Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
266
ชม
14
บท

ได้ชื่อว่าเป็นยักษ์พาลนั้นก็เพราะนางเมขลาได้ก่อเรื่องไว้ ครั้นมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ความเข้าใจผิดนั้นก็เสมือนตราบาปที่ประทับลงมายังวงศาคณายักษ์ตระกูลรามสูร ทำเอา ‘รามสุระ’ ยักษ์หนุ่มครึ่งเทวา ถูกกลั่นแกล้งอยู่ร่ำไป หากแต่การถูกรังแกนั้นเป็นเพราะเขาเป็นอสูรเทพบุตรผู้มีเรือนกายน่ารักน่าชังหาใช่เพราะเป็นลูกหลานรามสูร ความน่าเอ็นดูเป็นที่เลื่องลือไปทั้งแดนสวรรค์ แม้แต่เทวดาจอมเจ้าชู้อย่าง ‘กรฤต’ ยังอดไม่ได้ที่จะยลโฉมหน้า เมื่อมีเหตุให้ต้องปะมือกับยักษ์ผู้เป็นพี่ของรามสุระเพราะอีกฝ่ายได้รับคำสั่งจากพระอิศวรให้ไปตามดวงแก้วมณีที่เทวดาหนุ่มลักขโมยไปกลับคืน กรฤตก็สบโอกาสใช้เล่ห์กลล่อลวงรามสุระให้มายังวิมานที่ตั้งอยู่ยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ถึงจะเป็นอสุรา แต่ผุดผ่องไร้เดียงสาเช่นนั้นหรือจะสู้ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเทวดาหนุ่มได้ เพียงเจ็ดทิวา เจ็ดราตรีที่ต้องตกเป็นของอีกฝ่าย รามสุระก็ตระหนักได้ว่าไม่ว่าเพลาจะผันผ่านไปเพียงใด เมขลากับรามสูรก็มิอาจปรองดองกันได้เลย “เรียกข้าว่าพี่สิเจ้ายักษ์น้อย ข้าจะได้เอ็นดูเจ้าให้มาก” “เงียบปากของเจ้าไปเสีย ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาดวงแก้วมณียัดปาก แล้วใช้ขวานเพชรสับเจ้าให้เป็นชิ้นๆ!”

บทที่ 1 รามสุระ

แต่กาลก่อน มีตำนานกล่าวขานไว้ว่า ณ วิมานชั้นฟ้าอันเป็นที่สถิตของเหล่าทิพยาดาและนางอัปสร คราถึงเทศกาลวสันตฤดูมาเยือน เหล่าเทวดาและนางอัปสรเล่นนักขัตฤกษ์จับระบำกัน

นางเมขลา นางสวรรค์ผู้ซึ่งสถิตอยู่ยังวิมานรัตนะ มีหน้าที่คอยพิทักษ์รักษาสมุทรไท และครอบครองดวงแก้ววิเศษดวงหนึ่งซึ่งพระนารายณ์ได้ประทานให้ ทำให้นางมีอิทธิฤทธิ์ เหาะเหินไปแห่งหนใน นางเมขลาจึงนำดวงแก้วติดตัวไปด้วยเสมอ เมื่อต้องออกจากวิมานไปร่วมงานนักขัตฤกษ์ เจ้ายักษานามรามสูรอันเป็นอสูรเทพบุตรได้พบพานเข้า และเกิดต้องตาความแวววาวของดวงแก้ว พลันเหาะติดตามเข้าไปไล่จับ หมายจะช่วงชิงดวงแก้วนั้นมาเป็นของตน

นางเมขลาจำได้ดีว่ายักษาคืออสุราชั้นเลวที่เที่ยวเกะกะระรานไปทั่วทั้งแดนสวรรค์และบาดาล จึงยั่วโทสะอีกฝ่ายให้เดือดดาล เจ้ายักษ์รามสูรขว้างขวานเพชรในมือหมายจะทำลายนางอัปสรให้สูญสิ้น ทว่า...ความแวววาวของดวงแก้วทำให้ยักษ์รามสูรขว้างพลาด ครั้นเกิดโทสะก็บันดาลใส่พระอรชุนที่เหาะผ่านมาพอดี จึงเกิดเป็นการสู้รบสะเทือนเลือนลั่นทั้งสรวงสวรรค์

ยักษ์รามสูรสังหารพระอรชุนด้วยการจับขาฟาดกับเขาพระสุเมรุจนเขาเอียงทรุด ร้อนถึงเหล่าเทพยดา รวมทั้งฤาษีชีไพร แลครุฑ นาค คนธรรพ์ ที่ต้องมาทำพิธีชะลอเขาพระสุเมรุให้กลับตั้งตรง ขณะที่พระอินทร์ทำหน้าที่เป่าสังข์ให้อาณัติสัญญาณ

และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เจ้ายักษ์รามสูรก็กลายเป็นที่เกลียดชังของทุกดินแดน ทุกชีวิตตราหน้าว่าเป็นจอมอสูรไร้ศีล ต้องปลีกวิเวกหลบหนีไปเก็บซ่อนตัว โดยหารู้ไม่ว่าความจริงแล้ว ตำนานที่เล่าขานมานั้น... เป็นเรื่องราวที่ถูกบิดเบือนจนกลายเป็นความเชื่อตราบจนกาลปัจจุบัน

๏ อสุราเห็นแก้วแววไว

ซึ่งนางเมขลาโยนเล่น ยิ่งเห็นยิ่งชอบอัชฌาสัย

ยิ่งพิศยิ่งติดต้องใจ จะใคร่ได้ดวงจินดา

หมายเขม้นเข่นเขี้ยวจะราญรอน กรกุมขวานเพชรเงื้อง่า

เผ่นโผนโจนไปในเมฆา ไล่นางเมขลาด้วยฤทธีฯ

..................................

๏ เมื่อนั้น นวลนางเมขลามารศรี

เลี้ยวล่อรามสูรอสุรี กรโยนมณีจินดา

ท่าทีประหนึ่งจะให้แก้ว กลอกแสงพราวแพรวบนหัตถา

ครั้นรามสูรไล่เลี้ยวมา กัลยารำล่ออสุรี

นางแกล้วเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน เวียนไปตามจักราศี

มือหนึ่งชูแก้วมณี ทำทีเยาะเย้ยอสุราฯ

..................................

สิ่งนั้นคือโบราณกาลกล่าวขาน เมื่อเวลาผันผ่าน เรื่องจริงก็กลายเป็นตำนาน รามสูรยักษากลายเป็นผู้กระทำผิดก่อกวนชั้นสวรรค์บรรณภพจนวุ่นวาย โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วการวิวาทกันจนกลายเป็นศัตรูระหว่างรามสูรและเมขลานั้น เกิดมาจากการที่นางเมขลาเบื่อหน่ายในหน้าที่ เมื่อพระอิศวรบรรทมหลับ นางเมขลาก็ขโมยเอาแก้วมณีซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ สามารถดลบันดาลให้พรที่ขอเป็นไปตามประสงค์ออกมา ตั้งจิตภาวนาขอให้แก้วมณีบังเนตรเทวาทั้งปวงไม่ให้เห็นนาง ขอให้แคล้วคลาดจากเทพาอาวุธทั้งหลาย อีกทั้งยังดื่มกินและอาบน้ำอมฤตเพื่อให้ฤทธากล้าแข็งยิ่งขึ้น เมื่อได้ของมาไว้ในมือก็หนีออกจากวิมานพระอิศวร เหาะดั้นเมฆาไปเที่ยวเล่นอย่างสำราญใจ

เมื่อพระอิศวรตื่นบรรทมและพบว่านางเมขลาหายตัวไปพร้อมกับแก้วมณี ก็ออกคำสั่งให้เทวาทุกสารทิศออกตามหา ทว่า...กลับไร้ซึ่งผู้ใดตามนางกลับมาได้ เทพสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่จึงทรงประกาศให้รางวัล หากใครเอาแก้วมณีมาถวายคืน จะยกนางเมขลาให้เป็นเมีย

ครั้นบัญชานี้แพร่งพรายออกไปทั่วสารทิศ ราหูยักษาจึงไปชักชวนสหายรักมีนามว่ารามสูร ดวงหน้าพริ้มเพราของนางเมขลาอันเป็นที่เลื่องลือทั่วแผ่นดินฟ้าว่างามงด ทำให้รามสูรโอ้อวดตนว่าจะตามจับนางมาให้ได้ในสามราตรี เพราะเหตุนั้น นางเมขลาจึงถูกรามสูรไล่ล่าไม่เลิกรา กระนั้นก็มิอาจจับนางได้ อีกทั้งยังถูกนางยั่วเย้าโทสะให้หัวเสีย พานให้ต้องขว้างขวานเพชรอันเป็นอาวุธประจำกายใส่ด้วยโทสะบันดาล นางเมขลาก็ล่อหลอกด้วยแสงวิบวับของแก้วมณีให้เป็นที่สนุกสนาน

หาว่ายักษ์นั้นพาล แต่แท้จริงแล้ว นางอัปสรผู้นั้นต่างหากที่เล่นเย้าไม่ได้ความอันใด แต่ผู้ผิดกลับกลายเป็นรามสูรที่ถูก่นด่าสาปแช่งชั่วลูกชั่วหลาน เหตุการณ์นั้นก็ผ่านพ้นมาสี่ชั่วลูกหลานแล้ว ทว่าวงศาคณายักษ์ลูกหลานของรามสูรก็คงยังถูกก่นด่าไม่เลิก ทำเอายักษ์หนุ่มหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย

ดวงหน้างดงามได้รูปนั้นยับยู่เมื่อเทพาหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวรบังเอิญเห็นเขาที่มาหาพี่ชายซึ่งเป็นยักษ์เฝ้าวิมานพระอิศวรล้อเลียนว่าเป็นลูกหลานยักษ์พาล หากแต่ ‘รามสุระ’ ก็หาได้ตอบโต้อันใด นอกจากมองตาขวางด้วยร้อนระอุอยู่ในอกเท่านั้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หนูแดง หนูแดงตัวน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
รับผมเป็นพ่อของลูกนะครับ[Mpreg]

รับผมเป็นพ่อของลูกนะครับ[Mpreg]

นิยายวาย

5.0

เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!

อาคิรา ครุฑใต้ตะวัน

อาคิรา ครุฑใต้ตะวัน

โรแมนติก

5.0

เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!

แม่หยาดฟ้าของไอ้หมาดิน

แม่หยาดฟ้าของไอ้หมาดิน

โรแมนติก

5.0

“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ

ลักรัก

ลักรัก

นิยายวาย

5.0

เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!

นักพรตเจ้าสำราญ

นักพรตเจ้าสำราญ

นิยายวาย

5.0

แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!

ระบำทะเลทราย

ระบำทะเลทราย

นิยายวาย

5.0

หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...

หนังสือที่คุณอาจชอบ

วิวาห์ฟ้าแลบ

วิวาห์ฟ้าแลบ

โรแมนติก

5.0

[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...

แรงเสน่หาของอดีตภรรยา

แรงเสน่หาของอดีตภรรยา

โรแมนติก

4.8

นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง

นางบำเรออุ้มรัก

นางบำเรออุ้มรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ณัฐรวีเป็นได้เพียงนางบำเรอไร้ราคา เปรียบดังผืนหญ้าให้เมฆาย่ำยียิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย ทุกการกระทำของเขาอัดแน่นไปด้วยความแค้นที่แฝงความรักไม่รู้ตัว ในวันที่หล่อนจากไป หล่อนไปแต่ตัวและลูกน้อยในครรภ์ ............ แควก...แควก “กรี๊ด! อย่าค่ะ อย่าทำรวีแบบนี้...ฮือ” เสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้น ตามด้วยเสียงกรีดร้อง อ้อนวอนของณัฐรวี ทว่าคนกระทำหาได้ฟังเสียงหล่อน เขายังคงออกแรงฉีกเสื้อผ้าจนขาดติดมือมาอีกหลายครั้ง ทั้งเนื้อทั้งตัวหล่อนเหลือเพียงชุดชั้นในท่อนบนและท่อนล่าง “รวีกลัวแล้ว ต่อไปรวีจะไม่ใส่ชุดนี้อีก...ฮือ...พี่เมฆอย่าทำอะไรรวีเลยนะคะ” กระแสเสียงสั่นเครือ เจ้าของประโยคคำพูดน้ำตาไหลอาบแก้ม ยกมือไหว้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้าด้วยท่าทางหวาดกลัว “เธอไม่มีสิทธิ์ใส่ชุดนี้ ชุดนี้ฉันซื้อให้แก้วตา ไม่ได้ซื้อให้เธอใส่” เสียงเขาเดือดดาล ก่อนกระชากแขนเรียวเล็กสุดแรง ร่างณัฐรวีลอยขึ้นตามแรงฉุด “อย่าเอาตัวเธอไปเทียบกับแก้วตา เธอมันก็แค่เศษดินเศษหญ้าที่รองมือรองเท้าฉัน เป็นได้แค่นางบำเรอ แต่แก้วตาคือว่าที่เมียฉัน จำใส่หัวไว้” พูดจบ ณัฐรวีรับรู้ถึงแรงเหวี่ยง เสี้ยววินาทีต่อมา ร่างงามกระทบกับที่นอนเต็มแรง หล่อนเจ็บไปทั้งตัว แต่นี่มันเป็นแค่ความเจ็บปวดเริ่มต้น ความปวดร้าวระบมร่างกายและจิตใจกำลังตามมาชุดใหญ่ เป็นความเจ็บปวดที่ไม่เคยชาชินสักครั้ง

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ประวัติศาสตร์

4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ