อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
เมียผมน่ารักจัง
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
เจ็บแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
โชคชะตาของพระชายา
คุณกู้ คุณนายทอดทิ้งท่านไปแล้ว
เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ
รักใหม่พันล้าน
เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ
“กรี๊ด! ช่วยด้วยค่ะ!”
เสียงลมหวีดหวิวรอบๆ กายกับสายลมหนาวที่เย็นยะเยือกเข้าไปถึงกระดูก ไม่ได้น่ากลัวเท่าสัตว์สี่เท้าสองสามตัวที่กำลังวิ่งไล่ตามหลังเธอมาติดๆ ร่างระหงวิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างสุดชีวิต ปากเล็กก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังก้องอยู่ในความมืดสลัว
ตุบ!
“โอ๊ย!” เท้าเล็กที่วิ่งไปโดยไม่มองทางสะดุดเข้ากับตอไม้จนล้มลงไถลไปกองกับพื้นหญ้ารกๆ ที่เต็มไปด้วยเศษใบไม้แห้ง กิ่งไม้ผุๆ และความชื้น ขณะที่เจ้าสัตว์หน้าขนวิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงตัว เจ้าของร่างเล็กกระถดถอยหนี รู้สึกหวาดกลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ลืมหายใจไปชั่วขณะเมื่อเห็นเจ้าสุนัขตัวโตกระโจนพุ่งเข้าใส่
“กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องดังลั่นผืนป่า แล้วทุกอย่างก็เหมือนจะเงียบงันลง เธอยังคงนั่งอยู่ที่เดิมโดยมีสองมือป้องประสานกันอยู่ตรงหน้า ความเงียบอย่างฉับพลันนั้นทำให้สาวน้อยค่อยๆ เอามือที่บังตาตัวเองออก กะพริบตาสองสามครั้งเพื่อมองภาพตรงหน้าให้เต็มตาว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
บุรุษนิรนามรูปร่างสูงเปรียวคนหนึ่งกำลังหันไปเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่าสามตัวที่มีท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือน้ำลายสอที่อยากจะกระโจนขย้ำเหยื่อตรงหน้าให้หนำใจ แต่พวกมันก็ต้องหยุดเท้าไว้กับที่ เพียงเพราะมีผู้ชายคนนี้ยืนจ้องหน้า เขาเพียงแค่ยืนอยู่นิ่งๆ เธอเห็นเพียงแค่ด้านหลังของร่างสูงในชุดดำทมิฬที่น่าเกรงขามเท่านั้น
...เขาเป็นใคร ทำไมฝูงหมาป่าถึงได้กลัวเขา...
เกิดคำถามขึ้นมาในใจของสาวน้อยที่ยังนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นหญ้า เธอยังหวาดกลัวเจ้าสัตว์หน้าขนทั้งสามตัวจนไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน กระทั่งหมาป่าตัวโตทั้งหมดเดินลับหายเข้าไปในป่า ร่างเล็กในชุดกระโปรงสีขาวบางเบาจึงได้ขยับกายค่อยๆ ลุกขึ้นยืน แล้วใช้มือปัดเศษใบไม้ใบหญ้าออกจากตัว
“ขอบคุณมากนะคะ ที่มาช่วยฉัน” เจ้าของร่างสูงที่น่าเกรงขามยังคงยืนอยู่ในท่าเดิม หญิงสาวจึงเดินเข้าไปใกล้อีกนิดอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่เธอก็อยากให้เขาหันมา แล้วเหมือนชายหนุ่มจะล่วงรู้ความในใจ เขาค่อยๆ หมุนร่างเพื่อที่จะหันหน้ามาทางเธอช้าๆ
...เธอกำลังจะได้เห็นหน้าผู้มีพระคุณแล้ว...
พรึบ!
มือเรียวตวัดผ้าห่มออกจากตัวโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับดวงตากลมโตลืมตาขึ้นมาในความมืดสลัว ไม่รู้ว่าเวลานี้มันตีไหนแล้ว ทุกอย่างรอบกายดูเงียบสงบ มีเพียงผ้าม่านสีขาวตรงหน้าต่างเท่านั้นที่ยังปลิวไสว สงสัยว่าเมื่อคืนก่อนนอนเธอคงลืมเปิดหน้าต่างเอาไว้กระมัง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งหย่อนปลายเท้าลงข้างขอบเตียง
“ไม่น่ารีบตื่นเลยยัยบาบี้เอ๊ย เธอเกือบจะได้เห็นหน้าเขาแล้วเชียว” รุ้งราตรีบ่นอุบอิบกับตนเองอย่างเสียดาย ก่อนจะเดินไปปิดหน้าต่างแล้วเดินมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กริ๊งๆ!
มือเรียวยื่นออกไปควานหาโทรศัพท์ตรงโต๊ะโคมไฟข้างเตียง
“บาบี้ ตื่นหรือยังลูก”
“สวัสดีค่ะพ่อ มีอะไรหรือเปล่าคะ โทรมาหาหนูแต่เช้าเลย” เสียงอ้อแอ้ของคนที่เพิ่งตื่นนอนถามออกไป พร้อมกับขยี้ตาไปพลาง ก่อนจะได้ยินเสียงนุ่มๆ ของบิดาท้วงมาตามสาย
“เช้าอะไรกันลูก นี่มันเจ็ดโมงกว่าแล้วนะ รีบลุกอาบน้ำเตรียมตัวเดินทางมาเชียงใหม่ได้แล้ว”
“เจ็ดโมงกว่าแล้วหรือคะ! ได้ค่ะบาบี้จะรีบลุกอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” คนขี้เซาวางสายเสร็จแล้ว ก็งัวเงียลุกขึ้นมาเอามือขยี้ตาอีกสองสามครั้งเพื่อขับไล่ความง่วงงุนออกไปจากหัว ก่อนจะเดินคว้าเอาผ้าขนหนูสีขาวเดินเข้าไปห้องน้ำ
รุ้งราตรีหรือบาบี้ สาวน้อยลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ซึ่งได้ถือกำเนิดใน ‘คืนพระจันทร์ทรงกลด’ ที่เพิ่งคว้าปริญญาโทภาษาและวัฒนธรรมเพื่อการสื่อสารและพัฒนามาหมาดๆ ถูกบิดาขอร้องแกมบังคับให้มาทำงานเป็นผู้ช่วยเธมเจ้านายใหญ่ของเขา ซึ่งเป็นผู้ที่ควบคุมดูแล ‘อรุณดารา รีสอร์ต’ สาขาสอง