icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
รอยรักที่แสนเลือนราง

รอยรักที่แสนเลือนราง

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
2.7K
ชม
45
บท

เบญจมินทร์และวสุกัญญา ทั้งคู่เคยรักกัน จดทะเบียนสมรสด้วยกันแบบเงียบ ๆ แต่แล้วในวันที่เบญจมินทร์ตกต่ำ ล้มละลาย วสุกัญญากลับบอกให้เขาหย่าขาดจากเธอ หลังหย่าขากจากวสุกัญญา เบญจมินทร์ได้พบกับอดีตภรรยาของเขาอีกครั้งที่โรงพยาบาล เธออยู่ในชุดคลุมท้อง แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กที่อยู่ในท้องของเธอนั้นต้องเป็นลูกของเขาอย่างแน่นอน เนื้อหาจากบางช่วงบางตอน “พี่เบญคะ” ชื่อที่หลุดออกมาจากปากของหญิงสาวคนนั้น ทำเอาวสุกัญญาใจหาย หัวใจของเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะ พร้อมคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าโลกคงไม่กลมและแคบถึงขนาดนั้นหรอก โชคชะตาจะไม่เล่นตลกกับเธอใช่ไหม แต่แล้วก็พบว่าทุกอย่างกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออยู่ ชายร่างสูงใหญ่ท่วงท่าอากัปกิริยาคุ้นเคยที่ถูกเรียกว่า ‘พี่เบญ’ กำลังตรงมาทางนี้ เขาคงเป็น ‘พี่เบญ’ ของหญิงสาวคนสวยคนนั้น แต่นั่นก็ไม่น่าหวั่นใจมากเท่ากับเขาคือ ‘เบญจมินทร์’ ผู้ซึ่งเป็นอดีตสามีของเธอ และเธอกับเขาก็เพิ่งเซ็นใบหย่า ปลดปล่อยอิสรภาพให้กันและกันไป เมื่อห้าเดือนก่อนนี้เอง

บทที่ 1 บทนำ

วสุกัญญารับยาบำรุงครรภ์จากเภสัชกรแล้วค่อยแวะเข้าห้องน้ำก่อนกลับบ้าน อายุครรภ์ของเธอมากขึ้นก็เริ่มต้องเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น หลังจากทำธุระเรียบร้อย ออกมาที่ด้านนอกเพื่อล้างมือเธอพบว่ามีคนยืนล้างมืออยู่ก่อนหน้า ทางนั้นมองเธอผ่านเงาสะท้อนของกระจกก่อนทักทายด้วยท่าทีเป็นมิตรทั้งยังชวนคุยอีกด้วย

“กี่เดือนแล้วคะ” เสียงถามสดใสทีเดียว เธอยิ้ม ตามองลงที่หน้าท้องนูนก่อนตอบกลับไป “หกเดือนแล้วค่ะ” ค่อยขยับไปอีกอ่างแล้วยื่นมือล้างที่ตรงนั้น

“ว้าว ใกล้จะคลอดแล้วสินะคะ คุณแม่ยังสวยอยู่เลยไม่รู้ว่าถึงคราวฉันบ้างจะสวยแบบนี้ไหมนะคะ” หญิงคนนั้นยังคงชวนสนทนาต่อ ถามว่าลูกในท้องของเธอเป็นหญิงหรือชาย เธอไม่ได้คุยอะไรมากนัก ถามคำถามมาเธอก็ตอบออกไปเท่านั้น แค่ยืนล้างมือนั่นหญิงคนนั้นก็คุยกับเธอได้หลายคำถามแล้ว วสุกัญญาไม่ได้ร่ำลาใคร เธอมักถูกเรียกว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีมิตรไมตรีเท่าไรนักเพียงเพราะพูดน้อยและไม่ค่อยยิ้มให้ใครง่าย ๆ ทันทีที่เดินออกจากห้องน้ำ ก็พบว่าหญิงสาวคนที่พยายามชวนเธอคุยเดินตามหลังออกมาด้วย หล่อนเรียกหาคนที่ยืนรอด้านนอกด้วยเสียงที่ดังอยู่พอประมาณ

“พี่เบญคะ”

ชื่อที่หลุดออกจากปากของหล่อนทำเอาวสุกัญญาใจหาย หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ พร้อมคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าโลกคงไม่กลมและแคบถึงขนาดนั้นหรอก โชคชะตาจะไม่เล่นตลกกับเธอใช่ไหม

แต่แล้วก็พบว่าทุกอย่างกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออยู่

ชายร่างสูงใหญ่ท่วงท่าอากัปกิริยาคุ้นเคยที่ถูกเรียกว่า ‘พี่เบญ’ กำลังตรงมาทางนี้แล้ว

เขาคงเป็น ‘พี่เบญ’ ของหญิงสาวคนสวยคนนั้น แต่นั่นก็ไม่น่าหวั่นใจมากเท่ากับเขาคือ ‘เบญจมินทร์’ ผู้ซึ่งเป็นอดีตสามีของเธอ และเธอกับเขาก็เพิ่งเซ็นใบหย่าปลดปล่อยอิสรภาพให้กันและกันไปเมื่อห้าเดือนก่อนนี้เอง

เบญจมินทร์ไม่ได้ชะลอฝีเท้าของเขาลง

ชายหนุ่มเดินตรงมาทางนี้ และสายตาคมของเขาก็ไม่ได้จับจ้องไปยังคนที่เรียกหาเขาด้วยซ้ำ เพราะเอาแต่มองมาที่เธอ

สายตาของเขากวาดมองที่ชุดของเธอ มองหน้าท้องนูนดันชุดออกมาเพราะมีเจ้าตัวน้อยกำลังโตขึ้นทุกวันอยู่ในท้องของเธอนิ่ง ๆ ปากหนักของเขาเปิดออกช้า ๆ กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วหญิงสาวหน้าตาสวยสดใส ท่าทางร่าเริงก็ตรงเข้าไปคล้องแขนของเบญจมินทร์พร้อมแหงนหน้าบอกด้วยรอยยิ้มสดใส

“เราไปกันเถอะค่ะ พี่หมอรอแล้วป่านนี้ รอบนี้ฝากไข่กับน้ำเชื้อเลยนะคะ ถ้าหลังจากนี้เรายังไม่ติดลูกอีกก็คงต้องให้พี่หมอช่วยเราแล้วล่ะค่ะ”

บทสนทนาของทางนั้นเสียดแทงหัวใจของวสุกัญญาไม่น้อย

วสุกัญญาไม่ได้อยู่รอฟังว่าสองคนนั้นคุยอะไร วางแผนอะไรกันอีก เธอเดินโอบครรภ์ของเธอเอง หันกลับไปยังประตูทางออกของโรงพยาบาล

ภาพตรงหน้าเธอเลือนรางแบบเดียวกับความทรงจำที่เคยมีต่อเขา หลังหย่าขาดจากกัน เธอรู้ว่าเขาเข้าพิธีสมรสต่อจากนั้นในทันที

และเธอก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงในชีวิตของเขา เธออยากเห็นเขาก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตั้งแต่เบญจมินทร์คบหากับเธอเขาก็ถูกตัดขาดทุกทางจากครอบครัวของเขา ลูกชายที่เคยอยู่แบบสุขสบายต้องมาลำบาก เท่านั้นไม่พอยังถูกตัดแข้งตัดขาจนธุรกิจที่เขากับเธอช่วยกันก่อตั้งขึ้นมาเสียหายไปหลายรอบแล้ว

เธออยากให้เขาประสบความสำเร็จ เขาไม่จำเป็นต้องมีเธอก็ได้ เธอยอมปล่อยให้เขาไปพบกับความเจริญก้าวหน้า ไปตามทางที่เขาฝันและปรารถนา ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ตามหาเธอ และไม่ติดใจเรื่องที่เธอตั้งครรภ์นี่หรอก

หลังหย่าขาดจากกัน วสุกัญญาย้ายมาอยู่ยังอีกซีกของเมือง เธอได้อยู่บ้านเช่าเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่มากพอให้สุนัขได้วิ่งเล่น และเตรียมรอเจ้าตัวน้อยในครรภ์ที่กำลังลืมตาดูโลกในไม่ช้านี้ วันนี้ นาทีนี้แล้วเธอไม่ค่อยได้คิดถึงตัวเองเท่าไรนัก

โรงพยาบาลที่เลือกฝากครรภ์ก็กัดฟันยอมจ่ายเพื่อให้ได้แพทย์ดี ๆ แต่ก็ไม่วายมาเจอกับเขาที่นี่อีกครั้ง หรือรอบหน้าเธอจะย้ายโรงพยาบาลดีนะ

ครุ่นคิดพร้อมกับเตรียมตัวลงจากรถที่มาส่งยังหน้าบ้านเช่า เธอชำระค่าโดยสารแล้วค่อยเปิดประตูลงไป

ดันรั้วออกแล้วล็อกมันลงอย่างเดิม เดินตรงเข้าบ้าน นั่งพักไม่ทันหายเหนื่อยดีเลย ออดที่ด้านหน้าก็ร้องดังขึ้น วสุกัญญาลุกขึ้นยืนมองจากด้านใน เห็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยยืนตากแดดตรงนั้นก็นึกอยากให้เขาอยู่ตรงนั้นไปเลยนาน ๆ แต่ก็อดเห็นใจเขาไม่ได้ ใจของเธอไม่แข็งพอ

ขยับหลบพร้อมกับคิดไปว่า แล้วนี่เขารู้แล้วอย่างนั้นหรือว่าเธอพักที่บ้านเช่าหลังนี้

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเบา ๆ ไม่อยากออกไปพบหน้าเขา เมื่อครู่นี้เบญจมินทร์คงไม่ทันสังเกตเรื่องท้องของเธอหรอก คิดอย่างต้องการให้กำลังใจตัวเอง มองที่ท้องนูนนิ่งอีกอึดใจ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเสียงออดดังขึ้นอีกครั้ง รอบนี้ตามมาด้วยเสียงเรียกของเขา

“กัญญาเปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

เธอไม่อยากยั่วอารมณ์ของเขาเลย คนอื่นอาจมองว่าเขานิ่ง แต่หากเขาโมโหขึ้นมาแล้วอะไรก็ฉุดคนอย่างเบญจมินทร์ไม่อยู่ เธอเคยเห็นเขาทะเลาะอย่างรุนแรงกับทนายของสถาบันการเงินที่เข้ามาเจรจากับเขาเรื่องหนี้สินของบริษัทที่เขาก่อตั้งด้วยตัวเอง แล้วทางนั้นทำยึกยักเรื่องเอกสารทางการเงิน จนเขาสติแตก ฉุนขาดตวาดไล่ออกจากบริษัททันที

แล้วก็มีอีกครั้งตอนที่เธอขอหย่าจากเขา วันนั้นเบญจมินทร์ที่ถามเธอถึงเหตุผล เสียงของดุดันมีที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน

แล้วทุกอย่างก็มีแต่แย่ลง จนเธอมองดูเขาล้มเหลวไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว หนทางไหนที่ช่วยเขาได้ เธออยากช่วยเขาทุกทาง

ถอนใจออกมายาว ๆ ครุ่นคิดอีกครู่ใหญ่แล้วค่อยเดินออกประตูตรงไปยืนคุยกับเขาที่รั้วของบ้าน

“มีอะไรหรือคะ”

“มีอะไรอย่างนั้นหรือ” เบญจมินทร์ถามกลับเสียงหยัน สายตาคมที่แปรเปลี่ยนไปตามอารมณ์เวลาอยู่กับเธอสองคนมองลงที่ท้องนูนก่อนพูดขึ้นว่า “ยังจะถามพี่อีกว่า ‘มีอะไรหรือคะ’ ก็หนูท้อง”

วสุกัญญารู้สึกแปลบในใจที่เขาเรียกเธอด้วยคำนี้ ‘หนู’ คำเรียกที่แสดงความเป็นเจ้าของของเขากับเธอ แต่ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้วและเขาไม่ควรใช้คำแบบนี้กับเธออีก

เขาและเธอสิ้นสุดพันธะทางกฎหมายต่อกันแล้ว

และเขาก็แต่งงานใหม่แล้ว

วสุกัญญาก้มลงมองที่หน้าท้องนูน ๆ ของตัวเอง ไม่รู้จะบอกว่าไม่ท้องได้ไหม ก็หลักฐานเด่นชัดออกขนาดนี้ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา “ใช่ค่ะ”

“กับพี่?” เขาถามต่อแทบทันทีโดยที่เธอยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ วสุกัญญาถอนหายใจก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน

“อย่าเดินหนีพี่แบบนี้ เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”

เบญจมินทร์ไม่ง้อเรื่องประตูรั้วอีกแล้ว เขาปีนรั้วบ้านเข้ามาก่อนจะเดินไปดักที่ตรงหน้าของเธอ “แล้วไหนว่าจะไปแต่งงานกับไอ้รุ่นพี่ที่ว่าเป็นหมอนั่นไง ไม่แต่งด้วยกันแล้วหรือ ไหนว่าคบกันตั้งแต่เรายังไม่หย่า พี่ก็เปิดทางให้หนูแล้ว แล้วทำไม นี่โกหกพี่ใช่ไหม เรื่องที่คบกับหมอเวรห่าเหวอะไรนั่น ก็ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม”

เธอเบือนหน้าหลบไปมองทางอื่น ไม่เก่งพอที่จะพูดจาโกหกเขา แล้วบ่ายเบี่ยงบอกไปว่า “เรื่องของกัญญากับพี่หมอคงยังไม่ทำอะไรหรอกค่ะ ตอนนี้กัญญาต้องดูแลลูกในท้องไปก่อนจนกว่าจะคลอด”

“โกหก โกหกทุกอย่างนั่นเลยใช่ไหม หนูหลอกพี่ทำไม”

“คุณมีเรื่องอยากคุยเท่านี้ใช่ไหม”

“พี่ไม่ยอมอีกแล้ว ลูกของพี่ พี่จะดูแลเอง”

“แต่คุณหย่าขาดจากฉันแล้ว และก็แต่งงานใหม่ไปแล้ว กรุณาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีเถอะค่ะ เราต่างคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง ปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาเป็นความทรงจำระหว่างเราไปเถอะ อย่ามาฟื้นฝอยหาตะเข็บอะไรอีกเลย”

เบญจมินทร์มองเธอด้วยสายตาไม่เข้าใจ ตัดพ้อสับสนและสิ้นหวัง

เขาจะโง่แค่ครั้งนี้ ครั้งเดียว เขาจะไม่ยอมให้วสุกัญญามาหลอกเขาได้อีกแล้ว

“พี่ต้องการสิทธิ์ของพ่อ”

“ฉันให้ลูกรู้จักคุณในฐานะของคุณลุงได้นะ”

เบญจมินทร์มองเธอด้วยสายตาขุ่นเคืองไม่พอใจแต่แล้วเขาก็ทำอะไรไม่ได้สูดลมหายใจเข้าปอดตัวเองลึก ๆ แล้วยื่นข้อเสนอที่คิดว่าตัวเองได้เปรียบมากที่สุด

“อย่างนั้นพี่ก็จะให้ทนายเข้ามาคุย เรื่องลูก เรื่องของเราอีกที”

“ก่อนจะให้ทนายเข้ามาคุย คุณน่าจะบอกภรรยาของคุณก่อนนะคะ ว่าแต่คุณกล้าบอกเธอหรือว่าคุณมีภรรยามาก่อนหน้านี้แล้วน่ะค่ะ” วสุกัญญาไม่อยากพูดยั่วเขาแบบนี้เลย แต่หากเธอไม่แข็งใส่ ไม่ใช้ยาแรง ๆ กับคนแบบเบญจมินทร์ก็จะไม่ได้ผล เธอจะไล่เขาไปไหนไม่พ้น เธอรู้ว่าเขาแต่งงานกับหญิงสาวท่าทางสดใสคนนั้นแล้วหลังจากเซ็นใบหย่าให้เธอเพียงเดือนเดียว

และทั้งหมดนั่นก็ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์กับเขาทั้งสิ้น

เธออยากมีส่วนช่วยกอบกู้ฐานะของเขา อยากมีส่วนช่วยฟื้นฟูธุรกิจของเขา รวมไปถึงความช่วยเหลืออีกสารพัดที่พ่อและแม่ของเขาช่วยกันหยิบยื่นให้ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องถูกขัดแข้งขัดขา หรือปิดกั้นหนทางการดำเนินธุรกิจอีก

แต่พอนึกถึงสิ่งที่เขาคุยกับเพื่อน ๆ ญาติ ๆ ของเขาในวันนั้นก็ยิ่งน้อยใจที่เธอช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย ซ้ำยังเป็นตัวถ่วงในชีวิตของเขาอีกด้วย

“ทุกอย่างที่ทุกคนทำ เขาหวังดีกับคุณทั้งนั้น” ...รวมถึงฉันด้วย

วสุกัญญาบอกด้วยเสียงแผ่วเบาลง จบประโยคก็เม้มปากไว้ให้แน่น ละประโยคหลังเอาไว้ไม่เอ่ยออกไปให้เขารู้

ในเมื่อเธอตัดสินใจแบบนี้แล้ว ก็อย่าได้แสดงท่าทางหรือพูดจารั้งเขาเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยพันธะผูกพันหรือเรื่องของลูกที่กำลังจะลืมตามองโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ก็ตาม

เบญจมินทร์แต่งงานใหม่ไปแล้ว ภรรยาของเขาก็จะมีลูกให้เขาได้เช่นกัน เพียงแต่ตอนนี้ความรู้สึกผิดชอบกำลังรบกวนจิตใจของเขาเท่านั้น

“แล้วถ้าคุณยังพยายามเรียกร้องให้ตัวเองเป็นพ่อของลูกในท้องฉันอีก คุณจะไม่ได้เจอลูกรวมถึงฉันอีกเลยตลอดชีวิต” เธอเน้นคำหลังพร้อมแข็งใจมองตาเขานิ่งไม่เผยความเจ็บปวดให้เขาจับได้เป็นอันขาด

เบญจมินทร์ใช้สายตาของเขามองค้นหาคำตอบจากแววตาของเธอ ก่อนที่สายตาเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาในนาทีต่อมา

วสุกัญญากล้ำกลืนก้อนแข็ง ๆ ที่จุกขึ้นมาอยู่ตรงคอแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วบ้านออก ไล่เขาให้ออกไปจากบ้านเช่าของเธอด้วยมือที่สั่นราวกับจับไข้ ความทรงจำดี ๆ ระหว่างเธอกับเขาทั้งหมดที่มีจงช่วยอยู่เป็นแรงใจ เป็นแรงขับเคลื่อนให้เธอต่อสู้บนโลกนี้ต่อไปให้ได้ด้วยเถอะ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ