Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ตรวนเสน่หาคล้องใจ

ตรวนเสน่หาคล้องใจ

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
3.1K
ชม
28
บท

“พี่ถามตรงๆ นะว่า น้องไหมเป็นลูกของพี่ใช่ไหม” ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที เดือนแรมไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้เตรียมใจในหลายเรื่อง คำถามนี้ก็เช่นกัน เธอไม่คาดฝันว่าได้เจอณนนท์ ยิ่งเขาได้เจอไหมขวัญด้วยแล้ว เป็นเรื่องที่ไกลความคิดมาก การถูกตามแบบขวานผ่าซาก เธอจึงไม่ตระเตรียมคำตอบไว้ “พี่ถาม แรมต้องตอบ” “ไม่ใช่ น้องไหมไม่ใช่ลูกของคุณ” เดือนแรมตอบกลับ พยายามปั้นสีหน้าจริงจัง ดวงตาแน่วแน่ไม่สั่นไหว ทว่าการปั้นหน้านั้นทำง่าย นัยน์ตานี่สิ ยากเหลือเกิน “คุณเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงคิดว่าน้องไหมเป็นลูกของคุณ อย่าลืมสิว่า เราเลิกกันหลายปีแล้วนะ ฉันอาจมีสามีใหม่ที่พร้อมใช้ชีวิตคู่กับฉันจริงๆ ก็ไม่แปลกที่ฉันจะมีน้องไหม” เดือนแรมย้ำคำว่า พร้อมใช้ชีวิตคู่กับฉันจริงๆ พูดด้วยนัยน์ตาสั่นระริก ณนนท์ไม่ได้สนใจกับคำพูดเน้นหนัก เพราะตอนนี้ใขเขามุ่งอยู่กับเรื่องไหมขวัญ “เท่าที่พี่จำได้ พี่ไม่ได้เลิกกับแรมนะ อยู่ๆ แรมก็หนีพี่ไป พี่อยากรู้เหมือนกันว่า แรมทำอย่างนั้นทำไม” ณนนท์คล้ายยิงคำถามใส่ จ้องมองนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ยังคงสวยและมีเสน่ห์เช่นเดิม เพิ่มเติมคือมีความกลัว หวาดระแวงจนเขาจับสังเกตได้ “ส่วนเรื่องที่แรมบอกว่ามีผัวใหม่ ถ้ามีจริง ทำไมน้องไหมถึงบอกว่า ไม่มีพ่อจนต้องแคะกระปุกออมสินเพื่อเอาเงินไปเช่าพ่อ ไปงานวันพ่อน่ะ แรมตอบคำถามนี้ได้ไหมล่ะ” เดือนแรมทำท่าอึกอักขึ้นมาทันที คำถามณนนท์ เธอตอบได้ ทว่าเลือกไม่ตอบ เพราะไม่อยากให้เขาเข้ามาวุ่นวายในชีวิตตน เขาไม่ต้องการเธอก็เท่ากับว่าไม่ต้องการลูกด้วย “จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคุณ เรื่องระหว่างคุณกับฉันจบไปตั้งนานแล้ว จะรื้อฟื้นทำไม” เดือนแรมต้องทำใจแข็งเข้าไว้ “ส่วนเรื่องพ่อของน้องไหม เขาตายไปตั้งแต่ฉันท้องได้สี่เดือน นี่แหละคำตอบของฉัน” ณนนท์ไม่เชื่อคำตอบเดือนแรมเลยสักนิด เขาก้าวเดินไปหาร่างสาวช้าๆ เธอถอยก้าวหนีร่างหนาก้าวต่อก้าว จนแผ่นหลังชิดผนังห้อง “แรมอย่าลืมสิว่า แรมโกหกไม่เก่ง แล้วพี่ก็จับพิรุธคนโกหกเก่งมาก ที่แรมพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก พี่จะถามดีๆ อีกครั้ง ถ้าแรมยังโกหกพี่อีกล่ะก็ ได้เห็นดีกันแน่” “คะ...คุณจะทำอะไรฉัน อย่าเข้ามานะ” เธอห้ามเสียงหลง หัวใจเต้นแรงมาก มองเขาด้วยใจหวาดหวั่น “ตอบคำถามพี่มาก่อนสิ ตอบถูกใจจะไม่ทำอะไร แต่ถ้าไม่ โดนดีแน่” ไม่วายขู่ ยิ่งโดนขู่ ใจเดือนแรมยิ่งทำงานหนัก “น้องไหมไม่ใช่ลูกของคุณ” แม้กลัวแต่ก็ตอบออกไป “ไม่ใช่ลูกของคุณ” เดือนแรมย้ำตอบสองครั้ง หมายให้ณนนท์เข้าใจและตระหนักตามคำตอบนั้น แต่ดูเหมือนว่า ณนนท์ไม่เชื่อเธอเลยสักนิดเดียว เขาจ้องมองแววตาติดสั่น และพยายามหลบสายตา “ตรวจดีเอ็นเอ” พูดแค่นี้เดือนแรมก็รู้ความหมาย ณนนท์ไม่ลดละ แถมก้าวเดินมาหาเธออีกหนึ่งก้าว ระยะห่างตอนนี้ประมาณสองศอก ใกล้มาก ใกล้จนเธอทำตัวไม่ถูก ขยับเท้าไปทางด้านข้างหลายก้าวเพื่อหนีร่างหนา “ไม่ตรวจ” จบคำพูดประโยคนี้ ณนนท์ประชิดตัวเดือนแรม รั้งเอวสาวด้วยลำแขนใหญ่ เธอตกใจจนตัวสั่น อ้าปากค้างไม่คิดว่าเขาทำเช่นนี้ มือดันอกกว้าง “ปะ...ปล่อยนะ” “ทำไมไม่ตรวจ กลัวเหรอ” “ไม่ได้กลัว” ตอนนี้เดือนแรมยิ่งกว่ากลัวเสียอีก กลัวมากที่สุดคือ กลัวใจตัวเอง “ไม่กลัวก็ตรวจสิ จะได้รู้กันไปเลยว่า น้องไหมเป็นลูกสาวของพี่หรือเปล่า” ณนนท์ตื้อไม่หยุดเพราะมั่นใจว่า ไหมขวัญเป็นลูกตน

บทที่ 1 1

1

“เมื่อไหร่แกจะมีเมียสักที อายุปาเข้าไปสามสิบเก้าแล้วนะ ไม่คิดจะมีครอบครัวเหมือนลูกหลานบ้านอื่นบ้างเหรอ ยายรอเลี้ยงลูกแกอยู่นะ จะให้รอไปจนถึงเมื่อไหร่ตานนท์”

นวลนางผู้อาวุโสที่สุดในบ้านพูดกลางโต๊ะอาหารมื้อเช้า เพราะมื้อนี้เป็นมื้อเดียวที่คนในบ้านอยู่กันพร้อมหน้า คนที่นางพูดถึงคือ ณนนท์ หลานชายสุดที่รัก

“โธ่คุณยาย ผมแค่สามสิบเก้านะครับไม่ใช่เจ็ดสิบเก้าถึงต้องรีบมีเมีย” คนเป็นหลานโต้กลับอย่างไม่เดือดร้อน “รอสักสี่สิบห้าก็ยังทัน ผมไม่อยากมีเมีย ผมยังรักความโสดครับ หรือไม่ก็รอหลานของส้มก็ได้ เรียนจบก็หาผัวเลยจะได้มีเหลนให้คุณยายเลี้ยง”

“ไหงมาโยนที่ส้มล่ะ ส้มกำลังเรียนอยู่นะ ส้มต้องตั้งใจเรียน พี่นนท์นั่นแหละสมควรมีเมียมีลูกได้แล้ว จวนจะแก่แล้วนะ” อารียาหรือส้ม น้องสาวจอมแสบ ตอนนี้กำลังเรียนแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจ เธอจึงไม่คิดเรื่องคนรัก มุ่งเรียนอย่างเดียว

“ใช่...แกจะมาโยนให้ส้มไม่ได้ แกเป็นพี่ เป็นหลานคนโตของยาย แกก็ควรมีเมียมีลูกก่อนส้มสิ แล้วที่แกบอกว่า อายุสี่สิบห้าค่อยมี ตอนนั้นยายก็ปาเข้าไปแปดสิบแล้ว จะเลี้ยงเหลนไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ อีกอย่างอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ยายกลัวว่าจะเป็นอะไรก่อนแกมีลูก”

ความไม่แน่นอนคือสิ่งไม่แน่นอน นวลนางคิดเช่นนี้ คนร่วมกินมื้อเช้าได้ยินประโยคนี้เข้าใจความรู้สึกนวลนาง ในขณะเดียวกันก็เข้าใจหนุ่มโสดอย่างณนนท์

“นนท์อาจยังไม่เจอคนถูกใจน่ะค่ะคุณแม่ ของแบบนี้เร่งรีบไม่ได้นะคะ เดี๋ยวคุณแม่จะได้หลานสะใภ้ไม่ดี คุณแม่ก็มาว่านนท์อีกว่าตาถั่ว ตาไม่ดีหาเมียไม่ได้เรื่อง” สายรุ้งมารดาณนนท์และเป็นลูกสาวนวลนางเอ่ยขึ้น ณนนท์ยิ้มเมื่อมารดาเข้าข้าง ทว่าประโยคต่อมา เขาหุบยิ้มแทบไม่ทัน “นนท์เร่งหาผู้หญิงหน่อยนะลูก ไม่ใช่ว่าปล่อยไปวันๆ แบบนี้เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่คุณยายที่อยากเลี้ยงเหลน แม่กับคุณพ่อก็อยากเลี้ยงหลานเหมือนกัน ทำให้คนแก่รอนี่บาปนะ แต่จะได้บุญถ้าให้คนแก่สมหวัง”

“ส้มว่างานนี้พี่นนท์ต้องหาเมียจริงๆ จังๆ แล้วแหละ ไม่งั้นบาปหนาแน่ๆ แล้วพระเจ้าจะลงโทษพี่นนท์อย่างหนักๆ หนักจนหลังหักเลย” อารียาน้องสาวณนนท์พูดไปยิ้มไป เห็นหน้าพี่ชายตอนนี้อยากหัวเราะมากกว่า แต่ก็กลั้นเอาไว้

“ลูกหลานเพื่อนพ่อกับแม่มีหลายคนนะ จะให้พ่อแนะนำให้รู้จักไหม เผื่อเป็นตัวเลือก” เสียงนี้เป็นของทรงชัย บิดาณนนท์

“ผม...” ณนนท์ยังไม่ทันตอบคำถามบิดา เสียงคนเป็นยายขัดขึ้นเสียก่อน

“เอาอย่างนี้ล่ะกัน ถ้าภายในปีนี้แกไม่มีเมีย แกจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ยายหาให้ จบนะ” นวลนางยื่นคำขาด

“ภายในปีนี้ นี่มันเหลือแค่เดือนกับไม่กี่วันเองนะครับ หาเมียนะครับไม่ได้หาซื้อขนมถึงได้หากันง่ายๆ ตามข้างทาง” หลายชายตัดพ้อ “สักสองปีนะครับ”

“ไม่!” นวลนางตอบกลับทันที “ฉันให้เวลาแกเท่านี้แหละ ถ้าแกยังหาเมียไม่ได้ ฉันจะหาให้เอง แล้วแกก็ห้ามบ่น ห้ามพูดมาก ห้ามขัดใจฉันด้วย”

ครั้งนี้นวลนางไม่ยอม นางยอมหลานชายมานานแล้ว ทว่าความหวังว่าณนนท์จะมีคนรักริบหรี่มาก แทบมองไม่เห็นก็ว่าได้ ณนนท์ใช้ชีวิตแบบคนโสดทั่วไป เที่ยว ดื่ม โดยมีสาวสวยแนบกาย ไม่คิดจริงจังกับใคร ไม่คิดหยุดชีวิตโสดไว้ที่ผู้หญิงเพียงคนเดียว โฉบไปมาเหมือนนกไร้รังอย่างไรอย่างนั้น

“คุณยายอาจหมายถึงเดือนกว่าๆ นี้ให้นนท์หาผู้หญิงถูกใจให้ได้ แล้วพามาแนะนำให้พวกเรารู้จัก คุณยายจะได้มั่นใจว่า แกน่ะพยายามหาว่าที่เมียจริงๆ เรื่องแต่งงานไว้มั่นใจค่อยแต่งก็ได้” ทรงชัยพยายามทำบรรยากาศให้เบาลง “ผมเข้าใจความหมายของคุณแม่ถูกไหมครับ”

นวลนางมองหน้าลูกเขย สะบัดหน้าเบาๆ

“เอาตามที่แกพูดก็ได้ เข้าข้างลูกล่ะที่หนึ่งเชียว”

“คนละครึ่งทางไงครับคุณแม่ ของแบบนี้เร่งได้ที่ไหนกัน อีกอย่างปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่นะครับ ตามใจเรา คนอยู่อาจไม่ชอบก็ได้”

“ย่ะ” นวลนางกระแทกเสียงใส่ ทรงชัยเอาใจแม่ยายด้วยการเดินไปรินชาร้อนที่นางมักดื่มหลังกินมื้อเช้ามาให้ แต่ก็ไม่วายโดนนวลนางส่งค้อนให้วงใหญ่

ณนนท์ถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ใช่ครั้งแรกที่นวลนางพูดเรื่องนี้ เขาจำแทบไม่ได้ว่า กี่ครั้งกี่หน พูดกรอกหูทุกครั้งที่มีโอกาส ยายไม่เข้าใจคนโสดอย่างเขาบ้างเลย ณนนท์ไม่อยากมีภาระ ไม่อยากมีพันธะ อยากใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ เจอคนที่ใช่เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ฉะนั้นเดือนกว่าก่อนสิ้นปี ณนนท์ต้องหาทางออกของเรื่องนี้ให้ได้

คลับมารูแอล

ร่วมหนึ่งเดือนที่แก๊งชายโสดไม่ได้รวมตัวกันมาเที่ยวคลับ อาจเป็นเพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อมีเวลาว่างมักมานั่งคลายเครียด ดื่มสุราเคล้านารี เฮฮาตามประสาเพื่อน ทว่าค่ำคืนนี้ต่างจากทุกครั้ง นอกจากไม่มีสาวสวยนั่งข้างกาย สีหน้าทุกคนเหมือนมีความเครียด สาเหตุเป็นเพราะหนึ่งในสี่ของแก๊งปรับทุกข์และคิดหาทางแก้ไขกับปัญหาโลกแตกที่ตนเผชิญ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

พิศวาสทาสเสน่หา

พิศวาสทาสเสน่หา

มหาเศรษฐี

5.0

“บ้าอำนาจชะมัด” หญิงสาวแอบบ่น กระแทกตัวลงนั่งริมสุดของขอบโซฟา ทิ้งระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด “นี่แม่คุณ มานั่งใกล้หน่อยสิ นั่งไกลอย่างนั้นแล้วจะบริการฉันได้ยังไง ไม่เห็นเหรออาหารหมดถ้วยแล้ว” ถ้ารู้มาก่อนว่าคนที่จองห้องวีไอพีคือเขาคนนี้ เธอไม่ยอมเป็นพนักงานเสิร์ฟจำเป็นแน่นอน หญิงสาวเขยิบร่างกายเข้ามาอีกนิด ตักอาหารใส่ถ้วย ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าเขาเหมือนเดิม “ป้อนด้วยสิ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี “ดิฉันมีหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ตามที่เห็นสมควรนะคะ การป้อนอาหารเป็นนอกหน้าที่ของดิฉัน” สร้อยระย้าพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเข้ม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกับท่าทีแสนพยศของเธอ ขยับร่างกายเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!!..ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผลักร่างหนาให้ออกห่าง แกะมือใหญ่ที่รัดเอวของเธอไว้แน่น แต่ยิ่งพยายามเอวของเธอก็ต้องถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นร่างงามลอยขึ้นเหนือเบาะ เนื่องจากเขาอุ้มร่างของเธอมานั่งบนตัก “พยศนักนะ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขามาก่อน เห็นจะมีเพียงผู้หญิงกลิ่นกายเย้ายวนใจคนนี้ ยิ่งชิดใกล้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ความต้องการปะทุขึ้นมาทันที เรียวปากใหญ่ปิดสนิทปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนชื้นเข้าไปภายในโพรงปากอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นหนาตวัดพัดโบกกับลิ้นนุ่มที่ตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากจูบนี้เป็นจูบแรกของชีวิตสาว สมองของเธอนั้นเริ่มมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเข้ามาปกคลุม ความว่างเปล่ากำลังเข้ามาแทนที่ ไม่มีสตินึกคิด ความหวานนุ่มชวนหอมหวานที่เขาได้สัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงครางที่ดังทักท้วงในลำคอสาว เสมือนยากระตุ้นให้ความดันโลหิตของเขาเสียดทานกับความต้องการทางเพศ ร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางไปมา ก่อนจะวกมากอบกุมทรวงอกขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือของเขา ไม่ใหญ่มากเกินไปจนล้นมือและไม่เล็กจนเสียอารมณ์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

โรแมนติก

5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

วิวาห์ฟ้าแลบ

วิวาห์ฟ้าแลบ

โรแมนติก

5.0

[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

โรแมนติก

4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า “ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?” เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า “ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว...” ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ