5.0
ความคิดเห็น
2.6K
ชม
20
บท

One night stand เรื่องราวความฮอต ความแซบของ 'อัปสร' กับ 'ตรัย' ที่ระดับความฮอตนั้นทะลุจุดเดือดได้ไม่ยาก (ชุดรวมเรื่องรักฉบับติดเรท 1)

บทที่ 1 มั่นใจว่าตัวเองไหว

เสียงเพลงในผับดังกึกก้อง จนต้องตะโกนคุยกันคอแทบแตก ปกติฉันไม่ชอบสถานที่แบบนี้สักเท่าไหร่นักหรอก แต่วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ก็เลยนัดเพื่อนให้ออกมาปาร์ตี้แก้เซ็ง

และนี่คือการมาเที่ยวผับครั้งแรกในวัยยี่สิบเอ็ดปีของนางสาวอัปสรก็ว่าได้ เรียนอีกแค่เทอมเดียว ฉันก็จะเรียนจบปริญญาตรีแล้วด้วย พอจบไปก็ตั้งใจจะใช้วิชาความรู้ที่ได้มา ไปทำงานช่วยงานพี่ชายที่เปิดบริษัท ขายส่งสินค้าจากเมืองจีน เห็นแบบนี้กำไรปีหนึ่งเป็นล้านๆ นะบอกเลย

“เป็นอะไรของแกสร หน้ามุ่ยเป็นตูดหมึก ทะเลาะกับแมนมาเหรอ” คนที่เพื่อนฉันเอ่ยชื่อขึ้นมาก็คือแฟนของฉันเอง เราคบกันมาได้สามถึงสี่เดือนแล้ว แต่ยิ่งคบมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่ใช่ จนตัดสินใจจะบอกเลิกวันพรุ่งนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอด

“อื้อ...เบื่อว่ะ” ฉันพูดเซ็งๆ ก่อนจะหยิบแก้วที่ผสมเหล้ากับเป๊บซี่ขึ้นมาดื่ม ฉันไม่ใช่พวกคอแข็งจึงผสมเป๊บซี่มากหน่อย จนเพื่อนแซวว่าถ้าฉันจะกินแบบนี้ก็กินเป๊บซี่มันอย่างเดียวไปเลย

เหตุผลของความเบื่อ คือ ฉันถูกวศินหรือแมนตามเช้าตามเย็น ไปไหนก็ต้องรายงาน แถมเขาก็เป็นพวกขี้หึงบ้าๆ บอๆ หึงแบบไร้เหตุผล นี่ฉันยังคิดว่ามีแฟนหรือมีลูกกันแน่ ขี้หึงไม่พอ เขายังเสือกเจ้าชู้อีก

พอฉันดื่มหมด เพื่อนที่มาด้วยก็ชงให้อีกแก้ว คราวนี้เหล้ามันเข้มขึ้นกว่าเดิมจนเจน เอ้ย!…ฉันสัมผัสได้ แต่ก็ยังดื่มมันเพราะคิดว่าคงไม่เมา และในที่สุดฉันก็เมาจนได้

“สร…แกโอเคไหมอ่ะ”

“ไม่โอเคว่ะ นี่แผ่นดินไหวเหรอ ทำไมร้านมันหมุนๆ เอียงๆ” ฉันตอบดาหรือกรดาเพื่อนสนิทที่วันนี้ฉันหิ้วมาผับด้วย แถมพ่วงนีรากับอาทิตย์มาด้วย สองคนนี้เป็นแฟนกัน ชอบเที่ยว ทำให้ดื่มเหล้าเก่งยังกับดื่มน้ำเปล่า มัชในคืนนี้จึงทำหน้าที่เป็นคนชง

“แผ่นดินไหวที่ไหน แกมันเมา” คำตอบของกรดาทำเอาฉันขำตัวเอง

“เมา…เกิดมาเพิ่งจะเคยเมา เออ…ดี”

“เอ้า! แกนี่”

“เฮ้ย! ยืนดีๆ แก” ฉันยืนเซทั้งๆ ที่มั่นใจว่ายืนตรงแล้วแท้ๆ ยัยดารีบเข้ามาพยุงฉันแล้วชวนกลับ

“ฉันว่าเรากลับกันก่อนดีกว่า แกยืนจะไม่ไหวอยู่แล้ว”

“กลับๆ” ฉันไม่มีเหตุผลให้อยู่ผับต่อ นั่นเพราะมึนหัวหนักมาก พะอืดพะอมอีกต่างหาก โต๊ะฉันเรียกเช็คบิลทันที

“แกพาสรกลับเองได้ แน่นะดา”

“ได้สิ แกสองคนไปเที่ยวต่อเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันกับสร”

“อื้อ…ไว้เจอกันวันจันทร์”

“เครๆ” ฉันได้ยินทั้งสามคนคุยกันแบบนี้ ก่อนที่ฉันจะถูกยัยดาหิ้วปีกไปที่รถ อาการของฉันตอนนี้มันร่อแร่มาก สภาพดูไม่ได้แน่นอน สีหน้าของฉันมันคงกำลังซีดเป็นไก่ต้มแน่ๆ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผมจนฉันสัมผัสได้

“สร…ถึงบ้านแล้วแก”

“หืม…ถึงบ้านแล้วเหรอ” น้ำเสียงยืดๆ ยานๆ เหมือนเทปเพลงสมัยก่อนดังขึ้น ตานี่หนักอึ้งแทบจะลืมไม่ได้กันเลยทีเดียว รู้สึกว่ามันหนักๆ ชอบกล เฮ้อ...เวลาเมานี่มันควบคุมตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ

“อื้อ…กุญแจบ้านแกอยู่ไหน”

“ในกระเป๋า” ฉันยื่นกระเป๋าทั้งใบให้กรดาไปค้นหากุญแจ พอเห็นยัยดาก็เอาไปเปิดแล้วกลับมาหิ้วฉันเข้าไปข้างในพร้อมกับเอ่ยถามไปด้วย

“พี่แกอยู่บ้านไหมเนี่ย”

“ไม่อยู่ บินไปคุยงานที่เมืองจีน”

“เออ…โล่งอกไปหน่อย ขืนพี่แกมาเห็นแกสภาพนี้นะ ฉันกลัวระเบิดลง” เสียงถอนหายใจของเพื่อน ทำเอาฉันขำ นั่นเพราะพี่ชายฉันคงไม่ปลื้มแน่ๆ ที่เห็นน้องตัวเองเมามายขนาดนี้

“นี่ก็กลัว แต่พอดีพี่นิกไม่อยู่ ฉันเลยไปเมากับแกได้นี่ไง” ฉันไม่รู้ตัวสักนิดว่าพูดจาชักจะไม่รู้เรื่อง ทั้งๆ ที่มั่นใจว่าพูดชัดทุกคำ นั่นเพราะดูจากสีหน้าและประโยคที่ได้ยินจากคนตรงหน้านี่แหละ

“นั่งๆ แกนี่เมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ” กรดาวางฉันลงบนโซฟาตัวยาว ส่วนสภาพของฉันตอนนี้ไม่ต้องพูดถึง หัวเหอฟูฟ่อง หน้าจากที่แต่งไปแบบจัดเต็มตอนนี้ก็ชักจะเยิ้มๆ เรียกว่าดูไม่ได้แบบสุดๆ ใครบอกผู้หญิงเมาแล้วสวยกันฟะ ไม่เห็นจะจริงสักนิด

“ขอบใจนะแกที่มาส่ง”

“ให้ฉันพาแกขึ้นไปบนห้องไหมสร”

“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวฉันขึ้นไปเองได้” ฉันโบกมือห้าม นั่นเพราะมั่นใจว่าตัวเองไหวแน่นอน เมาแค่นี้ไม่ถึงกับทำอะไรไม่ได้หรอก

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

มหาเศรษฐี

5.0

เธอคือ....นางโจร ส่วนเขาคือนายตำรวจ...มือหนึ่ง แต่พรหมลิขิตกลับชักพาให้นางโจรอย่างเธอปล้นความรักไปจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่าง...เขา +++++ “ผมบอกไปหรือยังว่าผมรักคุณ” “ยังค่ะ” มีนาเอ่ยตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อคืนเหมือนเธอจะได้ยินเมฆาบอกรัก แต่มันก็แผ่วเบาเสียจนคิดว่าเธอคงฝันหรือไม่ก็เพ้อไปเองคนเดียว “โอเค...ผมรักคุณ” เมฆาบอกรักคนในอ้อมกอด มันคือคำว่ารักที่แสนเรียบง่ายแต่ทว่ากลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ทั้งจากคนพูดและคนที่ได้ยิน เพราะหากไม่แน่ใจว่ารักเมฆาหรือจะพูดคำนี้ออกมา “ผู้ชายเขาบอกรักกันง่ายๆ แบบนี้เหรอคะ” “ใครบอกว่าง่าย เมื่อคืนกว่าผมจะบอกรักคุณมีนด้วยภาษากายได้ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเชียวนะ” “ทะลึ่ง” มีนามองค้อนมาให้ นั่นเพราะรู้ความหมายที่เมฆาเอ่ยว่าคืออะไร “ผมพูดเรื่องจริง” “แต่ฉันเป็นโจรที่เคยยกเค้าบ้านคุณนะคะ ถูกแจ้งจับอีก แบบนี้คุณยังจะรักฉันอย่างนั้นเหรอ” “มีกฎหมายข้อไหน ห้ามไม่ให้ตำรวจรักกับโจรบ้าง” “ก็...” คนฟังแย้งไม่ออก “ผมว่าความรักมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว รักก็คือรัก” “แต่เราต่างกันเกินไป ฉันคิดว่า...” “โลกนี้ไม่มีคำว่าต่าง ต่อให้มีเราก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันก็ได้นี่ครับ ผมขอแค่โอกาส” “ฉัน...” “ผมรักคุณมีน ต่อให้จะนอนคิดนั่งคิดหรือตีลังกาคิดก็ยังรัก” เมฆาเอ่ยคำว่ารักให้คนในอ้อมกอดได้ยินและได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอีกครั้ง “แล้วถ้าฉันปฏิเสธละคะ คุณจะว่ายังไง” “ผมคงเสียใจหนักมากแน่” เมฆาเสียใจจริงๆ แต่เขาคงไม่ถอดในจากเธอด้วยเรื่องแค่นี้แน่ แต่ทว่าคำพูดหลังจากนั้นของมีนากลับทำให้คนฟังยิ้มกว้างออกมา “แต่ฉันไม่อยากเห็นคุณเสียใจ” “งั้นก็รับรักผม ได้ไหม” “เฮ้อ! ไหนๆ ฉันก็ได้คุณแล้วก็คงต้องแมนๆ รับผิดชอบ ฉันรับรักคุณก็ได้อะ คุณจะได้ไม่ร้องไห้เสียใจเพราะฉัน” มีนาพูดติดตลก นั่นเพราะไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้อึดอัด คำพูดของเธอทำให้เมฆาถึงกับหัวเราะ ก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมโปงทั้งเธอและเขา แล้วเริ่มปฏิบัติการยืนยันว่าแท้จริงแล้วใครได้ใครกันแน่ และใครต้องรับผิดชอบใคร

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

มนุษย์หมาป่า

5.0

‘เขาเป็นแวมไพร์ที่ปฏิเสธการดื่มเลือด แต่กลับไม่ปฏิเสธหากจะได้กลืนกินเธอ’ ------------ “วันนี้นายริทเป็นอะไร ดูเหม่อๆ” “นั่นนะสิ” คนงานอีกคนเห็นด้วย ก่อนจะหยุดการสนทนาใดๆ แล้วตัดดอกไม้ต่ออย่างขะมักเขม้น ส่วนคนที่พวกเขาเอ่ยถึงนั้น ตอนนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้าเช่นเดียวกัน กระทั่งได้ดอกไม้ครบตามจำนวน เชโรมจึงเดินไปยังรถที่ตอนนี้มีดอกไม้แสนสวยอยู่ท้ายกระบะเต็มไปหมด แต่จังหวะนั้น สายตาของเชโรมกลับมองไปเห็นกระต่ายสีขาวที่เขาเลี้ยงไว้หลุดออกมาจากกรง จึงเดินไปอุ้มมันขึ้น ท่าทางเขาดูอ่อนโยนเสียจนมาศิตาที่ผ่านมาเห็น คิดว่าตัวเองตาฝาด จนต้องขยี้ตาแรงๆ สามสี่ครั้ง “ผู้ชายหน้าโหดกับกระต่ายสีขาว ดูยังไงก็ไม่เห็นจะเข้ากันสักนิด สงสัยจะเลี้ยงกระต่ายไว้กินแน่ๆ” “เลี้ยงไว้ดูจ้ะ นายริทชอบกระต่ายสีขาว ตรงนู่นเป็นกรงกระต่าย มีหลายสิบตัว” คนงานสาวคนหนึ่งเอ่ยแย้งให้ผู้เป็นเจ้านาย “ชีวิตดูมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วขัดแย้งกับหน้าตาสุดๆ แวมไพร์ตนอื่นๆ มีแต่จะเลี้ยงกระต่ายไว้ดื่มเลือด นี่อะไร เลี้ยงไว้ดูเล่น โอ๊ย! พ่อมังสวิรัติ” มาศิตาบ่นคนเดียวอีกตามเคย ตามมาด้วยอีกประโยค “สอนแวมไพร์ให้ดื่มเลือด มันจะเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำปะวะเนี่ย ของมันเป็น มันอยู่ในสายเลือด จะให้เรามาสอนเขาทำไม หืม” คนข้างๆ ที่เผลอได้ยินทั้งสองประโยคนี้เข้า กลับมีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด พอจะถามมาศิตาก็เดินตัวปลิวไปเสียแล้ว “ใครเป็นแวมไพร์หว่า หรือเราจะหูฝาดไป” คนงานสาวที่เพิ่งจะเอ่ยแก้ต่างเรื่องกระต่ายให้เชโรมไปเมื่อครู่ถึงกับคิ้วขมวด พูดกับตัวเองตามมาศิตาไปอีกคน ------------------ “แต่ศิตาไม่ยอมให้พี่ริทตายเด็ดขาด เพราะศิตารักพี่ริท” เอ่ยจบก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรม จูบที่ต่างฝ่ายต่างต้องการจากกันและกันมาโดยตลอด จูบที่ฝันว่าครั้งแรกมันต้องโรแมนติกและน่าจดจำ ไม่ใช่จูบที่ได้กลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากเขาเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เลือด! ใช่…เลือด คำๆ นี้ทำให้มาศิตานึกอะไรขึ้นมาได้ เธอคือผู้พิทักษ์ เลือดของเธอแวมไพร์ที่ยืนจ้องอยู่ตรงนั้นยังต้องการ แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้เชโรมชิงดื่มเลือดของเธอเสีย ไม่แน่ว่า หากเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์จริงๆ เชโรมอาจมีพลังขึ้นมาก็เป็นได้ มาศิตาถอนจูบออก แล้วแสร้งโอบกอดเชโรม ก่อนจะกระซิบให้เขาฝังคมเขี้ยวลงไปบนลำคอเพื่อจะได้ดื่มเลือดเธอ แต่เหมือนเชโรมกลับส่ายหน้าปฏิเสธกับแผนนี้ กระทั่งมาศิตาชิงลงมือก่อน เธอกัดริมฝีปากตัวเองสุดแรงจนเลือดไหล แม้จะเจ็บแต่ก็ยอมทน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรมอีกครั้ง ทันทีที่ได้สัมผัสเลือดของผู้พิทักษ์ นั่นทำให้เลือดในกายของแวมไพร์หนุ่ม ผู้ที่ไม่เคยลิ้มรสชาติของเลือดใดๆ มาก่อน พลันพลุ่งพล่านราวกับเปลวไฟ “เจ้าทำอะไร” แดนเองก็ได้กลิ่นเลือดของมาศิตาเช่นเดียวกัน รวมทั้งจ้องมองความผิดปกติของเชโรมอย่างไม่กะพริบตา เลือดเพียงหนึ่งหยด กลับทำให้นัยน์ตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลอ่อนแปรเปลี่ยนมาเป็นสีแดงเพลิงในทันที ร่างกายที่เคยเจ็บปวดกลับค่อยๆ หาย และรู้สึกถึงพลังที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “แววตาแบบนั้น เจ้าเป็นใครกัน หรือว่า…”

เล่ห์รักฉบับ CEO

เล่ห์รักฉบับ CEO

มหาเศรษฐี

5.0

จูบแรกก็เป็นของเขา จูบครั้งที่สอง สาม สี่ ก็ยังคงเป็นของเขา แบบนี้โสภิตาจะหนีจาก CEO หนุ่มที่เธอบังเอิญผ่านไปช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างไร ++++++++++++++++ **โปรย 1 “เท่าที่ได้คุยกันฉันว่านายเชนคนนี้นิสัยก็ใช้ได้” “อึนๆ มึนๆ นี่เหรอใช้ได้” โสภิตาอยากจะบอกเหลือเกินว่าบางครั้งราเชนก็กวนตีนเธอ “อื้อ...นายเชนเขาให้ความพิเศษกับแกนะ ขนาดปลายังแกะก้างออกให้ นี่ถามจริงๆ แกไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ” “ก็...” โสภิตาอ้ำๆ อึ้งๆ เธอนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องความรัก เรียกได้ว่าชั่วโมงบินน้อยมากๆ ใครมาดีหรือมาร้ายบางครั้งก็มองไม่ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณของตัวเองซึ่งบางครั้งมันอาจผิดพลาด “หรือคิดมากเรื่องฐานะที่นายเชนมีน้อยกว่าแก” “ไม่ใช่เรื่องนั้น ถามว่าฉันรู้สึกดีกับเขาไหมก็...อื้ม บางครั้งเวลาฉันอยู่กับเขาแล้วเหมือนตัวเองเป็นง่อย จากที่ทำอะไรได้เองก็เริ่มอยากให้เขาทำให้ อยากให้เขาช่วย” นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่โสภิตารู้ตัวเองดี “ไม่แปลกหรอก เพราะผู้หญิงเราต่อให้แข็งแกร่งยังไงลึกๆ ในหัวใจก็อยากมีใครสักคนมาดูแล” “แกก็เป็นเหรอ” “เป็นสิ บางครั้งฉันยังงอแงให้บอสจับแมลงสาบเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเห็นตอนไหนฉันกระโดดกระทืบตอนนั้น” คำพูดของรติชาทำให้โสภิตาหัวเราะออกมาเพราะนึกภาพออกทันที เวลานั้นปิลันธน์คงทั้งกลัวทั้งอยากกำจัดให้คนรักส่วนรติชาก็คงหัวเราะชอบใจแน่ๆ “นึกว่าฉันเป็นอยู่คนเดียว” “แกนะเข้มแข็งมากนะหวาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย ที่ผ่านมาอาจเพราะแกยังไม่เจอใครที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้แกเลยไม่เปิดใจ แต่ถ้าตอนนี้แกเจอคนคนนั้นแล้วฉันแนะนำว่าแกควรฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้มาก ว่าอยากอยู่แบบที่ผ่านๆ มาหรืออยากจับมือกับใครสักคนไปจนวันตาย” นั่นคือคำแนะนำจากใจของรติชาเพราะเธอเคยลังเลแบบนี้มาแล้ว หากเวลานั้นตัดสินใจผิดตอนนี้เธออาจโกนหัวบวชชีที่วัดป่าที่ไหนสักแห่ง “ฉันอยากจับมือใครสักคน” ++++++++++++++++ ***โปรย 2 “ฉันเกลียดที่สุดคือคนโกหก ที่ผ่านมาฉันรู้สึกดีกับนายเพราะเข้าใจมาตลอดมานั่นคือนาย แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่ นายจะโกหกอะไรฉันอีกไหม ฉันต้องโง่ไปอีกกี่ครั้ง” น้ำเสียงของโสภิตานั้นสั่นเครือ “ผมสัญญาว่าจะไม่โกหกอะไรคุณอีกแล้ว สาบานให้ตาย...” จังหวะที่ราเชนกำลังจะสาบานให้ตัวเองตาย โสภิตาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเขาไว้เสียก่อน “ลองตายดูสิ ฉันจะลากตัวนายขึ้นมาแล้วสับๆ” ราเชนอึ้งกับประโยคที่ได้ยินก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าโสภิตาไม่ยอมให้เขาตายง่ายๆ สินะ “โอเคๆ ผมไม่ตายแล้วก็ได้ ยกโทษให้ผมเถอะนะคุณหวาน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” “นายนี่มัน ทำฉันทั้งสุขทั้งทุกข์เหมือนคนเป็นไบโพลาร์แบบนี้ได้ยังไง รับผิดชอบสติฉันมาเลย” “ถ้าผมรับผิดชอบจริงๆ คุณหวานจะตอบตกลงไหมครับ” “อื้อ” “จริงๆ นะ” ราเชนถามย้ำ ส่วนคนที่ตามความเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ทันก็ไม่ได้เอะใจอะไรแม้แต่น้อยเช่นกัน “จะรับผิดชอบอะไรว่ามา” “แต่งงานกันไหม”

รักร้อนซ่อนใจรัก

รักร้อนซ่อนใจรัก

โรแมนติก

5.0

เขาคือพระเอกดาวค้างฟ้า เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งแรงเสมอ ในขณะที่เธอก็เป็นแค่เอ็กตร้าในกองถ่าย ที่เอ๋อๆ เด๋อๆ เพราะไม่ได้เป็นแฟนคลับของเขาเธอจึงไม่ได้แสดงออกว่าปลื้ม แต่ยิ่งเธอเฉยเขายิ่งสนใจ กระทั่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน จูบแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นก็เพราะงาน แต่หัวใจของเธอกลับถูกริมฝีปากนุ่มและแสนร้ายกาจของพระเอกกระชากจนหลุดลอยและมันมักจะลอยไปหาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ของขวัญวันเกิดปีนี้ของเธอก็ยังเป็นจูบจากเขา จูบที่ทำให้ใจสาวหวั่นไหวและยากจะต้านทาน หัวใจเธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ทางเดียวที่จะรับมือคือพุ่งเข้าชนแล้วเอาหัวใจเป็นเดิมพัน

หัวใจแพ้ทางรัก

หัวใจแพ้ทางรัก

โรแมนติก

5.0

ถึงอาดิน เรารู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้วนะคะ เป็นสิบปีที่มิลค์มีความสุขมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่มิลค์จะหยุดรักอาดินได้เลย นอกจากจะหยุดรักไม่ได้แล้ว ยังรักมากขึ้นๆ ทุกๆ วัน สิบปีมานี้มิลค์ได้บอกรักอาดินไปหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งที่บอกไปมิลค์มีความสุขมากค่ะ ถึงแม้อาดินจะไม่ตอบรับมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่มิลค์ก็ยังพยายามต่อ เพราะหวังว่าสักวันอาดินจะหันมามองเห็นความรักที่มิลค์มีให้และรับมันไป แต่ว่า...มันคงไม่มีวันนั้นแล้วจริงๆ มิลค์ขอโทษนะคะที่เอาแต่ใจ ที่ตามกวนใจอาดิน หลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันสักพัก มิลค์ขอให้อาดินเจอคนที่ใช่ คนที่อาดินรัก ส่วนมิลค์จะขอเฝ้ามองอาดินอยู่ห่างๆ แทน ลาก่อนค่ะ มิลค์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

test
3.5

เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"

การกลับมาอย่างมีชัย

การกลับมาอย่างมีชัย

Leroi Glenister
5.0

ลูหว่านแต่งงานอย่างลับๆ มาสามปีแล้วและไม่เคยเห็นหน้าสามีมาก่อนเลย แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รับในที่สุดกลับเป็นข้อตกลงารกย่าและข่าวที่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อตามจีบสาวรักในใจของเขา ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาและตัดสินใจหย่าร้าง หลังจากนั้น ลู่หว่านก็มุ่งหน้าที่พัฒนาในตัว โดยมีตัวตนหลายตัวตน เป็นหมอเทวดา สายลับระดับสูง แฮ็กเกอร์ชั้นนำ นักออกแบบชื่อดัง นักแข่งรถ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หลังจากเปิดเผยตัวตนมากมายของลู่หว่าน อดีตสามีของเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ชายคนนั้นร้องขอว่า "หว่านหว่าน ให้โอกาสผมอีกครั้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของผมเป็นของคุณ และชีวิตของผมก็มอบให้คุณด้วย"

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

โซ่ผูกรัก

โซ่ผูกรัก

ดอกอ้อลู่ลม
5.0

"ไปเอาเด็กออกซะ" "ธีร์" ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขา "ได้ยินไหม ไปเอาเด็กออกซะ" "เราทำไมได้ลูกไม่ผิดเราทำร้ายแกไม่ได้" "แต่ฉันไม่ต้องการเด็กและก้ไม่ต้องการเธอแล้วด้วย" " ธีร์อย่าบังคับให้เราทำแบบนี้เราขอร้องเด็กในท้องแกคือลูกของเรานะ แกอยู่ในนี้" ฉันพยายามเอามือของเขามาจับที่หน้าท้องของฉันเผื่อเขาจะสัมผัสได้ถึงลูกแต่เขากลับสะบัดมือออกอย่างไม่ใยดี "ฉันบอกว่าไงว่าฉันไม่ต้องการเด็กและตอนนี้ฉันก็ไม่ต้องการเธอด้วย ไปเอาเด็กออกซะจากนั้นเธอกับฉันเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกสี่ปีที่ผ่านมาฉันจะชดเชยเป็นเงินให้" เขาพูดพร้อมกับหยิบเงินในกระเป๋าทั้งหมดที่มีแล้วโยนใส่หน้าฉัน "ไม่เราไม่ต้องการเงินเราแค่ต้องการธีร์ต้องการลูก ขอร้องล่ะอย่าใจร้ายกับเรากับลูกเลยนะเราขอร้อง ฮึก ฮึก" ฉันร้องไห้พร้อมกับก้มลงกราบแทบเท้าเขาเพื่อขอร้อความเห็นใจ "เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ธีร์ ฮึก ฮึก ฮืออออ แต่ถ้าธีร์จะบังคับให้เราทำร้ายลูกเราขอตายพร้อมกับลูกเลยดีกว่า" ฉัพยายามหาคำพูดเพื่อให้เขาเห็นใจแต่ดูเหมือนเขาจะไม่เห็นใจเลยสักนิดทำไมเขาใจร้ายได้ขนาดนี้ "นั่นมันเรื่องของเธอจะอยู่หรือจะตายก็เรื่องของเธอ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
One night stand!!
1

บทที่ 1 มั่นใจว่าตัวเองไหว

14/05/2022

2

บทที่ 2 สารภาพรัก

14/05/2022

3

บทที่ 3 น่ารักหรือเปล่า

14/05/2022

4

บทที่ 4 One night stand แสนระทึก!!! 1

14/05/2022

5

บทที่ 5 One night stand แสนระทึก!!! 2

14/05/2022

6

บทที่ 6 One night stand แสนระทึก!!! 3

14/05/2022

7

บทที่ 7 พูดถึงแฟน

14/05/2022

8

บทที่ 8 หนีใจตัวเอง 1

14/05/2022

9

บทที่ 9 หนีใจตัวเอง 2

14/05/2022

10

บทที่ 10 หนีใจตัวเอง 3

14/05/2022

11

บทที่ 11 อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

14/05/2022

12

บทที่ 12 สุขมากจนแทบจะบินได้

14/05/2022

13

บทที่ 13 รักดอกจึงหลอกปล้ำ 1

14/05/2022

14

บทที่ 14 รักดอกจึงหลอกปล้ำ 2

14/05/2022

15

บทที่ 15 รักดอกจึงหลอกปล้ำ 3

14/05/2022

16

บทที่ 16 รักดอกจึงหลอกปล้ำ 4

14/05/2022

17

บทที่ 17 เสียพลังงาน

14/05/2022

18

บทที่ 18 ยังไม่ทันไรก็เผด็จการซะแล้ว

14/05/2022

19

บทที่ 19 ต้องหาเวลาพิสูจน์

14/05/2022

20

บทที่ 20 ลมหายใจสุดท้าย (จบ)

14/05/2022