อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
เจ็บแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
เมียผมน่ารักจัง
เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ
โชคชะตาของพระชายา
ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น
รักใหม่พันล้าน
คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว
หยาดพิรุณเม็ดใสๆ โปรยปรายลงมากระทบหลังคาโรงนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงบ่าย หน้าต่างบานเล็กถูกเปิดทิ้งไว้เพราะคนเปิดเจตนาให้ไอละอองเย็นชุ่มของสายฝนสาดกระเซ็นเข้ามาข้างใน สาวน้อยรูปร่างบอบบางวัยย่างยี่สิบกำลังยืนกอดอกอยู่ข้างๆ หน้าต่างบานนั้นโดยไม่ได้อนาทรต่อความเปียกชื้นของเสื้อผ้าแต่อย่างใด ริมฝีปากอิ่มเต็มรูปกระจับสีชมพูระเรื่อคลี่ยิ้มน้อยๆ ดวงตากลมโตซึ่งประดับด้วยแพขนตางอนยาวเพ่งมองหยดน้ำใสๆ และปล่อยตัวปล่อยใจให้ดื่มด่ำไปกับม่านฝนที่พร่างพรมลงมาไม่ขาดสาย
‘ละอองฝน’ ชื่นชอบไอเย็นๆ ของสายฝนมาตั้งแต่เด็กๆ อาจเป็นเพราะเธอเกิดเดือนมิถุนายนในวันที่ฝนตกปรอยๆ ตลอดทั้งวันทั้งคืนกระมัง
และแล้วเวลาอันแสนสุขนั้นก็มีอันต้องจบลง พร้อมๆ กับที่พิรุณเม็ดสุดท้ายหลั่งรินลงมา ท้องฟ้าซึ่งมืดครึ้มอยู่เมื่อครู่ใหญ่ๆ ก่อนหน้านี้เริ่มเปิดโล่งพร้อมกับปรากฏรุ้งกินน้ำทอดตัวโค้งยาวพาดผ่านเหนือทุ่งกว้าง สาวน้อยรู้ตัวว่าได้เวลาที่เธอจะต้องออกจากโรงนาแสนสวยและเงียบสงบหลังนั้นแล้ว
ละอองฝนจึงรีบจูงม้าสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่แอบขโมยออกมาขี่เล่น ซึ่งตอนที่ฝนเริ่มตกเธอผูกมันไว้กับเสาโรงนาไปส่งคืนที่คอกม้า เพื่อจะได้กลับไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ให้ทันก่อนเวลาพลบค่ำ ด้วยรู้ตัวดีว่าหากกลับช้าคงถูกคนที่เป็นผู้ปกครองดุเอาเป็นแน่
หลังจากส่งม้าถึงคอกแล้ว เท้าเล็กๆ ก็ก้าวฉับๆ ในลักษณะเดินแกมวิ่งลัดเลาะผ่านเนินหญ้าเพื่อไปให้ถึงคฤหาสน์โดยเร็วที่สุด แต่พื้นหญ้าที่เปียกชื้นจากการถูกสายฝนพร่างพรมใส่เมื่อครู่ใหญ่ๆ ที่ผ่านมานั้นก็เป็นอุปสรรคพอสมควร
รองเท้าแตะแบบคีบเปียกชุ่มเพราะถูกน้ำจากยอดหญ้ากระเด็นใส่ ทำให้การเคลื่อนไหวแต่ละย่างก้าวเป็นไปอย่างยากลำบากยิ่งกว่าเดิม ไม่ต่างอะไรกับการเดินย่ำบนพื้นลื่นๆ และในที่สุดเธอก็ล้มหัวคะมำจนได้ มือเรียวเล็กตะครุบลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยโคลนตมเละๆ เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนมอมแมม สายรองเท้าก็ขาดร่องแร่งอย่างไม่เหลือสภาพให้สวมใส่ได้อีกต่อไป
“บ้าจริง!”
เจ้าของเสียงหวานใสบ่นพึมพำคนเดียวขณะค่อยๆ ประคองกายให้ลุกขึ้น ตอนนั้นเองที่รู้สึกว่ามีอาการเจ็บแปล๊บๆ ที่ข้อเท้า แต่ก็ยังพยายามเดินโขยกเขยกด้วยเท้าเปล่าอย่างทุลักทุเล จนกระทั่งถึงคฤหาสน์หลังสีขาวสองชั้นที่ตั้งตระหง่านสวยเด่นอยู่บนเนินหญ้าสีเขียวขจีซึ่งตอนนี้เปิดไฟสว่างไสวเพราะฝนที่ตกลงมาตั้งแต่ช่วงบ่ายทำให้ความมืดมิดของรัตติกาลสยายตัวเข้าปกคลุมทั่วทั้งอาณาบริเวณเร็วกว่าทุกวัน
ละอองฝนรีบย่ำเท้าขึ้นบันไดเตี้ยๆ ที่หน้าคฤหาสน์ผ่านห้องอาหารซึ่งอยู่ติดกับห้องโถง ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะเดินผ่าน แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากมันเป็นทางไปยังห้องนอนของเธอนั่นเอง
สาวน้อยรู้สึกเหมือนตนเองตัวลีบลงกว่าเดิมไปถนัดตา เพราะตอนนี้ที่โต๊ะอาหารมีคนนั่งรายล้อมเพื่อจะรับประทานมื้อเย็นอย่างพร้อมเพรียงกันแล้ว และเมื่อเธอก้าวเข้าไปทุกคนก็มองมาเป็นตาเดียวกันทันที
“ไปไหนมาออม ทำไมถึงได้กลับมาซะมืดค่ำแถมเนื้อตัวยังมอมแมมแบบนั้น...”
‘คุณ’ เป็นคนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหินและไว้ตัว แต่ละอองฝนก็ชินชากับน้ำเสียงและท่าทีแบบนั้นของผู้ให้กำเนิดเสียแล้ว