5.0
ความคิดเห็น
1.2K
ชม
13
บท

"อยากรู้ไหมว่าไฟรักอย่างผมมันรุนแรงยังไง ก็ลองหนีจากผมไปให้ได้สิ" -ไฟซัล- [นิยายรักโรมานซ์ 18+] คำโปรย ‘มนุษย์ทุกคนล้วนมีความลับ…’ “ผมขาดคุณไม่ได้” “คุณขาดฉันไม่ได้หรือเพราะฉันเป็นคนเดียวที่คุณกอดได้กันแน่คะ?”ดวงตาหวานช้อนมองอย่างซื่อตรง เธอไม่ได้ถามเพราะประชดประชัน แต่ถามเพราะอยากฟังคำตอบจากปากเขาจริงๆ “คุณคิดว่าสำหรับผม ‘เซ็กส์’ คือทุกอย่างงั้นเหรอ”ไฟซัลตัดพ้อ เขาหลุบตามองคนตัวเล็กในอ้อมกอด นับวันเขาก็ยิ่งคลั่งไลลานามากขึ้น… มากขึ้น “ถ้าอย่างนั้น… อะไรคือทุกอย่างสำหรับคุณคะ” “คุณไง… ไลลา คุณคือทุกอย่างของผม” รสจูบแสนหวานตอกย้ำความรู้สึกมหาศาลของเขา มือหนากดเธอไว้ใต้ร่าง ริมฝีปากร้อนระดมจูบแก้มนวลลากไล้ไปตามลำคอระหง รักจนอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัวขนาดนี้ยังดูไม่ออกอีกเหรอ… หรือต้องให้เขาคลั่งรักเธอยิ่งกว่านี้? ฮึ… ถ้าจะคลั่งรักมากกว่านี้ก็เหลือแค่จับเธอล่ามโซ่ไว้บนเตียงแล้วล่ะ!

บทที่ 1 [แรกพบ]

๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

[ตอนนี้นายอยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปหา]

“…”

[ไฟซัล อย่าเป็นแบบนี้ พ่อนายเป็นห่วงมากนะ ตอบฉัน นายอยู่ที่ไหน?]

ติ้ด…

น่ารำคาญ… ไม่ว่าใครก็น่ารำคาญไปหมด

อึก…

กระป๋องเบียร์ถูกยกดื่มจนหมด ก่อนโยนมันทิ้งแล้วหยิบกระป๋องสุดท้ายขึ้นมาเปิดใหม่ ร่างสูงซวนเซเล็กน้อยตามความแรงของแอลกฮอล์ในเลือด เขานั่งดื่มอยู่ตรงนี้มาเกือบชั่วโมงกว่าแล้ว ความจริงเขาอยากจะไปดื่มในผับให้หนักกว่านี้ แต่เพราะ ‘โรคบ้าๆ’ ทำให้เขาไม่สามารถไปในที่ที่ ผู้คนพลุ่กพล่านและแออัดได้ เขาจึงต้องมานั่งดื่มเงียบๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแทน

‘ไฟซัล’ หนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีทายาทนักธุรกิจพันล้านวัยยี่สิบสองปี เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ใบหน้าของผู้หญิงวัยกลางคนปรากฏเข้ามาในหัว ใบหน้าที่คล้ายคลึงกับเขาเหลือเกิน

“…แม่ฮะ” เสียงแหบแห้งเปล่งออกมาแผ่วเบา ก้อนสะอื้นจุกอยู่ในอก เขาเพิ่งสูญเสียมารดาผู้เป็นที่รักไปเมื่ออาทิตย์ก่อนด้วยโรคมะเร็ง แม่ของเขารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมาหลายปี แม้จะทุ่มเงินไม่อั้นในการรักษาสักเท่าไหร่ สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อความตายเอาไว้ได้ แม่จากเขาไปอย่างสงบในวันที่เขากำลังเข้ารับปริญญาบัตร มันเป็นเรื่องน่าเศร้าแสนสะเทือนใจสำหรับชายหนุ่มอย่างมาก

นับตั้งแต่วันที่ไฟซัลสูญเสียแม่ไป หลังจบงานศพเขาไม่ได้กลับบ้านอีกเลย ทำให้พ่อของเขาเป็นห่วงมาก รวมถึงเพื่อนสนิทของเขาด้วย

“อะไรน่ะ” ดวงตาคมแสนโศกเศร้าหยุดชะงักบนสะพานข้ามแม่น้ำ เขามองเห็นร่างเล็กๆ ของใครคนหนึ่งกำลังยืนชะโงกหน้ามองแม่น้ำอยู่บนนั้น แวบแรกที่ไฟซัลคิดคือคนคนนั้นกำลังจะฆ่าตัวตาย…

ร่างสูงลุกขึ้นยืนเดินขึ้นบันไดมาบนสะพานโดยถือกระป๋องเบียร์ติดมือมาด้วย เขาก้าวเดินอย่างเชื่องช้าเพราะตัวเองอยู่ในอาการมึนเมาพอสมควร สายตาจ้องมองร่างเล็กบางตรงปลายสายตานิ่ง

เมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอคนนั้นเป็น ‘ผู้หญิง’ เขาจึงหยุดยืนห่างจากเธอประมาณหนึ่งเมตร เพื่อเว้นระยะห่างเหมือนอย่างทุกที เขาหันหน้าเข้าหาราวสะพานก้มมองแม่น้ำเบื้องล่างตามสายตาของเธอ

“จะโดดเหรอ?” ชายหนุ่มเอ่ยถาม สายตาคมหันมองเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมของโรงเรียนนานาชาติที่ไหนสักแห่ง เธอละสายตาจากผืนน้ำกลับมาสบตากับเขานิ่ง วินาทีนั้นหัวใจแกร่งกระตุกไหวเล็กน้อย

เด็กคนนี้สวยมาก…

ไฟซัลคลี่ยิ้มบาง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขากำลังเมาหรือเปล่าถึงได้มองเด็กสาวตรงหน้าว่าสวย ทั้งที่ปกติแล้วเขาไม่เคยแยแสผู้หญิงคนไหนมาก่อน สำหรับเขาผู้หญิงก็เหมือนๆ กันหมด ทั้งเหม็น ทั้งน่ารำคาญ ไม่ควรเข้าใกล้เลยสักนิด

สายลมพัดเรือนผมสีดำของเด็กสาวพลิ้วไหว เขาจับจ้องภาพนั้นนิ่งงัน กลิ่นหอมอ่อนๆ พัดมาตามสายลมกระทบโสตประสาทการรับกลิ่นของเขา

หอม…

ดวงตาคมหลับตาลงเพื่อสูดดมกลิ่นที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน เพราะเขาเป็น ‘โรคประหลาด’ มาตั้งแต่จำความได้ ทำให้เขาไม่สามารถเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหนได้ นอกจากมารดาของเขา

วงการแพทย์เรียกโรคของไฟซัลว่า Gynophobia หรือโรคกลัวผู้หญิง โดยโรคนี้เกิดจากการหลั่งสารเคมีในสมองไม่สมดุล ทำให้เกิดความคิดวิตกกังวลที่มากเกินคนปกติ ซึ่งความวิตกกังวลเหล่านี้จะกระตุ้นให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานไวเกินปกติ ทำให้เกิดอาการแปรปรวนด้านร่างกายตามมา เช่น ใจสั่น ตื่นเต้น ประหม่า เหงื่อแตก หายใจไม่อิ่ม ชาแขนขา ควบคุมตนเองไม่ได้ แม้จะรับรู้ว่าสิ่งเร้าที่ทำให้กลัวนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีอันตราย แต่มีความรู้สึกหวาดกลัวและต้องหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่กลัวนั้นจนทำให้อาการหวาดกลัวส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งสำหรับไฟซัลค่อนข้างจะแสดงออกได้รุนแรงและแปลกประหลาดกว่าเคสปกตินั่นก็คือเมื่อเขาเข้าใกล้ผู้หญิง เขาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว แต่จะรู้สึกเหม็นและมีอาการอยากอาเจียนแทบทุกครั้ง ทางการแพทย์จึงถือว่าเคสของเขาเป็นเคส Gynophobia หายากและยังไม่มีทางรักษา

ไฟซัลเติบโตมาด้วยการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือเข้าใกล้ผู้หญิงมาตลอด หลายครั้งที่เขาหลีกเลี่ยงไม่พ้นทำให้อาเจียนออกมาเลยก็มี ซึ่งผู้หญิงคนเดียวที่เขาเข้าใกล้ได้ก็คือแม่ของเขาเท่านั้น และตอนนี้เธอได้จากเขาไปตลอดกาลแล้ว บนโลกใบนี้จึงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขาจะเข้าใกล้ได้อีก

ทว่า… เด็กสาวคนนี้กลับทำให้เขาไม่รู้สึกเหม็นหรืออยากจะอาเจียนเลยสักนิด

“คุณเมาเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถามขณะละสายตาไปจากเขา ไฟซัลค่อยๆ ขยับเข้ามายืนใกล้เด็กสาวมากขึ้นเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง ระยะห่างระหว่างทั้งสองจึงค่อยๆ ลดลงทีละนิด

“นิดหน่อย เธออยากดื่มด้วยไหมล่ะ?” เขายื่นกระป๋องเบียร์ในมือให้ เด็กสาวไม่แม้แต่จะหันมามองด้วยซ้ำ ดวงตาหวานเหม่อมองผืนน้ำเบื้องล่างราวกับว่ามันน่าสนใจนักหนา

“หนูเพิ่งสิบห้าเองนะคะ คุณไม่ควรชวนเด็กดื่มเหล้านะ มันผิดกฎหมายค่ะ”

ไฟซัลชักมือกลับมา ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมองเล็กน้อย ก่อนจะวางมันลงบนราวสะพาน เธอพูดถูก เขาคงเมามากจนเสียสติไปแล้วจริงๆ

“เธอจะกระโดดลงไปไหม?”

“…” คำถามของเขาเรียกสายตาจากร่างบางให้หันมาสนใจ เธอเลิกคิ้วน้อยๆ มองชายแปลกหน้าด้วยแววตาประหลาดใจ

“ถ้าเธอโดด ฉันก็จะโดดเป็นเพื่อน ดีไหม?” เขาสบตาเด็กสาว ริมฝีปากหนาขยับยิ้มบาง แววตาคมฉายความเศร้าออกมา ไร้แววล้อเล่น เขาคิดจะทำแบบนั้นจริงๆ

“ไม่ค่ะ หนูไม่คิดจะกระโดดหรอก คุณก็ห้ามทำแบบนั้นนะคะ” เด็กสาวปฏิเสธเสียงหนักแน่น มองเขาด้วยแววตาตักเตือน

“ทำไมล่ะ? ก็เห็นเธอมองเหมือนอยากกระโดดลงไป” น้ำเสียงของเขาค่อนข้างฟังยากพอสมควร เด็กสาวจึงขยับเข้าใกล้เขามากขึ้น ระยะห่างระหว่างทั้งคู่ลดลงเหลือเพียงศอกเดียว

น่าแปลก… ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกอยากจะอาเจียนเลยล่ะ?

ไฟซัลขมวดคิ้วก้มมองใบหน้าสวยของเด็กสาว เธอกำลังมองเขาตอบเช่นกัน ดวงตากลมโต ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้ม คิ้วเรียวสวย ช่างเป็นใบหน้าที่น่าทะนุถนอมจริงๆ

“หนูไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ทั้งเปราะบาง ทั้งอ่อนแอ หนูยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะทำ หนูจะใช้ชีวิตให้มีคุณค่าและมีความสุขมากที่สุด เพื่อให้คนบนฟ้ามองลงมาด้วยรอยยิ้มค่ะ เพราะฉะนั้นหนูจะไม่มีวันทำร้ายตัวเองเด็ดขาดค่ะ”

ภาพรอยยิ้มน้อยๆ ของเด็กสาวทำให้ชายหนุ่มคล้ายตกอยู่ในภวังค์ เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอใครสักคนที่มีพลังบวกมหาศาลขนาดนี้ เธอทำให้เขาอบอุ่นหัวใจอย่างน่าประหลาด ราวกับแสงไฟเพียงหนึ่งเดียวสาดส่องเข้ามาในความมืดมิดของจิตใจเขายามนี้

“คุณก็เหมือนกันนะคะ ชีวิตของคุณมีค่ามาก คุณพ่อคุณแม่สร้างชีวิตคุณขึ้นมาอย่างยากลำบาก อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการดื่มหนักขนาดนี้อีกนะคะ มันไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ” เด็กสาววัยสิบห้าหันมาพูดเชิงสอนเขาซึ่งอายุยี่สิบสองปี

ไฟซัลหลุบตามองกระป๋องเบียร์บนราวสะพาน ขยับยิ้มสมเพชให้กับตัวเอง “แต่มันเป็นทางออกเดียวที่จะช่วยให้ฉันลืมความเจ็บปวดนี้ไปได้”

“คุณกำลังเจ็บปวดหรือคะ?” เธอเอียงคอถาม

“ใช่… ฉันกำลังเจ็บปวดมากๆ เจ็บจนอยากจะตาย”

ชายหนุ่มเหม่อมองผืนน้ำเบื้องล่างโดยไม่รู้เลยว่าเด็กสาวข้างกายขยับเข้ามาจนชิดกับตัวเขาแล้ว เขาไม่ได้กลิ่นน่าอาเจียนจากกายเธอเลยสักนิด กลับกัน… กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเธอนั้นกลับทำให้เขารู้สึกจิตใจสงบมากขึ้น

“คุณต้องการให้กอดไหมคะ?” เธอถามเขาอีกครั้ง คราวนี้ไฟซัลหันมองเด็กสาวด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย สีหน้าของเธอใสซื่อ ไร้พิษภัย แววตาห่วงใยเต็มไปด้วยความหวังดี

“กะ กอดเหรอ? กอดแบบไหน?” เขาไม่ได้จิตอกุศลหรอกนะ แต่ตอนนี้เขาค่อนข้างเมามาก แค่ยืนยังจะยืนไม่ตรงเลยด้วยซ้ำ จะให้ตีความคำว่ากอดของเด็กสาวไปในทางที่ดีมันก็คงจะยาก

“กอดก็คือกอดไงคะ? กอดมีแบบอื่นด้วยเหรอ หนูไม่เข้าใจ” เด็กสาวเอียงคอ เลิกคิ้วน้อยๆ ทำหน้าครุ่นคิด “คุณแม่เคยสอนหนูว่า ‘อ้อมกอดรักษาความเจ็บปวดได้’ หนูเห็นคุณเจ็บปวด หนูอยากช่วยคุณค่ะ”

อ้อ… คำว่ากอดของเธอคือความหมายนี้สินะ

ไฟซัลเพิ่งจะสังเกตว่าเขายืนชิดกับเด็กสาวมาก แถมตัวเองยังไม่มีอาการตอบสนองต่อกลิ่นอย่างรุนแรงเหมือนที่ควรจะเป็น หรือเพราะว่าเขาเมามากเกินไป ไอ้โรคประหลาดนั่นเลยพังชั่วคราว?

“มาสิคะ”

เด็กสาวหันตัวเข้าหาร่างสูงกว่าพร้อมกางสองแขนออกกว้าง เชิงเรียกให้เขาเข้ามากอดเธอ ไฟซัลยืนนิ่งงันไม่กล้าขยับแม้เพียงปลายนิ้ว ตั้งแต่เกิดมานอกจากมารดาเขาไม่เคยกอดผู้หญิงคนไหนมาก่อน เพราะโรคประหลาดของเขาทำให้เขาไม่สามารถทนรับกลิ่นน่าอาเจียนจากผู้หญิงได้ เขาจึงเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงทุกคนมาโดยตลอด

ทว่าครั้งนี้… เขากลับรู้สึกอยากจะโผเข้าหาอ้อมกอดเล็กๆ นี้ ราวกับว่าเขาต้องการอ้อมกอดปลอบโยนของใครสักคนในยามที่เขากำลังเจ็บปวดเจียนตาย

หมับ

เพราะเห็นว่าร่างสูงยืนนิ่งไปนาน ร่างบางตัวเล็กจึงเป็นฝ่ายโผเข้ากอดเขาแทน เธอสวมกอดเขาหลวมๆ ซบใบหน้าลงบนแผงอกของเขา มือข้างหนึ่งตบแผ่นหลังกว้างเบาๆ อย่างปลอบประโลมเหมือนที่แม่ของเธอเคยทำเสมอในยามเธอเจ็บปวด

“ไม่เป็นไรแล้วน้า… อย่าเจ็บปวดอีกเลยนะคะ” เสียงหวานพึมพำเบาๆ ปลอบโยนเขา ไฟซัลหลับตาลง สองมือยกขึ้นโอบกอดเด็กสาวแผ่วเบา กลิ่นหอมของเธอช่วยทำให้ความรู้สึกสงบใจค่อยๆ แทรกเข้ามาแทนที่ความเจ็บปวดในหัวใจ

นี่คือ… อ้อมกอดที่เขาต้องการมากที่สุดในโลก

แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ่านผ้าม่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้องนอนมืดสลัว ร่างสูงบนเตียงพลิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว เขามองไปรอบห้องนอนตัวเอง ดวงตาคมหม่นแสงลง

ฝันเหรอ…

ไฟซัลยันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงด้วยอาการปวดหัวขั้นสุด เมื่อคืนเข้าดื่มไปเยอะมาก เขาจำเรื่องเมื่อคืนแทบไม่ได้เลย มีเพียงความทรงจำเลือนรางราวกับความฝันเท่านั้นที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา มือหนายกขึ้นขยี้ผมสีดำสนิทของตัวเองแรงๆ เตรียมจะก้าวขาลงจากเตียง แต่กลับต้องชะงักไป

นั่นมัน…

ผ้าพันคอคุ้นตาผืนหนึ่งถูกหยิบขึ้นมาจากโต๊ะหัวเตียง กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังคงติดตรึงอยู่บนผ้าผืนนั้น เขาจำกลิ่นหอมนี้ได้ดี… มันคือกลิ่นของเด็กสาวคนนั้น!

ถ้าอย่างนั้น… เรื่องเมื่อคืนก็ไม่ใช่ความฝันน่ะสิ!

“ตื่นแล้วเหรอ ปวดหัวหรือเปล่า” ประตูห้องนอนเปิดออกพร้อมร่างสูงของเพื่อนสนิทเดินเข้ามา เขารีบหันไปถามในสิ่งที่คาใจทันที

“เจ้าของผ้าผืนนี้อยู่ที่ไหน?”

“อะไรของนาย” ‘อลัน’ เพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกันเลิกคิ้วมองผ้าพันคอในมือไฟซัลอย่างฉงน เขาคือหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้เรื่องอาการป่วยของทายาทนักธุรกิจพันล้านคนนี้

“เจ้าของผ้าไง ผ้าผืนนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“มันอยู่ที่คอนายตอนฉันไปรับน่ะสิ” อลันวางเครื่องดื่มแก้แฮงค์ให้เพื่อน เขาไม่ได้ใส่ใจกับท่าทีแปลกไปของไฟซัลสักเท่าไหร่

“หมายความว่ายังไง? เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ถ้าจำไม่ผิดฉันยืนอยู่บนสะพานกับเด็กคนนั้นไม่ใช่เหรอ?”

“เด็ก?” อลันขมวดคิ้ว “อ้อ หมายถึงเด็กผู้หญิงที่รับสายคนนั้นหรือเปล่า”

“ใช่! นายเจอเธอใช่ไหม? แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?” ไฟซัลทำหน้าดีใจ เพราะเมื่อคืนเขาเมามากทำให้จำหน้าเด็กคนนั้นแทบไม่ได้ สิ่งที่พอจะจำได้มีแค่เสียงหวานๆ กับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอ และชุดนักเรียนนานาชาตินั่นเท่านั้น

“ไม่เจอ ตอนฉันโทรหานาย มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งรับสาย เธอบอกว่านายเมาหลับอยู่บนสะพานให้ฉันรีบไปรับ ตอนฉันไปถึงก็ไม่เจอเธอแล้ว เจอแต่นายนั่งหลับพิงราวสะพานโดยมีผ้าพันคอผืนนี้พันคออยู่” อลันเล่าอย่างละเอียดพลางสังเกตสีหน้าของไฟซัลไปด้วย เมื่อเห็นแววตาผิดหวังของเพื่อนก็อดถามต่อไม่ได้ “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วทำไมนายถึงไปเมาหลับบนนั้นได้ นี่นายคงไม่ได้คิดอะไรบ้าๆ หรอกใช่ไหม?”

เพราะเรื่องของมารดาทำให้ไฟซัลซึมเศร้ามานับสัปดาห์จนคนรอบตัวพากันกังวลไปหมด เมื่อรู้ว่าเขาขึ้นไปบนสะพานแบบนั้นอลันอดร้อนใจไม่ได้จริงๆ กลัวว่าเขาคิดจะทำร้ายตัวเอง

“…” ไฟซัลลุกขึ้นยืน ในมือกำผ้าพันคอแน่น เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้เขาตัดสินใจบางอย่างขึ้นมาได้

“นายจะไปไหน?” อลันมองตามร่างสูงที่เดินหยิบผ้าขนหนูเตรียมจะเข้าห้องน้ำ ไฟซัลชะงักฝีเท้าหันกลับมามองเขาด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม มันไม่ใช่แววตาว่างเปล่าเหมือนหลายวันที่ผ่านมา แต่เป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นบางอย่าง

“ไปตามหาเด็กคนนั้น”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

มาเฟียคลั่งรัก.

มาเฟียคลั่งรัก.

จินต์พิชา
5.0

“คุณรักฉันยอมรับมาเถอะ” “เปล่าเลย มิรันดา ผมไม่เคยรักคุณเลยสักนิด ที่ผ่านมามันก็แค่เรื่องเซ็กซ์ ให้ยืนยันอีกกี่ครั้งผมก็พูดเหมือนเดิม ผมไม่ได้รักคุณผมรักแค่เซ็กซ์ของคุณ” ************************* เพราะเสียคนรักจากการลอบทำร้ายของคู่อริเมื่อห้าปีก่อน มาร์คัสจึงไม่คิดจะรักใครอีก แต่เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งเมื่อมาเจอกับมิรันดาสาวน้อยที่เขาใช้เงินซื้อมาเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับน้องเขยของตนเอง ชายหนุ่มทั้งทั้งหลง แต่ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นอีก เขาจึงคิดจะวางมือและถอนตัวจากธุรกิจสีเทา แต่การจะลงจากหลังเสือนั้นมันยากกว่าที่คิดไว้ ในเมื่อมีคนที่จ้องจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก

ไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานแต่งงาน คู่หมั้นของฉัน ลืมฉันไปคนเดียว

ไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานแต่งงาน คู่หมั้นของฉัน ลืมฉันไปคนเดียว

Gavin
5.0

งานแต่งงานของฉันกับอีธาน รัตนภาคิน เหลืออีกแค่ไม่กี่สัปดาห์ เจ็ดปีที่ผ่านมา ฉันมั่นใจเหลือเกินว่าอนาคตของเราจะสมบูรณ์แบบ แต่แล้ว อีธานก็อ้างว่าตัวเอง “ความจำเสื่อมเฉพาะส่วน” จากอุบัติเหตุที่ศีรษะ เขาจำทุกคนได้หมดยกเว้นฉัน ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาจำได้ จนกระทั่งได้ยินวิดีโอคอลของเขา “โคตรอัจฉริยะเลยว่ะ” เขาโอ้อวดกับเพื่อน อาการความจำเสื่อมของเขาเป็นแค่เรื่องโกหก เป็น “ใบเบิกทาง” ให้เขาได้ไปไล่ตามโคลอี้ วรินทร์ทิพย์ เน็ตไอดอลชื่อดังก่อนแต่งงาน หัวใจฉันแหลกสลาย แต่ก็แสร้งทำเป็นเชื่อต่อไป ฉันต้องทนเห็นเขาจีบโคลอี้อย่างเปิดเผย ทนดูรูปเซลฟี่เย้ยหยันของพวกเขาสองคน เขาหัวเราะเยาะความทุกข์ของฉัน และเลือกที่จะไปดูแลโคลอี้ที่แกล้งเจ็บป่วย หลังจากอุบัติเหตุที่เขาเป็นคนก่อ เขาทิ้งฉันที่บาดเจ็บไว้ข้างหลัง แล้วเลือกส่งโคลอี้ไปโรงพยาบาลก่อน เขายังพยายามจะตัดฉันออกจากความช่วยเหลือทางการเงินอีกด้วย ทำไมคู่หมั้นของฉันถึงกลายเป็นปีศาจที่เลือดเย็นและเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้ การหักหลังของเขาทำลายความทรงจำดีๆ ทุกอย่างจนหมดสิ้น ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่ที่ไปเชื่อใจคนโหดร้ายไร้หัวใจแบบนั้น ความหน้าด้านของเขาทำให้ฉันโลกหมุน แต่ฉันจะไม่ยอมเป็นเหยื่อของเขา แทนที่จะแตกสลาย แผนการอันเยียบเย็นก็ก่อตัวขึ้นในใจ ฉันจะทิ้งตัวตนเดิม แล้วกลายเป็นโอลีเวีย จันทรวงศ์ ฉันจะหายตัวไป ทิ้งเขา ทิ้งอดีต และทิ้งแหวนหมั้นของเขาไว้ข้างหลังตลอดกาล เพื่อทวงอิสรภาพของฉันกลับคืนมา

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ