Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ปล้นบ้านผิดชีวิตเปลี่ยนแปลง

ปล้นบ้านผิดชีวิตเปลี่ยนแปลง

nugkeanransawat

5.0
ความคิดเห็น
320
ชม
13
บท

เรื่องราวของมาเฟียหนุ่มผู้จับโจรสาวที่ย่องเข้าบ้านมาทำเมียบำเรอ เขาทั้งดุและโหดหื่น เล่นเอาโจรสาวถึงกับไปไหนไม่ได้ สุดท้ายโจรสาวแสนสวยกับมาเฟียหนุ่มจะลงเอยยังไงเชิญติดตามรับชมกันเลยค่ะ

บทที่ 1 โจรสาวกับมาเฟีย

ปล้นบ้านผิดชีวิตเปลี่ยนแปลง

ตอน โจรสาวกับมาเฟีย

เวลาตีสอง ในเมืองใหญ่ ผู้คนส่วนใหญ่กำลังหลับไหล

พีอาร์สาวอายุยี่สิบต้นๆกำลังเดินออกจากผับเล็กในซอยที่แออัดแห่งหนึ่ง เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งขณะสวมชุดเดรสรัดรูปสีแดงสด

"สืบอยู่เกือบเดือนกว่าจะเจอบ้านไอหมอนั่น"

คนสวยเอ่ยขณะใช้ยางรัดรวบมัดผมตัวเอง เธอหยุดยืนอยู่หน้ารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าคาเฟ่ ก้มฉีกชายชุดเดรสของตัวเองให้กลายสภาพเป็นกระโปรงแหวกข้างก่อนจะขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์สีดำแล้วเสียบกุญแจสตาร์ท

วืน! ๆ ๆ มือน้อยบิดรถแล่นฉิวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ผมยาวที่มัดไว้ปลิวไหวไปข้างหลัง

"พี่ไอแน่ใจนะว่าจะปล้นบ้านไอหมอนั่นจริงๆ" เสียงเด็กผู้หญิงดังเข้ามาในสมอทอร์คไร้สายที่เหน็บหูข้างขวา

"อืม แน่สิ" สาวสวยตะเบงเสียงตอบขณะตั้งหน้าตั้งตาขับรถบิ๊กไบค์ไล่ตามหลังรถsuvสีดำ

"ใช่แล้ว พวกเราต้องกินคำโต" เสียงเด็กชายแทรกเข้ามาอีกคน

"ถูกต้อง ถ้าเราปล้นคนจนๆก็ต้องปล้นทุกวัน ถ้าปล้นคนรวยๆเผลอๆทำงานปีละครั้งก็พอ เผลอๆเหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ" ไอตอบน้องๆ

เอี๊ยด! รถsuvแล่นมาจอดหน้าบ้านหรูสี่ชั้นที่มีกำแพงรั้วสูงเกือบสองเมตร มีผู้ชายสูทดำตัวใหญ่สองคนยืนเฝ้าหน้าประตูบ้าน บนหน้าของพวกเขามีรอยแผลเป็นเสียด้วย

สาวเดรสแดงปิดกุญแจ ปล่อยรถไหลลงเนินมาจอดซ่อนอยู่ในพุ่มหญ้าไกลๆ จากนั้นถลกชายเดรสจนเห็นขาอ่อน ใช้มือล้วงกล้องส่องอินฟาเรดที่เหน็บไว้ตรงขาขวา ขาซ้ายก็มึสายรัดและมีดเสียบอยู่เช่นกัน

อืม! "ทำไมดึกแล้วยังมึคน บ้านนี้มันดูแปลกๆนะ" ไอเอ่ย

"แสดงว่าต้องรวยมากเลยสิท่า" เสียงเด็กชายพูดสาย

"เดี๋ยวดูให้" เด็กหญิงพูดแทรก จู่ๆก็มึโดรนบังคับบินมาอยู่เหนือหัวสาวสวยแล้วจู่ๆก็พุ่งตรงขึ้นในแนวดิ่งจนสูงลับตา

"โอ้โห เป็นกองทัพ" เด็กหญิงร้องอุทาน

"แล้วเข้าไปได้ไหม" ไอเอ่ย

"ไม่ได้ มีคนเดินเต็มบ้าน หลังประตูสอง หน้าบ้านอีกสอง หลังบ้านสอง ด้านซ้ายและขวาอีกฝั่งละสอง" เด็กสาวตอบ

"สิบพอดี งั้นเอายังงี้ ใช้กลยุทธ์โจมตีโต้รุ่ง" เด็กชายเอ่ย

"มันคือแบบใด" พี่สาวคนสวยถาม

"ก็รอไปก่อนถึงตีสี่ เวลานั้นทุกคนจะง่วง มันคือเวลาที่จอมทัพใช้โจมตีข้าศึกไง ตำราพิชัยสงคราม"

"พอ ๆ หยุด ๆ เข้าใจแล้ว โอเค ตีสี่นะ" พี่สาวเอ่ยตัดบท

"เอาแห้งหรือน้ำ" น้องสาวถาม

"แห้ง ไม่เผ็ดนะ" พี่สาวตอบ

ฟ้าว! โดรนบังคับวิทยุบินผ่านหัวสาวสวยไปด้วยความเร็วสูง ราวๆสิบนาทีมันก็บินกลับมาพร้อมบะหมีถ้วยสำเร็จรูปในถุงหิ้ว

ไอนั่งพิงโคนต้นไม้กินบะหมี่แห้งร้อนๆจนอิ่ม นั่งเล่นเกมส์ยิงปืนกับน้องชายและน้องสาวในมือถือจนถึงตีสี่

"น่าจะเข้าไปได้แล้วนะ" เด็กชายเอ่ยผ่านสายโทรศัทพ์มือถือ

"บินดูแล้ว พวกนั้นหงายเก๋ง ไม่มีใครยืนซักคน เข้าไปข้างในแล้วระวังตัวด้วย อยู่ในนั้นช่วยมองอะไรไม่ได้แล้ว" เด็กหญิงตอบขณะบังคับโดรนบินกลับบ้าน

ตุบ! ๆ ๆ สาวชุดแดงวิ่งปรี่มาประชิดรั้วบ้านก่อนจะกระโดดสูงชูมือจับขอบรั้วที่สูงเกือบสองเมตร จากนั้นดึงตัวห้อยโหนขึ้นไปยืนบนขอบรั้วอย่างน่าหวาดเสียว

แฮ่ก! ๆ ๆ "วิชาเก่ายังได้ผล" ไอเอ่ยขณะนึกถึงตอนที่เธอเรียนวิทยาลัยพละ สมัยเป็นตัวแทนเยาวชนกีฬากระโดดสูง

เธอหันหลังกลับเข้าทางบ้านก่อนจะห้อยโหนขอบรั้ว พยายามหย่อนเท้าลงมาให้ต่ำที่สุดแล้วปล่อยตัวร่วงลงข้างล่าง

ตุ๊บ! เสียงร่างเพรียวบางกระทบพื้นหญ้าก่อนจะกลิ้งมาหลบตรงพุ่มดอกไม้อย่างชำนิชำนาญ

เมื่อมองซ้ายขวาไม่เห็นใครแล้วจึงย่องตัวท่ามกลางความมืดมาทางหน้าต่างแล้วก็ใช้มีดสั้นที่เหน็บสายรัดขางัดหน้าต่างจนเปิด

"ฮิ! ใช้คนเยอะก็จริง แต่น่าเสียดายที่มีแต่คนโง่ๆ" โจรสาวเอ่ยขณะปีนหน้าต่างเข้ามาในบ้าน

เธออ้าปากค้างเมื่ออยู่ตรงห้องนั่งเล่น ในนี้มีตู้โชว์ที่เก็บของโบราณเอาไว้มากมาย มีทั้งเครื่องกระเบื้อง ชุดเกราะและปืนคาบศิลา แต่ละอันมันเก่าแก่จนตีราคาไม่ออกเลย

"เอาอะไรดีนะ ช่วยคิดหน่อยสิ" โจรสาวเอ่ยขณะเดินผ่านตู้โชว์สูงท่วมหัวและชายตามองของมีค่าต่างๆนานา

"ทำไมเงียบ" สาวสวยเอ่ย พอยกมือทาบหูก็เพิ่งรู้ว่าสมอลทอร์คหลุดร่วงไปเสียแล้ว

เห็นสร้อยหยกอันหนึ่งเด่นสง่าอยู่กลางห้อง มันดึงดูดสายตาราวกับมีแรงแม่เหล็กให้ย่างเข้าไปหา

"สวยจัง" ไอเอ่ยขณะยกมือลูบสร้อยหยกอันใหญ่ มันทำด้วยหยกเขียวหลายชิ้นที่รวมกันเป็นรูปหงส์ ดูหรูหราและเก่าแก่คล้ายๆกับสร้อยไทเฮาอะไรเทือกนั้น

มือน้อยดึงสร้อยหยกขึ้นจากแท่นวางเอามาทาบคอ

ตี๊ด! ๆ ๆ ๆ จู่ๆเสียงสัญญาณกันขโมยก็ดังขึ้น ฟังดูคล้ายๆเสียงระเบิดเวลาที่นับถอยหลัง

หนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมคายสีแทนย่างกรายเข้ามายืนด้านหลังสาวเดรสแดง ว่องไวราวกับเงาของปีศาจ

"นี่เธอ" เสียงดุๆดังอยู่ข้างหลัง

ห๊ะ! โจรสาวเหลียวหลังมาแหงนมองหนุ่มตัวสูง

เปรี้ยง! ด้ามปืนสั้นทุบเข้ามาตรงหน้าผากโจรสาวพอดี ตาพร่ามัวในพลันใด ไอรู้สึกเลยว่าโลกกำลังหมุนๆรอบตัวเธออยู่

และแล้วภาพสุดท้ายที่เห็นก็คือใบหน้าถมึงทึงของหนุ่มหล่อผิวแทน ก่อนจะร่วงลงมานอนหงายแผ่หราอยู่บนพื้นอันแข็งและเย็นเฉียบ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ