Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
แดนตะวัน
5.0
ความคิดเห็น
43.2K
ชม
52
บท

“เฮีย! ขึ้นมาทำไม ทำไมไม่ไปนอนที่ห้องตัวเอง” “ทีเมื่อกี้เรียกร้องจะให้นอนด้วย” “นั่นมันเมื่อก่อนนะ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้นอน” “ใจร้าย...” เขาบ่นอุบ ซุกหน้าเข้าหาอกอวบๆ ของเมีย “เฮีย... จะมาซงมาซุกทำไมนี่” “พอได้เฮียเป็นผัวก็จะไล่ใช่ไหม เห็นเฮียเป็นของตาย” “ไม่ใช่ อัญกลัวเฮียจะลักหลับอัญ” เธอนิ่วหน้ายังเจ็บตรงหว่างขาอยู่เลย “เฮียไม่ลักหลับหรอก ชอบแบบดิ้นได้มากกว่า โอ๊ย! หยิกทำไมนี่ ยัยเด็กซาดิสม์” “ถ้าจะนอนด้วยกันก็อย่าลามกนะคะ” อัญชัญอ้าปากหาวอีก ซุกหน้าเข้าหาหมอน แต่เขาดึงศีรษะของเธอให้มาซุกหน้าเข้าหาอกกว้างของเขาแทน “ซุกตรงนี้” “เฮียไม่ใช่หมอนเสียหน่อย” เธอบ่นเสียงอู้อี้อยู่ที่อกเขา ตาปรือด้วยความง่วง ตะกายมือกับเขากอดเขาเหมือนเขาเป็นหมอนข้าง

บทที่ 1 1

บรรยากาศรอบข้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้และท้องทุ่งทำให้หนุ่มๆ ที่ร่ำสุรากันอยู่มีความสุขบันเทิงใจเป็นที่สุด เหล้าเถื่อนดีกรีร้อนแรงที่ผลิตขึ้นมาล็อตใหม่ทำให้คนดื่มถึงกับเมาหัวทิ่ม แต่ไม่ใช่แดนตะวันอย่างแน่นอนเพราะเขาคอแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้ว่าเหล้านั้นจะดีกรีร้อนแรงสักเพียงไหน

แดนตะวัน สมุทรากร หนุ่มวัย 33 ปี เจ้าของใบหน้าคมสัน ร่างสูงเพรียวแข็งแรง เขาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเหล้าเถื่อนซึ่งมีรายได้มหาศาลเป็นลำดับต้นๆ ของจังหวัด แดนตะวันจ่ายเงินอย่างถูกกฎหมาย จึงไม่มีปัญหาเรื่องการค้าขาย จุดขายของเขาคือการคิดสูตรเหล้าใหม่ๆ ขึ้นมาเอง โดยเฉพาะยาดองสมุนไพรสูตรเฉพาะที่อร่อยจนเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าทุกคนที่แวะเวียนกันมาลิ้มลอง

“เฮีย...” เสียงเรียกของสาวน้อยทำเอาคนถูกเรียกเหล้าพุ่งออกจากปาก สำลักจนหูตาแดงไปหมด ชายหนุ่มหันขวับไปมองสาวน้อยวัยยี่สิบแล้วสะดุ้ง

“เซี้ย!” อุทานแบบไม่ต้องกลัวว่าใครจะด่า เขากวาดสายตามองลูกน้องสองสหายที่ยืนก้มหน้างุด มือกุมเอาไว้ด้านหน้าด้วยสายตาหงุดหงิด ก่อนจะเกาหัวไปมา

“ได้ยินว่าเฮียจะไปเก็บค่าเช่าบ้าน ขออัญไปด้วยนะ อยากไปช่วยเฮียทำมาหากิน” คนน่ารักอ้อนสุดฤทธิ์สุดเดช นวดไหล่คู่หมั้นหนุ่มไปมาด้วยสีหน้า เจ้าเล่ห์

“เฮียต้องไปธุระหลายที่” คนไม่อยากให้ไปด้วยรีบบ่ายเบี่ยง อัญชัญเป็นลูกสาวของเพื่อนรักบิดามารดาที่เป็นคู่หมั้นคู่หมายของเขาตั้งแต่เด็ก อายุห่างกันมากไม่ใช่ปัญหาเมื่อโดนจับคู่ให้แต่งงานกัน

พอบุพการีของอัญชัญเสียชีวิต บิดามารดาจึงรับเธอมาอุปการะเลี้ยงดูเพื่อรอเป็นเจ้าสาวของเขา ยายตัวแสบเห็นหน้าตาน่ารักแบบนี้ แสบทรวงอย่าบอกใครเชียว ใครเผลอหลงคิดไปว่าหล่อนน่ารักละก็... เสร็จทุกราย

จริงๆ เขาเป็นลูกบุญธรรมของบิดามารดา ท่านรับมาเลี้ยงดูตั้งแต่แบเบาะ พอท่านเสียชีวิต พี่ชายลูกพี่ลูกน้องอย่างสุริยันต์ก็เข้ามาช่วยดูแลกิจการและทรัพย์สินให้ ซึ่งตอนนั้นเขายังเรียนหนังสือไม่จบ พอเรียนจบสุริยันต์ก็วางมือให้เขาดูแลต่อ

“ไปด้วย” เสียงเอาแต่ใจทำให้แดนตะวันเริ่มหัวหมุน ถ้าทำเสียงแบบนี้เขานี่แหละจะโดนป่วนไม่ต้องทำมากินกันพอดี

“อยากไปก็ตามมา แต่อย่าก่อเรื่องล่ะ”

“สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือเนตรนารีค่ะว่าจะไม่ก่อเรื่องจริงๆ ไม่จิงโจ้” เธอยกสามนิ้วขึ้นชู ส่วนมืออีกข้างก็ไขว้ไปทางด้านหลัง

ใครเชื่อเธอก็คลอดลูกเป็นแมวแล้วล่ะ!

อัญชัญวิ่งตามร่างสูงใหญ่ของแดนตะวันไปอย่างสนุกสนานระคนมีความสุข อย่าคิดว่าเธอไม่รู้นะ ว่าเขาจะไปไหนและไปทำอะไร

ลูกน้องของแดนตะวันคือพวกของเธอทั้งหมด ไม่มีใครกล้าหือ เรียกง่ายๆ ว่าเสร็จเธอทุกรายเพราะโดนซื้อตัวเอาไว้หมดแล้ว

ถ้าถามอะไรแล้วไม่ยอมบอก จะโดนแกล้งหนักๆ จนต้องยอม

เขาว่า... รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

เด็กสาวรีบกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์คันโตของแดนตะวันไปอย่างรวดเร็ว เขาคิดจะทิ้งเธอเอาไว้ที่นี่น่ะสิ เธอรู้ทันหรอก แต่ไม่มีทางที่เขาจะทำแบบนั้นได้แน่ๆ

“นมทิ่มหลัง” เขาหันมาทำเสียงดุ แดนตะวันยอมผิดผีกับผู้หญิงทุกคน ยกเว้นยายตัวป่วนนี่ เพราะสัญญากับบิดามารดาเอาไว้แล้วว่าให้น้องเรียนจบก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน

อัญชัญเป็นคนนิสัยแปลก พอบอกให้ไปทางซ้ายเธอก็จะไปทางขวา บอกให้ไปข้างหน้าเธอก็จะไปข้างหลัง พอเขาบอกว่านมทิ่มหลัง เธอก็ยิ่งโอบกอดเขาหนักขึ้นไปอีก

“ใส่หมวกกันน็อกด้วย” เขายื่นหมวกกันน็อกมาให้ทางด้านหลัง เธอรับไปสวมอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะออกรถ

“เฮียจะไปเก็บค่าเช่าที่ไหนก่อนคะ”

“ในตลาด” เขาตอบแบบขอไปที รำคาญเสียงถามของเธออย่างที่สุด

“ทำไมไปในตลาดก่อนล่ะ”

“หุบปากบ้างเถอะ ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้นะ”

“พูดกับน้องแต่ละคำ ทีกับสาวๆ ล่ะจ๊ะจ๋า น่าหมั่นไส้” เธอทำปากยื่นอย่างมีแง่งอน

แดนตะวันจอดรถหน้าห้องแถวเล็กๆ ที่อยู่ในตลาด ก่อนจะเคาะประตูห้องเบาๆ คนที่ออกมาเปิดประตูให้เป็นสาวสาวสะพรั่งนุ่งน้อยห่มน้อย ทาปากสีแดงจัด ผมสีทองดัดเป็นลอน ชะม้ายชายตาให้เจ้าของบ้านเช่าตาเป็นมัน

“เฮีย!” เสียงเขียวมาพร้อมกับมือนิ่มๆ ที่หยิกเข้าที่แขน แดนตะวันสะดุ้งร้องเสียงหลงแทบจะทันที

“โอ๊ย! หยิกเฮียทำไม”

“มาเก็บค่าเช่านะเฮีย ไม่ใช่มามองนมคนเช่าบ้าน” เธอทำหน้าบึ้ง ก่อนจะเดินไปยืนด้านหน้าของเขา แบมือออกไปขอค่าเช่าห้องเสียเอง อย่าคิดว่าเธอไม่รู้นะ... ว่าแม่นี่จ่ายค่าเช่าเป็นอะไร

หน็อย... วันนี้ไม่ได้แอ้มหรอก

ชบาหน้าบูดบึ้งหยิบเงินจากซอกนมออกมายื่นส่งให้สาวน้อยหน้ามน แต่มิวายชะม้ายชายตามองคนด้านหลังของเด็กสาวด้วยสายตาเป็นประกาย ระริกระรี้ยั่วยวนชวนลากขึ้นเตียง

เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่า... ยายเด็กนี่เผลอ เราเจอกัน!

“เฮีย! ไปได้แล้ว” ถ้าดึงหูได้อัญชัญคงทำไปแล้ว เธอทำเพียงแค่เอาเงินยัดใส่กระเป๋าสะพายของตัวเอง และเรียกเขาไปที่รถ แดนตะวันทอดสายตามองหุ่นอวบอัดของชบาไม่วางตา แต่น้ำเสียงเร่งเร้าของคู่หมั้นวัยละอ่อนทำให้เขาต้องผละจากมาในที่สุด

“เฮีย... ถามจริงๆ เหอะ เฮียชอบของปลอมเหรอ”

“ของปลอมอะไร” คนถามหงุดหงิดใจไม่น้อย ก้างชิ้นใหญ่ขวางคอเอาไว้เลยทำอะไรไม่สะดวกเอาเสียเลย

“ยายนมบูดนั่นไปทำนมปลอมมาเท่าลูกมะพร้าว เฮียไปฟัดกับมันระวังซิลิโคนแตกคาปาก” คนพูดเท้าสะเอวว่าฉอดๆ แดนตะวันถึงกับส่ายหน้าไปมา

“รู้ดี” เขาจิ้มหน้าผากเธอ

“รู้สิ ยายนี่นอกจากนมปลอมแล้วอย่างอื่นก็ปลอมทั้งตัวเลย เฮียเคยเห็นเขาล้างหน้าไหมล่ะ”

“เกี่ยวอะไรกับล้างหน้า”

“ยังกับซากศพ”

“ไม่รู้ ตอนเอากันไม่เคยมองหน้า มองแต่อย่างอื่น โอ๊ย! เจ็บนะโว้ย ยายเด็กนี่” แดนตะวันสะดุ้งเมื่อโดนบิดจนเนื้อเขียว

“ต่อหน้าว่าที่เมียกล้าบอกว่าเอากับคนอื่นเหรอ”

“ยังไม่ได้เป็นเมีย”

“ของดีมีไม่ชอบ” เธอบ่นอุบนึกน้อยใจและงอนเขาเอามากๆ

“อะไรที่ว่าดี” แดนตะวันรู้สึกว่าการเถียงกับเธอคือเรื่องคุ้นเคยสำหรับเขา ยายเด็กนี่ก็เถียงคำไม่ตกฟาก ไม่เคยยอมแพ้อะไรเลย แต่เขาก็สนุกที่จะได้ ต่อล้อต่อเถียงกับอัญชัญ เธอมักมีความคิดแปลกๆ มาให้เขาขำได้เสมอๆ

“ของอัญไง จริงทุกอย่าง” เธอยืดอกภาคภูมิใจในความเป็นตัวเองอย่างที่สุด

“ตัวก็เตี้ย นมก็แบนเหมือนไข่ดาว ผิวขาวเหมือนไก่ต้ม พูดมาก กินจุ น่ารำคาญ อันนี้เรียกจริงทุกอย่าง” คนฟังถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะก้มมองนมตัวเอง นมเธอนี่นะแบนเหมือนไข่ดาว จะมากไปแล้วนะ คนด่าไม่ได้สนใจเดินหนีไปเก็บค่าเช่าหลังต่อไป เป็นที่รู้กันว่าแดนตะวันมีผู้หญิงมาทอดสะพานให้ไม่เว้นแต่ละวัน ดังนั้นคนที่มาเช่าบ้านหรือลูกหนี้ของเขาก็มีวิธีการใช้หนี้ที่สยิวกิ้วจนเธอต้องตามมาคุม

บ้านหลังที่สองไม่ต่างกันเลย แม่เจ้าโว้ย! นุ่งกระโจมอกออกมาจ่ายค่าเช่าบ้าน อกอีแป้นจะแตก!

“โอ๊ย!” แดนตะวันสะดุ้งโหยงเมื่อโดนกระทืบเท้าเข้าให้ ก่อนที่ยายตัวแสบจะเดินมายืนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

“ขอโทษค่ะ อัญไม่เห็นจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะเหยียบหาง เอ้ย! เหยียบเท้าเฮียเลยนะคะ” เจ้าตัวแสบยกยิ้มมุมปาก แดนตะวันสบถ ยกเท้าขึ้นด้วยความเจ็บ เขาร่ำๆ อยากจะยกเธอขึ้นพาดบ่าแล้วฟาดให้ก้นระบมนัก

“สาบานว่าไม่เห็น” เขากัดฟันขณะเอ่ยถามระงับความโกรธเอาไว้ เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

อัญชัญแบมือไปขอเงินค่าเช่า แต่คนที่นุ่งกระโจมอกเล่นหูเล่นตากับคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง แล้วเชิญเข้าไปในบ้านเสียอย่างนั้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.

ข้อมูลเพิ่มเติม
หวานใจเฮียเจ้า

หวานใจเฮียเจ้า

โรแมนติก

5.0

โปรย หวานใจเฮียเจ้า ปิ่นเพชรยืนมองประตูห้องน้ำอย่างลังเล เขากำลังอาบน้ำเช่นนี้ เธอควรจะเข้าไปดูแลเขาไหมนะ เขาไม่เคยเรียกร้อง ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด ถ้าเขาจะทำอะไรก็ควรทำสักที เธอมาอยู่กับเขาเพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ ตัดสินใจได้ดังนั้น ปิ่นเพชรก็ทะลึ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องน้ำของเขาในทันที เจ้าทัพตกใจเมื่อจู่ ๆ เธอก็โผเข้ามากอดเขาเอาไว้ทั้งตัว ในขณะที่เขาเองก็กำลังเปลือยเปล่าอยู่ “มีอะไร” เขาเอ่ยถามเหมือนเพิ่งหาเสียงเจอ ไม่คิดว่าเธอจะโผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ “คือปิ่นจะมาช่วยอาบน้ำให้คุณน่ะค่ะ” คนบอกว่าจะมาช่วยอาบน้ำกอดเขาเอาไว้แน่น ไม่กล้าผละออกห่างหรือเงยหน้ามองเขาเพราะอาย “จะมาช่วยอาบน้ำให้ผม แต่กอดผมเอาไว้ซะแน่นแบบนี้จะอาบได้ยังไงกันครรับ” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม พลางกลั้นยิ้มเอาไว้ “ก็คุณโป๊อยู่” “มาช่วยผมอาบน้ำก็ต้องรู้สิครับว่าผมโป๊” “เอ่อ...” เธออึกอัก เขาจึงค่อย ๆ ดันเธอออกห่าง ก่อนจะมองหน้าเธอไม่วาง เจ้าทัพทาบริมฝีปากลงไปหาริมฝีปากน้อยสั่นระริกของเธอ เธอเกร็งตัวหลับตาแน่น จิกมือเข้าที่บ่าของเขา ท่าทีของเธอบอกว่ากำลังหวาดกลัว และไม่พร้อม ทำให้เขาต้องละริมฝีปากออกห่าง เมื่อเขาจูบลงไปแต่เธอกลับปิดปากแน่น “คุณไม่ต้องฝืนใจตัวเองหรอกนะ ผมไม่บังคับคุณจนกว่าคุณจะเต็มใจ” ประโยคของเขาทำให้เธอชะงักและอึ้งไป

หวานใจเฮียเจตน์

หวานใจเฮียเจตน์

โรแมนติก

5.0

“เดี๋ยวพลอยไปเอาเสื้อผ้ามาให้พี่แล้วกันค่ะ” เขาทำท่าจะตามมา เธอเลยรีบปรามเอาไว้ “พี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพลอยดีกว่า ยืนรอตรงนี้มันหนาว” “ไม่ได้ค่ะ” “กลัวพี่เหรอ” “กลัวค่ะ” เธอตอบตามตรง จะไปอวดดีว่าไม่กลัวเขา เดี๋ยวก็เจอดีเข้าหรอก “พี่ไม่ทำอะไรหรอก ถ้าพลอยไม่ยอม” “แน่ใช่ไหม” เธอพูดอย่างไม่ไว้ใจ “แน่ครับ” เขาเอานิ้วไปเกี่ยวไว้ทางด้านหลัง ก่อนจะฉีกยิ้มให้เธออย่างบริสุทธิ์ใจ “พลอยไม่ไว้ใจพี่เจตน์หรอกค่ะ พี่น่ะเสือผู้หญิง รออยู่นี่แหละค่ะ พลอยจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้” เธอรีบตัดบท ไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ พลอยไพลินเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดให้เขา พอหันมาก็ต้องสะดุ้ง “อุ๊ย! พี่เจตน์เข้ามาตอนไหนคะ พลอยบอกว่าให้รออยู่ข้างนอกไง” “ห้องน้องพลอยเรียบร้อยจังเลยครับ หอมด้วย” เขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากห้องนอนของเธอ “ชุดพี่เจตน์ค่ะ” เธอยื่นให้เขา เขาก็รับมาถือเอาไว้ “ชุดน้องพลอยหอมจังเลยครับ” เจตน์ยกขึ้นมาดม ก่อนจะยิ้มหวานให้เธอ “เวลาพี่เจตน์จีบผู้หญิงก็ใช้มุขนี้เหรอคะ” “พี่ไม่เคยจีบผู้หญิง” “จะบอกว่าผู้หญิงวิ่งเข้าหาพี่เองเหรอคะ” “น้องพลอยเห็นยังไงก็อย่างนั้นแหละ” “...” เธอเงียบไม่ได้ตอบโต้ “หึงพี่เหรอ” เขาเดินเข้าหา ก่อนจะใช้มือดันไปที่ตู้เสื้อผ้า ทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา “ใครจะไปหึงพี่กันล่ะคะ” “น้องพลอยก็เปียกไปหมดแล้ว เปลี่ยนชุดพร้อมพี่ไหม” “อุ๊ย! อย่ามาลามกกับพลอยนะคะ” เธอยกขึ้นกอดอกเมื่อเขาหลุบสายตามองต่ำลง “ยังไม่ตอบเลยว่าหึงพี่เหรอ” เขาขยับเข้าไปใกล้ พลางกระซิบถามตรงริมหู ลมหายใจร้อนแรงของเขาเป่ารดอยู่ตรงพวงแก้มหอมกรุ่น “ไม่ได้หึงค่ะ” เธอตอบเขาออกไป ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด การใกล้ชิดกับผู้ชายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายแบบเขา ทำให้เธอใจสั่น พยายามจะอยู่ให้ไกลจากเขา เพราะรู้ว่าหัวใจตัวเองคงทานทนไม่ไหว แต่ก็เผลอเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาในชีวิตอยู่ร่ำไป “อย่าค่ะ” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง เมื่อเขาทำท่าจะก้มลงมาประทับริมฝีปากกับกลีบปากหวานฉ่ำของเธอ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

Happy ที่โสดอีกครั้ง

Happy ที่โสดอีกครั้ง

STARMOON PTE. LTD.
4.9

แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า

นางรำ

นางรำ

อาริตา กันยามาส
5.0

“ผู้หญิงนี่เอามาทำอะไรได้บ้างเล่า...ถ้าไม่จับลงนอนหงายแล้วเราอยู่ข้างบนน่ะ ฮึ...นายบอกฉันทีเถอะ...หรือนายจะให้ฉันเอาแม่คนนั้นมานั่งไว้บนแท่นปูผ้าขาวลาดกราบวันละสามเวลา จะได้เจริญกับตัวเอง” คำพูดอย่างผยอง ดูหมิ่นนี้ ออกจากปากเขา ภิไธย หนุ่มเข้าขั้นเศรษฐี ปากร้าย เอ่ยถึงผู้หญิง ช่างไม่น่ารัก ส่วนเธอ เกนเกด คือผู้หญิงคนนั้น คนที่มีงาน นางรำ เป็นอาชีพ เธอรับงานรำตามแต่คนจ้าง งานที่เป็นเงิน เธอมีสโสแกนว่า ไม่ใช่แค่เพียงอาชีพ แต่คือลมหายใจ เธอมองงาน เป็นลมหายใจ!!! และเพราะต้องรักษาลมหายใจทั้งของตัวเองและญาติผู้ใหญ่รวมถึงคนรักที่บาดเจ็บสาหัสมาจากสงครามชายแดน ทำให้เธอรับการว่าจ้างจาก ชนา ไปรำอวยพรวันเกิดให้กับภิไธย จุดเริ่มต้นของมนตรา ที่สอนบทเรียนให้ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองยอมรับว่าหัวใจที่มีขนาดก้อนเนื้อเท่ากำปั้นนั้นสำคัญเพียงใด เธอขายศิลปะการร่ายรำ สมคำว่า นางรำ แต่เธอไม่มีวันขายหัวใจ ที่มันหมายรวมถึงคำว่าศักดิ์ศรี พบกับเธอ เกนเกด สาวสวย หัวใจทระนง ใน นางรำ

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

Abelard Evans
5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ