เทพดาบจอมหื่นกับสาวน้อยสุดแซ่บ

เทพดาบจอมหื่นกับสาวน้อยสุดแซ่บ

nugkeanransawat

5.0
ความคิดเห็น
35.4K
ชม
12
บท

เทพดาบจอมหื่นกับสาวน้อยสุดแซ่บ (เรื่องสั้น) เยวลี่ซูคือเด็กสาวอายุ18ปีที่ถูกฆ่าล้างตระกูล เธอตามหาเทพดาบที่มีนามว่ามหาปุโรหิตเพื่อขอให้เขาล้างแค้นให้กับครอบครัว การตามหาเทพดาบนั้นลำบากสาหัสสากรรจ์นัก กว่าจะได้ล้างเค้นให้สาสมใจเธอต้องแลกกับความสาวและความสวยของตัวเอง แรงปรารถนาอาฆาตทำให้สาวน้อยยอมพลีกายถวายตัวแก่ผู้ชายหื่นแบบไร้ข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น

บทที่ 1 เจอผู้ชายหื่น

เทพดาบจอมหื่นกับสาวน้อยสุดแซ่บ

ตอน เจอผู้ชายหื่น

ท่ามกลางเปลวเพลิงที่กำลังสุมเผาซากศพที่กองสูงเท่าบ้าน สาวน้อยเนื้อตัวตัวขาวโพลนดั่งหิมะกำลังนั่งคุกเข่าร้องไห้กระซิกๆ

ตรงหน้าคือร่างไร้วิญญาณของท่านพ่อและท่านแม่กับชาวบ้านหลายครอบครัวที่กำลังมอดไหม้

หยาดน้ำใสไหลพาดเป็นทางอาบสองแก้ม ฮือ! ๆ ๆ เสียงร้องช่างแหลมสูงจับใจ

เสื้อคลุมลายดอกเหมยที่ห่อคลุมเรือนร่างขาวโพลนเปียกชุ่มโชก น้ำตาของเธอไหลออกมาดั่งธารน้ำใสที่ไม่รู้จักหยุดจักสิ้น

เมื่อคืนก่อนมีการฆ่ากวาดล้างคนทั้งหมู่บ้านโดยทหารเมืองฉิน ผู้คนเมืองกังจึงล้มตายดั่งกลีบดอกไม้ที่โรยรายามหิมะแรกมาเยือน

"เฮ้สาวน้อย เจ้านั่งอยู่ตรงนี้จะโดนพวกมันจับไปข่มขืนนะ" เสียงแหบพร่าดังมาจากชายชุดคลุมสีดำด้านหลัง

เขาตัวสูงลิบแต่ผอมเอามากๆ ใบหน้าเข้มคมของเขากับผิวสีแทนช่างดูหล่อเหลาและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน

"ทำไม ถ้าใครเข้ามาข้าจะฆ่ามันให้ตายไปกับข้า" เยวลี่ซูหันมาตวาดใส่หนุ่มไร้นามทั้งน้ำตา ยามที่ใบหน้าขาวโพลนสะบัดหันน้ำตาสาดกระจายลงผิวดิน

เธอตกใจเมื่อเห็นว่าหนุ่มนิรนามเขาแก่กว่าเธอมาก แถมที่หลังยังสะพายดาบสนิมเขรอะไว้ถึงสองอัน

หือ! เขาเดินย่างกรายเข้ามาและก้มมองใบหน้าเรียวเล็กของเย่ว

สาวน้อยตัวสั่นเมื่อเห็นใบหน้าที่คมขลังของเขาอย่างเต็มตา โดยเฉพาะดวงตาที่เย็นชาและดุดันคู่นั้นทำให้เธอลืมร้องไห้ไปเลย

"ถ้าไม่อยากตายก็กลับบ้านไป" เสียงแหบพร่าตวาดดังขึ้นมาจนเยวลี่ซูต้องลุกถอยหนีเขา

"เอ้า ทำไมไม่รีบไปอีก เดี๋ยวก็จับข่มขืนซะหรอก ขาวๆสวยๆยังงี้" หนุ่มชุดคลุมสีดำเปลี่ยนเสียงโหดเป็นทะลึ่งทะเล้นได้ราวกับพลิกดาบ

"ข้าไม่มีบ้านแล้ว ทุกคนตายหมด" สาวน้อยใจแข็งตวาดเสียงลั่น ใบหน้าเล็กสวยเงยสูงจนเจ็บคอเมื่อร่างชายตรงหน้าตัวสูงกว่าเธอมาก

"แล้วเจ้าชื่ออะไรหิ" ชายไร้นามเดินเข้ามาจับปลายคางสาวน้อยที่สูงเพียงอกของเขา

"ข้าชื่อเยวลี่ซู เรียกว่าเย่วก็ได้" นางตอบ

ใบหน้าเรียวสวยที่มีแก้มอิ่มจ่ำม่ำสบตาโตใส่แววตาที่คมดุคู่นั้น

ในเมื่อสิ้นหวังเย่วยอมตาย ในโลกนี้ไม่มีอะไรให้น่ากลัวอีกแล้ว เพียงหน้าดุๆของหนุ่มคนนี้คงไม่อาจทำให้เธอหวาดกลัวได้อีก

"งั้นรึ แล้วเจ้ามาเฝ้ากองเพลิงทำไม รอเก็บอัฐถิหรือ" หนุ่มตัวสูงปล่อยคางแล้วเอามือใหญ่ๆลูบถูแก้มอันนุ่มนิ่มของเย่ว

สายลมเย็นกับมือที่เย็นเฉียบเหมือนผีตายซากของเขาทำเอาเย่วตัวสั่นสะท้าน

"ข้ามารอเทพดาบต่างหาก เจ้ารู้จักไหม" เย่วถอยหนีมือที่คลอเคลียแก้มของเธอแล้วตะโกนใส่หน้าหล่อๆ

"บ้าบอ เทพดงเทพดาบที่ไหน" หนุ่มตัวสูงแสยะยิ้มตอบ เขาดูขำขัน

"เจ้าไม่รู้จักท่านมหาปุโรหิตเหรอ ข้าจะหาตัวท่านให้เจอแล้วให้ท่านฆ่าล้างบางทหารแคว้นฉิน" เย่วตอบ

"งั้นหรือ หิ ๆ งั้นถ้าฆ่าพวกที่ฆ่าพ่อแม่เจ้าได้แล้วจะทำอะไรต่อ" หนุ่มตัวสูงหัวเราะไปถามไปเขายืนตรงหน้ากองซากศพอย่างขำขันไร้หัวใจ

"ก็ฆ่าแม่ทัพมัน ฆ่าอำมาตย์ของมัน แล้วก็ฆ่าฮ่องเต้ของมัน" เย่วเงยหน้าสูงตอบฉอดๆ

"ฮ่า! ๆ ๆ เจ้ามันบ้า คนตายก็ตายไปแล้วจะคิดแค้นอะไรนักหนา" หนุ่มชุดคลุมสีดำหัวเราะลั่น เขาเอามือหยิกแก้มสองข้างของเย่วเขย่าใบหน้าสวยไปมาเพื่อเรียกสติ

ป๊าบ! เย่วเอามือเล็กขาวตีมือใหญ่ๆสีดำด้านของเขาและดุด่า

"อย่ามายุ่งอย่ามาโดนตัวข้านะเจ้าคนหื่น บ้ากาม โรคจิต" เสียงแหลมสูงบาดหู

"จับนิดจับหน่อยไม่ได้หรือ ถ้าข้าไม่อยู่ตรงนี้เจ้าอาจจะโดนลากไปข่มขืนแล้วโยนเข้ากองไฟไม่รู้ด้วยนะ" หนุ่มตัวสูงบอกแล้วชี้นิ้วไปรอบๆ เมื่อเย่วมองตามนิ้วเขาไปไกลๆเธอเห็นมีเงาคนดำๆอยู่หลายคน พวกมันน่าจะเป็นโจรป่า

"ถึงตายก็ไม่กลัว ข้าจะได้ไปอยู่กับพ่อแม่" เย่วเถียง

อุ๊ปส์! เธอพูดไม่ออกแล้วเมื่อโดนมือใหญ่ๆจับแก้มสองแก้มบีบจนปากจู๋

"ถ้าเจ้าให้จูบข้าอาจจะพาเจ้าไปเมืองข้างหน้าก็ได้ ไม่แน่เจ้าอาจเจอเทพดาบที่นั่น" หนุ่มตัวสูงบอก แววตาของเขาแฝงความเจ้าเล่ห์

เย่วตาค้างโต แก้มโดนมือสากๆบีบจนแดงทั้งสองข้าง ลมหนาวพัดผ่านริมฝีปากสีชมพูเรียวบางจนสั่นเกร็ง

"ว่าไง ไม่อยากแก้แค้นแล้วเหรอ" หนุ่มตัวสูงตะคอกใส่หน้าสวยๆ เย่วสะดุ้งโหยงมือของเขาบีบแก้มเธอจนริมฝีปากบู้บี้ไปหมดแล้ว

"อ๊ะ อื้อ" สาวน้อยพยักหน้าแล้วหลับตากลั้นหายใจ

ใบหน้าหล่อเหลาที่คมเข้มดุดันค่อยๆก้มลงมาช้าๆ แววตาที่เย็นชาน่ากลัวมองอาบโลมใบหน้าสวยและที่แก้มพองโตอย่างพออกพอใจ

อุ๊ย! จมูกโด่งเฟี้ยวของหนุ่มไร้นามจิ้มปลายจมูกของเย่วจนเธอสะดุ้ง ตากลมแป๋วเบิกโพลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อๆที่กำลังบดชนหน้าของตัวเอง

จุ๊บ! ๆ ๆ ริมฝีปากแหบแห้งของหนุ่มใหญ่บดบี้ริมฝีปากนุ่มๆจนชุ่มน้ำลายสาวน้อย

อื้อ! ๆ อือ! เย่วตาเถลือกถลน เธอเสียวในอกวาบหวามจนลืมหายใจเมื่อโดนจูบครั้งแรกในขีวิต

ลิ้นสากๆของเขาสอดเข้ามาพันประสานกับลิ้นของเธอในปาก น้ำลายของสาวน้อยแตกพร่าเหมือนตอนที่กินของเปรี้ยวยังไงยังงั้น

จุ๊บ! ๆ ๆ เขารีบดูดแย่งเอาน้ำลายของสาวน้อยเข้าไปกลืนกินอย่างหิวกระหาย ดูท่าเหมือนคนอดข้าวอดปลามานับสิบๆวัน

อื้อ! ๆ ๆ สาวเย่วเอาสองมือจิกชุดคลุมสีดำตรงคอเสื้อ เธอพลักอกเขาออกแต่กลับยืนเขย่งเท้าสูงบดปากสีชมพูจูบตอบเขา

อืม! ๆ ๆ อ่าส์! หนุ่มไร้นามจูบไปครางไปอย่างกระสันต์เสียว เขาเสพย์ความสาวความสวยของเย่ว และความอบอุ่นจากเลือดสาวน้อยแรกรุ่นอย่างเธอที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วผิวกาย

แฮ่ก! ๆ ๆ หิ! ๆ กว่าหนุ่มใหญ่จะยอมดึงใบหน้าหล่อๆกลับก็นานสองนาน เขายืนยิ้มและหายใจหอบเหนื่อย

เย่วเองก็หอบหายใจแรง ผิวหน้าที่ขาวเนียนละมุนมีเหงื่อซึมออกมาทั้งๆที่อากาศโดยรอบเหน็บหนาว

"ไหนล่ะม้า ไหนล่ะเมืองข้างหน้า" เย่วยืนกอดอกจ้องตาดุๆ แถมยังตวาดลั่นใส่เขา

"ไปสิ ตามมา" เขาบอก

สาวน้อยเดินตามหนุ่มตัวสูงที่สะพายดาบสนิมสองอันต้อยๆ เธอมาขึ้นขี่หลังม้าและกอดเอวเขาไว้แน่น

"เจ้าเคยได้ยินไหม เทพดาบมหาปุโรหิตน่ะ" เธอตะโกนถามหนุ่มใหญ่เสียงดังทัังๆที่ตัวเองก็กอดเขาตัวกลม

"ไม่รู้สิ เป็นยังไงเหรอ" เขาถามกลับ น้ำเสียงแหบพร่าราวกับไม่มีน้ำซักหยดตกถึงท้อง

"โถ่ เจ้าโง่จริงๆ เทพดาบจะผดุงความยุติธรรมและฆ่ามารร้าย ท่านต้องทำตามคำขอของข้าแน่ๆ" เย่วเหม่อมองดาวบนฟ้าและพร่ำบอก ความหวังเดียวที่จะมีชีวิตอยู่ต่อคือการล้างแค้น

"แล้วถ้าเทพดาบเป็นมารเสียเองล่ะ" หนุ่มไร้นามถามกลับ เขาควบม้าเดินฝ่าความมืดบนทุ่งหญ้าไปข้างหน้าช้าๆท่ามกลางลมหนาวที่พัดโชย

"นี่เจ้า อย่าสามหาวกับท่านเทพดาบแบบนั้น" เย่วหยิกเอวเขาแล้วดุด่า

โอ๊ย! ๆ ๆ ฮ่า! ๆ ๆ หนุ่มไร้นามร้องเจ็บปนหัวเราะร่วน

"ท่านเทพดาบน่ะผดุงความยุติธรรม หากท่านได้ฟังคำขอของข้า ท่านจะฆ่าล้างแค้นให้ข้าแน่ๆ" เย่วพร่ำต่อ

นานสองนานที่เธอพรรณาความวิเศษวิโสของเทพดาบกรอกใส่หูคนที่ตัวเองไม่รู้จัก จนล่วงเลยทุ่งหญ้ามาถึงเนินทรายกว้างเสียงเเจ๋วๆจึงเงียบไป

"เป็นอะไรไปนี่ เอ้าหลับแล้วเหรอ" หนุ่มไร้นามถามเมื่อหน้าผากของเย่วเขกหลังของเขาหลายที

ขวับ! เขาหันมาจับร่างจ่ำม่ำของเย่วแล้วยกเธอมานั่งตรงหน้าตักโอบกอดเธอเอาไว้ด้วยสองแขน

กำลังภายในของหนุ่มไร้ชื่อคนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อเมื่อเขารวบยกเธอด้วยแขนข้างเดียว

"อย่าข่มขืนข้านะ อย่าแต๊ะอั๋งข้าด้วย" เย่วละเมอขณะที่เอนหลังพิงอกของเขาไว้

"จับตรงนี้เฉยๆได้ไหมล่ะ ข้าหนาวมือแข็งไปหมดแล้ว" หนุ่มไร้นามเอามือสองข้างซุกคอเสื้อแล้วล้วงจับนมเต้าน้อยๆ

อือ! ๆ ๆ เธอครางละเมอขณะที่โดนมือเย็นเฉียบบีบคลึงเต้าเบาๆ

กร่อด! ๆ ๆ หนุ่มใหญ่ขบกัดฟันตัวเองด้วยความหมั่นเขี้ยว เขาเผลอบีบเต้าสาวน้อยแรงจนเธอได้สติตื่น

"บอกว่าอย่าทำ ๆ" เย่วเอามือกุมมือใหญ่ๆที่ซุกอกเสื้อของเธอ เล็บมือของเธอบาดหลังมือเขาจนเจ็บ

เขาเลิกบีบนมแต่กลับเอานิ้วมือมาบี้หัวนมแดงๆของเธอเล่น

"บี้ตรงนี้เล่นเฉยๆ เจ้าจะได้หลับสบาย" เขาบอก

"อย่าหาทำ" เย่วเอ่ยเสียงเบาขณะที่เสียวหัวนมหวิวๆ นิ้วมือสากๆที่บี้หัวนมของเธอทำให้ขนลุกซู่ไปทั่วทั้งเรือนร่าง

"ไม่ให้ทำงั้นข้าไม่กอดเจ้านะเอ้า" หนุ่มไร้นามขู่

อ้อมกอดของเขาถึงเเม้จะเย็นชาแต่เป็นสิ่งเดียวที่ให้ความอบอุ่นแก่เธอได้ในคืนที่เหน็บหนาวเฉกเช่นนี้

เยวลี่ซูหลับคาอกคนที่ไม่รู้จักบนหลังม้าของเขาไปโดยไม่ได้ขัดขืน อันที่จริงเธอไม่ได้ตอบเขาด้วยซ้ำไป

ความแค้น ความมืด และหนุ่มหื่นที่ไม่รู้จัก กับหลังม้าและอ้อมกอด

ชะตากรรมชีวิตของสาวน้อยจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นไม่มีทางล่วงรู้ได้เลย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม
โดนลูกติดผัวจับทำเมีย

โดนลูกติดผัวจับทำเมีย

นิยายสั้น

5.0

เรื่องของอารียาคุณครูสาวใหญ่วัย35กับหนุ่มน้อยลูกติดผัววัย19ที่ชื่อโจ โจเป็นเด็กช่างอาชีวะสายโหดและหื่นกาม เธอมักจะโดนลูกชายแอบลวนลามอยู่บ่อยๆ ทว่าเธอกลับเป็นสาวหัวโบราณที่ไม่กล้าแม้ปริปากบอกสามี ด้วยความกลัวว่าบ้านจะแตกสาแหรกขาดอารียาเลยปล่อยเลยตามเลย แค่คำพูดห้ามปรามทำให้คุณแม่พลาดท่าเสียทีให้ลูกเลี้ยงไปจนได้ เธอโดนโจจับกดจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปหลายหนจนตัวเองก็ติดใจเสียดื้อๆ ในที่สุดอารียาก็ต้องจำใจมีผัวถึงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน คนแรกคือผัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย อีกคนคือลูกติดผัวที่หื่นเสียเหลือเกิน

บ้านของฉัน มันส์หยด

บ้านของฉัน มันส์หยด

โรแมนติก

5.0

นิยายสายบาป มั่วในครอบครัว ลูกเลี้ยง พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง นีน่าเป็นเด็กสาวตัวเล็กที่ใบหน้าสวยคมตาโต เธอมีพี่ชายต่างสายเลือดชื่อนีโน่เขาอายุ22ปีหล่อล่ำผิวเข้มตัวสูง ทั้งคู่ต่างก็เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยงดูโดยพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงที่ชื่อว่าสิงหากับเอมอร ทุกอย่างเหมือนจะราบรื่นเมื่อนีน่าถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีจนโตเป็นสาว เรื่องมาเกิดเมื่อวันครบรอบอายุ18ปีบริบูรณ์ของเธอ เธอแอบเห็นแม่ของตัวเองจับแท่งเอ็นของพี่ชายบีบรูดต่อหน้าต่อตา นับแต่นั้นมาในบ้านก็มีแต่เรื่องแปลกๆเกิดขึ้น ทั้งมีคนแอบดูเธออาบน้ำ ทั้งพ่อที่ชอบมาทำหวานใส่และยังชอบกอดจูบ ไหนจะแม่กับพี่ชายที่เล่นชู้กันในบ้าน พวกเขาทำเอาเธอเตลิดจนลืมความผิดชอบถูกผิด ทุกอย่างจะลงเอยอย่างไรไม่รู้เลยเมื่อคนในบ้านมั่วกันไปหมด.......

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

Daniel
5.0

-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ