอ่อนโยนและจับมือเขาไว้
"คุณจะรู้ในวันพรุ่งนี้ค่ะ ศรัณย์พร ว่าฉันไม่ได้หลอกคุณ"
ศรัณย์พรจ้องมองฉันด้วยความประหลาดใจและสับสน
"เธอ...เธอพูดอะไรของเธอ?"
"พรุ่งนี้คุณจะรู้เองค่ะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
ศรัณย์พรยังคงมองฉันด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ แต่ฉันก็รู้ว่าเขาจะรู้ความจริงในไม่ช้า
บางทีเขาอาจจะคิดว่าฉันบ้าไปแล้วก็ได้
หนังสืออื่นๆ ของ Gavin
ข้อมูลเพิ่มเติม