Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
พลับพลึงเหมราช

พลับพลึงเหมราช

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
76.3K
ชม
64
บท

ในสายตาของเขา เธอคงเป็นได้แค่เพียง เศษธุลีดินที่ไร้ค่า +++ “คุณเหม พอก่อนค่ะ พลับพลึงไม่ไหวแล้ว” เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียกเขาว่าคุณ แทนคำว่า ‘พี่’ ในอดีต เพราะความห่างเหินเย็นชาที่เขามีให้เธอมันมากมายหลายร้อยเท่านัก หญิงสาวร้องบอกเสียงแหบพร่า ดันหน้าท้องแกร่งของเขาออกห่าง แต่เหมือนผลักหินผาหนักอึ้งที่ไม่ยอมขยับเลยแม้แต่น้อย “คนอย่างเธอกล้าหืออือกับฉันเหรอ...” เขาก้มมองร่างน้อยที่ล้มซุนไปกับกองฟาง พลับพลึงร้องไห้สะอื้นยามเขาย่ำยี “กับฉันทำเป็นสะดีดสะดิ้งร้องไห้สะอึกสะอื้น เวลาอยู่กับผู้ชายคนอื่น เธอหัวร่อต่อกระซิก ระริกระรี้เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ” เขาไม่เคยสนใจน้ำตาของคนอย่างเธอ สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอให้จมดิน

บทที่ 1 1

“ช่วยซื้อหัวมันต้มหนูหน่อยนะคะ ช่วยซื้อหน่อยค่ะ” เสียงหวานใสเจือแววเศร้าสร้อยของเด็กหญิงพลับพลึงพาตะกร้าใบเก่าๆ พร้อมทั้งมันเทศต้มวิ่งขายไปตามงานในช่วงเทศกาลปีใหม่อยู่ในหมู่บ้านซึ่งจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เธอใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ และไม่มีแม้แต่รองเท้าที่จะสวมใส่ แต่เธอก็ยังขายมันต้มไม่ได้สักหัว เพราะผู้คนหันไปสนใจซื้อของกินแสนอร่อยอย่างอื่นแทน

เธอตื่นขึ้นมาต้มมันเทศที่ไปขุดมาจากในป่าแถวบ้านตั้งแต่ย่ำรุ่ง ก่อนจะเดินเท้าเปล่ามายังงาน เด็กน้อยมองความตื่นตาตื่นใจของงานซึ่งมีเครื่องเล่นหลายอย่าง ทั้งชิงช้า ม้าหมุนหรือกระเช้าลอยฟ้า แม้จะอยากเล่นแค่ไหนแต่เธอไม่มีเงินติดตัวสักบาทเดียว ได้แต่ยืนมองด้วยความอิจฉาเด็กคนอื่นๆ

ผู้คนในงานสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ ด้วยชุดใหม่ในเทศกาลปีใหม่ เธอก้มมองเสื้อผ้าขาดๆ มอซอของตัวเองแล้วหน้าเศร้า จำไม่ได้ว่าตัวเองได้รับเสื้อผ้าที่มีคนใจบุญบริจาคมาให้กี่ปีมาแล้ว เพราะเด็กน้อยสวมชุดเก่าๆ ซอมซ่อ จึงไม่มีใครอยากอุดหนุนมันเทศของเธอ รวมถึงสายตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน

เด็กน้อยพลับพลึงเดินเท้ากลับบ้านด้วยความเศร้าใจระคนหวาดกลัว เธอกลัวบิดาจะทุบตีเอา ท่านเป็นคนติดเหล้า และชอบขู่ให้เธอไปทำงานหาเงินตั้งแต่เด็ก ท้องของเธอร้องไปตลอดทางที่เดินกลับบ้าน จำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้ไปยืนอยู่หน้าร้านขายลูกชิ้นปิ้งแต่ไม่มีเงินซื้อ จึงได้แต่กลืนน้ำลายด้วยความหิว จนโดนพ่อค้าไล่ตะเพิดออกมา หาว่าเกะกะหน้าร้าน

เท้าเล็กๆ ที่ไร้รองเท้าติดกายเจ็บปวดไปหมดเพราะโดนหนามทิ่มตำขณะย่ำเดิน เด็กหญิงเดินมาถึงบ้านก็ไม่กล้าเดินเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียงบิดาตั้งวงกินเหล้ากับบรรดาเพื่อนๆ ของพวกท่านอยู่ด้านในของตัวบ้าน

ภายในบ้านกำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานในขณะที่เธอเต็มไปด้วยความเศร้า พลับพลึงสะดุดหกล้มระหว่างเดินเข้าไปใต้ถุนบ้าน เด็กน้อยไม่กล้าร้องเสียงดังกลัวบิดารู้ว่ากลับมาแล้ว เธอเข้าไปนั่งขดตัวอยู่ที่ซอกเล็กๆ ด้วยความหนาวเหน็บ เก็บมันเทศต้มขึ้นมาปัดเศษดินออกไปเบาๆ ก่อนจะนำมาปอกกินด้วยความหิวโหยแล้วเผลอหลับไป เด็กน้อยถูกกระชากแขนให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงสาย เธอเห็นใบหน้าถมึงทึงของบิดาก็สะดุ้งสุดตัว

“ไหนเงินนางพลับพลึง”

“ไม่มีจ้ะพ่อ เมื่อคืนหนูขายมันเทศไม่ได้เลยจ้ะ”

“อะไรนะ นางลูกหน้าโง่ทำไมถึงขายไม่ได้ โกหกหรือเปล่า เอ็งอมเงินใช่ไหม”

“หนูเปล่านะจ๊ะ”

“หัดโกหกตั้งแต่เด็ก สันดานเหมือนแม่มึงไม่มีผิด โตขึ้นคงจะหนีตามผู้ชายไปเหมือนแม่มึง มานี่เลย วันนี้กูจะเอาเลือดหัวมึงออก” นายพันหยิบไม้เรียวมาถือเอาไว้ก่อนจะหวดไปที่สะโพกเล็กๆ ของบุตรสาวเต็มแรง

“โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย! พ่อจ๋า หนูเจ็บ อย่าตีหนูเลย หนูขายมันเทศไม่ได้จริงๆ นะจ๊ะ หนูไม่ได้โกหก”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปมึงไม่ต้องไปโรงเรียนอีกต่อไปแล้ว เรียนไปก็เปลืองเงิน” คนพูดยังตีไม่หยุดมือ

“พ่อจ๋า อย่าตีหนูเลย หนูเจ็บ” เด็กน้อยยกมือไหว้ปลกๆ ร้องไห้น้ำตาเปรอะเปื้อน

“ต่อจากนี้ไปมึงต้องออกมาทำงานหาเงิน”

“หนูอยากเรียนต่อ พ่อให้หนูเรียนเถอะนะจ๊ะ” เด็กน้อยเอ่ยขอร้องเสียงสั่น ร้องไห้จนน้ำตาไหลพรากอาบแก้มนวลทั้งสองข้าง ปวดแสบปวดร้อนไปหมดที่โดนไม้เรียวหวดลงมาบนสะโพกไม่ยั้งแรง

“กูไม่ให้มึงเรียนแล้ว หูแตกหรือไงวะ ไปทำงานไป” นายพันผลักร่างบุตรสาวจนหงายหลัง ไล่ให้ไปทำงาน ไล่ตีไม่ยั้งหากอีกฝ่ายดื้อ

พลับพลึงทำงานมือไม้สั่นเทา แอบคิดถึงมารดาจับใจ ตั้งแต่จำความได้เธอก็ไม่เคยเห็นหน้ามารดามาก่อน มีแต่ป้าลำไยเพื่อนของมารดาเล่าให้ฟังเท่านั้นว่ามารดาเป็นคนใจดี

“พ่อเอ็งนี่มันใจร้ายจริงๆ ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ เมื่อก่อนมันรักเอ็งมากนะ” ลำไยพูดกับเด็กน้อยที่เอ็นดูเหมือนลูกหลานเพราะท่านไม่มีครอบครัวและเคยเป็นเพื่อนจินดามารดาของพลับพลึงมาก่อน

“พ่อเคยรักหนูด้วยเหรอจ๊ะ” พลับพลึงเอ่ยถามเสียงเศร้า พลับพลึงไม่เข้าใจว่าความรักจากบิดาเป็นเช่นไร เธอไม่เคยสัมผัสสิ่งที่เรียกว่าความรักจากท่านเลย

“กินอะไรหรือยัง ป้าทำข้าวเหนียวหมูทอดเหลืออยู่อีกนิดมากินสิ” ลำไยเปลี่ยนเรื่อง นึกสงสารปนเวทนาเด็กน้อยจับใจ

“กินได้จริงๆ เหรอจ๊ะ” เด็กน้อยเอ่ยถามกลืนน้ำลายด้วยความหิว

“กินได้สิ เอ็งก็เหมือนลูกหลาน ไม่มีข้าวกินมากินบ้านป้าได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” ลำไยตักข้าวเหนียวหมูทอดให้เด็กน้อยหน้าตามอมแมม เสื้อผ้าก็เก่าๆ ขาดๆ ถ้าเธอพอช่วยอะไรได้ก็จะช่วยเพราะสงสาร พลับพลึงยกมือไหว้ป้าลำไยก่อนจะกินข้าวเหนียวหมูทอดด้วยความหิว ลำไยเห็นแล้วเศร้าใจในชะตาชีวิตของเด็กน้อย มือคล้ำๆ ลูบศีรษะเล็กๆ นั้นเบาๆ

“แล้วนี่เอ็งจะไปไหนล่ะ” ลำไยเอ่ยถาม มองเด็กน้อยที่กินด้วยความหิวอย่างเอ็นดู

“ไปดายหญ้าจ้ะ มีคนจ้างหนู” ประโยคของเด็กน้อยทำให้ลำไยของขึ้น นึกโกรธไปถึงบิดาของเด็กน้อย

“พ่อเอ็งไม่ทำงานรึไง เอาแต่ใช้เอ็ง แล้วนี่ไม่ไปโรงเรียนแล้วเหรอพลับพลึง”

“พ่อไม่ให้เรียนแล้วจ้ะ” เด็กน้อยหยุดกินเพราะเริ่มกลืนไม่ลง น้ำตาซึมด้วยความเศร้า อยากเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่บิดาไม่ให้เรียน

“ไอ้พันนี่มันยังไงกัน ลูกเต้าก็ไม่ให้เรียน บ้าบอคอแตกที่สุด” ลำไยด่ายาวเหยียดด้วยความโมโห

“หนูต้องไปทำงานแล้วนะจ๊ะป้า เดี๋ยวไปสายเขาจะจ้างคนอื่น”

“เอาขนมนี่ไปกินรองท้องนะ” ลำไยหยิบขนมกล้วยยัดใส่มือเด็กน้อย

“ขอบคุณป้ามากเลยนะจ๊ะ” พลับพลึงยกมือไหว้อย่างดีใจ ซาบซึ้งในบุญคุณของท่านเหลือล้น ลำไยมองตามร่างเล็กไปด้วยความเวทนา ท่านเองก็หาเช้ากินค่ำ ขายของได้บ้างไม่ได้บ้าง กำไรน้อยนิดอยากจะช่วยให้มากกว่านี้แต่ไม่มีปัญญาเลยช่วยเท่าที่ช่วยได้เท่านั้น

พลับพลึงคอยรับจ้างทำงานเท่าที่จะทำได้เพื่อหาเงินมาให้บิดา ผู้ใหญ่คนไหนใจดีก็จ้างเธอ แต่คนไหนเห็นว่าจะเอาเปรียบได้ก็เอาเปรียบ เด็กน้อยตัวเล็กๆ เที่ยวของานทำไปเรื่อยๆ มือน้อยๆ หยาบกร้านเพราะต้องทำงานทุกวัน แทบไม่ได้หยุดพักแม้แต่วันเดียว

เด็กน้อยแอบเดินลัดเลาะไปที่โรงเรียนด้วยเท้าเปล่าๆ มองเด็กคนอื่นๆ ที่กำลังเรียนหนังสือแล้วร้องไห้เบาๆ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงลานโล่ง เสียงสะอื้นนั้นทำให้ครูใหญ่ที่เดินสำรวจอยู่บริเวณโรงเรียนได้ยินเข้า

“อ้าว... พลับพลึงมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้ทำไม” ครูใหญ่เอ่ยถามด้วยความสงสาร เด็กในโรงเรียนนั้นมีไม่กี่คน จึงทำให้ครูใหญ่จึงจำชื่อเด็กทุกคนได้

“คือหนู...” พลับพลึงเงยหน้าขึ้นมองครูใหญ่น้ำตานอง ก่อนจะสะอื้นฮักๆ

“เป็นอะไรบอกครูมาซิ แล้วทำไมไม่มาเรียนเหมือนคนอื่นเขา” ครูใหญ่เอ่ยถามพลางลูบศีรษะไปมา พลับพลึงยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก มืออุ่นๆ นั้นทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความเมตตาปรานี

“เอาเช็ดน้ำตาซะ” ครูใหญ่สุภาพหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าส่งให้เด็กน้อย เธอรับไปซับน้ำตาที่ใบหน้าก่อนจะพูดเสียงสะอึกสะอื้น

“พ่อไม่ให้พลับพลึงเรียนหนังสืออีกแล้ว ฮึกๆ ฮือๆๆ” เด็กน้อยพูดไปร้องไห้ไป ครูใหญ่เห็นแล้วสะท้อนใจ

“เดี๋ยวครูจะไปคุยกับพ่อของเธอเอง” ครูใหญ่สุภาพมองเด็กน้อยด้วยแววตาสงสารจับใจ คิดว่าควรต้องไปคุยกันให้รู้เรื่อง

“พ่อจะตีหนูอีกไหมคะ” คนที่โดนพ่อตีบ่อยๆ เริ่มหวาดกลัว

“เดี๋ยวครูให้พูดเอง เชื่อครูสิ” ครูใหญ่ลูบศีรษะเด็กน้อยเพื่อปลอบประโลม

“จริงๆ เหรอคะ” พลับพลึงเอ่ยถาม สีหน้ามีความหวัง

“จริงสิ” น้ำเสียงปรานีเอื้อเอ็นดูของครูใหญ่ทำให้เด็กน้อยยิ้มออก

“เลิกเรียนแล้ว งั้นเดี๋ยวเราไปกันเลยนะ”

“ค่ะ” มือแสนอบอุ่นของครูใหญ่จับมือเล็กๆ พาเดินไปยังบ้านของเด็กน้อยซึ่งอยู่ห่างออกไปจากโรงเรียนหลายกิโลเมตร

ครูใหญ่สุภาพจูงมือเด็กน้อยเดินมาตามทางทุรกันดารของหมู่บ้าน พอมาถึงบ้านไม้หลังเก่าๆ โทรมๆ เขาก็เห็นว่าบิดาของเด็กน้อยกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่บนแคร่ใต้ต้นมะขาม

“นายพัน” ครูใหญ่เอ่ยเรียกเสียงหนัก พันวางจอกเหล้ามือสั่นก่อนจะยกมือขึ้นท่วมหัว เหลือบมองบุตรสาวที่ยืนหลบอยู่ทางด้านหลังของครูใหญ่ด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก คิดว่าบุตรสาวคงไปฟ้องอะไรครูใหญ่เป็นแน่ อีกฝ่ายเลยมาถึงบ้านเช่นนี้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
ทาสรักมาเฟียเถื่อน

ทาสรักมาเฟียเถื่อน

โรแมนติก

5.0

เขา...คือมาเฟียเถื่อน ผู้เย็นชา โหดเหี้ยม และไม่เคยปล่อยให้ใคร “รอด” หากข้ามเส้นของเขา เธอ...คือสาวสวยธรรมดา ที่ดันเข้าไปเห็น "บางอย่าง" ในคลับใต้ดินของเขาเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อ “ปิดปาก” เขาใช้ร่างกายของเธอเป็นข้อแลกเปลี่ยน แต่แทนที่จะลบเธอจากชีวิต... เขากลับ ขังเธอไว้ในหัวใจ แบบถอนตัวไม่ขึ้น “ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไปไหนอีกแล้ว เธอต้องอยู่...เพื่อให้ฉันรัก และปั๊มลูกทุกคืน!” จากเพียงแค่ “ทาสรักในเตียงมาเฟีย” เขากลับรักเธอ...จนกลายเป็นสามีที่คลั่งรักที่สุดในโลก ท่ามกลางแรงรัก อารมณ์ดิบ และคำว่า ‘กรรม’ ที่ผูกมัดทั้งสองไว้ เรื่องราวของเขาและเธอจะลงเอยเช่นไร... เมื่อหัวใจของคนเถื่อน ถูกผู้หญิงคนเดียวทำให้ “อ่อนโยน” ได้เพียงแค่รอยยิ้มของเธอ

แกล้งนักรักหมดใจ

แกล้งนักรักหมดใจ

โรแมนติก

5.0

เมื่อ ภูผา ทายาทนักธุรกิจพันล้าน ถูกส่งตัวมาอยู่ที่บ้านนอกกลางทุ่งนา เขาต้องใช้ชีวิตร่วมชายคากับ ดาหลา ลูกสาวกำนันจอมแก่นที่มองเขาเป็นแค่ "หนุ่มกรุงไม่เอาไหน" จากความหมั่นไส้ กลายเป็นความห่วงใย... จากแผงผักริมตลาดนัด สู่แผนเปิดโปงที่เขย่าทั้งวงการธุรกิจ เมื่อหนุ่มเจ้าสำอางต้องมาเลี้ยงน้องควายทองแท้ที่ชอบให้ขัดหลังเสียเหลือเกิน แท้จริงคือ CEO ตัวจริงเสียงจริง! ความรัก ความลับ และแผนร้ายที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มจะพาทุกหัวใจอบอุ่นไปพร้อมกลิ่นหอมของไอดิน และคำว่ารักที่งอกงามกลางทุ่งนา เพราะบางที...ควายตัวเดียว ก็พาเราพบรักแท้ได้

บอสเถื่อนหลงเมีย

บอสเถื่อนหลงเมีย

โรแมนติก

5.0

เพราะเธอช่วยชีวิตเขาไว้...โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ในนาทีที่เธอคิดว่าเป็นแค่การทำดีธรรมดา กลับกลายเป็นการสะกิดหัวใจของชายหนุ่มผู้เย็นชาที่ไม่เคยเปิดใจให้ใคร "ธามกร วัฒนเดช" บอสหนุ่มผู้เก็บงำความเจ็บปวดไว้ใต้ท่าทีเรียบนิ่ง เขาไม่เคยเชื่อในน้ำใจของใคร...จนวันที่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเขา และเธอ... "แก้วจอมขวัญ อินทราวงศ์" พนักงานบัญชีคนใหม่ ที่ไม่รู้เลยว่าแค่ ความดีเล็ก ๆ ในวันนั้น จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล จากคำขอบคุณ กลายเป็นความห่วงใย จากเจ้านายผู้เย็นชา กลายเป็นผู้ชายที่เดินเข้ามาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวทุกวินาที เขาค่อย ๆ เติมเต็มรอยร้าวในชีวิตของเธอ และเธอกลายเป็นคนเดียวที่เขาอยากปกป้องไปตลอดชีวิต "ถ้าคุณยังไม่กล้ารักผม งั้นขอให้ผมได้รักคุณก่อนนะ แก้วจอมขวัญ"

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ

จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ

ประตูฟ้ายั่งยืน
5.0

หลินเจียอีหญิงสาวในศตวรรษที่21ตกตายด้วยโรคระบาด วิญญาณของเธอได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ14 ที่มีชื่อเดียวกับเธอซึ่งสิ้นใจตายระหว่างเดินทางกลับบ้านเดิมของมารด ********* หลินเจียอีลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพบ้านที่ไม่คุ้นชิน เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาตัวจากอาการติดเชื้อโรคระบาดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุใดถึงมาโผล่ในบ้านทรงโบราณ รอบกายเธอเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวล้าสมัย ต่อมาเธอค้นพบว่าตนเองได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ 14 ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับเธอ แต่ชะตากรรมของเด็กสาวผู้นี้ช่างน่าสงสารนัก บิดาเพิ่งลาโลก แม่โดนฮุบสมบัติแล้วถูกขับไล่ออกจากตระกูล ต้องระหกระเหินพาเจ้าของร่างที่ถูกทุบตีจนสิ้นใจระหว่างทางกลับมาบ้านเดิมที่แสนยากจนข้นแค้น ****ไม่มีฉากอีโรติก เริ่มล็อกเหรียญตอนที่ 25 ก่อนเข้าไปอ่านเนื้อหานิยายอ่านคำเตือนก่อนนะคะ (สำคัญมาก) 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น หากแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ ความคิดเห็นจะถูกลบออก!! 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแต่กต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ห้ามคัดลอกดัดแปลงแก้ไขนิยายเรื่องนี้ทุกกรณี หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จิบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ