เกิดใหม่อีกที ฉันจะใช้ชีวิตให้ดีกว่าเดิม

เกิดใหม่อีกที ฉันจะใช้ชีวิตให้ดีกว่าเดิม

หลงเวลา

5.0
ความคิดเห็น
2.6K
ชม
40
บท

ชาติภพก่อนพราวนารีเกิดในครอบครัวที่มีฐานะยากจน ความจนทำให้เธอกับครอบครัวต้องพลัดพราก เธอย้ายถิ่นฐานบ่อยจนเพื่อนที่เคยสนิทสนมก็ห่างเหินกันไปเพราะยังอยู่ในยุคของจดหมายไม่มีโทรศัพท์ที่มองเห็นหน้ากันเช่นปัจจุบันนี้ พราวนารีหญิงสาวสู้ชีวิต พยายามใช้ชีวิตให้ดีแต่ก็ไม่เป็นดังหวัง การศึกษาที่วาดหวังก็ไม่อาจจะสำเร็จได้เพราะเธอตั้งครรภ์ก่อนที่จะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเพียงหนึ่งเทอม ทั้งที่เป็นเด็กทุนและเด็กเรียนเก่งคนหนึ่ง อนาคตของเธอต้องจบลงกับการมีครอบครัวในวัยที่ไม่พร้อม เมื่อลูกเริ่มเติบโตเธอก็แยกทางกับสามีเพราะมีปัญหาเรื่องเงินทอง และสามีติดเพื่อนเพราะยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ครอบครัวของเธอจึงต้องพลัดพรากอีกครั้ง…. ชาติภพใหม่พราวนารี หญิงสาวผู้เกิดมาพร้อมกับความทรงจำในอดีตชาติ เพราะเรื่องราวในชาติภพก่อนทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง เธอตั้งมั่นหลังจากสิ้นอายุขัยว่า หากเกิดมาในชาติภพใหม่เธอจะใช้ชีวิตให้ดีๆ พราวนารีเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะที่ดีกว่าชาติภพก่อนมากนัก ครอบครัวนี้ของเธออบอุ่น เป็นครอบครัวที่ใครๆในจังหวัดก็รู้จัก เพราะเป็นตระกูลเก่าแก่ เรื่องความร่ำรวยนั้นห่างไกลจากคำว่าจนไปหลายขุม เธอเลือกเรียนสาขาที่เธอถนัดและไม่สนใจอบายมุขหรือแม้แต่เพศตรงข้าม ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจว่าจะไม่เดินตามรอยชาติภพก่อน ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้พราวนารีในทั้งสองภพสองชาติกันด้วยนะคะ มาลองดูว่าพราวนารีในชาติภพแรกนั้นใช้ชีวิตอย่างไร และเมื่อเธอได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งแล้วเธอจะใช้ชีวิตอย่างไร

บทที่ 1 เด็กหญิงพราวนารี ดวงรักษ์

ปีพุทธศักราช 2520

พราวนารี เด็กหญิงผู้มีชื่อไพเราะเพราะพริ้งราวกับว่าเธอนั้นได้กำเนิดเกิดมาในครอบครัวของพวกผู้ดีมีสกุล แต่กลับกัน เธอนั้นได้กำเนิดเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน บิดาและมารดาของเธอเป็นเพียงชาวนาเท่านั้น แต่ทว่าการกำเนิดเกิดมาของเด็กหญิงในครั้งนี้กลับสร้างความยินดีให้กับครอบครัวยิ่งนัก เพราะถึงแม้จะจนแต่ถ้ามีบุตรสักคนไว้ส่งเสริม ฝากผีฝากไข้ในยามแก่ยามเฒ่าก็คงจะดีไม่น้อย

“อุแว๊…..อุแว๊……”

เสียงเด็กน้อยร้องจ้าอยู่ในผ้าอ้อมที่หมอตำแยเพิ่งจะทำคลอดให้ เนื่องจากบ้านของดำรงนั้นอยู่ไกลจากโรงพยาบาล ถึงแม้การเดินทางจะสะดวกขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่ทว่าการให้คนแก่ที่เคยทำคลอดมาทำให้ก็น่าจะปลอดภัยเช่นกัน

“โอ๋ๆๆ ลูกพ่อไม่ร้องนะคะ แม่เค้าเจ็บแผลอยู่นะลูก” เสียงทุ้มของผู้เป็นบิดาปลอบโยนบุตรสาวที่อ้อมแขน

“อุแว๊….อุแว๊……”

เด็กหญิงพราวนารียังคงร้องไห้ไม่หยุด เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะว่าเธอน่ะกำลังหิวโดยที่บิดาที่เพิ่งเคยมีลูกยังไม่เข้าใจนั่นเอง ปากน้อยๆ ขมุบขมิบเข้าหาอกหนั่นแน่นของบิดาเขาถึงเข้าใจว่าลูกหิวนม

“เมียพี่….ลูกของเราหิวนมแล้วจ้ะ”

เขาบอกภรรยาเสียงนุ่มพร้อมทั้งพาทารกน้อยไปใกล้กับมารดาที่นอนหมดเรี่ยวหมดแรงจากการเบ่งอยู่ สัญชาตญาณของความเป็นแม่รีบเปิดเต้าให้ลูกน้อยได้ดูดนมของเธอทันที ปากน้อยพอรับรู้ถึงแหล่งอาหารก็ไม่รอช้าอ้างับลงบนฐานถันสีชมพูของผู้เป็นมารดาทันที ครั้งแรกอารีรู้สึกไม่ชินกับการให้ลูกดูดนม แต่พอลูกดูดจนน้ำนมไหลออกมาคนเป็นแม่ก็น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม วันนี้เธอได้สัมผัสและรู้ซึ้งถึงความเป็นแม่แล้ว

ดำรงเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ภรรยาสาว เขารู้ว่าเขาเป็นสามีที่ไม่เอาไหน แต่หลังจากนี้เขาจะเป็นพ่อที่ดีให้ลูกสาวคนเดียว สองสามีภรรยาตกลงกันเอาไว้ว่าจะมีทายาทเพียงคนเดียวเท่านั้นด้วยฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน การที่จะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ก่อนที่จะมีบุตรสาวคนนี้ เขากับภรรยาก็ต้องพูดคุยและตกลงกันอยู่นานจนได้ข้อสรุป

ห้าปีต่อมา

เด็กหญิงพราวนารีในวัยห้าขวบเริ่มหัดอ่านหัดเขียน และมีแววในด้านภาษาต่างประเทศ เธอสามารถเรียนรู้และเข้าใจเรื่องภาษาได้เป็นอย่างดี แต่ทว่าครอบครัวมีฐานะยากจน แพรวนารีตอนเป็นเด็กนั้นมักจะมีบุคลิกทโมนเหมือนกับเด็กผู้ชาย และเพื่อนที่เธอเล่นด้วยก็มีแต่พวกผู้ชาย ดำรงและอารี สองสามีภรรยามีอาชีพทำนา ทุกเช้าหลังจากส่งเด็กหญิงไปโรงเรียนอนุบาลที่อยู่ใกล้บ้านเสร็จ อารีจะเข้าไปช่วยสามีทำนา และกิจวัตรประจำวันของสองสามีภรรยาก็วนลูบเป็นแบบนี้ไปทุกวัน

“แม่จ๋า…… เพื่อนที่โรงเรียนมีขนมไปกินตอนเช้าทุกวันเลย หนูอยากมีไปกินเหมือนเพื่อนบ้าง”

เย็นวันหนึ่งหลังจากที่อารีไปรับลูกสาวตัวน้อยกลับมาจากโรงเรียนเธอก็ได้ยินคำพูดของลูกที่ฟังแล้วจุกอก

“น้องพราวคะ ช่วงนี้ที่บ้านเราไม่ค่อยมีเงินใช้นะลูก พวกแมลงก็ลงข้าว พ่อเขาต้องซื้อยาฆ่าแมลงกับปุ๋ยมาบำรุงต้นข้าว เวลาเก็บเกี่ยวแล้วเราจะได้มีเงินมาซื้อกินซื้อใช้กันเยอะๆ ยังไงล่ะจ๊ะ”

เด็กหญิงตัวน้อยนั่งฟังมารดาอธิบายตาแป๋ว เธอที่วัยเพียงห้าขวบยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่ทว่าเธอก็รู้ดีว่ากว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท บิดามารดาของเธอต้องออกจากบ้านแต่เช้า กว่าจะกลับก็เกือบค่ำมืด

“น้องพราวเข้าใจค่ะ น้องพราวจะพยายามไม่มองเวลาที่เพื่อนกินขนมก็แล้วกันค่ะ”

ความไร้เดียงสาของบุตรสาวทำให้คนเป็นมารดาอดที่จะสงสารลูกน้อยไม่ได้ มีลูกคนเดียวแท้ๆ แต่กลับมอบความสุขให้ลูกไม่ได้เลย มือบางที่หยาบกร้านจากการตรากตรำทำงานหนักมาตั้งแต่สมัยเป็นสาวๆ ยื่นไปลูบผมยาวสลวยของบุตรสาวอย่างรักใคร่เอ็นดู

สามปีต่อมา

เด็กหญิงพราวนารีเป็นนักดนตรีของโรงเรียนตั้งแต่ขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่สอง ในวัยแปดปีเด็กหญิงได้ไปร่วมแสดงดนตรีหลายต่อหลายงาน พรสวรรค์ที่เด็กหญิงตัวน้อยมีทำให้บิดาและมารดาภูมิใจในตัวเธอ

เด็กหญิงแพรวนารีเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย แต่บิดาที่เคยแสนดีกลับติดเหล้าเพราะความเครียดจากการทำนาแล้วไม่ได้ผลผลิตตามที่ควร ทุกๆ เย็นเด็กหญิงตัวน้อยจะได้ยินคำด่าทอของบิดาที่มีต่อมารดาไม่ขาดปาก เธอรู้สึกไม่มีความสุข ยิ่งวันไหนที่บิดาลงไม้ลงมือกับมารดา วันนั้นจะเป็นวันที่เด็กหญิงร้องไห้เสียใจเป็นที่สุด

และแล้วเด็กหญิงพราวนารีในวัยแปดขวบต้องเศร้าเสียใจอีกครั้ง เพราะบิดามารดาตัดสินใจไปหางานทำที่กรุงเทพฯโดยจะฝากเธอไว้กับผู้เป็นอา น้องสาวของบิดา การจากลาที่ไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่ทำให้เด็กหญิงรู้สึกเศร้าสร้อย ก่อนมารดาจะไปเด็กหญิงจึงพยายามโน้มน้าวให้มารดาเปลี่ยนใจ

"แม่จ๋า... แม่ไม่ไปได้ไหมจ๊ะ" เด็กหญิงเอ่ยถามมารดาอีกครั้ง

"แม่ต้องไปหาเงินมาใช้หนี้ค่าปุ๋ย ค่ายาที่เราไปติดเขามาตอนทำนายังไงล่ะลูก ที่สำคัญแม่กับพ่อต้องไปหาเงินมาส่งหนูเรียนให้สูงๆ ยังไงล่ะจ๊ะ" นางอารีบอกกับบุตรสาว

"แล้วเมื่อไหร่แม่กับพ่อจะกลับมาอยู่กับหนูล่ะจ๊ะ" เด็กหญิงพราวนารีเอ่ยถามมารดา

"เมื่อครอบครัวเราไม่มีหนี้ และเมื่อพ่อกับแม่มีเงินมากพอที่จะเอามาลงทุนทำอะไรสักอย่างอยู่ที่บ้านเรายังไงล่ะลูก" ดำรงตอบบุตรสาวแทนภรรยาที่อ้ำอึ้งอยู่

"หนูต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังคำสั่งสอนของอา และที่สำคัญอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ช่วยอาเขาทำงานบ้านบ้างนะลูก"

อารีอดที่จะเป็นห่วงบุตรสาวคนเดียวไม่ได้ ถึงแม้ว่าคนเป็นอาจะรักหลานแต่ก็คงไม่มากไปกว่าลูกสาวที่อายุมากกว่าพราวนารีไปเพียงสองปี

"จ้ะแม่ หนูจะเป็นเด็กดี เชื่อฟังคำสั่งสอนของอา และจะช่วยอาทำงานบ้าน"

เด็กน้อยในวัยไร้เดียงสาตอบมารดาด้วยวาจาฉะฉาน

และจากวันนั้น ดำรงและอารีก็ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบุตรสาวอีกเลย เพราะงานที่ไปทำคืองานก่อสร้าง พอหัวถึงหมอนก็พากันหลับใหล เขาและเธอเลือกที่จะส่งเงินกลับมาให้ผู้เป็นน้องสาว เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของบุตรสาวที่ให้ไปอาศัยอยู่กับเธอแทน นานๆ ทีถึงจะโทรศัพท์มาหา

เด็กหญิงใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของอามาอย่างราบรื่น แต่ก็มีบ้างบางครั้งบางคราที่เด็กหญิงตัวน้อยรู้สึกถึงความไม่ชอบธรรม อย่างเช่นการทำงานบ้าน เธอช่วยผู้เป็นอาทั้งล้างจาน ทั้งกวาดบ้านถูบ้าน บางทีก็มีซักผ้าให้อีกด้วย แต่ทว่าพี่สาวซึ่งเป็นลูกสาวของอากลับไม่หยิบจับอะไรเลย บางทีเด็กหญิงก็รู้สึกน้อยใจจวบจนอายุได้เก้าขวบ

การอยู่กับครอบครัวของอาเริ่มไม่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อน พี่สาวที่เป็นลูกสาวของอาเริ่มออกเที่ยวเตร่และติดเพื่อน บางทีเด็กหญิงวัยเก้าขวบจึงต้องติดตามผู้เป็นพี่ไปด้วย ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดในการต้องมาเห็นและรับรู้ในเรื่องที่เด็กไม่สมควรจะรู้ เธอจึงตัดสินใจโทรบอกบิดาและมารดา

ดำรงและอารีตัดสินใจย้ายโรงเรียนให้เด็กหญิงพราวนารีในช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ห้า เด็กหญิงดีใจเป็นอย่างมากที่จะได้หลีกหนีสถานการณ์ที่อึดอัดเต็มที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพี่สาวลูกของอาที่กำลังติดเพื่อนผู้ชายจนบางครั้งก็พาเธอไปด้วยแบบไม่เต็มใจ รวมไปถึงการที่ต้องแบกรับหน้าที่เกินวัยมันทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยกายและเหนื่อยใจ เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ แต่เหนื่อยใจมันเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กอย่างเธอ

ความเสียใจเพียงอย่างเดียวของเด็กหญิงพราวนารีในการย้ายโรงเรียนนั่นก็คือเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเธอที่คบกันมาตั้งแต่วัยอนุบาล

"พราว พราวจะไปเรียนที่กรุงเทพฯจริงๆ น่ะเหรอ"

เด็กหญิงสุนารีเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน เนื่องจากเมื่อก่อนบ้านทั้งสองอยู่ติดกัน จนกระทั่งบิดามารดาของเพื่อนสนิทพาไปอยู่ที่บ้านของอา ทั้งสองจึงไม่ค่อยได้เจอกันนอกจากที่โรงเรียน

"จ้ะสุ พราวไปไม่นาน เดี๋ยวพราวก็กลับมา ไว้เรามาเป็นเพื่อนรักกันใหม่นะ" เด็กหญิงเอ่ยออกมาอย่างไรก็เดียงสา

"ยัยพราวบ๊อง เราจะเป็นเพื่อนสนิทกันตลอดไปนั่นแหละ"

เด็กหญิงสุนารียิ้มออกมา ซึ่งเด็กหญิงพราวนารีก็ยิ้มตอบเช่นกัน เด็กน้อยทั้งสองกอดลากันในวันสุดท้ายของภาคเรียน

คนเป็นอารู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อย เพราะอนาคตของพราวนารีที่โรงเรียนแห่งนี้เธอเป็นเด็กกิจกรรม และเธอก็เป็นนักดนตรีของโรงเรียน แต่ในเมื่อหลานได้ตัดสินใจที่จะไปกับพี่ชายของเธอแล้ว เธอจึงไม่ห้ามอะไร เพราะเธอก็รู้ดีว่าเธอเองก็ไม่มีเวลาดูแลเด็กๆ เหมือนกัน เพราะอาสาวก็มีอาชีพ ทำไร่ทำนาไม่ต่างจากบิดามารดาของพราวนารีในอดีต แต่ทว่าเธอทำมันได้ประสบความสำเร็จมากกว่า บวกกับมีที่นาเป็นของตนเองจึงไม่ต้องไปเช่าที่นาใครเหมือนกับครอบครัวของดำรง ผู้เป็นพี่ชาย

เด็กหญิงพราวนารีกราบลาผู้เป็นอาที่ให้ข้าวให้น้ำ ให้ที่พักอาศัยตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยลืมพระคุณและคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องมีโอกาสได้กลับมาตอบแทนอย่างแน่นอน แต่ถ้าจะให้เธออยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด เธอไม่สามารถอยู่ได้จริงๆ หลังจากที่ร่ำลากันเสร็จเด็กหญิงวัยเก้าขวบก็มุ่งสู่เมืองหลวงของไทยกับบิดามารดาเพื่อไปเรียนต่อชั้นประถมศึกษาปีที่ห้าที่โรงเรียนใกล้ที่พักของบิดามารดา เด็กหญิงไม่รู้เลยว่าชีวิตวันข้างหน้าจะต้องเจออะไรบ้าง แต่เธอคิดเอาไว้แล้วว่ามันต้องมีความสุขอยู่ไม่น้อย อย่างน้อยก็เพราะได้อยู่กับคนที่เธอรัก

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลงเวลา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

Hyatt Bamberg
5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เกิดใหม่อีกที ฉันจะใช้ชีวิตให้ดีกว่าเดิม
1

บทที่ 1 เด็กหญิงพราวนารี ดวงรักษ์

16/09/2022

2

บทที่ 2 ชีวิตที่พลิกผัน

16/09/2022

3

บทที่ 3 จุดเปลี่ยนของชีวิต

16/09/2022

4

บทที่ 4 เป็นพ่อเป็นแม่ไม่ง่ายเลยสักนิด

16/09/2022

5

บทที่ 5 การพลัดพรากที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

16/09/2022

6

บทที่ 6 ชีวิตใหม่

16/09/2022

7

บทที่ 7 ครอบครัวในอดีตชาติ

16/09/2022

8

บทที่ 8 การพบกันครั้งแรก

16/09/2022

9

บทที่ 9 นักฟุตบอลคนนั้น

16/09/2022

10

บทที่ 10 ไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ

16/09/2022

11

บทที่ 11 ความตั้งใจในอนาคต

17/09/2022

12

บทที่ 12 อดีตคือบทเรียน

17/09/2022

13

บทที่ 13 หน้าที่ตอนนี้คือตั้งใจเรียน

17/09/2022

14

บทที่ 14 มีคนคอยปกป้อง

17/09/2022

15

บทที่ 15 ขอแค่ได้เป็นพี่ชายก็ยังดี

17/09/2022

16

บทที่ 16 วันสำคัญของพี่สาว

17/09/2022

17

บทที่ 17 ช่วงเวลาที่ถูกทดสอบ

17/09/2022

18

บทที่ 18 สองคนพัฒนา...อีกสองคนลาจากกัน

17/09/2022

19

บทที่ 19 ความสำเร็จในก้าวแรกของพราวนารี

17/09/2022

20

บทที่ 20 เยี่ยมเยือน

17/09/2022

21

บทที่ 21 ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย

19/09/2022

22

บทที่ 22 มีแฟน(หลอกๆ)แล้ว

19/09/2022

23

บทที่ 23 ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

19/09/2022

24

บทที่ 24 มีแฟนในวัยเรียนไม่ใช่เรื่องแย่

20/09/2022

25

บทที่ 25 มัดมือชก

20/09/2022

26

บทที่ 26 อัปเดตเรื่องรัก

20/09/2022

27

บทที่ 27 พบปะครอบครัว

20/09/2022

28

บทที่ 28 บำเพ็ญประโยชน์

20/09/2022

29

บทที่ 29 น้องอยู่ปีสองส่วนพี่อยู่ปีสี่

20/09/2022

30

บทที่ 30 งานสีชมพู

20/09/2022

31

บทที่ 31 ดูแลบิดามารดาในอดีตชาติ

20/09/2022

32

บทที่ 32 หลานชายคนแรก

20/09/2022

33

บทที่ 33 ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น

20/09/2022

34

บทที่ 34 นักศึกษาปริญญาโท

20/09/2022

35

บทที่ 35 บันไดขั้นต่อไปของชีวิต

20/09/2022

36

บทที่ 36 หมั้นหมายก่อนลาไกล

20/09/2022

37

บทที่ 37 จากกัน...แค่ชั่วคราว

20/09/2022

38

บทที่ 38 การจากลา...เพื่อมาพบกันอีก

20/09/2022

39

บทที่ 39 ชายหนุ่มที่มาจากประเทศไทย

20/09/2022

40

บทที่ 40 ชีวิตของฉันในชาติภพนี้นั้น...ดีกว่าเดิม

20/09/2022