Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
243
ชม
14
บท

ได้ชื่อว่าเป็นยักษ์พาลนั้นก็เพราะนางเมขลาได้ก่อเรื่องไว้ ครั้นมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ความเข้าใจผิดนั้นก็เสมือนตราบาปที่ประทับลงมายังวงศาคณายักษ์ตระกูลรามสูร ทำเอา ‘รามสุระ’ ยักษ์หนุ่มครึ่งเทวา ถูกกลั่นแกล้งอยู่ร่ำไป หากแต่การถูกรังแกนั้นเป็นเพราะเขาเป็นอสูรเทพบุตรผู้มีเรือนกายน่ารักน่าชังหาใช่เพราะเป็นลูกหลานรามสูร ความน่าเอ็นดูเป็นที่เลื่องลือไปทั้งแดนสวรรค์ แม้แต่เทวดาจอมเจ้าชู้อย่าง ‘กรฤต’ ยังอดไม่ได้ที่จะยลโฉมหน้า เมื่อมีเหตุให้ต้องปะมือกับยักษ์ผู้เป็นพี่ของรามสุระเพราะอีกฝ่ายได้รับคำสั่งจากพระอิศวรให้ไปตามดวงแก้วมณีที่เทวดาหนุ่มลักขโมยไปกลับคืน กรฤตก็สบโอกาสใช้เล่ห์กลล่อลวงรามสุระให้มายังวิมานที่ตั้งอยู่ยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ถึงจะเป็นอสุรา แต่ผุดผ่องไร้เดียงสาเช่นนั้นหรือจะสู้ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเทวดาหนุ่มได้ เพียงเจ็ดทิวา เจ็ดราตรีที่ต้องตกเป็นของอีกฝ่าย รามสุระก็ตระหนักได้ว่าไม่ว่าเพลาจะผันผ่านไปเพียงใด เมขลากับรามสูรก็มิอาจปรองดองกันได้เลย “เรียกข้าว่าพี่สิเจ้ายักษ์น้อย ข้าจะได้เอ็นดูเจ้าให้มาก” “เงียบปากของเจ้าไปเสีย ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาดวงแก้วมณียัดปาก แล้วใช้ขวานเพชรสับเจ้าให้เป็นชิ้นๆ!”

บทที่ 1 รามสุระ

แต่กาลก่อน มีตำนานกล่าวขานไว้ว่า ณ วิมานชั้นฟ้าอันเป็นที่สถิตของเหล่าทิพยาดาและนางอัปสร คราถึงเทศกาลวสันตฤดูมาเยือน เหล่าเทวดาและนางอัปสรเล่นนักขัตฤกษ์จับระบำกัน

นางเมขลา นางสวรรค์ผู้ซึ่งสถิตอยู่ยังวิมานรัตนะ มีหน้าที่คอยพิทักษ์รักษาสมุทรไท และครอบครองดวงแก้ววิเศษดวงหนึ่งซึ่งพระนารายณ์ได้ประทานให้ ทำให้นางมีอิทธิฤทธิ์ เหาะเหินไปแห่งหนใน นางเมขลาจึงนำดวงแก้วติดตัวไปด้วยเสมอ เมื่อต้องออกจากวิมานไปร่วมงานนักขัตฤกษ์ เจ้ายักษานามรามสูรอันเป็นอสูรเทพบุตรได้พบพานเข้า และเกิดต้องตาความแวววาวของดวงแก้ว พลันเหาะติดตามเข้าไปไล่จับ หมายจะช่วงชิงดวงแก้วนั้นมาเป็นของตน

นางเมขลาจำได้ดีว่ายักษาคืออสุราชั้นเลวที่เที่ยวเกะกะระรานไปทั่วทั้งแดนสวรรค์และบาดาล จึงยั่วโทสะอีกฝ่ายให้เดือดดาล เจ้ายักษ์รามสูรขว้างขวานเพชรในมือหมายจะทำลายนางอัปสรให้สูญสิ้น ทว่า...ความแวววาวของดวงแก้วทำให้ยักษ์รามสูรขว้างพลาด ครั้นเกิดโทสะก็บันดาลใส่พระอรชุนที่เหาะผ่านมาพอดี จึงเกิดเป็นการสู้รบสะเทือนเลือนลั่นทั้งสรวงสวรรค์

ยักษ์รามสูรสังหารพระอรชุนด้วยการจับขาฟาดกับเขาพระสุเมรุจนเขาเอียงทรุด ร้อนถึงเหล่าเทพยดา รวมทั้งฤาษีชีไพร แลครุฑ นาค คนธรรพ์ ที่ต้องมาทำพิธีชะลอเขาพระสุเมรุให้กลับตั้งตรง ขณะที่พระอินทร์ทำหน้าที่เป่าสังข์ให้อาณัติสัญญาณ

และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เจ้ายักษ์รามสูรก็กลายเป็นที่เกลียดชังของทุกดินแดน ทุกชีวิตตราหน้าว่าเป็นจอมอสูรไร้ศีล ต้องปลีกวิเวกหลบหนีไปเก็บซ่อนตัว โดยหารู้ไม่ว่าความจริงแล้ว ตำนานที่เล่าขานมานั้น... เป็นเรื่องราวที่ถูกบิดเบือนจนกลายเป็นความเชื่อตราบจนกาลปัจจุบัน

๏ อสุราเห็นแก้วแววไว

ซึ่งนางเมขลาโยนเล่น ยิ่งเห็นยิ่งชอบอัชฌาสัย

ยิ่งพิศยิ่งติดต้องใจ จะใคร่ได้ดวงจินดา

หมายเขม้นเข่นเขี้ยวจะราญรอน กรกุมขวานเพชรเงื้อง่า

เผ่นโผนโจนไปในเมฆา ไล่นางเมขลาด้วยฤทธีฯ

..................................

๏ เมื่อนั้น นวลนางเมขลามารศรี

เลี้ยวล่อรามสูรอสุรี กรโยนมณีจินดา

ท่าทีประหนึ่งจะให้แก้ว กลอกแสงพราวแพรวบนหัตถา

ครั้นรามสูรไล่เลี้ยวมา กัลยารำล่ออสุรี

นางแกล้วเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน เวียนไปตามจักราศี

มือหนึ่งชูแก้วมณี ทำทีเยาะเย้ยอสุราฯ

..................................

สิ่งนั้นคือโบราณกาลกล่าวขาน เมื่อเวลาผันผ่าน เรื่องจริงก็กลายเป็นตำนาน รามสูรยักษากลายเป็นผู้กระทำผิดก่อกวนชั้นสวรรค์บรรณภพจนวุ่นวาย โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วการวิวาทกันจนกลายเป็นศัตรูระหว่างรามสูรและเมขลานั้น เกิดมาจากการที่นางเมขลาเบื่อหน่ายในหน้าที่ เมื่อพระอิศวรบรรทมหลับ นางเมขลาก็ขโมยเอาแก้วมณีซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ สามารถดลบันดาลให้พรที่ขอเป็นไปตามประสงค์ออกมา ตั้งจิตภาวนาขอให้แก้วมณีบังเนตรเทวาทั้งปวงไม่ให้เห็นนาง ขอให้แคล้วคลาดจากเทพาอาวุธทั้งหลาย อีกทั้งยังดื่มกินและอาบน้ำอมฤตเพื่อให้ฤทธากล้าแข็งยิ่งขึ้น เมื่อได้ของมาไว้ในมือก็หนีออกจากวิมานพระอิศวร เหาะดั้นเมฆาไปเที่ยวเล่นอย่างสำราญใจ

เมื่อพระอิศวรตื่นบรรทมและพบว่านางเมขลาหายตัวไปพร้อมกับแก้วมณี ก็ออกคำสั่งให้เทวาทุกสารทิศออกตามหา ทว่า...กลับไร้ซึ่งผู้ใดตามนางกลับมาได้ เทพสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่จึงทรงประกาศให้รางวัล หากใครเอาแก้วมณีมาถวายคืน จะยกนางเมขลาให้เป็นเมีย

ครั้นบัญชานี้แพร่งพรายออกไปทั่วสารทิศ ราหูยักษาจึงไปชักชวนสหายรักมีนามว่ารามสูร ดวงหน้าพริ้มเพราของนางเมขลาอันเป็นที่เลื่องลือทั่วแผ่นดินฟ้าว่างามงด ทำให้รามสูรโอ้อวดตนว่าจะตามจับนางมาให้ได้ในสามราตรี เพราะเหตุนั้น นางเมขลาจึงถูกรามสูรไล่ล่าไม่เลิกรา กระนั้นก็มิอาจจับนางได้ อีกทั้งยังถูกนางยั่วเย้าโทสะให้หัวเสีย พานให้ต้องขว้างขวานเพชรอันเป็นอาวุธประจำกายใส่ด้วยโทสะบันดาล นางเมขลาก็ล่อหลอกด้วยแสงวิบวับของแก้วมณีให้เป็นที่สนุกสนาน

หาว่ายักษ์นั้นพาล แต่แท้จริงแล้ว นางอัปสรผู้นั้นต่างหากที่เล่นเย้าไม่ได้ความอันใด แต่ผู้ผิดกลับกลายเป็นรามสูรที่ถูก่นด่าสาปแช่งชั่วลูกชั่วหลาน เหตุการณ์นั้นก็ผ่านพ้นมาสี่ชั่วลูกหลานแล้ว ทว่าวงศาคณายักษ์ลูกหลานของรามสูรก็คงยังถูกก่นด่าไม่เลิก ทำเอายักษ์หนุ่มหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย

ดวงหน้างดงามได้รูปนั้นยับยู่เมื่อเทพาหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวรบังเอิญเห็นเขาที่มาหาพี่ชายซึ่งเป็นยักษ์เฝ้าวิมานพระอิศวรล้อเลียนว่าเป็นลูกหลานยักษ์พาล หากแต่ ‘รามสุระ’ ก็หาได้ตอบโต้อันใด นอกจากมองตาขวางด้วยร้อนระอุอยู่ในอกเท่านั้น

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ หนูแดง หนูแดงตัวน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ