เขา…คือชายที่เธอฝันถึง ฝันว่าได้จูบ ได้กอดและได้ทำอะไรๆ ที่ทำให้เธอสะดุ้งตื่นมาพร้อมความร้อนรุ่ม เขา…นั้นชอบฤดูฝน แต่…เธอ…ไม่ชอบ!! แต่ฝน กลับนำพาความรักฉบับเบลอๆ เข้ามาสู่หัวใจเธอ เปลี่ยนเสียงฟ้าร้องอันน่ากลัว ให้กลายมาเป็นเสียงเต้นรัวของหัวใจ ที่เต็มไปด้วยจังหวะบอกรัก -------------------------------- “คุณรักฉันไหม” แม้จะอายที่ต้องถามประโยคนี้ออกไป แต่แพรรุ้งก็ไม่อาจเก็บซ่อนความสงสัยไว้ได้อีกต่อไป ในเมื่อบุสสธิติ์ทำตัวเหมือนรักเธอมากและบางครั้งเขาก็ช่างเฉยชา หายไปเสียดื้อๆ จนเธอเดาความคิดเขาไม่ออก แต่คำตอบที่เธอได้กลับเป็นเพียงความนิ่งจากชายตรงหน้า ทำให้เธอคิดเองเออเอง พร้อมกับตัดใจจะทำอะไรบางอย่าง “ถึงคุณไม่รักฉัน แต่ฉันกลับรักคุณมากจนถอนตัวไม่ขึ้น” น้ำเสียงสั่นๆ ของแพรรุ้งเอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้บุสสธิติ์แล้วคล้องแขนกับลำคอ พร้อมกับเขย่งปลายเท้าขึ้นไปมอบจูบให้คนที่เธอรัก บุสสธิติ์พยายามแข็งใจไม่จูบเธอกลับมา แต่ก็ไม่อาจทนต่อความหวานจากริมฝีปากอิ่มได้ ทั้งคู่ต่างมอบจูบให้กันและกัน ก่อนที่พวกเขาจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง “ได้ยินอะไรไหม” บุสสธิติ์เอ่ยถาม “อะไรคะ” “เสียงของหัวใจผม ที่มันกำลังตะโกนว่ารักหนูดีมากแค่ไหน” “คุณเพชร” อยู่ๆ แพรรุ้งก็ร้องไห้ออกมา ชายหนุ่มจุมพิตเพื่อเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มนวลให้เธอ ก่อนที่จะหยุดตรงริมฝีปากอิ่มแล้วมอบจูบแห่งความรัก ที่ถ่ายทอดมาจากหัวใจให้ ซึ่งแพรรุ้งเองก็จูบตอบบุสสธิติ์กลับไปเช่นกัน ก่อนที่จะได้ยินประโยคบอกรัก -------------------------------- ฝากความโรแมนติก ที่มีกลิ่นอายการสืบสวนเล็กๆ ของ ‘ฤดูรักสีน้ำผึ้ง’ ไว้ด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนจะชื่นชอบ
ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
ผู้เขียน : วรนิษฐา
ติดต่องานนักเขียนได้ที่ E-Mail : Mindnui@gmail.com
แฟนเพจ : วรนิษฐา
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้
รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่าในรูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ยกเว้นเพื่อการประชาสัมพันธ์เท่านั้น
บทที่ 1
เปรี๊ยง ปัง
เปรี๊ยง ปัง ปัง
เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าดังระงม ท้องฟ้ามืดครึ้ม เต็มไปด้วยหมู่เมฆสีดำสนิท สลับกับสายฟ้าผ่าส่งเสียงอันน่ากลัวข่มขู่ทุกสรรพสิ่ง เม็ดฝนที่ซัดสาดค่อยๆ ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อมีกระแสลมเข้ามาสมทบ เสียงลมหวีดหวิวราวกับเสียงมัจจุราชยิ่งอยู่บนตึกสูงเสียดฟ้าเช่นนี้ ความกลัวก็ยิ่งมีมากยิ่งขึ้น ฝนที่มาต้นฤดูช่างน่ากลัวกว่าที่คิด แต่เสียงที่หลบเร้นซ่อนอยู่ภายใต้เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า คือเสียงของการลั่นไกปืนที่ได้กระชากวิญญาณไปจากชายคนหนึ่งอย่างไม่มีวันกลับ!!!
“เอาศพมันไปโยนทิ้งลงเหว รีบไป” ร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำเอ่ยบอก
“ครับพี่” สิ้นคำรับปาก ร่างกายที่ไร้ซึ่งวิญญาณก็ถูกจับโยนลงไปยังเหวลึกเบื้องล่าง ไร้หลักฐานใดๆ เพราะถูกกระแสฝนชำระไปจนหมดสิ้น ใบหน้าเหี้ยมโหดไร้ซึ่งความปราณีมองภาพการกำจัดขยะตามที่ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายด้วยเงินก้อนใหญ่ จากนั้นก็ต่างพากันแยกย้ายราวกับก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่พึ่งคร่าชีวิตคนคนหนึ่งไปแท้ๆ ก่อนจะรายงานเจ้าของเงิน ว่างานที่สั่งมานั้นสำเร็จ
“ดี...พวกมึงมาเอาเงินที่เหลือได้” ปลายสายเอ่ยรับ การกำจัดหอกข้างแคร่ให้พ้นทาง คืองานง่ายๆ เพียงแค่มีเงินกับลูกน้องที่คอยรับคำสั่งเท่านั้น แม้ว่าคนที่จะถูกกำจัดบางครั้งเป็นคนของรัฐก็ตามที อำนาจของเงินมักครอบงำและทำให้พ้นผิดได้เสมอ
เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!!
แพรรุ้งนั่งขดตัวสลับสะดุ้งกับเสียงฟ้าผ่าอยู่ข้างเตียง เธอคือคนที่ไม่ชอบเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ไม่ชอบฤดูฝนเช่นนี้นัก แต่เธอคงห้ามฟ้า ห้ามฝนไม่ให้ตกไม่ได้ จึงพยายามอยู่กับสิ่งที่ตนไม่ชอบให้ได้ ร่างบอบบางในชุดนอนเสื้อแขนสั้นกางกางขายาวสีม่วงอ่อนนั่งกอดตัวเอง ขณะที่ลมฝนก็กำลังพัดโหมกระหน่ำอยู่ภายนอก เมื่อหลายปีก่อนฝนได้พรากทุกอย่างไปจากชีวิตเธออย่างไม่มีวันกลับ เพราะฝนทำให้เธอต้องสูญเสียบิดาและมารดาไปพร้อมๆ กัน นั่นจึงเป็นเหตุให้เธอไม่ชอบฤดูฝน
“หยุด หยุดสักที พอได้แล้ว” มือเล็กๆ ยกขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างไว้เพื่อปิดกั้นเสียงที่ไม่อยากได้ยิน ก่อนที่หยาดน้ำตาของความคิดถึงและโหยหาต่อผู้ที่จากไปจะไหลรินอาบแก้ม ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี กี่ฤดูฝน ความรู้สึกไม่ชอบฝนกลับไม่เคยลดน้อยลงไปจากใจของหญิงสาวได้แม้เพียงนิด แต่กลับทำให้ฉากอุบัติเหตุของการสูญเสียครั้งนั้นยิ่งชัดเจนมากขึ้นด้วยซ้ำ
“พ่อจ๋า แม่จ๋า ช่วยหนูดีด้วย” น้ำเสียงสั่นพร่าเอ่ยคำวิงวอนขอความช่วยเหลือช่างฟังดูน่าสงสาร แม้ต่อหน้าใครๆ แพรรุ้งคือผู้หญิงที่เข็มแข็งคนหนึ่ง เธอเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน แต่น้อยคนนักที่จะเห็นเธออ่อนแอแบบนี้ ความเหงา ว้าเหว่ถาโถมเข้ามาพร้อมกันในวันฝนตก
แต่ยามใดที่เธออ่อนแอและต้องการที่พึ่ง หญิงสาวกลับเลือกที่จะอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียวเท่านั้น อยู่กับตัวเองแล้วเก็บความอ่อนแอไว้ให้ลึกสุดเท่าที่จะทำได้ แต่บางครั้งความอ่อนแอที่ถูกซ่อนไว้ก็หวนกลับมาเล่นงานเธออย่างเช่นในตอนนี้
“หยุดนะ หยุดสักที” แพรรุ้งเอ่ยบอกฟ้าฝนให้หยุดคำรามส่งเสียงอันน่ากลัว แต่เหมือนคำร้องขอของเธอจะไม่ได้ผลสักเท่าไหร่นัก
ในขณะที่อีกคนไม่ค่อยจะชอบฤดูฝน แต่อีกคนกลับชื่นชอบความชุ่มฉ่ำของฤดูนี้ กลิ่นดินหอมๆ มักจะโชยตามลมหลังฝนหยุดตก ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วนภายใต้ชุดสูททันสมัยที่ตัดมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ กำลังยืนเท้าสะเอวตรงระเบียงห้องทำงานที่ด้านหน้าคือบรรดาต้นไม้น้อยใหญ่ พร้อมกับสูดอากาศสดชื่นหลังฝนโปรยปรายเข้าปอดลึกๆ สองสามครั้ง ใบหน้าบึ้งตึงที่มักจะเคร่งเครียดด้วยเรื่องงานดูผ่อนคลายลงไปมาก
ชีวิตเขาต้องพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก็หลายต่อหลายหน จากครอบครัวที่อบอุ่นต้องกลับกลายมาเป็นบ้านแตกสาแหรกขาด จากคนที่มีบิดา มารดาครบถ้วน เขากับน้องสาวกลับกลายเป็นเด็กกำพร้าในชั่วข้ามคืน คนที่ชายหนุ่มสงสารจับใจมากที่สุดคือ พลอยณภัส น้องสาวที่ตอนนั้นยังเด็กมาก
แต่โชคชะตาก็หยิบยื่นโอกาสให้บุสสธิติ์ได้ก้าวเดิน เขาฝ่าฟันทุกอย่าง เก็บซ่อนความแค้นไว้ภายใต้รอยยิ้มและใบหน้าอันหล่อเหลาราวเทพบุตรเพื่อรอวันเอาคืนผู้ที่บังอาจพรากสิ่งที่เขารักไป บุสสธิติ์ค่อยๆ ทวงคืนทุกอย่างที่เคยเป็นของครอบครัว พร้อมกับการค่อยๆ ล้างแค้นคนกลุ่มหนึ่งให้สาสมภายใต้เงาของมัจจุราช
“รออีกหน่อยนะครับพ่อ แม่ อีกไม่นาน ผมจะแก้แค้นคนพวกนั้นให้หมด” บุสสธิติ์เอ่ยคำมั่นสัญญากับดวงวิญญาณของบุพการีทั้งสองที่จากไป รอยยิ้มเหยียดตรงมุมปากของชายหนุ่มตอนนี้ช่างดูน่าขนลุก แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตที่น้อยคนจะได้เห็น
แต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มหยุดคิดเรื่องอื่น ก่อนจะเดินมาหยิบ ปรับสีหน้าน้ำเสียงให้กลับมาเป็นบุสสธิติ์คนเดิมที่ทุกคนรู้จัก แล้วเอ่ยทักทายปลายสายอย่างสนิทสนม
“ว่าไงเอ”
“พรุ่งนี้ว่างไหมครับ คุณนักธุรกิจใหญ่” สิงหาหรือเอ เอ่ยถามเสียงทุ้ม น้ำเสียงดูจะแฝงไว้ด้วยความขี้เล่น เขาคือเพื่อนสนิทที่คบหากับบุสสธิติ์มาตั้งแต่สมัยมัธยม แม้จะมีระยะเวลาหนึ่งที่ครอบครัวของบุสสธิติ์ประสบกับปัญหาร้ายแรงจนพวกเขาขาดการติดต่อกัน แต่เมื่อสองปีก่อนบุสสธิติ์กลับมาและติดต่อเขา ทำให้สิงหากระโดดโลดเต้นดีใจเป็นเด็กๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้พบกับเพื่อนคนนี้อีก
“เดี๋ยวข้าโอนสายให้เลขา เอ็งจะได้เช็คตารางงานข้าได้สะดวก” แทนที่จะตอบไปว่าว่างหรือไม่ว่าง บุสสธิติ์กลับย้อนกลับซึ่งสิงหาก็เออออ
“ดีเลย ข้ากำลังอยากจะคุยกับเลขาคนสวยของเอ็งพอดี”
“ตลกแล้วเอ็ง สรุปมีอะไร” น้ำเสียงห้วนๆ ที่เอ่ยถามทำให้สิงหายิ้ม เพื่อนสนิทเขาคนนี้จะว่าไปก็เหมือนคนสองบุคลิก เวลาอยู่ต่อหน้าผองเพื่อนหรือคนที่สนิทสนมซึ่งมีน้อยคนนักจะร่าเริง ร้อยเต็มร้อย ฟอร์มไม่มี แต่เวลาอยู่ต่อหน้าลูกค้าหรือคนที่ไม่สนิทด้วยแล้ว มาดกลับนิ่งเปลี่ยนไปเป็นอีกคน นั่นก็เพราะทุกคนย่อมมีเบื้องหน้าและเบื้องหลังเสมอ
บทที่ 1 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 2 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 3 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 4 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 5 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 6 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 7 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 8 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 9 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 10 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 11 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 12 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 13 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 14 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 15 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 16 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 17 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 18 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 19 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 20 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 21 ฤดูรักสีน้ำผึ่ง
19/02/2024
บทที่ 22 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 23 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 24 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 25 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 26 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 27 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 28 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 29 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 30 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 31 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 32 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 33 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 34 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 35 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 36 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 37 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 38 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 39 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
บทที่ 40 ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
20/02/2024
หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy
ข้อมูลเพิ่มเติม