Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เผลอรัก(ฅนเถื่อน)

เผลอรัก(ฅนเถื่อน)

เทียนธีรา

5.0
ความคิดเห็น
81.3K
ชม
75
บท

คนที่ผยองตัวอยู่เสมออย่างนายหัวสิงห์ ไม่เคยยอมให้ใครมากระตุกหนวดได้ง่ายๆ แม้แต่ดอกไม้ช่อเดียว ที่คนบังอาจมาเด็ดให้หลุดจากต้นในอาณาเขตของเขา คนเด็ดก็ต้องชดใช้ด้วยสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตสาว เธอจะต้องคลั่ง เธอจะต้องหิว เธอจะต้องลุ่มหลงในรสสวาทของเขาตลอดเวลา เธอจะต้องเรียกร้อง ครางคร่ำ และอ้อนวอนให้เขาปรนป้อนให้ แต่เขาจะให้ก็ต่อเมื่อ เขามีความปรารถนาเท่านั้น นั่นคือบทลงโทษที่นายหัวสิงห์ตั้งใจจะมอบให้กับเด็กสาวขี้ขโมย เพราะนอกจากเธอจะย่องเข้ามาเด็ดดอกไม้ของเขาไปแล้ว เธอยังมาเด็ดหัวใจของเขาติดมือไปด้วย

บทที่ 1 ไม่หยุดอยู่แค่ครึ่งๆ กลางๆ

“น้องปลายมีพัสดุมาส่ง”

ประโยคนั้นดังขึ้นจากคนดูแลหอพัก ในตอนที่เจ้าของชื่อเดินผ่านหน้าสำนักงานเพื่อจะขึ้นห้องของตัวเอง ทำให้ปลายฝนต้องแวะไปหาคนเรียกอย่างงงๆ

“จากไหนเหรอคะ”

“ไม่รู้สิ ด้านหน้ากล่องไม่ได้เขียนชื่อไว้”

“แล้วใครมาส่งคะ” ปลายฝนยังซักต่อขณะหลุบตามองกล่องสีแดงผูกโบสีขาว ซึ่งมันไม่น่าใช่พัสดุธรรมดาทั่วไป

“แมสเซนเจอร์น่ะ อาจจะเป็นของขวัญแสดงความยินดีกับการเรียนจบก็ได้นะ ปลายเอาขึ้นไปแกะดูสิ” เจ้าหน้าที่หอพักบอกยิ้มๆ จากนั้นก็นั่งลงทำงานต่อ ทำให้ปลายฝนต้องถือกล่องสีแดงนั้นขึ้นไปยังห้องของตัวเอง

ร่างบางทรุดตัวนั่งลงบนเตียง หลังจากวางกระเป๋าและชี้ตไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ส่วนกล่องสีแดงที่ถือขึ้นมาด้วยถูกวางไว้ข้างๆ ตัว คราแรกเธอว่าจะไม่สนใจ แต่ด้วยความสงสัยว่าใครเป็นคนส่งมา ทำให้ต้องวาดมือไปหยิบกล่องกล่องนั้นมาไว้บนตัก แล้วค่อยๆ แกะอย่างเบามือ เพราะเสียดายกระดาษและริบบิ้นที่คนห่ออุตส่าห์บรรจง

เทปที่ติดเชื่อมกระดาษสีแดงหลุดออกทีละอันๆ เธอเดาว่าคนที่ส่งของขวัญมาให้ น่าจะเป็นอาหรือพี่สาวคนใดคนหนึ่ง เพราะคนที่ใส่ใจเธอทุกรายละเอียดขนาดนี้ ก็คงมีแต่คนในครอบครัวเท่านั้น ตั้งแต่โตเป็นสาวจนตอนนี้อายุยี่สิบสองปีแล้ว เธอยังไม่เคยมีแฟนเลย แม้จะมีคนมาตามจีบหลายคนตั้งแต่เรียนมัธยมปลายกระทั่งเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ผู้ชายในวัยไล่เลี่ยกันเหล่านั้น กลับไม่มีใครทำให้หัวใจเธอเต้นแรงได้สักคน

วันนี้เป็นการสอบวันสุดท้าย ซึ่งก็น่าจะเป็นวันสุดท้ายของการเรียนในระดับปริญญาตรีด้วย โพรเจกต์และการสอบทุกวิชาที่ผ่านมา ปลายฝนมั่นใจว่าตัวเองผ่านหมด และอาของเธอเคยเปรยๆ ว่าหลังจากเรียนจบ อยากให้เธอกลับไปทำงานช่วยที่บ้าน แต่เธอก็ยังไม่พร้อมจะกลับไป ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่บอกใครไม่ได้

เมื่อประหวัดคิดไปถึงเรื่องที่ตัวเองพยายามลืมมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ปลายฝนก็รีบดึงสติตัวเองกลับมา แล้วหันไปสนใจของในกล่องของขวัญซึ่งวางอยู่ตรงหน้า มือบางหยิบฝากล่องเปิดออก เพื่อจะได้รู้เสียทีว่าของที่อยู่ข้างในเป็นอะไร

หัวใจเต้นแรงโลดขึ้น ในทันทีที่เห็นว่า สิ่งที่อยู่ข้างในกล่องนั้น คือดอกกล้วยไม้ทับแห้ง ที่แม้ว่ามันจะแห้งแล้ว แต่ปลายฝนกลับจำได้แม่นว่ามันคือ ช่อดอกกล้วยไม้ป่าสีขาวแซมม่วงช่อนั้น ช่อที่เธอข้ามเขตลำธารรีสอร์ตไปเก็บมัน แล้วโดนเจ้าของอาณาเขตอีกฝั่งจับได้

‘เธอกำลังทำตัวเป็นเด็กขี้ขโมย’

นั่นคือคำพูดของเจ้าของกล้วยไม้ ก่อนที่เขาจะลงโทษเด็กขี้ขโมยอย่างเธอ ด้วยการประกบปากลงจูบ แต่เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่จูบ เขาทำมากกว่านั้น เขาแตะต้องลูบโลมเธอแทบจะทุกส่วน โดยที่เธอไม่มีสติสัมปชัญญะและไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านเลย เธอยอมเขาอย่างง่ายดาย ยอมถึงขั้นที่แก่นกายแกร่งโชนใหญ่โตรุกลึกเข้ามา แม้จะไม่ได้เข้ามาทั้งหมด ทว่าเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ทำแบบนั้นกับความสาวของเธอ และหากว่าอาของเธอไม่มาตามเสียก่อน การล่วงล้ำของเขามันคงจะไม่หยุดอยู่แค่ครึ่งๆ กลางๆ อย่างนั้นแน่

ความลับเรื่องนี้ถูกเก็บงำมาตลอดหนึ่งปี เธอไม่เคยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง แม้แต่พี่สาวที่สนิทกันมากอย่างปอไหมก็ไม่เคยปริปากเล่า หลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้นเธอหนีกลับมากรุงเทพฯ ทันที และหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็อยู่กับความหวาดระแวงมาตลอด

ผู้ชายคนนั้นเคยมาดักรอที่หน้าหอพักสองสามครั้ง โชคดีที่เธอเห็นก่อนจึงหนีได้ทัน เธอไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขา เพราะนอกจากเขาจะเป็นคนที่พรากความสาวไปจากเธอแล้ว เขายังเป็นศัตรูของอา เธอไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับผู้ชายต้องห้ามแบบนั้น อีกอย่างเธอไม่รู้ว่าเขามีเมียหรือยัง ถ้ามีแล้ว นั่นเท่ากับว่าเธอเป็นชู้กับผัวชาวบ้าน แม้จะโดยไม่ตั้งใจก็ตาม

กริ๊งงง…

ร่างบางสะดุ้งเบาๆ แต่ก็ขอบคุณที่เสียงโทรศัพท์มือถือทำให้ตัวเองหลุดออกมาจากภวังค์ที่กำลังว้าวุ่นได้

“ว่าไงพี่ปอ” ปลายฝนพยายามทำเสียงร่าเริง หลังจากกดรับสายจากพี่สาว

“สอบเสร็จแล้วใช่มั้ย”

“เสร็จแล้ว วันนี้วันสุดท้ายเลย ว่าแต่พี่ปอถามทำไม จะส่งของขวัญมาแสดงความยินดีกับน้องเหรอ” เสียงหวานใสเอ่ยสัพยอก พร้อมกับชำเลืองมองดอกกล้วยไม้ทับแห้งอย่างเป็นอัตโนมัติ ก่อนจะรีบเบนสายตาหนี เพราะกลัวว่าดอกไม้ช่อนั้นจะทำให้ตัวเองวอกแวกอีก

“เอาไว้ประกาศผลสอบก่อนสิ ถ้าผ่านพี่ถึงจะให้ของขวัญ”

“ผ่านอยู่แล้ว รุ่นนี้แล้ว”

คำพูดซุกซนแกมขี้เล่นของน้องสาว ทำให้คนปลายสายยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ปอไหมรู้ดีว่าแม้น้องสาวจะไม่ใช่คนที่เรียนเก่งมาก แต่ก็มีความรับผิดชอบกับเรื่องการเรียนดีพอ

“งั้นเอาไว้กลับบ้านแล้วจะซื้อให้ ไปเลือกเองเลยจะได้ถูกใจ”

“ว้า แบบนี้ก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ”

“จะอยากเซอร์ไพรส์อะไรนักหนาหือ ไม่ใช่เด็กแล้วนะเรา เรียนก็จบแล้ว อีกไม่กี่ปีก็น่าจะได้แต่งงาน”

“แต่งกับใครพี่ปอ ขนาดแฟนปลายยังไม่มีเลย”

“ก็ดูอย่างพี่สิ เคยมีแฟนที่ไหน มาทีเดียวก็มีผัวเลย” ปอไหมใช้คำตรงๆ กับน้องสาวเพราะสนิทสนมกันมาก การแต่งงานมีครอบครัวทำให้มุมมองชีวิตของปอไหมเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากพอสมควร

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เทียนธีรา

ข้อมูลเพิ่มเติม
กริชเพียงขิม

กริชเพียงขิม

โรแมนติก

5.0

ศาสตรา ภูวเดชาธร คือผู้ชายที่ ภัคธีมา บอกตัวเองว่าเขาช่างร้ายกาจสมกับชื่อ ผู้ชายคนนี้พร้อมจะฟาดฟันให้เธอย่อยยับแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทั้งๆ ที่เธอคือว่าที่น้องสะใภ้ หรือเขารังเกียจว่าเธอจน ไม่คู่ควรกับคนในตระกูลภูวเดชธรเจ้าของไร่ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ เขาจึงกีดกันเธอกับน้องชายเขาทุกวิถีทาง แม้ภัคธีมาพยายามจะไม่ข้องแวะกับเขา หากทว่าในที่สุด โชคชะตาก็กลั่นแกล้ง ให้ต้องตกไปอยู่ในบ่วงพันธนาการของเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ภัคธีมาจึงได้แต่นับวันรอ… รอวันที่กริชผู้แข็งกร้าวอย่างเขาจะปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แต่ครั้นเมื่อถึงเวลาจริงๆ มันกลับไม่ง่ายเลย เพราะหัวใจที่แสนอ่อนไหวถูกบ่วงเสน่หาร้อยรัดเอาไว้อย่างแน่นหนา

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

มหาเศรษฐี

5.0

เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น

วิวาห์รอง

วิวาห์รอง

มหาเศรษฐี

5.0

เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับว่าที่เจ้าบ่าวในคืนแต่งงาน ทำให้พรรษรดาต้องเข้าพิธีกับน้องชายของเจ้าบ่าวแทน แม้วิวาห์ครั้งนี้จะเป็นเพียงวิวาห์สมมติในความรู้สึกของเขาและเธอ หากทว่าความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ข้างในนั้นต่างหากที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอจะกล้าบอกความในได้อย่างไร ว่าแท้จริงแล้วผู้ชายที่เธอมีใจใฝ่ปองและอยากแต่งงานด้วยจริงๆ ก็คือเขา ในเมื่อผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าสามี เอาแต่เฉยเมยเย็นชาใส่ ซ้ำยังเอ่ยปากขอหย่าอยู่หลายครั้ง พรรษรดาจะจัดการปัญหาหัวใจครั้งนี้อย่างไรดี ในเมื่อยิ่งเขาทำให้เจ็บ หัวใจไม่รักดีก็ยิ่งรักเขามากขึ้นๆ เธอควรรั้งเขาไว้ให้เป็นสามีในนามเพื่อทรมานใจกันเล่นๆ หรือว่าปล่อยเขาไปให้สมรักกับผู้หญิงอื่นตามที่เขาร้องขอ ***ตัวอย่าง*** “ฉันรักเธอพรรษรดา ฉันรักเธอ รักเธอคนเดียว” เขาสารภาพออกมาเสียงแหบห้าว นัยน์ตาหม่นมัวไปด้วยแรงรักแรงปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ข้างใน “คุณภู...” “หัวเราะสิ หัวเราะเยาะฉัน หัวเราะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่มันเป็นทาสรักของเธออย่างโงหัวไม่ขึ้นมาตลอดหลายปี หัวเราะเยาะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่ตัดใจไม่ได้เสียที” คำสารภาพของเขาเหมือนระลอกคลื่นยักษ์ที่กระแทกโครมเข้าใส่หัวใจดวงน้อยของพรรษรดา เธอถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะแบกรับความรู้สึกอันท่วมท้นนั้นไม่ไหว “ฉันมันคงน่าสมเพชมากสินะ” ร่างใหญ่ขยับตัวเหมือนจะถอดถอนออกไป แต่พรรษตวัดขารัดรอบเอวสอบไว้แน่น ทำให้เขาดำดิ่งเข้ามาฝังลึกอยู่ในช่องสาวอีกครั้ง “อย่าบังอาจลุกจากตัวพรรษ” เธอแหวใส่เขาเสียงดังลั่น ตัวสั่นเทาเพราะความรัญจวนและความเต็มตื้นในหัวใจ “พรรษรดา...” “อย่าคิดว่าจะผลักไสพรรษง่ายๆ อีก รู้มั้ยว่าพรรษรอนานแค่ไหน รู้ไหมว่าต้องเสียน้ำตาไปกี่ครั้งเมื่อคิดว่าตัวเองรักคุณภูข้างเดียว อย่ามาบอกรักพรรษ ล้อเล่นกับหัวใจพรรษแล้วหนีไปง่ายๆ อีก พรรษไม่ยอมอีกแล้ว คราวนี้พรรษจะตามรังควานไปตลอดชีวิตเลย อย่าหวังว่าจะได้มีโอกาสมีความสุขกับผู้หญิงคนไหน อย่าหวังว่าจะได้บอกรักใครอีก เพราะคำว่ารักของคุณภูจะเป็นของพรรษคนเดียวตลอดไป”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ซีไซต์
5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เผลอรัก(ฅนเถื่อน)
1

บทที่ 1 ไม่หยุดอยู่แค่ครึ่งๆ กลางๆ

24/02/2023

2

บทที่ 2 ร้อนผ่าว

24/02/2023

3

บทที่ 3 ชอบมีความลับ

24/02/2023

4

บทที่ 4 นายหัวสิงห์

24/02/2023

5

บทที่ 5 ถูกกล่าวหา

24/02/2023

6

บทที่ 6 เป็นคนพิเศษ

24/02/2023

7

บทที่ 7 ห้องกลาง

24/02/2023

8

บทที่ 8 ชัดเจนหนักแน่น

24/02/2023

9

บทที่ 9 ถูกทิ้งไม่ไยดี

24/02/2023

10

บทที่ 10 พาไปทำงาน

24/02/2023

11

บทที่ 11 งานแต่งงานของปอไหม I

24/02/2023

12

บทที่ 12 งานแต่งงานของปอไหม II

24/02/2023

13

บทที่ 13 งานแต่งงานของปอไหม III

24/02/2023

14

บทที่ 14 อย่าหลงรักที่นี่

24/02/2023

15

บทที่ 15 เห็นหัวกันหรือเปล่า

24/02/2023

16

บทที่ 16 ห่วงความรู้สึกของเมียการันต์

24/02/2023

17

บทที่ 17 อ่อนระทวย

24/02/2023

18

บทที่ 18 ดื่มกินความหวาน

24/02/2023

19

บทที่ 19 ต้องการจนพอใจ

24/02/2023

20

บทที่ 20 รสชาติอันสุดหฤหรรษ์

24/02/2023

21

บทที่ 21 ไม่แคร์เธอเลย

24/02/2023

22

บทที่ 22 เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

24/02/2023

23

บทที่ 23 รัญจวนวาบหวาม

24/02/2023

24

บทที่ 24 ปากแข็ง

24/02/2023

25

บทที่ 25 คุณมันคนร้ายกาจ

24/02/2023

26

บทที่ 26 ปล้นชิงความสาว

24/02/2023

27

บทที่ 27 ไฟปรารถนา

24/02/2023

28

บทที่ 28 สุขสม

24/02/2023

29

บทที่ 29 ทุกจังหวะ

24/02/2023

30

บทที่ 30 อยู่ใต้อาณัติ

24/02/2023

31

บทที่ 31 พายุสวาท

24/02/2023

32

บทที่ 32 อดใจไม่ไหว

24/02/2023

33

บทที่ 33 คนของฉัน

24/02/2023

34

บทที่ 34 โรงเก็บเมล็ดกาแฟ

24/02/2023

35

บทที่ 35 โทษของผู้หญิงช่างยั่ว I

24/02/2023

36

บทที่ 36 โทษของผู้หญิงช่างยั่ว II

24/02/2023

37

บทที่ 37 ห่างเหินเย็นชา

24/02/2023

38

บทที่ 38 อาการหน้ามืด

24/02/2023

39

บทที่ 39 ไม่อยากให้เธออยู่ 

24/02/2023

40

บทที่ 40 หลักฐาน

24/02/2023