เทพดาบจอมหื่นกับสาวน้อยสุดแซ่บ

เทพดาบจอมหื่นกับสาวน้อยสุดแซ่บ

nugkeanransawat

5.0
ความคิดเห็น
34.8K
ชม
12
บท

เทพดาบจอมหื่นกับสาวน้อยสุดแซ่บ (เรื่องสั้น) เยวลี่ซูคือเด็กสาวอายุ18ปีที่ถูกฆ่าล้างตระกูล เธอตามหาเทพดาบที่มีนามว่ามหาปุโรหิตเพื่อขอให้เขาล้างแค้นให้กับครอบครัว การตามหาเทพดาบนั้นลำบากสาหัสสากรรจ์นัก กว่าจะได้ล้างเค้นให้สาสมใจเธอต้องแลกกับความสาวและความสวยของตัวเอง แรงปรารถนาอาฆาตทำให้สาวน้อยยอมพลีกายถวายตัวแก่ผู้ชายหื่นแบบไร้ข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น

บทที่ 1 เจอผู้ชายหื่น

เทพดาบจอมหื่นกับสาวน้อยสุดแซ่บ

ตอน เจอผู้ชายหื่น

ท่ามกลางเปลวเพลิงที่กำลังสุมเผาซากศพที่กองสูงเท่าบ้าน สาวน้อยเนื้อตัวตัวขาวโพลนดั่งหิมะกำลังนั่งคุกเข่าร้องไห้กระซิกๆ

ตรงหน้าคือร่างไร้วิญญาณของท่านพ่อและท่านแม่กับชาวบ้านหลายครอบครัวที่กำลังมอดไหม้

หยาดน้ำใสไหลพาดเป็นทางอาบสองแก้ม ฮือ! ๆ ๆ เสียงร้องช่างแหลมสูงจับใจ

เสื้อคลุมลายดอกเหมยที่ห่อคลุมเรือนร่างขาวโพลนเปียกชุ่มโชก น้ำตาของเธอไหลออกมาดั่งธารน้ำใสที่ไม่รู้จักหยุดจักสิ้น

เมื่อคืนก่อนมีการฆ่ากวาดล้างคนทั้งหมู่บ้านโดยทหารเมืองฉิน ผู้คนเมืองกังจึงล้มตายดั่งกลีบดอกไม้ที่โรยรายามหิมะแรกมาเยือน

"เฮ้สาวน้อย เจ้านั่งอยู่ตรงนี้จะโดนพวกมันจับไปข่มขืนนะ" เสียงแหบพร่าดังมาจากชายชุดคลุมสีดำด้านหลัง

เขาตัวสูงลิบแต่ผอมเอามากๆ ใบหน้าเข้มคมของเขากับผิวสีแทนช่างดูหล่อเหลาและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน

"ทำไม ถ้าใครเข้ามาข้าจะฆ่ามันให้ตายไปกับข้า" เยวลี่ซูหันมาตวาดใส่หนุ่มไร้นามทั้งน้ำตา ยามที่ใบหน้าขาวโพลนสะบัดหันน้ำตาสาดกระจายลงผิวดิน

เธอตกใจเมื่อเห็นว่าหนุ่มนิรนามเขาแก่กว่าเธอมาก แถมที่หลังยังสะพายดาบสนิมเขรอะไว้ถึงสองอัน

หือ! เขาเดินย่างกรายเข้ามาและก้มมองใบหน้าเรียวเล็กของเย่ว

สาวน้อยตัวสั่นเมื่อเห็นใบหน้าที่คมขลังของเขาอย่างเต็มตา โดยเฉพาะดวงตาที่เย็นชาและดุดันคู่นั้นทำให้เธอลืมร้องไห้ไปเลย

"ถ้าไม่อยากตายก็กลับบ้านไป" เสียงแหบพร่าตวาดดังขึ้นมาจนเยวลี่ซูต้องลุกถอยหนีเขา

"เอ้า ทำไมไม่รีบไปอีก เดี๋ยวก็จับข่มขืนซะหรอก ขาวๆสวยๆยังงี้" หนุ่มชุดคลุมสีดำเปลี่ยนเสียงโหดเป็นทะลึ่งทะเล้นได้ราวกับพลิกดาบ

"ข้าไม่มีบ้านแล้ว ทุกคนตายหมด" สาวน้อยใจแข็งตวาดเสียงลั่น ใบหน้าเล็กสวยเงยสูงจนเจ็บคอเมื่อร่างชายตรงหน้าตัวสูงกว่าเธอมาก

"แล้วเจ้าชื่ออะไรหิ" ชายไร้นามเดินเข้ามาจับปลายคางสาวน้อยที่สูงเพียงอกของเขา

"ข้าชื่อเยวลี่ซู เรียกว่าเย่วก็ได้" นางตอบ

ใบหน้าเรียวสวยที่มีแก้มอิ่มจ่ำม่ำสบตาโตใส่แววตาที่คมดุคู่นั้น

ในเมื่อสิ้นหวังเย่วยอมตาย ในโลกนี้ไม่มีอะไรให้น่ากลัวอีกแล้ว เพียงหน้าดุๆของหนุ่มคนนี้คงไม่อาจทำให้เธอหวาดกลัวได้อีก

"งั้นรึ แล้วเจ้ามาเฝ้ากองเพลิงทำไม รอเก็บอัฐถิหรือ" หนุ่มตัวสูงปล่อยคางแล้วเอามือใหญ่ๆลูบถูแก้มอันนุ่มนิ่มของเย่ว

สายลมเย็นกับมือที่เย็นเฉียบเหมือนผีตายซากของเขาทำเอาเย่วตัวสั่นสะท้าน

"ข้ามารอเทพดาบต่างหาก เจ้ารู้จักไหม" เย่วถอยหนีมือที่คลอเคลียแก้มของเธอแล้วตะโกนใส่หน้าหล่อๆ

"บ้าบอ เทพดงเทพดาบที่ไหน" หนุ่มตัวสูงแสยะยิ้มตอบ เขาดูขำขัน

"เจ้าไม่รู้จักท่านมหาปุโรหิตเหรอ ข้าจะหาตัวท่านให้เจอแล้วให้ท่านฆ่าล้างบางทหารแคว้นฉิน" เย่วตอบ

"งั้นหรือ หิ ๆ งั้นถ้าฆ่าพวกที่ฆ่าพ่อแม่เจ้าได้แล้วจะทำอะไรต่อ" หนุ่มตัวสูงหัวเราะไปถามไปเขายืนตรงหน้ากองซากศพอย่างขำขันไร้หัวใจ

"ก็ฆ่าแม่ทัพมัน ฆ่าอำมาตย์ของมัน แล้วก็ฆ่าฮ่องเต้ของมัน" เย่วเงยหน้าสูงตอบฉอดๆ

"ฮ่า! ๆ ๆ เจ้ามันบ้า คนตายก็ตายไปแล้วจะคิดแค้นอะไรนักหนา" หนุ่มชุดคลุมสีดำหัวเราะลั่น เขาเอามือหยิกแก้มสองข้างของเย่วเขย่าใบหน้าสวยไปมาเพื่อเรียกสติ

ป๊าบ! เย่วเอามือเล็กขาวตีมือใหญ่ๆสีดำด้านของเขาและดุด่า

"อย่ามายุ่งอย่ามาโดนตัวข้านะเจ้าคนหื่น บ้ากาม โรคจิต" เสียงแหลมสูงบาดหู

"จับนิดจับหน่อยไม่ได้หรือ ถ้าข้าไม่อยู่ตรงนี้เจ้าอาจจะโดนลากไปข่มขืนแล้วโยนเข้ากองไฟไม่รู้ด้วยนะ" หนุ่มตัวสูงบอกแล้วชี้นิ้วไปรอบๆ เมื่อเย่วมองตามนิ้วเขาไปไกลๆเธอเห็นมีเงาคนดำๆอยู่หลายคน พวกมันน่าจะเป็นโจรป่า

"ถึงตายก็ไม่กลัว ข้าจะได้ไปอยู่กับพ่อแม่" เย่วเถียง

อุ๊ปส์! เธอพูดไม่ออกแล้วเมื่อโดนมือใหญ่ๆจับแก้มสองแก้มบีบจนปากจู๋

"ถ้าเจ้าให้จูบข้าอาจจะพาเจ้าไปเมืองข้างหน้าก็ได้ ไม่แน่เจ้าอาจเจอเทพดาบที่นั่น" หนุ่มตัวสูงบอก แววตาของเขาแฝงความเจ้าเล่ห์

เย่วตาค้างโต แก้มโดนมือสากๆบีบจนแดงทั้งสองข้าง ลมหนาวพัดผ่านริมฝีปากสีชมพูเรียวบางจนสั่นเกร็ง

"ว่าไง ไม่อยากแก้แค้นแล้วเหรอ" หนุ่มตัวสูงตะคอกใส่หน้าสวยๆ เย่วสะดุ้งโหยงมือของเขาบีบแก้มเธอจนริมฝีปากบู้บี้ไปหมดแล้ว

"อ๊ะ อื้อ" สาวน้อยพยักหน้าแล้วหลับตากลั้นหายใจ

ใบหน้าหล่อเหลาที่คมเข้มดุดันค่อยๆก้มลงมาช้าๆ แววตาที่เย็นชาน่ากลัวมองอาบโลมใบหน้าสวยและที่แก้มพองโตอย่างพออกพอใจ

อุ๊ย! จมูกโด่งเฟี้ยวของหนุ่มไร้นามจิ้มปลายจมูกของเย่วจนเธอสะดุ้ง ตากลมแป๋วเบิกโพลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อๆที่กำลังบดชนหน้าของตัวเอง

จุ๊บ! ๆ ๆ ริมฝีปากแหบแห้งของหนุ่มใหญ่บดบี้ริมฝีปากนุ่มๆจนชุ่มน้ำลายสาวน้อย

อื้อ! ๆ อือ! เย่วตาเถลือกถลน เธอเสียวในอกวาบหวามจนลืมหายใจเมื่อโดนจูบครั้งแรกในขีวิต

ลิ้นสากๆของเขาสอดเข้ามาพันประสานกับลิ้นของเธอในปาก น้ำลายของสาวน้อยแตกพร่าเหมือนตอนที่กินของเปรี้ยวยังไงยังงั้น

จุ๊บ! ๆ ๆ เขารีบดูดแย่งเอาน้ำลายของสาวน้อยเข้าไปกลืนกินอย่างหิวกระหาย ดูท่าเหมือนคนอดข้าวอดปลามานับสิบๆวัน

อื้อ! ๆ ๆ สาวเย่วเอาสองมือจิกชุดคลุมสีดำตรงคอเสื้อ เธอพลักอกเขาออกแต่กลับยืนเขย่งเท้าสูงบดปากสีชมพูจูบตอบเขา

อืม! ๆ ๆ อ่าส์! หนุ่มไร้นามจูบไปครางไปอย่างกระสันต์เสียว เขาเสพย์ความสาวความสวยของเย่ว และความอบอุ่นจากเลือดสาวน้อยแรกรุ่นอย่างเธอที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วผิวกาย

แฮ่ก! ๆ ๆ หิ! ๆ กว่าหนุ่มใหญ่จะยอมดึงใบหน้าหล่อๆกลับก็นานสองนาน เขายืนยิ้มและหายใจหอบเหนื่อย

เย่วเองก็หอบหายใจแรง ผิวหน้าที่ขาวเนียนละมุนมีเหงื่อซึมออกมาทั้งๆที่อากาศโดยรอบเหน็บหนาว

"ไหนล่ะม้า ไหนล่ะเมืองข้างหน้า" เย่วยืนกอดอกจ้องตาดุๆ แถมยังตวาดลั่นใส่เขา

"ไปสิ ตามมา" เขาบอก

สาวน้อยเดินตามหนุ่มตัวสูงที่สะพายดาบสนิมสองอันต้อยๆ เธอมาขึ้นขี่หลังม้าและกอดเอวเขาไว้แน่น

"เจ้าเคยได้ยินไหม เทพดาบมหาปุโรหิตน่ะ" เธอตะโกนถามหนุ่มใหญ่เสียงดังทัังๆที่ตัวเองก็กอดเขาตัวกลม

"ไม่รู้สิ เป็นยังไงเหรอ" เขาถามกลับ น้ำเสียงแหบพร่าราวกับไม่มีน้ำซักหยดตกถึงท้อง

"โถ่ เจ้าโง่จริงๆ เทพดาบจะผดุงความยุติธรรมและฆ่ามารร้าย ท่านต้องทำตามคำขอของข้าแน่ๆ" เย่วเหม่อมองดาวบนฟ้าและพร่ำบอก ความหวังเดียวที่จะมีชีวิตอยู่ต่อคือการล้างแค้น

"แล้วถ้าเทพดาบเป็นมารเสียเองล่ะ" หนุ่มไร้นามถามกลับ เขาควบม้าเดินฝ่าความมืดบนทุ่งหญ้าไปข้างหน้าช้าๆท่ามกลางลมหนาวที่พัดโชย

"นี่เจ้า อย่าสามหาวกับท่านเทพดาบแบบนั้น" เย่วหยิกเอวเขาแล้วดุด่า

โอ๊ย! ๆ ๆ ฮ่า! ๆ ๆ หนุ่มไร้นามร้องเจ็บปนหัวเราะร่วน

"ท่านเทพดาบน่ะผดุงความยุติธรรม หากท่านได้ฟังคำขอของข้า ท่านจะฆ่าล้างแค้นให้ข้าแน่ๆ" เย่วพร่ำต่อ

นานสองนานที่เธอพรรณาความวิเศษวิโสของเทพดาบกรอกใส่หูคนที่ตัวเองไม่รู้จัก จนล่วงเลยทุ่งหญ้ามาถึงเนินทรายกว้างเสียงเเจ๋วๆจึงเงียบไป

"เป็นอะไรไปนี่ เอ้าหลับแล้วเหรอ" หนุ่มไร้นามถามเมื่อหน้าผากของเย่วเขกหลังของเขาหลายที

ขวับ! เขาหันมาจับร่างจ่ำม่ำของเย่วแล้วยกเธอมานั่งตรงหน้าตักโอบกอดเธอเอาไว้ด้วยสองแขน

กำลังภายในของหนุ่มไร้ชื่อคนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อเมื่อเขารวบยกเธอด้วยแขนข้างเดียว

"อย่าข่มขืนข้านะ อย่าแต๊ะอั๋งข้าด้วย" เย่วละเมอขณะที่เอนหลังพิงอกของเขาไว้

"จับตรงนี้เฉยๆได้ไหมล่ะ ข้าหนาวมือแข็งไปหมดแล้ว" หนุ่มไร้นามเอามือสองข้างซุกคอเสื้อแล้วล้วงจับนมเต้าน้อยๆ

อือ! ๆ ๆ เธอครางละเมอขณะที่โดนมือเย็นเฉียบบีบคลึงเต้าเบาๆ

กร่อด! ๆ ๆ หนุ่มใหญ่ขบกัดฟันตัวเองด้วยความหมั่นเขี้ยว เขาเผลอบีบเต้าสาวน้อยแรงจนเธอได้สติตื่น

"บอกว่าอย่าทำ ๆ" เย่วเอามือกุมมือใหญ่ๆที่ซุกอกเสื้อของเธอ เล็บมือของเธอบาดหลังมือเขาจนเจ็บ

เขาเลิกบีบนมแต่กลับเอานิ้วมือมาบี้หัวนมแดงๆของเธอเล่น

"บี้ตรงนี้เล่นเฉยๆ เจ้าจะได้หลับสบาย" เขาบอก

"อย่าหาทำ" เย่วเอ่ยเสียงเบาขณะที่เสียวหัวนมหวิวๆ นิ้วมือสากๆที่บี้หัวนมของเธอทำให้ขนลุกซู่ไปทั่วทั้งเรือนร่าง

"ไม่ให้ทำงั้นข้าไม่กอดเจ้านะเอ้า" หนุ่มไร้นามขู่

อ้อมกอดของเขาถึงเเม้จะเย็นชาแต่เป็นสิ่งเดียวที่ให้ความอบอุ่นแก่เธอได้ในคืนที่เหน็บหนาวเฉกเช่นนี้

เยวลี่ซูหลับคาอกคนที่ไม่รู้จักบนหลังม้าของเขาไปโดยไม่ได้ขัดขืน อันที่จริงเธอไม่ได้ตอบเขาด้วยซ้ำไป

ความแค้น ความมืด และหนุ่มหื่นที่ไม่รู้จัก กับหลังม้าและอ้อมกอด

ชะตากรรมชีวิตของสาวน้อยจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นไม่มีทางล่วงรู้ได้เลย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

คุณธิดา
5.0

นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

Ellary Delossa
5.0

หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ