‘นิ่ม’ สาวแรกรุ่นวัย 18 รับหน้าที่ดูแลนาบัวของครอบครัว จับพลัดจับผลูเจอขโมยสุดหล่อ แต่ ‘คุณเสก’ ไม่ได้มาเล่นๆ เขาเอาจริง เอาจัง และเอาดุสุดๆ จากสาวน้อยไม่เคยมือชาย ได้เห็นบทรักจังๆ กลางป่า นิ่มจะเร่าร้อนรุมเร้าร่อนร่านได้มากแค่ไหน หล่อนจะหนีพ้นไหม ในเมื่อใจก็อยากเหลือทน
นาบัวหลวงกว้างไกลสุดสายตาคือสถานที่ที่ทำให้ ‘นิ่ม’ มีความสุขที่สุด ดวงตาของเด็กสาววัย 18 ปี สุกใสยิ่งนัก ยามเห็นดอกบัวชูช่อเต็มท้องทุ่ง ดอกเล็ก ดอกใหญ่ ดอกตูม และดอกบาน ต่างแกว่งไกวตามแรงลมปะทะ
นิ่มหลับตาพริ้มสูดดมความหอมของกลิ่นเกสรบัวคละคลุ้ง ก่อนจะเปิดขึ้นมองแหล่งรายได้ที่ดีของครอบครัว รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นที่ใบหน้าอิ่มเอมตามวัยสาว
ร่างอวบอิ่มเกินวัย ก้าวไปตามสะพานไม้ที่พ่อต่อยาวจากตลิ่งไปไกลร่วม 10 เมตร ไว้สำหรับผูกเรือให้หล่อนพายเก็บดอกไม้และฝักบัวได้อย่างสะดวก
พ่อบอกว่าเพราะพี่นาง ครอบครัวของเราถึงได้ลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งหล่อนก็เห็นตามนั้น นิ่มก้าวเดินไป ใจก็คิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้นาบัวแห่งนี้กลายมาเป็นสมบัติของครอบครัว
ปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้วที่พี่นางย้ายไปอยู่กับพ่อกำนันอัฐ
แรกเริ่มหล่อนไม่เห็นด้วยเลยที่พ่อพาพี่นางไป ‘ขัดดอก’ ทั้งที่พี่นางไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด วันนั้นหล่อนแอบได้ยินแม่ทุ่มเถียงกับพ่อเรื่องการส่งลูกสาวไปขัดดอก
แม่ร้องไห้ปานจะขาดใจ แต่พ่อก็ไม่ยอม พ่อบอกว่าไม่มีเงินจะไปจ่ายดอกให้พ่อกำนัน ข้าวปีนั้นก็ไม่ได้ผลเพราะน้ำแล้งมาก หากไม่ทำอะไรเลย มีหวังหนี้สินคงพอกพูน และถึงวันนั้นหากพ่อกำนันจะยึดเอาที่นาทั้งหมดไปก็ย่อมได้ ลำพังมีที่ดินทำกิน ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ก็คงดีกว่าไม่ได้สิทธิ์ในที่ดิน แล้วต้องไปเช่าที่คนอื่นเขาทำกิน
หล่อนได้ยินดังนั้น ก็อยากจะเสนอเป็นคนไปขัดดอกเสียเอง เพราะแค่ไปทำงานบ้านให้พ่อกำนัน หล่อนไม่กลัวอยู่แล้ว เพราะหล่อนก็แข็งแรงกว่าพี่นาง ให้พี่นางอยู่บ้านดูแลพ่อแม่ดูแลน้องจะดีเสียกว่า แต่นั่นเป็นความคิดก่อนที่แม่จะโพล่งคำร้าวรานออกมา
คำที่ทำให้หล่อนตัวสั่นงันงก ไม่กล้าเผยอหน้าออกไปให้พ่อแม่เห็นว่าหล่อนแอบฟังอยู่ และไม่กล้าแม้แต่จะกระซิบบอกให้พี่นางระวังตัว เพราะคำพูดของแม่คือ
‘พี่ใจร้าย! ใจพี่ทำด้วยอะไร ถึงได้กล้าส่งลูกไปบำเรอกามพ่อกำนัน พี่ไม่คิดถึงจิตใจลูกมันเลย พี่ใจร้าย!’
แม่สะอื้นปานจะขาดใจตาย พ่อยืนกำมือแน่น น้ำตาไหลพรากไม่ต่างกัน ส่วนหล่อนนั้นแทบไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ แม้หล่อนจะเพิ่งอายุ 16 ปี แต่ความแก่นแก้วก็ทำให้รู้ความหมายสิ่งนั้น ‘ขัดดอก-บำเรอกาม’ ให้กับผู้ชายแก่คราวปู่คราวตา พี่นางต้องไปทำสิ่งนั้นให้กับครอบครัว มีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้นที่ปลอบโยนหล่อนในเวลานั้น
ในวันรุ่งขึ้นพี่นางตื่นเช้าหุงหาอาหารไว้ให้พ่อแม่และน้องเหมือนเคย แววตาของพี่นางเศร้าที่จะต้องจากพ่อแม่ไป แม่ยังคงร้องไห้ขอให้พ่อเปลี่ยนใจ หล่อนอยากบอกพี่นางให้รู้ว่าจะต้องไปเจอกับอะไรบ้าง แต่หล่อนก็ไม่กล้า หล่อนกลัวไปหมดทุกอย่าง และก็กลัวว่าความตั้งใจแรกจะเป็นจริง นั่นคือ พ่อแม่ส่งหล่อนไปแทนพี่นาง
ยามสายที่พ่อพาพี่นางออกจากบ้านไป หล่อนซุกตัวนิ่งอยู่ในบ้าน หวาดกลัวทุกสิ่งที่คิด จนยามบ่ายที่พ่อกลับมาจากบ้านพ่อกำนันแต่ไม่มีพี่นางกลับมาด้วย นั่นหล่อนก็ยิ่งหวาดผวา ตื่นกลัว ร้องไห้ตัวสั่น หล่อนกลัวไปสารพัดว่าพี่นางจะเป็นยังไงบ้าง กลัวพี่นางจะทุกข์ และกลัวที่สุดคือพี่นางจะเป็นอันตราย
ทว่าแค่ช่วงเย็นคนของพ่อกำนันก็เอาข้าวปลาอาหารมากมายมาให้ที่บ้าน บอกว่าพี่นางให้เอามาให้ ทั้งอาหารทะเลดีๆ ที่ตั้งแต่เกิดมาพวกหล่อนไม่เคยได้กิน รวมทั้งผลไม้มากมายที่เคยร้องขอให้แม่ซื้อให้กินตอนเด็ก แต่ตอนนั้นหล่อนจำไม่ได้ว่าแม่บอกปัดว่าอย่างไร รู้แต่ว่าพอโตมา หล่อนไม่เคยร้องขอให้แม่ซื้อให้กินอีกเลย เพราะรู้ว่าราคาของมันหมายถึงข้าวกรอกหม้อได้มากกว่า 10 วัน แต่พี่นางกลับฝากผลไม้เมืองนอกมากมายมาให้
และหลังจากวันนั้น ทุกวันที่บ้านหล่อนก็จะมีแต่ข้าวปลาอาหารดีๆ ที่พี่นางฝากมาให้ทุกวัน ทั้งน้ามุกแม่บ้านของกำนันอัฐและเป็นเพื่อนของแม่ก็มักจะหอบเสื้อผ้าดีๆ มาให้พ่อแม่ หล่อน และน้องๆ ไม่ได้ขาด โดยน้ามุกบอกว่าทั้งหมดนี่พี่นางฝากมาให้
แม้หล่อนจะไม่ได้เจอพี่นางเลย แต่สีหน้าท่าทางของพ่อแม่ที่ผ่อนคลายลง รวมทั้งความเป็นอยู่ของที่บ้านที่ดีขึ้นมากมาย หล่อนและน้องๆ ได้เงินไปกินขนมที่โรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ ได้มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่ ได้กินของดีๆ ก็ทำให้รู้ว่าพี่นางอยู่ดีมีสุขแค่ไหน และครั้งแรกที่พี่นางกลับมาบ้าน พี่นางเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
พี่นางสวยและสาวสะพรั่ง ใส่เสื้อผ้าดีๆ สะอาดสะอ้าน บ่งบอกว่าพี่นางปราศจากความทุกข์ แต่พี่นางก็ยังเป็นพี่นางคนเดิมของหล่อน ยังรักหล่อนและน้องๆ ไม่เสื่อมคลาย พี่นางย้ำนักหนาให้หล่อนตั้งใจเรียนเพื่อเป็นเสาหลักให้พ่อแม่ให้ได้ จากนั้นอีกไม่กี่เดือน พ่อกำนันก็ให้ช่างมาสร้างบ้านให้ใหม่ คืนที่นาให้พ่อ และให้ที่ดินแปลงนี้มาเปล่าๆ
หล่อนได้ฟังตอนที่พี่นางมาบ้าน พี่นางบอกพ่อกับแม่ว่าพ่อกำนันให้พี่นางเลือกที่ดินในละแวกบ้าน แปลงไหนก็ได้ พ่อกำนันจะโอนให้เป็นชื่อของพี่นาง เพื่อเป็นการตอบแทนที่พี่นางดูแลพ่อกำนันเป็นอย่างดี
หนังสืออื่นๆ ของ ชนิตร์นันท์
ข้อมูลเพิ่มเติม