Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สมรสเมียแสนชัง

สมรสเมียแสนชัง

B.J.BEN

4.9
ความคิดเห็น
82.6K
ชม
19
บท

เธอเป็นเด็กในบ้านที่เขาได้ตอนเมา แล้วอยากเผยอขึ้นมาเป็นเมียจดทะเบียนให้เขาเชิดหน้าชูตา เขารังเกียจและไม่ปรารถนา เพราะมีคนที่คู่ควรอยู่แล้ว *** ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “เธอจะนั่งอยู่ตรงนี้ให้งอกรากเลยหรือไงกัน” เขาดึงข้อมือของกังวานขึ้นมาจากพื้น ทำให้เธอร้องด้วยความเจ็บ “โอ๊ย! เจ็บนะคะคุณพัน” “ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ตรงนี้แล้ว เธอไม่ต้องแสดงให้ใครเห็นแล้วก็ได้ว่าเธอเสียใจแค่ไหน” “คุณพัน!” “เธอต้องดีใจสิ แม่ไม่อยู่ หนูคงร่าเริง คิดจะฮุบสมบัติของแม่ฉัน อย่าหวังเลยว่าจะทำแบบนั้นได้” “กังวานเปล่านะคะ” เขายังคิดว่าเธอจะฮุบสมบัติของเขาอีกหรือไง กังวานคิดอย่างเศร้าใจ “เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เถอะ” พันทัพพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “เตรียมใจอะไรคะ” “อีกไม่นานฉันจะหย่ากับเธอ” ประโยคของเขาเหมือนมีดกรีดลงกลางใจของเธอ รู้ว่าต้องมีวันนี้ แต่ทำไมมันช่างเร็วเหลือเกิน เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างเหนียวหนืด รู้สึกเจ็บปวดจนแทบทรงตัวไม่อยู่ ความดีของเธอไม่สามารถเอาชนะใจของเขาได้เลยอย่างนั้นหรือ “ค่ะ กังวานเข้าใจแล้ว คุณพันคงรักคุณวดีมาก” “เธอจะอยากรู้เรื่องของฉันไปทำไม เธอจะควรจะยินดีกับฉันมากกว่า ไม่ใช่ทำสีหน้าเศร้าสร้อยแบบนี้ เสียใจหรือไงที่ฉันไม่เลือกเธอ แต่จริงๆ ฉันไม่ได้เลือกเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เธอเองก็รู้อยู่เต็มอก” เขาจะตอกย้ำอะไรนักหนา คนไม่ถูกเลือก รู้สึกชอกช้ำระกำใจเป็นที่สุด **** กังวานผละหนี แต่เขาตามมาคว้าแขนของเธอเอาไว้ “จะไปไหนล่ะ เธออยากได้ฉันเป็นผัวมากไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมเวลาผัวจะนอนด้วยถึงต้องหนีแบบนี้” “ปล่อยนะคะ กังวานไม่ได้อยาก อื้อ...” เธอพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็กุมแก้มทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ บดจูบริมฝีปากน้อยอย่างดุดัน กังวานหอบสะท้านเมื่อเขาปล่อยเป็นอิสระ เธอเตรียมหนีแต่เขาอุ้มเธอขึ้นพาดบ่า การกระทำป่าเถื่อนของเขาทำให้เธอแทบจะกรีดร้องออกมา เธอดิ้นเขาก็ฟาดฝ่ามือลงบนแก้มก้นของเธอเต็มแรง “โอ๊ย! คุณพันปล่อยนะคะ” “เปลี่ยนจากปล่อยเป็นทำกันดีกว่า” เขาโยนร่างของเธอไปบนเตียงนอนกว้าง ในขณะที่เธอขยับหนีเขาก็ขึ้นคร่อมทับร่างเอาไว้ กดมือเธอไปกับพื้นเตียง จัดหนักเธอเหมือนทุกครั้งที่ได้คลุกเคล้าร่างหอมกรุ่น

บทที่ 1 1

“คุณพัน อย่านะคะ อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ”

กังวาน รัศมีกุญชร หญิงสาวแสนสวยที่เพิ่งผ่านพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยมาหมาดๆ เอ่ยทัดทานเจ้านายหนุ่มที่กำลังจะปลุกปล้ำเธอทำเมียเพราะความเมามาย

ทั้งผลักไสทั้งขอร้องไม่ให้ พันทัพ อุ่นตะวัน เจ้านายหนุ่มวัยสามสิบเศษทำอะไรเธอได้ แต่ก็เหมือนกับว่า เธอไม่สามารถที่จะขัดขืนหรือต่อต้านพละกำลังอันมากมายมหาศาลของเขาได้เลย

พันทัพทั้งเมาและไม่ได้สติ หลังจากที่จักร ลูกน้องคนสนิทและสถานะเพื่อนของเจ้านาย ประคองพันทัพเข้ามาในห้องนอนด้วยสภาพที่ทุลักทุเลเต็มที ซึ่งเธอนั้นรอคอยอยู่ที่ห้องพักของพันทัพตามคำสั่งของพิมพ์แก้ว มารดาพันทัพ และผู้มีพระคุณสูงสุดในชีวิตของเธอ

ท่านฝากฝังให้เธอคอยดูแลลูกชายของท่านที่กำลังเมามาย เธอจึงต้องทำตามอย่างไม่บิดพลิ้ว ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว เธอเองก็อยากดูแลพันทัพให้ดีเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยพันทัพดีกับเธอมาก เขาเอ็นดูเธอตั้งแต่เด็ก เคยช่วยเหลือเธอเอาไว้ตั้งหลายเรื่อง เขาจึงเป็นทั้งเจ้านายและผู้มีพระคุณของเธอ แถมยังเป็นผู้ชายที่เธอแอบรักมานานหลายปีอีกด้วย เธอจึงไม่เคยคิดที่จะมีแฟนหรือคบหาดูใจกับใคร เพราะใจของเธอนั้นได้ยกให้พันทัพไปจนหมดแล้ว

เธอสลัดเขาออกด้วยท่าทีหอบเหนื่อยอีกรอบ ก่อนจะนำผ้าขนหนูมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขา แต่คราวนี้กลับโดนเขารวบไปกดลงบนเตียงนอนกว้าง แถมมือหนายังถอดเสื้อผ้าทั้งของเขาและของเธอออกจากกายจนหมดสิ้น

ในตอนนี้ทั้งเขาและเธอเหลือเพียงเรือนร่างเปลือยเปล่าเท่านั้น เขาเข้าจู่โจมโรมรัน แนบชิดสนิทเนื้อ เรียกว่าถึงเนื้อถึงตัวของเธอเป็นที่สุด

ริมฝีปากร้อนของเขากรุ่นไปด้วยแอลกอฮอล์ดีกรีร้อนแรงจากงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเขาเอง

เขาจูบซับไปทั่วเนื้อตัวของเธอ จูบที่แสนร้อนแรงทำให้เธอมัวเมากับรสจูที่เจือไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์

เขาจูบเธอแล้ว จูบเธออีก จูบเธอเหมือนจะสูบเลือดสูบเนื้อ สูบเอาวิญญาณของเธอออกไปจากร่าง

พันทัพใช้มือนวดเฟ้นไปทั่วร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ เขาสัมผัสเล้าโลมแตะริมฝีปากร้อนผ่าวสัมผัสเธอไปทั่วทุกอณูเนื้อ

เธอพยายามดิ้นหนี แต่ก็เขารวบมือของเธอกดไปกับเตียงนอนกว้าง แล้วสอดแทรกเรือนกายเข้าไปแนบชิดตรงหว่างขาของเธอ

แก่นกายของเขากำลังเสียดสีอยู่กับร่องสวาทของเธอ ซึ่งไม่เคยมีใครได้ทำเช่นนี้มาก่อน

“อย่าค่ะ คุณพัน ปล่อยกังวานเถอะนะคะ”

กังวานทั้งผลักไสทั้งดิ้นรนแต่ไม่เป็นผล พันทัพทั้งแนบชิดทั้งรุกเร้าเข้าหา พยายามที่จะยัดเยียดตัวตนอันแข็งแกร่งที่แสนเจ็บร้าวเข้าในร่องสวาทของเธอให้จงได้

กังวานร้องออกมาด้วยความเสียวซ่านในขณะที่เขาเข้าฝังกายอย่างล้ำลึกในร่องชุ่มฉ่ำของเธอ

แก่นกายร้อนผ่าวเข้ามาเกินกว่าครึ่ง ความแข็งร้อนนั้นยิ่งกว่าท่อนไม้แข็งๆ ที่ปักเข้ามาใจกลางร่างของเธอเสียอีก

การกระทำของเขามันให้ความรู้สึกเจ็บปวดและหวามลึกในอก อีกทั้งความอึดอัดคับแน่น อารมณ์หลากหลายประดังประเดเข้ามา ทำเอาหญิงสาวหัวหมุนติ้วยิ่งกว่าลูกข่าง ไม่คิดว่าจะมาเสียตัวให้กับพันทัพในค่ำคืนนี้ แบบที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวและเขาก็มึนเมาไม่ได้สติเอาเสียเลย

“อย่านะคะ อย่าค่ะ” เธอร้องได้เพียงแค่นั้น ในขณะที่เขากดกายเข้ามาในซอกทางรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียงร้องครางของเธอดังอย่างต่อเนื่อง ประสานกับเสียงครางอันแหบพร่าที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจที่ได้ชำแรกเขาไปในร่องสาวอันแสนคับแคบของเธอ มันทำให้เขาได้ปลดปล่อย ได้อิ่มเอม ลดความทรมานที่เขากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

ร่างกายของพันทัพเกร็งสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่ได้อิ่มในการร่วมรักเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ยังเสพสมร่วมสวาทกับคนใต้ร่างอีกหลายครั้งจนสุขสมอารมณ์หมายตลอดค่ำคืน

สองหนุ่มสาวนอนกอดเกยเข้าหากันด้วยเรือนร่างเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มอย่างอ่อนแรง จนตะวันสายโด่งคุณพิมพ์แก้วซึ่งเป็นมารดาของพันทัพก็เข้ามาในห้องของบุตรชาย

“พันทัพ พันทัพ ตื่นเดี๋ยวนี้!” ท่านเอ่ยเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงดุเข้ม สีหน้านั้นดูจริงจังและตึงเครียดไม่น้อย

“พันทัพตื่นได้แล้ว” เสียงนั้นปลุกให้คนทั้งสองตื่นขึ้นจากภวังค์อันแสนสุข

พันทัพงัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิด เขาทั้งเพลียทั้งล้าไปหมด อยากนอนพักผ่อนต่ออีกนิด แต่เมื่อลืมตาตื่นก็เห็นมารดายืนใบหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างเตียง ทำเอาเขาถึงกับสะดุ้งสุดตัว

“คุณแม่มีอะไรครับ ทำไมถึงทำหน้าบึ้งแบบนั้น”

พันทัพใช้มือเสยผมไปมาลวกๆ รู้สึกมึนหัวจนต้องหลับตา กุมศีรษะเอาไว้ด้วยความงุนงงกับสภาพของตัวเองยิ่งนัก

“ยังจะมาถามแม่อีก เราทำอะไรเอาไว้ ฮึ! ลองดูสิ” คุณพิมพ์แก้วทำเสียงดุใส่บุตรชาย

“ทำอะไรเหรอครับคุณแม่” พันทัพเอ่ยถามด้วยความสงสัย เขาเหลียวมองไปรอบกายก่อนจะเห็นว่ามีหญิงสาวนางหนึ่งนั่งตัวสั่นอยู่ข้างๆ

เมื่อครู่ตอนเขาตื่น เขาคิดว่าตัวเองกอดหมอนข้างเสียอีก แต่มันกลับไม่ใช่ เขามัวแต่เบลอ เลยไม่รู้ว่ามีคนนั่งอยู่ข้างๆ แถมยังเป็นเด็กในบ้านอีก

พันทัพถึงกับสะดุ้งตกใจ ไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหน มานอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับเขา แม้แต่แฟนที่คบหาดูใจกันอยู่อย่างกนกวดี ก็ไม่เคยที่จะได้ขึ้นมานอนร่วมเรียงเคียงหมอนกับเขาบนห้องนอนใหญ่ในคฤหาสน์หลังนี้

แต่ผู้หญิงที่ได้ขึ้นมานอนบนเตียงของเขากลับเป็นกังวาน เด็กในบ้านที่ทำหน้าที่คอยรับใช้มารดาของเขา

เธอนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงของเขา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมื่อคืนเขากับเธอไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว

สิ่งที่ได้รับรู้ มันทำให้พันทัพหงุดหงิดเป็นอันมาก ยิ่งกลิ่นกามารมณ์ และหยาดความรักกรุ่นไปทั่วเตียงกว้าง ก็ทำให้รู้ว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เขากับเธอเร่าร้อนกันเพียงใด ไม่น่าเชื่อว่าเธอกับเขาจะตกเป็นของกันและกันแล้ว คนที่เพิ่งได้สติ เริ่มลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดที่พอจะจำได้หน้าตึง ขรึมเครียดขึ้นมาในทันที

กังวานถือว่าเป็นเด็กในบ้านที่มารดารักและเอ็นดูประดุจดั่งลูกหลานคนหนึ่ง เขาทำแบบนี้ลงไป ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าไม่ยอมรับก็คงโดนบีบบังคับเป็นแน่

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับคุณแม่” กระนั้นเขาก็ยังเอ่ยประโยคคำถามสิ้นคิดนั้นออกไป เพราะมึนงงเหลือเกินกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น รับรู้ว่าเธอกับเขาตกเป็นของกันและกันแล้ว แต่มันเกิดขึ้นได้ยังไง นั่นคือประเด็น

พันทัพมีสีหน้าตกใจอยู่ไม่น้อย เขามองกังวานด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยคำถามและการกล่าวหา ประหนึ่งว่าเธอฉวยโอกาสตอนที่เขาเมา ขึ้นมานอนบนเตียงของเขาจนมีอะไรกัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

Amye Hochschild
5.0

ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ