รู้ว่าเป็นรักต้องห้าม แต่ก็ไม่อาจห้ามใจ รู้ว่าเป็นเพื่อนพ่อ แต่ก็อยากขอลองรัก
การมาของ ฉัตรชน ฉัตรอินทร ทำให้คนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างสบายอารมณ์ถึงหน้ามุ่ยและรีบลุกจากโซฟาหนานุ่มเดินดุ่มๆ ขึ้นห้องไปยังชั้นสองทันที ยามนี้ปรางแก้วชังน้ำหน้าฉัตรชนมากที่สุดด้วยเพราะหล่อนเพิ่งเห็นข่าวว่าเขาควงเน็ตไอดอลสาวคนดังไปงานเปิดตัวร้านเพชรสาขาใหม่ด้วยกัน เขาเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนผ้าเช็ดเท้า พอเบื่อก็เขี่ยทิ้งลงถังขยะทั้งที่เขาก็รู้ว่าหล่อนเกลียดพฤติกรรมแบบนั้นของเขามากแค่ไหน
แต่ก็อย่างว่านั่นแหละฉัตรชนจะมาแคร์ความรู้สึกของหล่อนทำไมกัน ในเมื่อในสายตาเขาหล่อนมันก็แค่เด็กเมื่อวานซืนที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมดี เรียนจบปริญญาตรีมาด้วยเกรดแบบพอถูไถ หนำซ้ำพอจบมาก็ยังหางานหาการทำไม่ได้ ถึงตอนนี้ก็ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ ในขณะที่เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระดับพันล้านตั้งแต่อายุสามสิบต้นๆ เริ่มต้นด้วยการซื้อที่ดินมาแบ่งล็อกปลูกบ้านขายครั้งละหนึ่งหลังสองหลัง กระทั่งตอนนี้เป็นเจ้าของโครงบ้านหมู่บ้านจัดสรรหลายสิบแห่งและกำลังจับธุรกิจอัญมณีอย่างจริงจัง โดยเฉพาะร้านเพชรที่ขยายสาขาเป็นว่าเล่น
ฉัตรชนเป็นเพื่อนรุ่นน้องของพ่อหล่อน อายุห่างกับพ่อห้าปี เคยเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมที่เดียวกัน ตอนนั้นฉัตรชนเพิ่งเข้าม.1 แต่ด้วยความที่ไม่ยอมคน ไม่ยอมให้ใครข่มขู่ จึงถูกรุ่นพี่ดักรุมทำร้ายปางตาย โชคดีได้พ่อของหล่อนเป็นคนช่วยไว้เลยรอดมาได้ ทั้งสองจึงนับถือกันเป็นพี่น้องมาตลอดนับตั้งแต่นั้น
“ยัยปรางไปไหนเสียล่ะแม่” พิทักษ์ถามขึ้นหลังจากผู้เป็นภรรยาจัดโต๊ะอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ปกติปรางแก้วมักจะมาช่วยแม่อยู่เสมอ ทำให้คนเป็นพ่ออดแปลกใจไม่ได้ที่ไม่เห็นลูกสาวคนโตมาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ
“เมื่อกี้แม่ให้ตาภูมิขึ้นไปดูที่ห้อง เห็นบ่นว่าปวดหัวอยากนอนพัก”
“แต่ภูมิว่าพี่ปรางปวดหัวการเมืองมากกว่าครับ ตอนบ่ายภูมิยังเห็นพี่ปรางใส่หูฟังแหกปากร้องปรางเสียงดังอยู่เลย” ภูมิพัฒน์ในวัยสิบแปดพูดโพล่งขึ้นตามประสาวัยรุ่นที่อยู่ในวัยเลือดร้อน
“ยัยปรางนี่ยังไงนะ ฉัตรอุตส่าห์มาบ้านทั้งที” พิทักษ์ว่าพลางหันไปทางเพื่อนรุ่นน้องอย่างขอลุแก่โทษที่ลูกสาวตัวเองทำตัวเหมือนเสียมารยาทกับแขก
“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่พิทักษ์ ถ้าพี่พิทักษ์ไม่ว่าอะไร ผมขอขึ้นไปดูอาการหลานหน่อยนะครับ”
“เอาสิฉัตรเชิญเลยๆ ตามสบาย”
เมื่อเจ้าของบ้านไฟเขียวซึ่งก็ไฟเขียวเสมอสำหรับฉัตรชน ชายหนุ่มจึงพาตัวเองตรงขึ้นไปยังห้องนอนของปรางแก้วโดยไม่ต้องให้ใครพาไป เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเข้าหาหล่อนถึงห้อง
เตียงนอนที่ยุบยวบยามลงตามน้ำหนักของคนนั่ง ทำให้ร่างบางที่นอนหันหลังให้ประตูต้องหันขวับมามอง คราแรกคิดว่าเป็นแม่หรือพ่อตัวเอง ทว่าพอเห็นหน้าคนที่เข้ามาใหม่ทำให้หล่อนต้องรีบพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากกว่านั้นมือใหญ่ก็ยื่นมาอังบนหน้าผากของหล่อน ปรางแก้วจึงทำได้แค่เบี่ยงหน้าหนีและบัดมือใหญ่นั้นออกราวกับเจอของร้อน
หล่อนไม่แปลกใจหรอกที่พ่อยอมให้เขาเข้ามาห้องของลูกสาว เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเข้ามา อีกทั้งหล่อนก็เชื่อว่าคงไม่มีพ่อหรือแม่คนไหนจะไม่ยินดีที่จะเปิดทางให้ผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างฉัตรชน ตรงกันข้ามคงจะยิ่งทั้งผลักทั้งดัน แม้กระทั่งพ่อและแม่ของหล่อนก็ไม่มีข้อยกเว้น หากกระนั้นต่อให้ใครคาดหวังยังไงแต่ทุกครั้งที่ฉัตรชนเข้ามาหรือได้อยู่ในที่รโหฐานกับหล่อนตามลำพัง เขาก็ไม่เคยทำอะไรมากไปกว่าแตะต้องตัวเล็กๆ น้อยๆ แบบที่ผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กทำเท่านั้น
“เห็นพี่สุบอกว่าเราไม่สบายอาเลยขึ้นมาดู แต่ดูแล้วเราก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนี่ ตัวก็ไม่ได้ร้อน หรือว่าแค่ปวดหัว”
“ค่ะ ปรางไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ได้ตัวร้อนและก็ไม่ได้ปวดหัว”
“อ้อ...แค่อยากหลบหน้าอาว่างั้นเถอะ” ฉัตรชนดักคออย่างรู้ทัน ทำไมเขาจะอ่านไม่ออกว่าเด็กสาวคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
“ก็ในเมื่ออารู้แล้วว่าปรางไม่อยากเห็นหน้า อาขึ้นมาหาปรางทำไมละคะ”
“อาแค่อยากรู้ว่าทำไมเราต้องหลบหน้าอา อาทำอะไรให้โกรธ”
เสียงทุ้มดุที่เป็นน้ำเสียงแบบผู้ใหญ่คุยกับเด็กทำให้ปรางแก้วแอบเคืองมากกว่าเดิม เขาถามเหมือนแคร์เสียเหลือเกิน แต่ถ้าเขาแคร์จริงๆ เขาคงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก
“เปล่านี่คะ”
“พักหลังๆ มานี่อารู้สึกว่าเราเกลียดขี้หน้าอานะ แต่ก็เอาเถอะถ้าเราไม่ชอบหน้าอา ต่อไปอาก็จะไม่มาที่นี่ให้เราต้องเหนื่อยกับการหลบหน้าอาอีก”
ปรางแก้วได้ยินเช่นนั้นก็เผลอกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรงเพื่อสกัดกลั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ในอก มันน่าจะดีอย่างที่เขาว่าที่หล่อนไม่ต้องเหนื่อยกับการคอยหลบหน้าเขา แต่ทำไมในหัวใจมันปวดหนึบๆ แบบนี้
“ทุกวันนี้อาก็มาที่นี่แบบฝืนใจอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ ทั้งที่รังเกียจปรางจะแย่แต่ก็ต้องฝืนใจมาเพราะเกรงใจพ่อของปราง”
“อาไม่เคยทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง อย่ามาทำเป็นรู้ดีไปกว่าอา” ฉัตรชนทำเสียงดุใส่ในประโยคหลังแต่มันก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับปรางแก้วมากไปกว่าที่หล่อนกำลังรู้สึกอยู่หรอก
“เหมือนที่อาไม่อาจจะฝืนใจชอบเด็กกะโปโลอย่างปรางใช่มั้ยคะ”
“ใช่...เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อาจะมารักมาชอบกับลูกสาวของเพื่อนได้ยังไง และเราเองก็ไม่ควรจะรู้สึกแบบนั้นกับอา”
“แล้วอาจะให้ปรางทำยังไงล่ะ ก็คนมันรู้สึกไปแล้ว”
“ก็หาแฟนสิ หาแฟนที่เหมาะสมกับวัยตัวเอง ไม่ใช่มาชอบผู้ชายแก่คราวพ่ออย่างอา”
ปรางแก้วอ้าปากค้าง ตอนถูกเขาปฏิเสธรักว่าเจ็บแล้ว แต่พอได้ยินเต็มสองหูว่าให้หล่อนหาแฟนเพื่อที่หล่อนจะได้ไม่ต้องรักเขา นั่นยิ่งเจ็บปวดมากกว่าเป็นหลายเท่า
“อ้อ...โอเคค่ะ งั้นปรางจะเริ่มออกไปหาตั้งแต่คืนนี้เลย”
“นี่เรากำลังประชดอาเหรอ”
“เปล่านี่คะปรางพูดจริงต่างหาก ขอบคุณที่แนะนำนะคะ อาออกไปได้แล้ว ปรางจะแต่งตัวออกไปเที่ยวกับเพื่อนจะได้หาแฟนได้เร็วๆ”
บทที่ 1 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 2 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 3 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 4 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 5 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 6 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 7 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 8 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 9 คืนฟ้าพร่างดาว
01/03/2024
บทที่ 10 คืนฟ้าพร่างดาว
01/03/2024
บทที่ 11 คืนฟ้าพร่างดาว
01/03/2024
บทที่ 12 คืนฟ้าพร่างดาว
01/03/2024
บทที่ 13 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 14 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 15 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 16 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 17 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
บทที่ 18 เพื่อนพ่อหนูขอลองรัก
01/03/2024
หนังสืออื่นๆ ของ เทียนธีรา
ข้อมูลเพิ่มเติม