อุ่นไอรักตำหนักเหมยพันปี

อุ่นไอรักตำหนักเหมยพันปี

karita-01

5.0
ความคิดเห็น
5.7K
ชม
35
บท

ลั่วซินสมัครเข้าไปทำงานเป็นพ่อบ้านเพื่อหาเงินเลี้ยงดูเจเจ้และยาย หารู้ไม่ว่าเขาเพิ่งสมัครไปเป็นสามีบรรณาการของธิดาดอกเหมย ฉางอ้ายชุน ผู้อาศัยอยู่ในตำหนักที่ดอกเหมยไม่มีวันโรยรา สาวน้อยผู้พูดจาไม่รักษาน้ำใจแต่จริงใจยิ่งกว่าใคร แม้รอบตัวเธอจะเต็มไปด้วยความลับ แถมยังไม่มีอะไรน่ารักสักนิด แต่ลั่วซินก็ถูกเธอดึงดูดจนถอนตัวไม่ขึ้น

บทที่ 1 ตำหนักเหมยพันปี

ดอกเหมยที่เคยถูกทับถมใต้หิมะกำลังเบ่งบาน

กลิ่นของดอกเหมยชวนให้นึกถึงใครคนหนึ่ง เป็นบุคคลที่นางได้พบเมื่อนานมาแล้ว ความทรงจำที่มีต่อบุคคลผู้นี้อาบด้วยกลิ่นของฤดูใบไม้ผลิและกลิ่นดินปืน

“ข้าอยากพบท่าน”

ทว่าหมึกยังไม่ทันแห้ง กระดาษแผ่นนั้นก็ถูกขยำ กระดาษแผ่นใหม่ถูกหยิบมาวางแทนที่ และผู้เขียนเริ่มร้อยเรียงถ้อยคำใหม่ตั้งแต่ต้น

คำพูดแสดงถึงอารมณ์ความคิดถึงถูกตัดทอน กลายเป็นข้อความแห้งๆ เหมือนกับรายงาน

นางวางพู่กันลง รอจนหมึกแห้ง จากนั้นหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นและเดินออกไปนอกห้อง พับกระดาษเป็นรูปนกตัวเล็ก และเมื่อลมหอบหนึ่งพัดมา มันกลายเป็นปักษากระดาษสีขาว บินจากมือของนาง

ปักษากระดาษตัวนั้นโบยบินไปที่ใด แม้แต่นางยังไม่รู้ เพราะหลายปีที่ผ่านมา นางไม่เคยก้าวออกจากตำหนักเหมยพันปีเลยแม้แต่ก้าวเดียว

- - -

“ที่นี่...รึขอรับ?”

เด็กหนุ่มเงยหน้ามองทางเข้าตำหนัก จากตรงนี้สามารถเห็นต้นเหมยโบราณสูงตระหง่านอยู่ด้านใน ยังมีต้นเหมยเล็กๆ รายล้อม กลิ่นหอมราวกับภพสวรรค์ ชวนลุ่มหลง

แม้ยืนอยู่ข้างนอก เด็กหนุ่มรู้แล้วว่าภายในตำหนักต้องงดงามมาก เพียงแต่...

ตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูร้อน ฤดูที่ดอกเหมยควรโรยราไปแล้ว

ตอนแรกเขาคิดว่ามันแปลกที่เวลากลางฤดูร้อนแต่กลับถูกสั่งให้นำเสื้อผ้าสำหรับใส่ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาวมา ตอนนี้เขาได้คำตอบแล้ว

เขามองไปยังคนนำทางซึ่งเป็นชายชราหลังงองุ้ม ริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้ายิ่งลึกล้ำเมื่อมองทางเข้าตำหนัก ชายชราเดินนำเข้าไปเงียบๆ

แม้ประตูจะเปิดอยู่ตลอด หากแต่น้อยคนนักที่เคยผ่านเข้าออกตำหนักเหมยพันปี เด็กหนุ่มรู้สึกราวกับตนเองกำลังก้าวเข้าไปอีกโลก

“ขอย้ำอีกครั้ง” ชายชรากล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง “เจ้าทำตามที่นางบอก เว้นเพียงอย่างเดียว ห้ามให้นางออกจากตำหนักเด็ดขาด”

เด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่าถ้าประตูเปิดตลอด เขาจะไปห้าม ‘นาง’ เดินอาดๆ ออกจากที่แห่งนี้ได้อย่างไร และที่ผ่านมาในช่วงที่ไม่มีใครคอยดูแลตำหนัก ผู้ใดเป็นคนห้ามนาง?

แต่เด็กหนุ่มไม่ถาม

“อยู่ที่นี่ให้สนุกเล่า เจ้าลูกครึ่ง”

“...ขอรับ”

เด็กหนุ่มหน้าบึ้ง ยืนนิ่งกลางทางเดินซึ่งนำเข้าสู่ตัวตึก อากาศเย็นฉ่ำของฤดูใบไม้ผลิอาบไล้ผิวกาย

“คำก็ลูกครึ่ง สองคำก็ลูกครึ่ง เฮ้อ...” เขาส่ายหน้า

แม้ด้านนอกเป็นฤดูร้อน แต่ในตำหนักยังเป็นฤดูใบไม้ผลิ แปลกประหลาดสมคำเล่าลือ

มองไปตรงหน้าก็เห็นอาภรณ์สีขาวชมพูปรากฏขึ้นจากด้านหลังต้นเหมยทางด้านขวา แขนเสื้อและผ้าพาดไหล่กรุยกราย ไม่ใช่ชุดแบบสากลอย่างที่เขาสวมใส่อยู่ตอนนี้

ผู้สวมใส่ชุดเป็นสตรีแรกรุ่นอายุราวสิบเจ็ดสิบแปด บนนิ้วมือเรียวสวยราวกับหน่อไม้ในฤดูใบไม้ผลิมีนกสีขาวตัวหนึ่งเกาะอยู่ ต้องเป็นนางที่ชายชราและคนอื่นๆ พูดถึงไม่ผิดแน่

ใบหน้างามผุดผาดราวเทพธิดาและดวงตากระจ่างดั่งน้ำค้างกลางหาวทำเขาตะลึง พูดอะไรไม่ออกเป็นเวลานานกว่าจะกล่าวคำทักทายได้

“อรุณสวัสดิ์ขอรับ ข้าน้อยแซ่ลั่วนามซิน เป็น—”

เด็กหนุ่มพูดไม่ทันจบประโยค สตรีนางนั้นปรายตามองเขาก่อนจะหมุนกายจากไป นกที่เกาะนิ้วบินข้ามรั้วหายไปจากสายตา

ผู้มาเยือนค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรดี จึงเดินตามนางเข้าไปด้านใน

นางรับรู้ว่าลั่วซินเดินตามมา แต่จังหวะก้าวเดินของนางไม่เปลี่ยน เดินเลี้ยวเข้าไปในตำหนักและหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง เป็นห้องที่สามารถมองเห็นสวนด้านหลังและอยู่ใกล้ห้องครัว

“เข้าไป” นางหันมาพูดกับเขาเป็นคำแรก พร้อมชี้นิ้วขาวไปยังประตูห้องที่เปิดอยู่ เสียงของนางหวานใสรื่นหู เป็นเสียงที่ทำให้ผู้คนลุ่มหลงได้ง่ายๆ

“ขอรับ” เด็กหนุ่มทำตาม แต่เมื่อกำลังโค้งตัวเดินผ่านหน้านาง จู่ๆ มือบางที่มีเรี่ยวแรงมหาศาลแบบไม่น่าเป็นไปได้ก็คว้าแขนเขาไว้

ดวงตาด้านชาฉายแววประหลาดใจ นางขบฟัน จ้องหน้าเขา ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลง

“...ไม่มีอะไร เข้าไปเสีย”

“ขะ ขอรับ...?”

เมื่อเดินเข้าไปในห้องแล้ว สตรีปริศนาปิดประตู ปล่อยเขาไว้ในห้องนั้นเพียงลำพัง เขายังประหลาดใจไม่หาย แขนเริ่มปวดตุบๆ เมื่อเลิกแขนเสื้อขึ้น เห็นว่ามีรอยแดงเป็นรูปนิ้วห้านิ้ว

“เอาเถอะ...” เด็กหนุ่มมองห้องที่ตนโดนปล่อยทิ้งไว้ เป็นห้องนอนธรรมดา มีเตียง โต๊ะ ตู้ อ่างกระเบื้อง และโถธุระเบา ผ้าปูเตียงและฟูกนอนสะอาด ไม่มีเสื้อผ้าหรือของใช้ส่วนตัว มุมหนึ่งใกล้เพดานมีกระดิ่งสองใบ

เขาวางห่อสัมภาระลงกับพื้น สรุปว่าที่นี่คงเป็นห้องของเขา

ลั่วซินจัดของเสร็จจึงออกมาข้างนอก

ในตำหนักมีห้องหับมากมาย เขาค่อยๆ ไล่เปิดทีละห้อง เจอห้องครัว ห้องอาบน้ำ ห้องเก็บเสบียงและของใช้อื่นๆ ห้องที่มีแต่ของจิปาถะกองไว้ระเกะระกะ และห้องว่างอีกมากมาย ในที่สุด เมื่อมาถึงห้องกว้าง เขาหยุดมือเพราะมีความรู้สึกว่าในนี้ต้องมีคนอยู่

เขาคิดถูกเมื่อประตูเปิดออก และสตรีชุดขาวชมพูผู้นั้นปรากฏกายออกมา

“...” นางมองเขาขึ้นๆ ลงๆ ก่อนจะปิดประตูใส่หน้า มีเพียงเสียงพูดลอดออกมาว่า “อยากทานอะไรก็ทาน ไม่ต้องทำเผื่อ พรุ่งนี้ค่อยมาหาข้า”

“ขอรับ... ขออภัยที่เสียมารยาทขอรับ” เขาโค้งตัวลง หน้าผากโหม่งประตูเต็มๆ แต่ในห้องยังไม่มีเสียงใด

ลั่วซินหัวใจเต้นตึกๆ คิดว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า...

เพราะเขาเห็นว่าดวงตาของนางแดงและมีน้ำตาคลอหน่วย

นางจะร้องไห้เรื่องอะไร? เสียงเมื่อครู่ของนางก็ไม่มีการสั่นเครือ สงสัยจะมองผิดไปเอง

ลั่วซินใช้เวลาที่เหลือกับการสำรวจตำหนัก หุงข้าว ทำอาหารง่ายๆ อย่างผัดผักและเต้าหู้ทานเอง เขาพบอุปกรณ์ทำความสะอาด จึงออกไปกวาดดอกเหมยที่ร่วงหล่นอยู่ในสวน ระหว่างทำงานก็เห็นผู้อาศัยอีกคนหนึ่งปรากฏตัวจากห้องส่วนตัว ขณะจะก้มศีรษะทักทาย นางก็ปิดหน้าต่างใส่

“...”

ลั่วซินยักไหล่ทำงานต่อ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ karita-01

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
อุ่นไอรักตำหนักเหมยพันปี
1

บทที่ 1 ตำหนักเหมยพันปี

05/12/2022

2

บทที่ 2 จงถอดเสื้อเสีย

05/12/2022

3

บทที่ 3 คนต่างถิ่น

05/12/2022

4

บทที่ 4 ต้นเหมยศักดิ์สิทธิ์

05/12/2022

5

บทที่ 5 ความหวั่นไหว

05/12/2022

6

บทที่ 6 จดหมายที่อยากส่ง

05/12/2022

7

บทที่ 7 ผู้ที่มักถูกเข้าใจผิด

05/12/2022

8

บทที่ 8 ข้าไม่อยากเห็นท่านทำร้ายตัวเอง

05/12/2022

9

บทที่ 9 ตามหาท่านแม่ทัพ

05/12/2022

10

บทที่ 10 อดีตที่ผ่านเลย

05/12/2022

11

บทที่ 11 สามีเช่า

05/12/2022

12

บทที่ 12 ธิดาดอกเหมยติดนิยาย

08/12/2022

13

บทที่ 13 ชีวิตแต่งงาน

08/12/2022

14

บทที่ 14 นกกระดาษ

08/12/2022

15

บทที่ 15 ลูกอ้อนคนป่วย

08/12/2022

16

บทที่ 16 กลับไปเยี่ยมบ้าน

08/12/2022

17

บทที่ 17 เบาะแสสำคัญ

08/12/2022

18

บทที่ 18 ผู้เฝ้ามองตำหนัก

12/12/2022

19

บทที่ 19 เรื่องของสามีภรรยา

12/12/2022

20

บทที่ 20 เวลาน้ำชา

12/12/2022

21

บทที่ 21 ความสุขเล็กๆ

12/12/2022

22

บทที่ 22 งานเลี้ยงเพื่อท่าน

12/12/2022

23

บทที่ 23 เก๋งโบตั๋น

12/12/2022

24

บทที่ 24 บุคคลซับซ้อน

15/12/2022

25

บทที่ 25 ผู้บุกรุก

15/12/2022

26

บทที่ 26 แผนลักพาตัว

15/12/2022

27

บทที่ 27 ข้าจะไปหาท่าน

15/12/2022

28

บทที่ 28 เพลงกล่อมเด็ก

15/12/2022

29

บทที่ 29 ครอบครัวอบอุ่น

15/12/2022

30

บทที่ 30 ปิ่นปักผม

15/12/2022

31

บทที่ 31 ท่านเมาแล้ว

15/12/2022

32

บทที่ 32 จดหมายฉบับสุดท้าย

15/12/2022

33

บทที่ 33 ใต้แสงดาว

15/12/2022

34

บทที่ 34 รัก

15/12/2022

35

บทที่ 35 ฤดูกาลหมุนเวียน

15/12/2022