Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เจ้าสาวของนักรบ

เจ้าสาวของนักรบ

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
383.7K
ชม
120
บท

บุณย์นราถูกฉุดออกมาจากห้องหอในคืนแต่งงาน ซ้ำยังถูกข่มเหงจากชายโฉดจนย่อยยับ หากแค่นั้นเรียกว่าโชคร้ายแล้ว การต้องมาเจอชายคนนั้นอีกครั้ง ในสถานะของประธานบริษัท ที่เธอเพิ่งได้งาน ไม่โชคร้ายยิ่งกว่าหรือ เพราะทันทีที่เห็นหน้าเธอ เขาก็มีคำสั่ง ให้ไล่เธอออก แต่กลับยื่นขอเสนออันสุดแสนร้ายกาจเป็นทางเลือก ราวกับรู้ว่าบุณย์นรากำลังอับจนซึ่งหนทางอยู่ ###### “ตำแหน่งที่เธอทำอยู่ ที่นี่ไม่ได้เปิดรับ” บุณย์นราตากระตุกถี่ยิบขึ้นเหมือนกัน มันมีด้วยหรือ ไม่เปิดรับ แล้วประกาศออกไปแต่แรกทำไมว่ารับคน “ไม่รับพนักงานตำแหน่งที่ว่า แล้วที่นี่รับตำแหน่งอะไร” จบคำถามของเธอปุ๊บ เสียงตอบห้วนสั้นก็ดังขึ้น “แม่บ้าน” ขุนพลเลิกคิ้วมองนายนิด ๆ ส่วนบุณย์นราก็นิ่งไป อันที่จริงไม่ได้รังเกียจงาน แต่ก็ติดเรื่องวุฒิ เรื่องเงินเดือน เธอมาสมัครงานเพราะอยากได้เงิน แล้วไอ้ที่เรียนมาสี่ปีจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเรียนมาแทบตาย แล้วให้ไปเป็นแม่บ้าน อีกอย่างแม่บ้านก็ไม่มีโอกาสก้าวหน้าเอาเสียเลย คิดได้อย่างนั้นก็จ้องตาเขานิ่ง ทำอย่างไรดี ตอนนี้เธอจนตรอกแล้ว มีแต่ต้องเดินไปข้างหน้าเท่านั้น แล้วเลยกลั้นใจถามออกไป เสียงอ่อยลงเล็กน้อย “แม่บ้าน เงินเดือนเท่าไร” “ห้าหมื่น” เงินเดือนขนาดนั้น ทำบุณย์นรางันไปราวกับถูกแช่แข็ง นักรบเห็นอาการของคนตรงหน้า ก็ออกแปลกใจอยู่ไม่น้อย ไหนขุนพลบอกเพดานเงินพวกเด็กจบใหม่ไว้ที่หมื่นห้าไงวะ นี่เขาให้ตั้งห้าหมื่น ทำไมยายนี่ได้ยินยังทำเฉยอยู่ เลยกระแอมทีหนึ่ง เสริมเสียงแข็ง ๆ ต่ออีกว่า “อาหารที่พักมี ฟรีไวไฟ แต่ต้องอยู่ประจำที่บ้านตลอด ไม่รับแบบไปเช้าเย็นกลับ” บุณย์นราตัดสินใจได้ตั้งแต่ได้ยินตัวเลขครึ่งแสนนั่นแล้ว อารมณ์เดือดดาลของเธอก็สงบลงเกินครึ่งแล้วด้วย เลยถามเสียงอ่อนกลับไปถึงขอบเขตงาน “แม่บ้านที่ว่านี่ ต้องทำอะไรบ้าง” “ทำอาหารกับงานสวนแค่นั้นมั้ง ห้าหมื่นน่ะ” นักรบถามกลับหน้าตาย บุณย์นรามองอย่างคืบแคลงแล้วถามกลับเหมือนกัน “นั่นสิ แม่บ้านอะไร ทำไมเงินเดือนตั้งห้าหมื่น” “แม่บ้านที่รับก็คือต้องทำงานในบ้านทั้งหมด รวมถึงงาน...บนเตียง” นักรบเน้นคำหลังเป็นการเฉพาะ แววตาของเขาก็วาววับขึ้นเล็กน้อยอีกด้วยบุณย์นราเกือบตอบตกลงอยู่แล้ว หากไม่สะดุดกับคำหลังสุดที่หลุดจากปากเขาเข้าเสียก่อน

บทที่ 1 1

งานเลี้ยงงานแต่งของลูกชายเสี่ยคาเช็งจัดไม่เงียบนัก กระนั้นก็ไม่ได้ใหญ่โตพอสมกับฐานะพ่อค้ารายใหญ่คนดัง ดูแล้วออกจะผิดธรรมเนียมปฏิบัติของวงศ์ตระกูลอยู่ไม่น้อย แทนที่จะจัดอย่างหรูหราในโรงแรมมีชื่อ แต่นี่กลับเลือกจัดที่ลานหน้าบ้านเช่าหลังหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกับเจ้าสาวเพียงเท่านั้น

โต๊ะกินเลี้ยงมีสิบโต๊ะ อารมณ์คล้ายจัดกินดื่มให้พรรคพวกเพื่อนพ้องลูกน้องเสียมากกว่า ใครผ่านไปมามองแทบไม่ออกว่านี่คืองานเลี้ยงงานแต่งงาน ถ้าไม่เห็นป้ายเล็ก ๆ ที่มีชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวแขวนเอาไว้ตรงด้านในสุดของขอบเวทีนั่น

บุณย์นรา 💕 กฤตยชญ์

หญิงสาวเจ้าของชื่อบนป้ายนั่งยิ้มฝืน ๆ เมื่อมีคนส่งแก้วให้เธอ แต่แล้วกฤตยชญ์ก็ยื่นมือรับไปดื่มเสียเอง

เธอผ่านพิธีงานช่วงเช้าที่จัดแบบรวบรัดมาแล้ว หลังจบพิธีพวกนั้นก็เห็นคนของเจ้าบ่าวเริ่มตั้งโต๊ะดื่มกันทันที ได้ยินเพื่อนเขาแซวตอนเริ่มดื่มไปได้พักหนึ่งแล้ว ว่า

“ฤกษ์ส่งตัวเข้าหอตั้งสี่ทุ่ม ทำไมไม่ให้ไวกว่านี้หน่อยวะ”

เลยอยากลุกหนีออกจากตรงนั้นนัก แต่ก็ไปไหนไม่ได้ ต้องทนนั่งปั้นยิ้มน้อย ๆ ตามองบรรยากาศรอบงานไปพลาง ฟังเพลงไปพลาง เตรียมตัวเตรียมใจเป็นเจ้าสาว เมื่อการเฉลิมฉลองจบลง จะว่าไปแล้วถึงเวลานั้นเธอก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี สูดหายใจเข้าออกลึก ๆ บอกตัวเองว่าต้องทำใจ ในเมื่อเธอเลือกที่จะทำแบบนี้แล้ว

พลันเสียงจากวงดนตรีเริ่มบรรเลงเพลงทำนองสนุกสนานครึกครื้นมากขึ้น เจ้าบ่าวขยับตัวตามจังหวะและสนุกกับการดื่มกินกับพวกพ้องกว่าเดิม เห็นเขาเพียรรับแก้วจากคนอื่นมาดื่มจนใบหน้าเริ่มออกสีแดง บทสนทนาบนโต๊ะก็เริ่มแย่ลง ฟังหยาบโลนและคุกคามเธออยู่ไม่น้อย

ตอนนั้นเองที่บุณย์นราได้ยินเจ้าบ่าวเอ่ยปรามพรรคพวกเขา

“พอได้แล้ว! เดี๋ยวน้องบุณของกูกลัวไม่ยอมเข้าห้องหอขึ้นมา กูจะยิงหัวพวกมึงรายตัวเลยคอยดู”

นั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิดเดียว

ปกติคุณกฤตยชญ์ออกจะเป็นคนพูดจาไพเราะอ่อนหวาน ช่างเอาใจ ที่สำคัญเขานิสัยรวยมาก และเขาก็ไม่ได้ดีแต่กับเธอ กับครอบครัวของเธอ เขาก็ยังดีไม่น้อยเลย นอกจากให้เงินก้อนหนึ่งกับบัญชา พี่ชายของเธอเอาไปต่อทุนแล้ว ยังช่วยใช้หนี้ดอกเบี้ยมหาโหดจากเงินกู้นอกระบบที่ครอบครัวของเธอไปกู้มาอีกด้วย

“นายดื่มได้อีกแก้วเดียวแล้วนะครับ ไม่อย่างนั้นความดันจะขึ้น แล้วอาจจะ... ไม่ไหว” เสียงยอช ลูกน้องคนสนิทกระซิบบอกกับผู้เป็นนายของตัวเอง

เธอนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย มีหรือจะไม่ได้ยิน เลยขยับตัวอย่างอึดอัด ไม่สบตากับคนในงานอีกต่อไป เมื่อพบว่าพวกนั้นมองมาด้วยสายตาเช่นไร แม้เพิ่งเรียนจบมาหมาด ๆ ปริญญาบัตรก็ยังไม่ได้รับ แต่พออ่านแววตาอ่านความรู้สึกของคนได้บ้าง

จึงผินหน้าไปทางอื่น มองหาคนในครอบครัวที่นั่งแยกอยู่อีกโต๊ะตรงมุมสุดของลานจัดเลี้ยง เห็นว่าทางนั้นมองเธออยู่เช่นกัน เลยฝืนยิ้มกว้าง ๆ ให้พวกเขาสบายใจ มองทางเจ้าบ่าวเห็นเขาคุยกับเพื่อนที่ล้อมรอบตัวท่าทีออกรสออกชาติ จึงค่อยหันกลับไปมองที่วงดนตรีชื่อดัง บนนั้นมีนักร้องสาวสวยแต่งตัวยั่วยวนกำลังเล่นเพลงสดกันอยู่

อีกหลายนาทีต่อมา บุณย์นราถึงได้ยินลูกน้องของเจ้าบ่าวคุยกันอยู่ที่โต๊ะด้านหลังเยื้องออกไปเล็กน้อย

“เห็นงานสงบแบบนี้แล้วค่อยโล่งใจหน่อย ดีนะที่นายให้คนปล่อยข่าวลวงสายของมัน ว่าจัดงานแต่งที่โรงแรมในเมืองโน่นโง่ฉิบหายเลย เมื่อกี้ไอ้นนท์มันโทรมารายงานนายแล้วว่าในโรงแรมเละเป็นโจ๊กเพราะมีคนไปถล่มงานมา”

“แล้วถ้ามันไม่โง่ล่ะวะ”

“มึงจะพูดทำไม กูยิ่งเสียวสันหลังอยู่ว่ามันอาจจะรู้ทันนายของเรา”

บุณย์นรามุ่นคิ้วเล็กน้อย เมื่อได้ยินคนของกฤตยชญ์คุยกันด้วยน้ำเสียงเหมือนกริ่งเกรงบุคคลที่สามเช่นนั้น แล้วหันไปมองการแสดงต่อเมื่อนักร้องโชว์เพลงยอดนิยมให้ได้ฟัง ผ่านไปเป็นครู่ใหญ่แล้วถึงได้ยินยอช คนสนิทของกฤตยชญ์เข้ามากระซิบใกล้ ๆ

“ได้ฤกษ์ส่งตัวแล้วนะครับ”

เจ้าบ่าวที่ใบหน้าแดงก่ำ ค่อยหมุนคอมองที่เธอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ราวกับจะถอดชุดของเธอออกทั้งตัวด้วยสายตาคู่นั้น ถามด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้เล็กน้อย “พร้อมไหมครับน้องบุณ พี่ฟาสพร้อมมาก ๆ” ว่าจบตบอกตัวเองดัง ๆ แล้วลุกพรวดขึ้น แต่ก็เซส่ายไปส่ายมาจนเกือบล้ม คนของเขาถลาเข้ามาช่วยประคองแทบทั้งงานในวินาทีนั้นเอง

กฤตยชญ์สะบัดตัวออกจากฝูงลูกน้อง ตรงมาคว้ามือเธอจูงเข้าบ้านไม่สนสายตาใครอื่นอีก ห้องหอคือห้องห้องหนึ่งภายในบ้านเช่าหลังนั้น ถูกจัดแต่งใช้ไปพลาง ๆ ก่อนในคืนส่งตัวคืนนี้กฤตยชญ์บอกกับพ่อแม่ของเธอ ว่าเขาจะพาเธอย้ายเข้าบ้านของเขาในวันถัดไป

ผู้ใหญ่ฝ่ายเธอมีพ่อ แม่ พี่ชายและพี่สาวมากันครบหมด แต่ทางฝั่งเจ้าบ่าวกลับไม่มีผู้ใหญ่ของเขาเลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงกฤตยชญ์ เพื่อนและลูกน้องที่ติดสอยห้อยตามสองคนยืนคุมเชิงที่หน้าห้อง พิธีส่งตัวเลยไม่มีขั้นตอนอะไรมากมายนัก

“คุณพ่ออำนวยกับคุณแม่นวลตาอวยพรบ่าวสาวเลยครับ เดี๋ยวจะเลยฤกษ์งามยามดีเสียก่อน เฮียแกถือฤกษ์ด้วยสิครับ” ยอชเร่งทางบิดามารดาของเธอ เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว

นายอำนวยและนางนวลตาจึงพยักหน้าตอบรับ รีบตรงเข้ามาอวยพรให้เธอกับกฤตยชญ์พร้อมกัน ส่วนบัญชากับบุณฑริกา พี่ชายและพี่สาวของเธอได้แต่มองแล้วก็ยิ้มน้อย ๆ ไม่มีใครพูดจาอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ให้ผู้ใหญ่ซึ่งในที่นี้มีแค่สองคนเท่านั้นให้พรให้คำแนะนำการใช้ชีวิตคู่กันไป

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คนทั้งโลกกำลังตกหลุมรักภรรยาผม

คนทั้งโลกกำลังตกหลุมรักภรรยาผม

กฤษฎิ์ แสนชล
4.9

หยุนซีแต่งงานกับกู้ซือเฉิน คุณชายที่สูญเสียสิทธิ์ที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลแทนน้องสาว ตอนแรก พวกเขาเพียงแค่ว่าที่สามีภรรยาในนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวของหยุนซีถูกค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมา สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตาม ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างที่คิดเลย ใครจะไปคิดว่าเธอเป็นทั้งแฮ็กเกอร์มืออาชีพ นักประพันธ์เพลงลึกลับ และทายาทคนเดียวของนักแกะสลักที่มีชื่อเสียงระดับชาติ.... มีทั้งนักร้องชื่อดัง นักแสดงที่เคยได้รับรังวัลมากมายและผู้สืบทอดของตระกูลที่ร่ำรวยมาตามจีบว่าที่ภรรยาของเขา กู้ซือเฉินควรทำอย่างไรดี?

Sign on love   เดิมพันรัก มาเฟียร้าย

Sign on love เดิมพันรัก มาเฟียร้าย

Me'JinJin
5.0

Sign on love ❤️ เดิมพันรัก มาเฟียร้าย กรรฐ์ กวีวัธน์ พิสิฐกุลวัตรดิลก มาเฟียในคราบชุดกาวน์ที่ยอมสลัดคราบผู้ชายเย็นชากระโจนเข้าสู่หลุมพรางของเธอ เธอชอบเขา...เขารู้ แล้วที่เขาชอบเธอ...เธอนั้นรู้หรือยัง ? มีน มินตรา อดิพัทธ์เรืองรัตนกุล ดารานางแบบสาวสวยชื่อดังที่คนชอบมองว่าหยิ่งแท้จริงแล้วนิสัยดี จริงใจ รักเพื่อนฝูง กล้าได้กล้าเสีย โบราณบอกเอาไว้ว่ามารยาหญิงมีร้อยเล่มเกวียนถ้าอย่างนั้นเธอก็จะของัดมาสักเล่มเพื่อยั่วเขาให้ตกหลุมพรางของเธอก็แล้วกัน เขาชอบเธอ...เธอไม่เคยรู้ แล้วที่เธอชอบเขา...เขารู้หรือยัง ?

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

สยบรักดวงใจท่านอ๋อง

สยบรักดวงใจท่านอ๋อง

จิ่วเชียน
5.0

‘ลู่ซิงเหยียน’ ไม่คิดเลยว่าการอาสาช่วยโจรผู้หนึ่งหลบหนีออกจากจวนเจ้าเมืองเพื่อแลกกับชีวิตของตนเองนั้น จะทำให้โชคชะตาของนางผูกติดกับ ‘เขา’อย่างไม่มีวันแยกจาก ********************* ลู่ซิงเหยียนทำงานอยู่ภายในจวนเจ้าเมืองหลิวลี่ซือในฐานะสาวใช้ เพื่อสืบหาคนร้ายที่ทำให้ตระกูลลู่ของนางถูกประหารทั้งตระกูล ทว่าวันหนึ่งมีชายชุดดำบุกเข้ามาขโมยของในจวนเจ้าเมือง เพื่อแลกกับชีวิตของตนเอง ลู่ซิงเหยียนจึงอาสาช่วยเหลือโจรผู้นี้หลบหนี นางเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเขา นอกจากจะไม่ได้รับคำขอบคุณ เขากลับตามตอแย วนเวียนอยู่รอบกายนางเพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่ไม่รู้เป็นเพราะซาบซึ้งใจหรือชิงชังที่นางบังคับให้เขาหลบซ่อนอยู่ในถังอาจมกันแน่!!! ************************** “หมายความว่าอย่างไร” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม ดวงตาเขียวปัด ฟังจากโทนเสียงคล้ายกับเป็นเสียงคำรามในลำคอเสียมากกว่า ส่วนเจ้าของคำถามบัดนี้จับจ้องสตรีตรงหน้าด้วยความโกรธจัดจนแทบอยากจะกระโจนเข้ามาบีบคอ “ปัดโธ่ ท่านมีทางเลือกมากนักหรือ นี่เป็นวิธีเดียวที่ข้าคิดได้แล้ว หากอยากหนีออกไปโดยไม่ถูกจับได้ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น” แม้ปากจะกล่าวไปเช่นนั้น แต่ใบหน้ากลับหดเล็กยิ่งกว่าฝ่ามือ ลู่ซิงเหยียนเหลือบมองร่างสูงสลับกับถังไม้ขนาดใหญ่บนรถเข็นที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลเน่าเหม็น ยามนี้เมื่อเปิดฝาที่ปิดอยู่ออกก็ยิ่งส่งกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนจนรู้สึกคลื่นเหียนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด นางเห็นร่างสูงยืนแข็งค้างอยู่ในเงามืดหลังพุ่มไม้หนาทึบ มือข้างที่จับมีดกำแน่นขึ้นกว่าเดิมจนน่าหวาดหวั่น ท่าทางโกรธจัดของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิต คาดว่าภายในใจตอนนี้คงอยากปาดคอนางแล้วจับหมกลงไปในถังอาจมเป็นแน่ "ข้าจะฆ่าเจ้าซะ” เขาเอ่ยเสียงลอดไรฟัน ************************************** สวัสดีค่ะ ไรท์กลับมาแล้ววววว เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องยาวนะคะ แนวโรแมนติกดราม่านิดๆ + เกมการเมืองหน่อยๆ ไม่ทะลุมิติ ไม่ย้อนเวลาค่ะ ไม่อิงประวัติศาสตร์และยุคสมัยใดๆ นะคะ ตัวละครและสถานที่เกิดขึ้นจากจินตนาการทั้งหมดของไรท์ค่ะ

เจ้าสาวของนักรบ

เจ้าสาวของนักรบ

SHASHAwriter
5.0

บุณย์นราถูกฉุดออกมาจากห้องหอในคืนแต่งงาน ซ้ำยังถูกข่มเหงจากชายโฉดจนย่อยยับ หากแค่นั้นเรียกว่าโชคร้ายแล้ว การต้องมาเจอชายคนนั้นอีกครั้ง ในสถานะของประธานบริษัท ที่เธอเพิ่งได้งาน ไม่โชคร้ายยิ่งกว่าหรือ เพราะทันทีที่เห็นหน้าเธอ เขาก็มีคำสั่ง ให้ไล่เธอออก แต่กลับยื่นขอเสนออันสุดแสนร้ายกาจเป็นทางเลือก ราวกับรู้ว่าบุณย์นรากำลังอับจนซึ่งหนทางอยู่ ###### “ตำแหน่งที่เธอทำอยู่ ที่นี่ไม่ได้เปิดรับ” บุณย์นราตากระตุกถี่ยิบขึ้นเหมือนกัน มันมีด้วยหรือ ไม่เปิดรับ แล้วประกาศออกไปแต่แรกทำไมว่ารับคน “ไม่รับพนักงานตำแหน่งที่ว่า แล้วที่นี่รับตำแหน่งอะไร” จบคำถามของเธอปุ๊บ เสียงตอบห้วนสั้นก็ดังขึ้น “แม่บ้าน” ขุนพลเลิกคิ้วมองนายนิด ๆ ส่วนบุณย์นราก็นิ่งไป อันที่จริงไม่ได้รังเกียจงาน แต่ก็ติดเรื่องวุฒิ เรื่องเงินเดือน เธอมาสมัครงานเพราะอยากได้เงิน แล้วไอ้ที่เรียนมาสี่ปีจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเรียนมาแทบตาย แล้วให้ไปเป็นแม่บ้าน อีกอย่างแม่บ้านก็ไม่มีโอกาสก้าวหน้าเอาเสียเลย คิดได้อย่างนั้นก็จ้องตาเขานิ่ง ทำอย่างไรดี ตอนนี้เธอจนตรอกแล้ว มีแต่ต้องเดินไปข้างหน้าเท่านั้น แล้วเลยกลั้นใจถามออกไป เสียงอ่อยลงเล็กน้อย “แม่บ้าน เงินเดือนเท่าไร” “ห้าหมื่น” เงินเดือนขนาดนั้น ทำบุณย์นรางันไปราวกับถูกแช่แข็ง นักรบเห็นอาการของคนตรงหน้า ก็ออกแปลกใจอยู่ไม่น้อย ไหนขุนพลบอกเพดานเงินพวกเด็กจบใหม่ไว้ที่หมื่นห้าไงวะ นี่เขาให้ตั้งห้าหมื่น ทำไมยายนี่ได้ยินยังทำเฉยอยู่ เลยกระแอมทีหนึ่ง เสริมเสียงแข็ง ๆ ต่ออีกว่า “อาหารที่พักมี ฟรีไวไฟ แต่ต้องอยู่ประจำที่บ้านตลอด ไม่รับแบบไปเช้าเย็นกลับ” บุณย์นราตัดสินใจได้ตั้งแต่ได้ยินตัวเลขครึ่งแสนนั่นแล้ว อารมณ์เดือดดาลของเธอก็สงบลงเกินครึ่งแล้วด้วย เลยถามเสียงอ่อนกลับไปถึงขอบเขตงาน “แม่บ้านที่ว่านี่ ต้องทำอะไรบ้าง” “ทำอาหารกับงานสวนแค่นั้นมั้ง ห้าหมื่นน่ะ” นักรบถามกลับหน้าตาย บุณย์นรามองอย่างคืบแคลงแล้วถามกลับเหมือนกัน “นั่นสิ แม่บ้านอะไร ทำไมเงินเดือนตั้งห้าหมื่น” “แม่บ้านที่รับก็คือต้องทำงานในบ้านทั้งหมด รวมถึงงาน...บนเตียง” นักรบเน้นคำหลังเป็นการเฉพาะ แววตาของเขาก็วาววับขึ้นเล็กน้อยอีกด้วยบุณย์นราเกือบตอบตกลงอยู่แล้ว หากไม่สะดุดกับคำหลังสุดที่หลุดจากปากเขาเข้าเสียก่อน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ