Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
36.7K
ชม
101
บท

ร่างบางดำดิ่งลึกลงเรื่อยๆ ร่างกายทุรนทุรายเพื่อความอยู่รอด แต่ใจเธอยอมแพ้แล้ว มันอึดอัด มันหนาวเหน็บ นี่สินะความตาย ความตายของเธอที่พี่อิสร์ต้องการ เอมทำให้แล้วนะคะ หวังว่าการกระทำของเอมในครั้งนี้ จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เอมทำให้พี่อิสร์มีความสุข ขอให้ความรักความแค้นระหว่างเราจบลงแค่นี้ เอมเจ็บ เจ็บจนไม่อยากจะหายใจแล้วเช่นกัน ขอบคุณที่บอกให้เอมมาตาย มันน่าจะเป็นหนทางดับทุกข์ที่ดีที่สุดของเอมแล้ว ลาก่อนค่ะพี่อิสร์...

บทที่ 1 เอมจองพี่อิสร์แล้วนะ

สภาพการจราจรยามพลบค่ำยังคงแออัดเช่นเดียวกับทุกวัน อากาศช่วงปลายเดือนเมษายนซึ่งเป็นฤดูร้อน ยิ่งทำให้เมืองที่แออัดไปด้วยผู้คนและตึกรามบ้านช่อง ทวีความร้อนอบอ้าวมากขึ้นไปเป็นเท่าตัว ผู้คนที่อยู่บนยวดยานและสัญจรไปมาบนท้องถนน สีหน้าล้วนแต่ปราศจากรอยยิ้ม หากทว่ากลับเป็นข้อยกเว้นสำหรับชายหนุ่มในชุดกางเกงยีนเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่ปักตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง โครงหน้าคมคร้ามหล่อเหลาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเปล่งประกายแห่งความสุขออกมาอย่างน่าอิจฉา เหมือนดั่งว่าสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายเหล่านั้นไม่สามารถทำอะไรเขาได้

ร่างสูงเกือบหกฟุตก้าวลงจากรถเมล์ แล้วตรงไปยังร้านบะหมี่ข้างทาง ที่มีหญิงวัยกลางคนกำลังจัดวางเก้าอี้อยู่ หนังสือในมือสองสามเล่มกับถุงพลาสติกที่มีต้นไม้ชนิดหนึ่งอยู่ข้างในถูกวางไว้ใกล้ๆ กับรถเข็น ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบกระวีกระวาดไปช่วย ท่าทางการหยิบจับโต๊ะอะลูมิเนียมสีแดงขณะนำมันมากางเป็นไปอย่างคล่องแคล่วและกระตือรือร้น ปราศจากอาการเก้กังเคอะเขินโดยสิ้นเชิง และในอีกไม่กี่นาทีต่อมา โต๊ะสี่ห้าตัวกับเก้าอี้พลาสติกเข้าชุด ก็พร้อมให้ลูกค้าที่เป็นขาประจำและขาจรได้นั่งกินบะหมี่ริมทาง

“สอบกี่วิชาลูก ทำไมวันนี้กลับค่ำจัง” กรองทองถามลูกชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ได้มีท่าทีเคลือบแคลงระแวงสงสัยหรือตำหนิติเตียนใดๆ เพราะลูกชายของตนเป็นเด็กดีตลอด ไม่เคยทำตัวเหลวไหล เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กกระทั่งเรียนอยู่ปีสาม แม้พฤติกรรมบางอย่างจะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามวัย แต่ก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง เหมือนดั่งคนบนฟ้าส่งลูกชายคนนี้มาเป็นของขวัญ ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดในชีวิตของเธอ

“สอบสองวิชาครับแม่ สอบเช้าวิชาหนึ่ง บ่ายวิชาหนึ่ง จริงๆ อิสร์สอบเสร็จตั้งแต่บ่ายสี่โมงแล้วละ แต่ที่ไม่ได้กลับบ้านเลยก็เพราะอิสร์ไปเอาต้นไม้ที่สั่งไว้”

“ต้นอะไรเหรอลูก”

“ต้นไม้ของขวัญวันเกิดน้องเอมน่ะครับ พรุ่งนี้วันเกิดน้องเอม”

“จริงสินะแม่ลืมไปเลย งั้นพรุ่งนี้พาน้องมากินข้าวที่บ้านนะลูก เดี๋ยวแม่จะทำเค้กส้มของโปรดหนูเอมไว้รอ”

“ครับ”

เป็นคำตอบรับสั้นๆ แต่กรองทองรู้ดีว่าลูกชายของตนจะทำตามที่พูด กวินภพกับเอมมาลินคบหากันด้วยความรักแบบบริสุทธิ์และอยู่ในสายตาเธอมาตลอดหลายปี มันเริ่มจากความสัมพันธ์แบบพี่ชายกับน้องสาว ก่อนจะพัฒนาเป็นความรู้สึกลึกซึ้งที่มากกว่าความผูกพัน แม้ตนจะรู้อยู่แก่ใจดีว่าสักวันความรักของลูกต้องมีอุปสรรค เพราะฐานะทางครอบครัวที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กรองทองก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามใดๆ ด้วยเห็นแก่ความสุขของเด็กสองคน และเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าลูกชายของตนเป็นคนดีและเป็นคนเก่งมากพอ ที่จะฝ่าฟันขวากหนามซึ่งอาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้าไปได้

ร้านบะหมี่ข้างทางเริ่มคึกคักเมื่อเวลาล่วงผ่านไปเรื่อยๆ หนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดทำหน้าที่เสิร์ฟบะหมี่ให้โต๊ะนั้นโต๊ะนี้อย่างแข็งขัน โดยไม่มีความเขินอายเลยแม้แต่น้อย ทำให้สายตาของลูกค้าหลายคนต่างมองเขาอย่างชื่นชมและภูมิใจแทนคนเป็นแม่

เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่ม รถสปอร์ตราคาหลายล้านแล่นมาจอดที่หน้าร้านบะหมี่ ดึงสายตาคนทั้งร้านให้หันไปมองด้วยความสนใจ เพราะนอกจากความสวยและราคาของรถแล้ว เด็กหนุ่มสองคนที่ลงมาจากรถคันนั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน คนหนึ่งหล่อเหลาดูดีสะอาดสะอ้าน อีกคนแม้จะเซอร์ๆ แต่ก็เท่และหล่อเข้มชวนมอง ซึ่งจากองค์ประกอบภายนอก ทั้งรถและบุคลิกของทั้งสอง ก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าทั้งคู่คงเป็นทายาทของมหาเศรษฐี เพียงแต่คนมองยังไม่แน่ใจว่าเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาทั้งสองคนนั้น มาทำอะไรที่ร้านบะหมี่ข้างทางแบบนี้

กระทั่งสองหนุ่มตรงเข้าไปหาแม่ค้าและยกมือขึ้นไหว้ ก่อนจะขยับมาทักทายชายหนุ่มวัยเดียวกัน คนที่แอบเฝ้ามองดูอยู่เงียบๆ จึงรู้คำตอบ

“มาทำอะไรวะตะวัน ปรัชญ์” กวินภพเอ่ยถามเพื่อนสนิททั้งสองคน หลังจากยกชามบะหมี่ไปเสิร์ฟให้ลูกค้าเสร็จแล้ว

“มาหาแกน่ะสิ จะชวนไปนั่งชิล” คนที่ตอบคือรังสิมันต์ซึ่งเป็นเจ้าของรถหรูที่จอดอยู่ริมฟุตบาท

“ไม่ว่างว่ะ ช่วยแม่ขายบะหมี่อยู่ วันนี้คนเยอะด้วย”

“ก็กะอยู่ว่าแกจะตอบแบบนี้ ฉันกับไอ้ปรัชญ์ก็เลยจะมาช่วยแกขาย ขายหมดแล้วเราค่อยไปกัน” รังสิมันต์กับปรัชญ์พยักพเยิดอย่างกระตือรือร้น บ่งบอกว่าเตรียมตัวล่วงหน้ามาอย่างดี ความจริงเขาหรือปรัชญ์สามารถเหมาบะหมี่หมดร้านได้สบายๆ แต่ก็ไม่ทำ เพราะรู้นิสัยของกวินภพดีว่าเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรีมากแค่ไหน หากเขากับปรัชญ์ทำแบบนั้น กวินภพคงโกรธจนไม่มองหน้าแน่ๆ

“เฮ้ย…ไม่ต้องเลย พวกแกสองคนไปนั่งรอ เดี๋ยวฉันกับแม่ขายเอง”

“เหอะน่า แกอยู่เฉยๆ ให้ฉันกับไอ้ปรัชญ์ช่วย รับรองว่าบะหมี่ร้านแกหมดภายในครึ่งชั่วโมง”

“พวกแกจะอะไรนักหนาวะ ไปเที่ยวกันสองคนก็ได้นี่หว่า” กวินภพอดจะบ่นเพื่อนไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรนัก แม้เขาจะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากเพื่อนสนิท ทว่าก็ไม่ได้ตัดขาดกิจกรรมที่ควรจะมีร่วมกับเพื่อนฝูงเป็นบางครั้งบางคราว ซึ่งแม่เขาเองก็เข้าใจดี

“ไอ้ไปน่ะไปได้ แต่ขาดแกมันก็ไม่ครบแก๊งดิวะ อีกอย่างวันมะรืนฉันกับไอ้ปรัชญ์ก็ต้องไปฝึกงานแล้วนะเว้ย ใจคอแกจะไม่ไปเลี้ยงฉลองสั่งลาฉันสองคนหน่อยเหรอวะ”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ เทียนธีรา

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ใจร้าย
1

บทที่ 1 เอมจองพี่อิสร์แล้วนะ

19/03/2024

2

บทที่ 2 เอมจองพี่อิสร์แล้วนะ

19/03/2024

3

บทที่ 3 เอมจองพี่อิสร์แล้วนะ

19/03/2024

4

บทที่ 4 เอมจองพี่อิสร์แล้วนะ

19/03/2024

5

บทที่ 5 ความสุขอันแสนสั้น

19/03/2024

6

บทที่ 6 ความสุขอันแสนสั้น

19/03/2024

7

บทที่ 7 ความสุขอันแสนสั้น

19/03/2024

8

บทที่ 8 ความสุขอันแสนสั้น

19/03/2024

9

บทที่ 9 ความสุขอันแสนสั้น

19/03/2024

10

บทที่ 10 สิ่งที่ต้องสูญเสีย

19/03/2024

11

บทที่ 11 สิ่งที่ต้องสูญเสีย

19/03/2024

12

บทที่ 12 สิ่งที่ต้องสูญเสีย

19/03/2024

13

บทที่ 13 สิ่งที่ต้องสูญเสีย

19/03/2024

14

บทที่ 14 สิ่งที่ต้องสูญเสีย

19/03/2024

15

บทที่ 15 กลับมาตรงนี้ ตรงที่ไม่มีเธอ

19/03/2024

16

บทที่ 16 กลับมาตรงนี้ ตรงที่ไม่มีเธอ

19/03/2024

17

บทที่ 17 กลับมาตรงนี้ ตรงที่ไม่มีเธอ

19/03/2024

18

บทที่ 18 ไม่มีพี่อิสร์ของเอมอีกแล้วจริงๆ

19/03/2024

19

บทที่ 19 ไม่มีพี่อิสร์ของเอมอีกแล้วจริงๆ

19/03/2024

20

บทที่ 20 ไม่มีพี่อิสร์ของเอมอีกแล้วจริงๆ

19/03/2024