Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
48.6K
ชม
76
บท

'ถ้าเธอให้โอกาสผมบ้าง ผมจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจเหมือนเขา ถ้าเปลี่ยนให้ผมได้ทำหน้าที่แทนเขา ผมจะไม่มีวันทำให้เธอต้องร้องไห้'

บทที่ 1 บทนำ

'ถ้าเธอให้โอกาสผมบ้าง ผมจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจเหมือนเขา ถ้าเปลี่ยนให้ผมได้ทำหน้าที่แทนเขา ผมจะไม่มีวันทำให้เธอต้องร้องไห้'

มันเป็นเพียงแค่ความคิดของผมเท่านั้น ผมแค่ไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาเท่านั้นเอง ผมชื่อ เขม หรือ เขมทัต ภักดีวัฒนาสกุล ผมเป็นลูกชายเจ้าของนักธุรกิจโรงแรมชื่อดังที่มีชื่อเสียงในประเทศ

ตอนนี้ผมกำลังนั่งมองหญิงสาวที่กำลังร้องไห้เพราะความเศร้าเสียใจหากย้อนเวลากลับไปได้ ผมควรที่จะมีความกล้าเข้าหาเธอมากกว่านี้ ก่อนที่คนอื่นจะมาแย่งเธอไปแบบนี้

- หนึ่งปีก่อนหน้า –

"ไอ้ตั้มมึงดูผู้หญิงคนนั้นดิวะ สวยเซี้ยะใช้ได้เลยมึง"

ไอ้นี่มันชื่อลีโอ มันเป็นคนสะกิดไอ้ตั้มให้หันไปมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาในคลับหรูกลางกรุงเทพฯ เธอใส่ชุดเดรสสีดำสายเดี่ยวขับให้ผิวสาวดูขาวผ่องดั่งน้ำนม

ส่วนอีกสองตัวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับไอ้ตั้มชื่อสิงโต กับอาชา และคนที่นั่งข้างมันคือผมเองเขมทัต พวกผมหันมองตามทางที่ลีโอชี้ไปทำให้เห็นว่า หญิงสาวโปรยรอยยิ้มหวานให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาภายในคลับหรู ทุกคนจ้องมองเธอเพราะความสวยสะดุดตาเกินกว่าใครในค่ำคืนนี้

ทันทีที่ผมได้เห็นเธอในคืนนี้มันทำให้ผมรู้ว่าแท้จริงแล้วบนโลกใบนี้มีคนสวยกว่าเธออยู่มากมายแต่คนที่มีรอยยิ้มที่สดใสแบบเธอมันมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นในค่ำคืนนี้

"ยัยพลอย ทางนี้ๆ "

ผู้หญิงที่เดินเข้ามาเธอชื่อน้องพลอย หรือ พลอยนภัส ทวีทรัพย์ญาดา ผมรู้มาว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของฟาร์มวัวนมที่โคราชเธอถูกส่งตัวมาเรียนต่อในกรุงเทพฯ คนเดียวแต่ผมไม่รู้เหตุผลหรอกนะว่าเพราะอะไร

แต่ตอนนี้เธอกำลังหันไปยิ้มหวานให้แก๊งเพื่อนสาวของเธอที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปของผมเนี่ย มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ คุณว่าไหม

"ทำไมแกมาช้าจังวะ"

เอวาถามฉันเมื่อฉันเดินมาถึงเธอเป็นเพื่อนสาวของฉันวันนี้เป็นวันเกิดของเอวาเราเรียนอยู่ที่มหาลัยฯ เดียวกันคณะเดียวกันที่สำคัญนะรหัสนักศึกษาของเรายังใกล้กันอีก

"รถติดน่ะแก ขอโทษน้าาาาา~"

ฉันตอบพร้อมกับเกาะแขนของเอวาเขย่าอย่างออดอ้อนฉันใช้ศีรษะของตัวเองคลอเคลียกับหัวไหล่มนของเอวาราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปาน ก็ยัยนี่น่ะแพ้ลูกอ้อนของฉันทุกที ในกลุ่มของฉันมีกันอยู่สามคนรวมฉันด้วยก็เป็นสี่เดี๋ยวฉันจะค่อยๆ แนะนำให้รู้จักทีละคนละกันนะ

พวกฉันยังอยู่ปีหนึ่งที่มหาลัยฯ เอกชนชื่อดังกลางกรุงเทพฯ นานๆ ฉันจะกลับบ้านไปหาป๊าที ป๊าคือพ่อของฉัน อ่อฉันลืมบอกไปฉันน่ะไม่มีแม่หรอกนะแต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ป๊าบอกว่าแม่ของฉันเสียไปตั้งแต่ฉันอายุได้สองขวบ แต่บางทีฉันก็แอบได้ยินคนอื่นบอกว่าแม่ฉันเอาฉันมาทิ้งไว้ให้ป๊าตั้งแต่ฉันยังเด็กๆ

"ไอ้เขม นั่นมันน้องพลอยน้องรหัสมึงนิ"

อาชามันสะกิดแขนผมอีกครั้งแต่ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปผมใช้แก้วทรงกลมหมุนควงแอลกอฮอล์รสขมที่อยู่ในแก้วกระดกเข้าปากด้วยสีหน้าเรียบเฉยซึ่งปกติผมเป็นคนไม่ค่อยชอบพูดอยู่แล้วมันเลยกลายเป็นโลโก้ประจำตัวของผมไปแล้ว

"พูดให้กูได้ยินสักคำมันจะตายไหมวะ ไอ้ห่านิ"

อาชาคนเดิมมันพูดขึ้นอย่างไม่จริงจังมากนักทุกคนยังหันไปมองพลอยนภัสผู้หญิงของผม เอ่อ ผมแอบจองเธอไว้ในใจคนเดียวตั้งแต่วันรับน้องแล้ว พอผมรู้ว่าเธอได้มาเป็นน้องรหัสของผม ผมโครตดีใจเลยนะ แต่ก็นะผู้ชายแมนๆ อย่างผมจะแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้ามันก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ผมเลยตีสีหน้าเรียบเฉยของผมเหมือนเดิม ก็มันทำตัวไม่ถูกนิหว่า

แต่ตอนนี้ผมไม่ชอบสายตาของไอ้ตั้มที่มันกำลังมองน้องพลอยของผม มันมองเธอจนตาเป็นมันผมไม่อยากให้มันยุ่งกับน้องพลอยของผมเพราะอะไรน่ะเหรอมันน่ะเพลย์บอยตัวพ่อเลยก็ว่าได้มันมองน้องพลอยของผมสายตาของมันบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ามันจะต้องจับน้องพลอยกินให้ได้

"ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ"

ฉันดื่มไปได้นิดเดียวก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพราะปวดเบาในระหว่างที่ฉันลุกขึ้นยืนก็มีสายตาของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างจ้องมองมาที่ฉันจนแทบจะเป็นตาเดียวไปแล้ว คือฉันก็ไม่ได้สวยอะไรมากขนาดนั้นหรอกแต่ก็พอมีเนื้อมีหนังมีอกตูมๆ ให้ใครๆ เขามอง

"แต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้"

ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของบางคนที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำพูดขึ้นฉันหันกลับไปมองตามเสียงนั่น แต่ฉันไม่ได้ตกใจหรอกนะ เขาชื่อพี่เขม เป็นพี่รหัสของฉันเอง เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ซิ พูดน้อย ไม่ใช่ซิ เกือบจะเป็นใบ้เลยด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้เขากลับพูดออกมาแบบนี้ แสดงว่าเขาคงน่าจะดื่มหนักมากแน่ๆ

"เมาก็ไปนั่งที่ค่ะพี่เขม พลอยจะกลับโต๊ะแล้ว"

น้องพลอยของผม เธอพูดกับผมด้วยครับ ผมดีใจมากเลยนะที่เธอพูดกับผม อันที่จริงเธอพูดเก่ง และชวนผมคุยตลอดอยู่แล้ว แต่ผมเนี่ยแหละ ไม่ค่อยพูดกับเธอหรอกครับ ผมเขิน จะพูดมาแต่ละทีไอ้ผมมันก็คนปากหมาด้วยซิกลัวว่าเธอจะหนีผมไป

ผมใช้สายตาไล่มองเสื้อผ้าที่เธอใส่มาอีกครั้ง ไอ้คำว่าล่อเสือล่อตะเข้ มันคงไม่ผิดไปจากความคิดของผมหรอกครับ เพราะอะไรน่ะเหรอดูเธอซิ กระโปรงก็สั้น ชุดก็ฟิต นมก็จะทะลักออกมาอยู่แล้ว ให้ตายเถอะผมอยากจะเก็บเธอไว้คนเดียวไม่อยากให้เธอได้ออกมาโชว์อะไรอย่างนี้เลย

"ดูใส่ชุดดิ เหมือนงูเหลือมกินไก่แล้วไปไม่รอด"

"ไอ้พี่เขม!! "

ผมชี้หน้าเธอให้หยุดด่าเพราะถ้าเธอไม่หยุดผมจูบเธอจริงๆ นะเวลาเธอโมโหมันน่ารักเป็นบ้าเลยครับ เสียงเล็กๆ หวานๆ ของเธอมันทำให้ผมอยากฟังทั้งวันแก้มของเธอมันแดงเหมือนลูกตำลึงสุกปลั่ง มันน่าหยิกน่าฟัดเสียจริง

อยู่ๆ อีตาพี่เขมพูดน้อยก็พูดคำพูดไม่น่าฟังออกมาให้ฉันได้ยิน ไม่รู้ฉันไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ปกติเขาเป็นผู้ชายที่น่ารักนะ เออ ฉันลืมบอกพี่เขมเขาเป็นเดือนมหาลัยเลยนะ ระดับเดือนอย่างเขามันหล่อกระชากใจเลยละ แต่คนอย่างฉัน คนอย่างพลอยนภัสไม่แพ้ความหล่อของเขาหรอกเพราะฉันแอบชอบผู้ชายอยู่คนนึงเขาเป็นเพื่อนกับพี่เขม

"แล้วนี่ มาคนเดียวเหรอ"

ฉันถามพี่เขมปากเน่าปากหนอน พลางกวาดสายตามองออกไปรอบๆ แต่ก็ยังไม่เห็นใครนะ ฉันมองเข้าไปภายในคลับก็เห็นแก๊งเพื่อนของฉันเอง ถัดไปก็เป็นเพื่อนของพี่เขม แต่คนที่ฉันชอบเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นเสียดายจัง

" ... "

ผมรู้สึกไม่ชอบใจทุกครั้งที่ได้ยินน้องพลอยถามถึงคนอื่น ทุกคนคงกำลัง งง ใช่ไหมว่าผมเป็นอะไร ใช่ครับ ผมชอบน้อยพลอย ผมกล้าพูดอย่างลูกผู้ชายเลยนะ ผมชอบน้องพลอย ชอบมากด้วย ชอบมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า ผมจองเธอตั้งแต่เธอก้าวขาเข้ามาในมหาลัยฯ แล้วจองเองเงียบๆ จองแบบไม่บอกใคร และผมก็รู้ว่าน้องพลอยไม่ได้ชอบผม แต่เธอชอบไอ้ตั้มเพื่อนของผม

"ถามก็ไม่ตอบ กลัวดอกพิกุลจะร่วงรึไงคะคุณพี่เขมมมมม~"

อย่ายื่นหน้าเข้ามาอย่างนั้นนะน้องพลอยไม่งั้นผมจะอดใจไม่ไหวต้องจูบเธอแน่ๆ สายตาของผมจ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มของเธอที่เคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนมันขยับขึ้นลง แล้วผมรู้สึกปวดปร่าที่น้องชายของผมอย่างบอกไม่ถูก

"ถอย"

ก็ผมไม่รู้จะพูดอะไรนิครับผมก็ทำได้แค่นี่แหละ ก็คนมันเขิน แล้วถ้าน้องพลอยรู้ว่าผมกำลังคิดสัปดนกับเธออยู่เธอคงจะหนีผมไปแน่ๆ ผมขออยู่ข้างๆ เธออย่างนี้แหละสบายใจดี เรื่อยๆ ไม่รีบ เพราะยังไงน้องพลอยต้องเป็นของผมอยู่แล้ว

"ชิ! "

ขี้เก๊กชะมัด ฉันสะบัดผมใส่พี่เขมก่อนเดินออกมาจากตรงนั้น แล้วเข้าไปนั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม เวลาแค่เพียงไม่นานอยู่ๆ ก็มีผู้ชายเดินมานั่งข้างๆ ฉัน เขาคือพี่ตั้ม พี่ตั้มที่เป็นเพื่อนพี่เขม เขาหล่อ มีเสน่ห์ ดูดีไปทุกอย่าง ฉันเขินชะมัดที่อยู่ๆ พี่ตั้มก็มานั่งข้างฉัน

"พี่ขอนั่งด้วยนะครับ"

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ นังหมูปีศาจ

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

วาสนานี้ ข้ามิอยากได้

วาสนานี้ ข้ามิอยากได้

l3oonm@
5.0

ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ข้าเก็บสามีได้กลางป่า

ข้าเก็บสามีได้กลางป่า

ต้ายวี่
5.0

ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ถ้าฉันเป็นเขา
1

บทที่ 1 บทนำ

25/04/2023

2

บทที่ 2 ผมอกหัก

25/04/2023

3

บทที่ 3 ทำใจยอมรับ

25/04/2023

4

บทที่ 4 เขมคนเดิม

25/04/2023

5

บทที่ 5 ใกล้ชิด

25/04/2023

6

บทที่ 6 แชร์ความช้ำ

25/04/2023

7

บทที่ 7 ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม

25/04/2023

8

บทที่ 8 แค่ฝันไป

25/04/2023

9

บทที่ 9 อุบัติเหตุ

25/04/2023

10

บทที่ 10 ยัดเยียด

25/04/2023

11

บทที่ 11 ชู้ (NC+++)

25/04/2023

12

บทที่ 12 สารเลว (NC+++)

25/04/2023

13

บทที่ 13 รู้สึกผิด (NC+++)

25/04/2023

14

บทที่ 14 นอกสายตา

25/04/2023

15

บทที่ 15 เคียงข้าง

25/04/2023

16

บทที่ 16 รักแรกพบ

25/04/2023

17

บทที่ 17 เรื่องจริงหรือความฝัน (NC+++)

25/04/2023

18

บทที่ 18 ขึ้นครู (NC+++)

25/04/2023

19

บทที่ 19 แปลกไป

25/04/2023

20

บทที่ 20 ปลอบใจ

25/04/2023

21

บทที่ 21 พอ

25/04/2023

22

บทที่ 22 ให้โอกาส

25/04/2023

23

บทที่ 23 หายหน้า

25/04/2023

24

บทที่ 24 ตามหา

25/04/2023

25

บทที่ 25 เจอกันอีกครั้ง (NC+++)

25/04/2023

26

บทที่ 26 ผู้หญิงใจร่าน (NC+++)

25/04/2023

27

บทที่ 27 Move on

25/04/2023

28

บทที่ 28 สถานะ (NC+++)

25/04/2023

29

บทที่ 29 แฟนวันเดียว

25/04/2023

30

บทที่ 30 ไม่ยอม

25/04/2023

31

บทที่ 31 พี่เขมของพลอย

25/04/2023

32

บทที่ 32 ฉลอง

25/04/2023

33

บทที่ 33 สารจากตั้ม

25/04/2023

34

บทที่ 34 นางร้าย

25/04/2023

35

บทที่ 35 เกรดต่ำ

25/04/2023

36

บทที่ 36 อ้วนก็รัก

25/04/2023

37

บทที่ 37 ออกกำลังกายด้วยกัน (NC+++)

25/04/2023

38

บทที่ 38 ยั่วพี่ก่อน

25/04/2023

39

บทที่ 39 เตือนสติ

25/04/2023

40

บทที่ 40 รู้จักกันมากขึ้น

25/04/2023