กรี๊ด” พราวนภาหวีดร้องสุดเสียงยามเมื่อเรือนร่างอรชรกำลังเสียหลัก พราวนภาหลับตาลงด้วยความหวาดกลัว “คุณครับ...เป็นอะไรไหมครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เวลานี้พราวนภากำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ธนพรั้งเอวอรชรมาใกล้ตัว พราวนภาลืมตาโพลง แม่ม่ายสาวใหญ่สังเกตเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายระยับ คิ้วเข้มจนเน้นให้ใบหน้าหล่อดูคมคาย ดวงหน้าคมคายอยู่ใกล้ใบหน้านวลผ่องแค่คืบ พราวนภาสัมผัสได้ถึงหัวใจของตนเองที่เต้นระรัว “ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้นขณะยืนตัวตรง ม่ายสาวจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยกว่าเดิม “ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” พราวนภาเอ่ยขณะสบสายตาชวนหวามใจของชายหนุ่มตรงหน้า “ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้นขณะลอบมองใบหน้าของสตรีตรงหน้าที่เว้นระยะห่างออกมา “ฉันสายแล้วยังไงก็ขอบคุณคุณมากค่ะ” พราวนภาเอ่ยขณะก้มเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือของตนเอง “ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างสุภาพ หญิงสาวเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้ว หากแต่ธนพยังยืนอยู่ที่เดิม เหตุการณ์เมื่อครู่อดทำให้ใจของเขาสั่นระรัวไม่ได้ ดวงหน้านวลผ่องหมดจดไร้ไฝฝ้าทำให้เขาคาดคะเนไม่ถูกว่า สตรีคนนั้นมีอายุเท่าใดกันแน่ ++++ พราวนภาร้องครางเสียงหลงยามเมื่อมือหนาของธนูเอื้อมมาใกล้กับกระโปรงของเธอ ธนูถลกกระโปรงของพราวนภาขึ้นแล้วบรรจงใช้นิ้วเรียวสอดไปในช่องทางสวรรค์ นิ้วมือเรียวของธนูดั้นเข้าไปอย่างซุกซน พราวนภาสัมผัสได้ราวกับตนกำลังโผผินบินได้ดั่งใจหมาย พราวนภาครวญกระชั้นยามเมื่อธนูขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แววตาคู่นั้นเบิกกว้างกว่าเดิม ยามเมื่อริมฝีปากบางบดขยี้จูบอย่างรุนแรง หญิงสาวรู้สึกราวกับนกผกผินได้ เมื่ออารมณ์ของเธอเตลิดจนกู่ไม่กลับ
สายแล้ว” พราวนภาเอ่ยอย่างกระหืดกระหอบ ยามเมื่อก้มลงมองดูนาฬิกา
รองเท้าส้นเตี้ยก้าวเดินฉับ ๆ เพื่อให้ทันนัดหมายในเก้าโมง
ร่างระหงส์สวมชุดเดรสยาวเลยเข่าสีโอรส ดวงตาคู่นั้นสอดส่ายหาไปยังบุคคลที่จะช่วยเหลือเธอได้
วันนี้เป็นวันที่สาวใหญ่อย่างพราวนภาเดินทางมายังงานอบรม “สานฝัน สืบงานเขียน” หากแต่เวลานี้เธอกลับกำลังหลงทางไปห้องอบรมไม่ถูก
ขณะที่กำลังหลงทางอยู่นั้นรองเท้าส้นเตี้ยของม่ายสาวก็พลันเหยียบเศษเปลือกกล้วย
“กรี๊ด” พราวนภาหวีดร้องสุดเสียงยามเมื่อเรือนร่างอรชรกำลังเสียหลัก พราวนภาหลับตาลงด้วยความหวาดกลัว
“คุณครับ...เป็นอะไรไหมครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
เวลานี้พราวนภากำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ธนพรั้งเอวอรชรมาใกล้ตัว
พราวนภาลืมตาโพลง แม่ม่ายสาวใหญ่สังเกตเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายระยับ คิ้วเข้มจนเน้นให้ใบหน้าหล่อดูคมคาย
ดวงหน้าคมคายอยู่ใกล้ใบหน้านวลผ่องแค่คืบ พราวนภาสัมผัสได้ถึงหัวใจของตนเองที่เต้นระรัว
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้นขณะยืนตัวตรง ม่ายสาวจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยกว่าเดิม
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” พราวนภาเอ่ยขณะสบสายตาชวนหวามใจของชายหนุ่มตรงหน้า
“ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้นขณะลอบมองใบหน้าของสตรีตรงหน้าที่เว้นระยะห่างออกมา
“ฉันสายแล้วยังไงก็ขอบคุณคุณมากค่ะ” พราวนภาเอ่ยขณะก้มเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือของตนเอง
“ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างสุภาพ
หญิงสาวเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้ว หากแต่ธนพยังยืนอยู่ที่เดิม
เหตุการณ์เมื่อครู่อดทำให้ใจของเขาสั่นระรัวไม่ได้ ดวงหน้านวลผ่องหมดจดไร้ไฝฝ้าทำให้เขาคาดคะเนไม่ถูกว่า สตรีคนนั้นมีอายุเท่าใดกันแน่
ธนพยกมือลูบคางอย่างใช้ความคิด หากแต่ขณะกำลังใช้ความคิดเสียงหนึ่งก็ถูกขัดขึ้น
“คุณธนพครับ รถที่เตรียมไว้ได้แล้วครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดความคิดที่กำลังเตลิดของธนพ
“ครับ” ธนพเอ่ยขึ้นขณะสาวเท้าออกจากโรงแรมของพี่ชาย ธนู ดิเรกสิงหะ
ลิฟต์ไต่ระดับขึ้นสูง พราวนภาที่ลอบมองจากด้านบนอดใจสะท้านขึ้นมาไม่ได้ ดวงหน้าคมคายหากแต่อ่อนเยาว์กว่าคล้ายกับธนู ดิเรกสิงหะ สามีเก่าที่หย่าขาดของเธอ
พราวนภาห่อไหล่ด้วยความหวาดหวั่นเล็กน้อย
แม่ม่ายสาวกลัวการเผชิญหน้ากับสามีเก่าของเธอเป็นที่สุด
ว่ากันว่าสิ่งที่สามารถทำให้พราวนภารู้สึก
หวาดหวั่นในใจที่สุดเห็นจะเป็นธนู ดิเรกสิงหะ คนนี้นี่แหละ
ธนู ดิเรกสิงหะ สามีเก่าของเธอ เบื้อง
หน้ามีอาชีพสวยหรูเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่
กระนั้นพราวนภากลับไม่เคยเห็นสิ่งนั้นเลยสักครั้ง
ธนูเป็นหนุ่มหล่อ เขามีดวงหน้าคมสัน จมูกโด่ง ริมฝีปากเรียวบางสีชมพูระเรื่อ รับกับผิวขาวผ่องละเอียดของเขา
ธนูเป็นผู้ชายคนแรกของพราวนภา
หากแต่พราวนภากลับทำให้เขาเหมือนตกนรกทั้งเป็น
คราวก่อนที่ธนูไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน
ที่บริษัทของเขาก็เช่นกัน เวลานั้นพราวนภากลับต้องทำกับข้าวอยู่บ้าน รีดผ้า ซักผ้าให้เขาอย่างเอาใจใส่ ของกินของใช้ไม่ขาดตกบกพร่อง
กระนั้นหรือเขาก็ยังนอกใจเธอได้..ธนู
แอบคบกับเด็กเชียร์เบียร์ หล่อนชื่อ ทีน่า เด็กสาววัยยี่สิบต้นๆ
พราวนภายังจำหน้าดวงหน้าของทีน่าได้
ดี มันเด่นชัดในความทรงจำของเธอ
ทีน่ามีดวงตากลมโต ใบหน้าขาวผ่อง คิ้วเข้มจมูกนูนเป็นสัน เด็กสาวคนนั้นมีใบหน้าออกฝรั่งจนทำให้สามีของพราวนภาติดใจอย่างที่ธนูชอบบอกกับพราวนภาให้แต่งหน้าแต่งตาหน่อย
“พราว แต่งหน้าหน่อยเถอะผมไม่อยาก
กินข้าวอยากกินพราวเหมือนเดิม” เสียงของธนูดังขึ้น ชายหนุ่ม ธนูลอบมองดวงหน้าหวานสวยของพราวนภาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“ธนูค่ะ พราวไม่ชอบแต่งหน้าค่ะ” พราวนภาเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนัก
หญิงสาวไม่แม้แต่จะสนใจความรู้สึกเขาด้วยซ้ำ ในตอนนั้นพราวนภาคิดแค่ว่า ทะเบียนสมรสจะมัดใจธนูไว้ได้แต่เปล่าเลย
รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาจอดเทียบคฤหาสน์หลังโตรโหฐานที่พราวนภาย้ายเข้ามาอยู่ได้สักประมาณเดือนกว่าในฐานะภรรยาใหญ่ของตระกูลจอมปลอมอย่างดิเรกสิงหะ
“คุณพราวแย่แล้วค่ะ” เสียงของป้าชื่นเอ่ยขึ้นอย่างกระหืดกระหอบ
“มีอะไรคะป้าชื่น” พราวนภา ภรรยาใหญ่ของตระกูล เอ่ยถามขณะเงยหน้าออกจากกองหนังสือที่กองพะเนินสูงท่วมหัว
“ก็คุณ....” ยังไม่ทันที่ป้าชื่นจะพูดจบ พราวนภาก็สะดุ้งสุดตัวกับเสียงอี๋อ๋อที่ดังลั่น
“หน็อย คุณธนู” พราวนภาเอ่ยขณะลุกขึ้นจากเก้าอี้บุนวม
พราวนภาเดินไปตามเดินเพื่อไปยังห้องนอนของธนูกับเธอทันที
ปลายเท้าเรียวขาวสะอาดสืบไปอย่างพร้อมมีเรื่องกับบรรดาเมียน้อยของธนู
“คุณธนู!” พราวนภาตวาดฉาดใหญ่แล้วถีบประตูเข้ามาอย่างไม่กลัวเกรง
ธนูกระเด้งตัวพรวดออกจากหญิงสาวเปลือยอกท่อนบนทันที
“พี่ธนูมีเมียแล้วเหรอคะ” ทีน่าที่กำลังติดพันเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย
“แล้วหล่อนเห็นไหมล่ะว่าฉันเป็นใคร” พราวนภาเอ่ยถามอย่างไม่กลัวเกรง
“อ๋อตอนแรกทีน่านึกว่าคุณพราวนภาเป็นแม่ของพี่ธนูค่ะ” ทีน่าเอ่ยอย่างนึกสนุก
เวลานี้ทีน่าผมเผ้ายุ่งเหยิง ดวงตากลมโตเปล่งประกายระยับอย่างไม่กลัวเกรง
“ฉันเป็นภรรยาเอก และเป็นภรรยาคนเดียวของคุณธนู ฉันคือพราวนภา ดิเรกสิงหะ” พราวนภาเอ่ยทีละคำอย่างสุดจะทน
“พราวใจเย็นก่อน ผมขอโทษ” ธนูเอ่ยแล้วถอยผงะออกเมื่อเห็นพราวนภาเหวี่ยงฝ่ามือเข้าไปเต็มแรงบนใบหน้าของทีน่า
“โอ๊ย” เด็กสาวแรกรุ่นเอ่ยขณะกุมแก้มของตนเอง
“เจ็บเป็นด้วยเหรอ...นึกว่าจะด้านกว่านี้ซะอีก” พราวนภาเอ่ยขณะจิกผมของทีน่าทั้งสภาพเปลือยท่อนบน
“พราวหยุด ผมบอกให้หยุด” ธนูเอ่ยอย่างเหลืออดที่ผ่านมาเขาทนมามากแล้ว ทั้งตามล้างตามผลาญชีวิตเขา
พราวนภาเป็นผู้หญิงที่เห็นค่าของทะเบียนสมรสมากกว่าเขา เธอตามรังควานผู้หญิงทุกคนที่ใกล้เขาไม่เว้นแม้แต่ทีน่า ลูกสาวของเพื่อนสนิทเขา
หากเขาไม่เมาเหล้าทีน่ากับเขาก็คงไม่เกือบจะมีเพศสัมพันธ์อย่างนี้หรอก
“นี่คุณกล้าตวาดฉันเหรอคุณธนู คุณเห็นนังนี่ดีกว่าฉันใช่ไหม” พราวนภาเอ่ยอย่างสุดจะกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป
“ใช่ผมตวาดคุณ จากนี้ไปผมจะหย่ากับคุณ แล้วจำไว้ด้วยนะ คุณนะมันเป็นผู้หญิงน่ารำคาญที่สุดในโลกนี้เท่าที่ผมเคยเจอมา” ธนูเอ่ยขณะผลักร่างพราวนภาให้ล้มลงแล้วปิดประตูห้องนอนลงกลอนโดยไม่สนใจอาการที่ปวดร้าวกลางใจของเธอ
“ชั้นที่สิบสี่” เสียงลิฟต์ดังขึ้น พราวนภาแหงนหน้าขึ้นมองแล้วก้าวฉับฉับออกจากลิฟต์ไป
‘ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างพราวนภาจะแพ้ผู้ชายอย่างคุณ...ธนู’ พราวนภาคิดในใจแล้วสาวเท้าเข้าไปในงาน สืบฝันสานงานเขียนของเพื่อนสนิทของธนู ธนดล ติเวชสระ
ที่เป็นวิทยากรร่วมกับธนู ดิเรกสิงหะ คนนี้ด้วย
++++
บทที่ 1 ผู้ชายใจดี
19/06/2024
บทที่ 2 แผนร้าย
19/06/2024
บทที่ 3 กระดังงาลนไฟ
19/06/2024
บทที่ 4 เปลี่ยนใจได้ไหม
19/06/2024
บทที่ 5 ผูกพันธะ
19/06/2024
บทที่ 6 ดูดดื่มจนลืมไม่ลง
19/06/2024
บทที่ 7 สปาสุขล้น
19/06/2024
บทที่ 8 ตามง้อ
19/06/2024
บทที่ 9 ขอเป็นส่วนหนึ่งในหัวใจเธอได้ไหม
19/06/2024
บทที่ 10 ครอบครัวสุขสันต์
19/06/2024
หนังสืออื่นๆ ของ สรีสามัญ ดวงดาหลา
ข้อมูลเพิ่มเติม