Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อ๋องตู้สะเทือนจวน

อ๋องตู้สะเทือนจวน

ณิการ์

5.0
ความคิดเห็น
2.8K
ชม
13
บท

"ท่านอ๋องตู้" ผู้เย็นชา จะพ่ายแพ้ให้กับสายน้อย "ชู่เอ๋อ" อย่างไรมาลุ้นกันนะคะ ว่าการแต่งงานทางการเมืองอำนาจของทัั้งคู่จะเปลี่ยนเป็นรักที่ตัดไม่ขาดได้รึไม่.... ----- “ท่านจะทำอะไรข้า?” ชู่เอ๋อเพิ่งหาน้ำเสียงตัวเองเจอ ส่วนตู้เหลียงเฉิงก็ผละมือที่จับคางมนออกแล้วเดินไปเก็บดาบกายในมือไว้ที่เก็บดาบข้างเตียงแล้วเดินกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม นางช่างไร้เดียงสาตามที่อาจารย์ได้บอกไว้จริงๆ “อยากรู้เหรอว่าข้าจะทำอะไรเจ้าชายาของข้า” “ขะ...ข้าไม่อยากรู้แล้ว” นางขยับตัวถอยหนีทันทีเมื่อคนตรงหน้าได้เปลี่ยนมานั่งเบียดบนเตียง หึหึ “แต่ข้าอยากให้เจ้ารู้ชู่เอ๋อ ข้าอยากแสดงให้เจ้าดูว่าหน้าที่แท้จริงของชายานั้นต้องทำเยี่ยงไร” เขาเอ่ยพลางมือใหญ่ปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองออกช้าๆ “หม่อมฉันไม่อยากรู้แล้วท่านอ๋องตู้ หม่อมฉันง่วง อ่า...” นางพูดพร้อมยกมือปิดปากหาว เพราะรู้ถึงความหมายของคำพูดของตู้เหลียงเฉิง แม้นางจะซุกซน แต่ใช่ว่านางจะไม่รู้ว่าชายหญิงยามอยู่ด้วยกันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง “แต่เรายังไม่ง่วงชู่เอ๋อ คืนนี้คือคืนของเรา ยังไงเสียเจ้าก็ต้องปรนนิบัติข้าในฐานะเมีย!” ท้ายประโยคตู้เหลียงเฉิงเอ่ยเน้นให้นางเข้าใจเป็นพิเศษ “ตะ...แต่หม่อมฉันยังไม่พร้อมท่านอ๋อง เป็นวันอื่นได้ไหมเจ้าคะ?” นางต่อรอง “ช่างเจรจาเหลือเกิน เจ้ารู้ไหมว่าการแต่งเข้าจวนของอ๋องตู้ต้องเจอกับอะไรบ้าง” “ก็เจอกับท่านอ๋องตู้” นางตอบซื่อ “นั่นก็ถูก และรู้อะไรไหมว่ายามกลางคืนเจ้าต้องเจอเพลงดาบของข้าที่ได้ร่ำเรียนสะสมมานานตลอดหลายปี” “ท่านจะฆ่าหม่อมฉัน?” “เปล่าชายาข้า ดาบของข้ามันไม่ได้มีไว้เพื่อฆ่าเจ้าให้สิ้นลม แต่มันมีไว้เพื่อให้ความสุขเจ้าต่างหากเล่าชู่เอ๋อ” เอ่ยจบความอ๋องหนุ่มก็จัดการกับอาภรณ์ของตัวเองเสร็จพอดีพร้อมกับขยับตัวเคลื่อนไหวเข้าหาคนที่ขยับตัวถอยห่างและกักร่างเล็กไว้ไม่ให้หนีรอดพ้นมือตัวเองไปได้ “ทะ...ท่านถอดเสื้อทำไมเจ้าคะ” “ไม่ถอดแล้วจะแสดงวรยุทธ์ให้เจ้าดูได้เช่นไรเล่าชายาข้า และเจ้าเองก็ต้องถอดเหมือนกัน ที่หัวเจ้าคงหนักมากแล้วชู่เอ๋อ” มือใหญ่จัดการปลดเครื่องประดับบนหัวของพระชายาออกพร้อมกับก้มต่ำมองลำคอระหงสวยงามแล้วลอบกลืนน้ำลายลงคอไปด้วย กลิ่นกายอ่อนๆ ของสตรีโชยเข้าจมูกจนรู้สึกซาบซ่านท่อนเนื้อมังกรที่อยู่กลางหว่างขา....

บทที่ 1 เพลงดาบราคะจวนอ๋องตู้

ณ จวนอ๋องตู้ เสียงครวญครางดังลอดออกมานอกประตูห้อง ทำให้ทหารเวรยามต่างพากันหันมายิ้มให้กันกรุ้มกริ่มด้วยรู้ดีว่าท่านอ๋องของพวกตนกำลังทำอะไรอยู่ ส่วนด้านในห้องกำลังเคลื่อนไหวโยกกับนางรำที่เพิ่งหิ้วมาจากโรงน้ำชาด้านนอก แม่นางเสี่ยวเล้งคือแม่นางที่เป็นที่โปรดปรานของอ๋องตู้ ยามศึกอ๋องตู้จะโหดเหี้ยม แต่ยามพักศึกจะโหดเหี้ยมยิ่งกว่ายิ่งเวลาอยู่บนเตียง และความโหดเหี้ยมของท่านนี่แหละที่ทำเหล่าสตรีหลงใหลจนอยากปรนนิบัติท่านอ๋องของพวกมัน

“อ่า...อื้ม” เสียงครางของทั้งคู่ที่กำลังประกอบร่างหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยเพลิงราคะรัญจวนเสน่หา ทั้งสองร้องครางต่ำสลับกันขึ้นลงพร้อมกับที่ร่างน้อยของแม่นางเสี่ยวเล้งขยับโยกไหวแอ่นเด้งเร่าตอบสนองท่านอ๋องของนางที่กำลังสอดเร่ากระแทกเนื้อกายอุ่นร้อนใหญ่โตราวเหล็กกล้าเข้าออกในความเป็นสตรีของนาง

“อ่า...อืม เจ้าช่างอ่อนหวานนักเสี่ยวเล้งของข้า อืม...เจ้าไม่เคยทำให้ข้าต้องผิดหวังเลยเสี่ยวเล้ง อืม...” ปากหนาครวญครางพึมพำพร้อมกับดูดเร่าสองเต้าอวบใหญ่ล้นมือของแม่นางเสี่ยวเล้งคนงามจากหออี้หรู

“อือ...ท่านอ๋องตู้ก็ไม่เคยทำให้เสี่ยวเล้งแห้งเหือดเช่นกันเจ้าค่ะ อ่า...อืม” หล่อนร้องครางบิดเร่ากายตอบสนองคนตัวโตที่คร่อมทับโยกไหวเหนือร่างด้วยชั้นเชิงแห่งเทพ

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

จังหวะเร่าร้อนของกายเนื้อเปลือยเปล่าดังกระทบกระทั่งกันทำให้ทหารเวรยามที่หน้าประตูได้แต่อมยิ้มบิดตัวเขินแทนเจ้าของห้อง ถึงจะเป็นแบบนี้เป็นประจำเวลาท่านอ๋องกลับจวนมักจะเรียกแม่นางเสี่ยวเล้งจากหออี้หรูมาให้ความสำราญยามเหนื่อยจากการฝึกซ้อมกองทัพที่ค่ายด่านนอกเมือง

“คุณหนู ท่านแม่ทัพให้มาตามคุณหนูไปพบเจ้าค่ะ” เสียงหลันหลงสาวใช้ประจำตัวคนสนิทที่มาด้วยกันกับนางเอ่ยบอกขณะที่เธอกำลังจะเดินออกนอกประตูของจวน

“ท่านพ่อเหรอหลันหลง”

น้ำเสียงสดใสของคุณหนูชู่เอ๋อ วัย 18 ปี เอ่ยถามสาวใช้คนสนิทตัวเองพร้อมกับยกยิ้มมุมปากส่งให้หลันหลงก่อนจะรีบสาวเท้าเร็วๆ แล้วเปลี่ยนเป็นวิ่งออกทางประตูจวนไปทันที ส่วนหลันหลงก็ได้แต่วิ่งตาม ที่ชู่เอ๋อไม่ไปพบท่านพ่อตามที่สาวใช้มาบอกนั้นเพราะรู้ดีว่าท่านจะพูดคุยเรื่องอะไรกับตน เพราะหลายวันก่อนท่านก็คุยเรื่องจะให้นางออกเรือนไปกับลูกชายของตระกูลหวัง

“คุณหนู! คุณหนู!”

หลันหลงได้แต่ตะโกนร้องเรียกคุณหนูของตนไว้พร้อมสาวเท้าวิ่งตามไปติดๆ พร้อมกับทหารรับใช้ที่เฝ้าประตูหน้าจวนก็วิ่งตามไปด้วยเช่นกัน

“หลันหลงเจ้ากลับไปบอกท่านพ่อเถอะ ข้าไม่ไปพบท่านหรอก ท่านจะบังคับข้าออกเรือน ข้าไม่ยอม” ชู่เอ๋อวิ่งหนีโดยไม่สนใจสิ่งกีดขวางข้างหน้า นางเป็นบุตรสาวคนเดียวของแม่ทัพชู่เว่ย และแม่ของนางก็อายุสั้นจากไปตั้งแต่ที่นางยังแบเบาะหลังจากให้กำเนิดนาง ท่านก็สิ้นใจทันที

“คุณหนูระวัง!”

หลันหลงร้องบอกคุณหนูของตัวเองที่กำลังวิ่งอยู่ตรงหน้า เมื่ออยู่ๆ ก็มีกลุ่มคนชุดดำมากมายวิ่งไล่กันมาทางนี้ ส่วนชู่เอ๋อเมื่อได้ยินดังนั้นจะหลบก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อชายชุดดำกับกลุ่มคนที่ควบม้าไล่ตามมาได้มาถึงตัวแล้ว แต่จังหวะที่หยุดยกมือปิดหน้าตัวเองนั้น ร่างเปราะบางก็ลอยขึ้นเหนืออากาศแล้วมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อก้นกระแทกกับอานม้า

ตุ้บ!

ว้าย!

“จับพวกมันให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ฆ่ามันให้หมด” เสียงเหี้ยมดังขึ้นเหนือหัวของชู่เอ๋อพร้อมกับที่ม้ายังคงถูกควบไปข้างหน้า และอีกมือของเขากำบังเหียน ส่วนอีกมือกอดรัดเอวนางแน่นจนอึดอัด

“อือ...ปล่อยข้านะ ปล่อยข้า!” ชู่เอ๋อเริ่มดิ้นเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังโดนชายแปลกหน้าโอบกอดเอว

“หุบปากเจ้าซะ!”

เสียงเข้มตวาดตอบกลับพร้อมกับเขาหยุดม้าแล้วผลักนางลงจากหลังม้า ก่อนจะควบม้าไล่ตามพวกชายชุดดำไป ส่วนชู่เอ๋อก็ได้แต่เม้มปากแน่น โกรธชิงชังคนที่เพิ่งช่วยตัวเองไม่ให้โดยม้าวิ่งเหยียบตาย

“เจ้าคนชั่ว! เจ้าคนเลว!” นางได้แต่ตะโกนไล่ด่าตามหลังตามม้าอ้วนพีสีน้ำตาลที่เพิ่งได้นั่งก่อนหน้านี้ไป

“คุณหนู...คุณหนูเป็นอะไรไหมเจ้าคะ” หลันหลงวิ่งมาถึงก็จับตัวคุณหนูหมุนไปมาเพื่อสำรวจทันทีด้วยความเป็นห่วง

“ข้าไม่เป็นอะไรหรอกหลันหลง แต่ข้าโกรธผู้ชายคนนั้น กล้าดียังไงมาตวาดข้า” นางชี้ไปยังม้าที่วิ่งห่างไปไกลมากโข

“แต่ยังไงเขาก็ช่วยคุณหนูไว้นะเจ้าคะ” หลันหลงเอ่ย

“ถ้าเจ้าคนเลวนั่นไม่ควบขี่ม้าเข้ามาในตลาดแล้วข้าจะเจออันตรายไหมหลันหลง เจ้าดูสิ มองไปดูด้านหลังสิ พวกพ่อค้าต่างก็เสียหาย” ชู่เอ๋อเอ่ยอย่างมีอารมณ์

“คุณหนูกลับจวนเถอะขอรับ” ทหารสองนายที่วิ่งตามมาเอ่ยทันทีเมื่อตามมาถึง

“ข้าไม่กลับ!” ชู่เอ๋อตอบกลับอย่างคนดื้อ

“แต่ว่าท่านแม่ทัพรอคุณหนูอยู่นะเจ้าคะ” หลันหลงเอ่ย

“ข้าไม่กลับจนกว่าท่านพ่อจะไม่ไล่ให้ข้าไปออกเรือน ข้ายังไม่อยากออกเรือนได้ยินไหมหลันหลง” นางโต้สวนกลับ

“แต่...”

“ข้าไม่กลับ ถ้าข้ากลับ ท่านพ่อก็จะบังคับให้ข้าออกเรือนกับลูกเหล่าขุนนางพวกนั้น ข้าไม่กลับหลันหลง” พูดจบความทหารทั้งสองก็เข้าประชิดตัวนางทันที

“พวกเจ้า!” นางขืนตัวเองตวาดใส่ทหารทั้งสองด้วยสายตาแข็งกร้าว

“คุณหนูได้โปรดกลับกับเราเถอะขอรับ ท่านแม่ทัพบอกว่าช่วงนี้ห้ามให้คุณหนูออกจากจวน พวกเราจำเป็นต้องทำแบบนี้ขอรับ” หนึ่งในทหารเอ่ยตอบ

“กลับกับพวกเราเถอะคุณหนู หลันหลงรู้ว่าคุณหนูรู้สึกยังไง แต่ว่าการที่คุณหนูหนีมาแบบนี้ พวกเราทุกคนก็โดนท่านแม่ทัพโบยทุกที” หลันหลงเอ่ยขอความเห็นใจ

ชู่เอ๋อคิดตามคำพูดของสาวใช้แล้วก็พยักหน้า ตวัดสายตาสั่งทหารทั้งสองให้ปล่อยตัวเองพร้อมกับเอ่ย

“ก็ได้ ข้าจะกลับกับพวกเจ้า”

พูดจบทหารทั้งสองก็ยอมปล่อยตัวคุณหนูให้เดินกลับจวนเอง หลันหลงและทหารทั้งสองต่างพากันถอนหายใจออกมาพร้อมกันด้วยความโล่งอกโล่งใจ หากกลับไปไม่มีคุณหนู พวกเขาต้องโดนท่านแม่ทัพโบยหลังแน่นอน

ตุ้บ!

สุดท้ายแล้วก็จับผู้ชายชุดดำพวกนั้นไม่ได้สักคน เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียวที่มาขวางทางวิ่งของม้า อ๋องตู้ หรือตู้เหลียงเฉิง วัย 25 ปี ถึงกับเดือดดาลฟาดทุบโต๊ะอ่านหนังสือตัวเองด้วยความเกรี้ยวกราดทันที และนาทีนั้นฟ่านตงก็เดินเข้ามารายงานความคืบหน้าของพวกคนร้ายที่กล้ามาป่วนในจวนของตนตอนกลางวันแสกๆ

“ว่ายังไงฟ่านตง”

“ทูลท่านอ๋องตู้ คนชุดดำพวกนั้นเราจับมาได้สองคน แต่พวกมันปลิดชีพตัวเองไปแล้วขอรับ”

“เฮอะ! เป็นอย่างที่คิดจริงๆ แล้วที่ตัวพวกมันมีเบาะแสอะไรอีกไหม มีอะไรเป็นร่องรอยของพวกคนชั่วไหม” อ๋องตู้เอ่ยถามฟ่านตงด้วยน้ำเสียงเหี้ยมกระด้าง

“ไม่ขอรับ พวกมันทำงานกันดีมาก ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรให้เราแกะเลยขอรับ”

“หึ! ดี! ให้มันได้แบบนี้ ข้าก็อยากรู้นักว่ามันจะเก่งในเงามืดได้อีกนานแค่ไหน พรุ่งนี้ข้าจะไปค่ายทหารด่านนอก” เขาสั่งเสียงเข้ม

“ขอรับท่านอ๋องตู้ ท่านอ๋องเหล่ากงกงมารอท่านอ๋องที่ห้องโถงขอรับ” ฟ่านตงเกือบลืมรายงานไปเลย

“อืม...ข้ารู้แล้ว เดี๋ยวข้าจะออกไปพบเหล่ากงกงตอนนี้แหละ บางทีเสด็จพ่ออาจมีงานให้ข้าทำ ส่วนเจ้าไปพาแม่นางเสี่ยวเล้งให้มารอข้าที่ห้อง” พูดจบตู้เหลียงเฉิงก็เดินออกจากห้องหนังสือตัวเองไปทันที ส่วนฟ่านตงก็เดินตามออกไปเพื่อไปทำงานของตนเองที่ได้รับมอบหมายเช่นกัน

เหล่ากงกงโค้งคำนับท่านอ๋องพร้อมกับเอ่ยถึงงานของตนที่ได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้มาทันที

“ทูลท่านอ๋องตู้”

“ว่ามากงกง เสด็จพ่อมีรับสั่งอะไรถึงให้เจ้ามาหาเราถึงจวนนี่ได้?”

น้ำเสียงทุ้มห้าวเอ่ยถามพร้อมกับนั่งลงยังเก้าอี้และรินน้ำชาขึ้นจิบด้วยท่าทางสบายทั้งๆ ที่ในอกนั้นร้อนรุ่มด้วยไฟโทสะที่โดนศัตรูลอบเข้ามาทำร้ายในจวนก่อนหน้านี้

“ฮ่องเต้ได้รับสั่งให้กระหม่อมมาทูลถามท่านอ๋องตู้เรื่องแต่งตั้งพระชายาพระเจ้าค่ะ” เหล่ากงกงเอ่ยบอกทันที

“ข้าได้ทูลเสด็จพ่อไปแล้วว่าข้ายังไม่อยากแต่งพระชายา แล้วทำไมเสด็จพ่อถึงต้องมาเร่งข้าด้วยเล่า” มือใหญ่กำถ้วยน้ำชาใบเล็กในมือแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็ยังคงแสดงสีหน้าเรียบขรึมปกติ

“ข้าจะไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อตอนนี้” ตู้เหลียงเฉิงเอ่ยต่อพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินเร็วๆ ออกจากห้องโถงไปทันที ส่วนเหล่ากงกงก็ได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยรู้ถึงอารมณ์ของท่านอ๋องดีว่าเป็นเช่นไร

แม่ทัพชู่เว่ยถูกเรียกเข้าวังหลวงมาพบฮ่องเต้โดยไม่รู้สาเหตุว่าด้วยเรื่องอันใดถึงได้เรียกพบด่วนเช่นนี้ และแถมได้เข้าเฝ้าเป็นการส่วนตัวอีกด้วยยิ่งทำให้แม่ทัพชู่เว่ยมึนงงไม่เข้าใจในความประสงค์ของฝ่าบาทตนเอง

“แม่ทัพชู่เว่ย เห็นทีว่าเรื่องนี้จะมีแต่เจ้าเท่านั้นที่จะช่วยเราได้ เพื่อไม่ให้อ๋องตู้ถูกแย่งชิงตำแหน่ง เราจำเป็นต้องให้ลูกศิษย์ของเจ้าอภิเษกสมรส และพระชายาที่เราได้มองไว้และเหมาะสมเห็นทีจะมีแต่บุตรสาวของเจ้าเท่านั้นแม่ทัพชู่เว่ย เรารู้ว่าตอนนี้เจ้ากำลังหาคนที่คู่ควรกับบุตรสาวของเจ้า และทำไมจะเป็นอ๋องตู้บุตรชายของข้าไม่ได้เล่า”

“ฝ่าบาท!” แม่ทัพชู่เว่ยถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวคุกเข่ากับพื้นทันที

“ทำไมแม่ทัพชู่เว่ย อ๋องตู้ก็เป็นลูกศิษย์ของเจ้า และไยถึงไม่ยินดีเล่าที่อ๋องตู้จะเป็นเขยของเจ้า”

“ฝ่าบาท...ชู่เอ๋อบุตรสาวของกระหม่อมนั้นซุกซนยิ่งนัก ไม่มีความเป็นกุลสตรี เกรงว่าจะไม่เหมาะสมและคู่ควรกับอ๋องตู้พระเจ้าค่ะ” เขารีบตอบทันที

“บางทีชีวิตที่ตึงเครียดของอ๋องตู้อาจจะมีสีสันก็เป็นได้ เจ้าอย่าคิดมากไปเลย อีกอย่างไม่มีใครเหมาะสมกับอ๋องตู้ได้เท่าบุตรสาวของเจ้าแล้วแม่ทัพชู่เว่ย”

“พ่ะยะค่ะ” สุดท้ายแล้วแม่ทัพชู่เว่ยก็ต้องยอมรับ

“เราได้กำหนดวันอภิเษกของทั้งคู่ไว้แล้ว งานอภิเษกของทั้งคู่จะจัดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า”

“ฝ่าบาท! ทำไมถึงเร็วขนาดนี้พ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพเอ่ยถาม

“ช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว เจ้าเองก็รู้สถานการณ์ดีมิใช่เหรอแม่ทัพชู่เว่ย”

“พ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพชู่เว่ยเครียดทันทีเมื่อไม่รู้จะอธิบายกับชู่เอ๋อบุตรสาวอันเป็นที่รักอย่างไรดี พร้อมกับเสียงขันทีหน้าห้องทรงอักษรได้ร้องบอกว่าตู้เหลียงเฉิงได้มาถึงแล้ว และฝ่าบาทก็เอ่ยอนุญาตให้เข้ามา

“เสด็จพ่อ” ตู้เหลียงเฉิงทำความเคารพผู้เป็นบิดาพร้อมกับหันไปคำนับทำความเคารพอาจารย์ของตัวเองที่ลุกขึ้นยืนพอดีเช่นกัน แม้ว่าตัวเองจะเป็นถึงอ๋อง แต่แม่ทัพชู่เว่ยเป็นอาจารย์ของเขาตั้งแต่เด็ก เขาจึงให้ความเคารพท่านเสมอมา

“อาจารย์”

“เจ้ามาได้จังหวะพอดีอ๋องตู้” ฮ่องเต้เอ่ยกับบุตรชายตัวเองที่เพิ่งมาถึง

“พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ เรื่องที่เหล่ากงกงได้บอกกับลูกนั่นคือความจริงรึไม่พ่ะย่ะค่ะ” เขาทูลถามทันที

“อือ”

“แต่ลูกได้ทูลบอกเสด็จพ่อไปแล้วเมื่อครั้งก่อนว่าลูกยังไม่พร้อมจะรับพระชายาเข้าจวน แล้วไยเสด็จพ่อถึงได้เร่งลูกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“อำนาจของเจ้าจะมั่นคงเมื่อเจ้ามีพระชายาและมีทายาทอ๋องตู้ และพระชายาของเจ้าก็เป็นบุตรสาวของอาจารย์เจ้า แน่นอนว่าอำนาจของเจ้าจะแข็งแกร่งกว่าเดิมหากได้อภิเษกกับบุตรสาวของแม่ทัพชู่เว่ย” ฮ่องเต้เอ่ย ที่ทำทั้งหมดตอนนี้เพื่อความมั่นคงทางการเมืองและทหารของบุตรชายตัวเองเท่านั้น

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”

เมื่อเสด็จพ่อได้พูดเช่นนี้แล้ว เขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้แล้ว แม้จะรู้ว่าอาจารย์ตัวเองมีบุตรสาว แต่ตัวเขาเองก็ไม่เคยเห็นนางสักครั้งว่ามีรูปร่างหน้าตาเช่นไร แต่อาจารย์ได้พูดถึงบ่อยๆ ว่าเป็นคนซุกซน

“ถ้างั้นเจ้าก็เตรียมตัวได้แล้ว อีกสามวันงานมงคลของเจ้าจะจัดขึ้นที่จวน แม่ทัพชู่เว่ยข้าฝากบุตรของข้าด้วย”

“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” แม่ทัพชู่เว่ยโค้งคำนับรับคำ แม้ว่าไม่ยินดี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อนี่คือพระประสงค์ของฮ่องเต้

“เสด็จพ่อ ลูกขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหลียงเฉิงเอ่ยพร้อมกับโค้งตัวทำความเคารพพระบิดาตัวเองแล้วหันมาคำนับอาจารย์ก่อนจะเดินออกจากห้องทรงอักษร ส่วนแม่ทัพชู่เว่ยเองก็เช่นกัน

ทั้งสองเดินออกมาจากห้องทรงอักษรพร้อมกัน แม่ทัพชู่เว่ยมีสีหน้าตึงเครียดกังวลถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ด้วยไม่รู้จะบอกชู่เอ๋อบุตรสาวที่รักยังไงดีถึงเรื่องอภิเษกครั้งนี้ และแถมยังแต่งเข้าจวนอ๋องตู้ด้วย แม้จะรู้จักตู้เหลียงเฉิงมาตั้งแต่เด็ก แต่การที่แต่งเข้าจวนอ๋องตู้นั้นมันอันตรายเกินไปสำหรับดอกไม้งามของเขาที่เป็นดั่งดวงใจของเขา

“อาจารย์ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะดูแลลูกของอาจารย์เป็นอย่างดี” ตู้เหลียงเฉิงอ่านความคิดของอาจารย์ออกว่าท่านนั้นกังวลถึงเรื่องที่จะตามมา

“หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องตู้จะดูแลชู่เอ๋อได้ แต่ชู่เอ๋อนั้นซุกซนยิ่งนัก กลัวแต่จะทำให้ท่านลำบากในภายภาคหน้า” แม่ทัพชู่เว่ยเอ่ย

“นางจะซุกซนแค่ไหนกันเชียวท่านอาจารย์ ยังไงเสียนางก็ต้องแต่งเข้าจวนของศิษย์อยู่ดีมิใช่รึท่านอาจารย์” ตู้เหลียงเฉิงยกยิ้มขำเล็กน้อยเมื่อนึกถึงคำพูดของอาจารย์ยามเล่าถึงบุตรสาว

“หากเจอนางแล้วท่านอ๋องตู้จักขำมิออก” แม่ทัพชู่เว่ยเอ่ย

“ไม่มีหญิงใดจะซุกซนต่อหน้าข้า ท่านอาจารย์ก็รู้”

“แต่ไม่ใช่กับชู่เอ๋อบุตรสาวของกระหม่อมแน่นอนท่านอ๋อง” ชู่เว่ยยังยืนยัน

หึหึ

“ก็ต้องมาดูกันวันที่แต่งนางเข้าจวนแล้วแหละท่านอาจารย์” พูดจบตู้เหลียงเฉิงก็เดินจากไปทันที ส่วนแม่ทัพชู่เว่ยก็เดินไปอีกทาง

ณ ค่ำคืนที่แสนเร่าร้อน จากที่ตั้งใจจะกลับค่ายทหารด่านนอกในตอนเช้าก็ต้องเลื่อนออกไป เพราะต้องอภิเษกสมรสแต่งตั้งพระชายาเข้าจวนเสียก่อน แต่นาทีนี้ตู้เหลียงเฉิงหาได้สนใจงานมงคลที่จะเกิดขึ้นไม่ เพราะเหนือร่างของเขากำลังมีสาวงามจากหออี้หรูมาปรนนิบัติตนเองบนเตียงนุ่มนิ่ม

“อ่า...อืม นั่นแหละ เจ้าทำดีมากเสี่ยวเล้ง อ่า...ดูดข้าแรงๆ อ่า...” เอวสอบหนาของตู้เหลียงเฉิงแอ่นเด้งรับขึ้นตอบสนองเรียวปากของสาวงามชื่อดังจากหออี้หรู พร้อมกับมือใหญ่ที่หยาบกร้านจากการทำศึกกดหัวทุยเล็กของแม่นางเคลื่อนไหวโยกเร่ากับกลางหว่างขาแข็งแรงตัวเอง

“อ่า...อืม ท่านอ๋องตู้ อ่า...ท่านช่างใหญ่เหลือเกินเจ้าค่ะ อ่า...อืม” ปากน้อยละเลียไล่ดูดคลอเคลียตั้งแต่โคนเนื้อมังกรร้อนของตู้เหลียงเฉิงขึ้นมาหาปลายปากของมังกรที่แข็งร้อนดุจเหล็กกล้าของท่านอ๋อง

“อ่า...เจ้าทำให้ข้าร้อนกายหนักเสี่ยวเล้ง อ่า...ครอบครองข้าสิ ขย่มข้าเสี่ยวเล้ง อ่า...”

มือใหญ่ดึงรั้งหัวทุยเล็กของนางยกขึ้นจากหว่างขาตัวเองและนางก็รีบจับมือใหญ่ที่จับรั้งจิกหัวตัวเองมาจูบหอม ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นไปคร่อมทับใช้ความเป็นสตรีเพศที่อาบฉ่ำไปด้วยน้ำตัณหาตัวเองครอบครองกระแทกลงหาท่อนเนื้อมังกรของตู้เหลียงเฉิง

“อ่ะ...อ่า เจ้าช่างเป็นงานนักเสี่ยวเล้ง” ปากหนาร้องครางชื่นชมพร้อมกับแอ่นเด้งกระแทกเอวสอบขึ้นหาคนเหนือร่างที่กำลังเคลื่อนไหวโยกเร่าตอดรัดคลึงท่อนเนื้อมังกรตัวเองในตอนนี้

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

เสียงจังหวะครวญเพลงกระบี่บนเตียงได้เริ่มขึ้นด้วยไฟร้อนรุ่ม สองกายเปลือยเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อราคะที่ทั้งคู่กำลังผลัดกันรับผลัดกันตามในตอนนี้

“อ่า...อืม”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ณิการ์

ข้อมูลเพิ่มเติม
สาบสาว

สาบสาว

โรแมนติก

5.0

“คุณมันปีศาจ” ปากว่าเขาแต่มือเล็กกลับเคลื่อนมาประคองหน้าหล่อของหนุ่มต่างชาติตาสีเขียวมรกตที่ทอประกายแสงจ้องมองมายังตนเอง เธอชอบดวงตาคู่นี้ ไม่รู้ทำไมถึงชอบ มองทั้งๆ ที่เมื่อคืนมันออกจะน่ากลัว แต่ตอนนี้ดวงตาของเขาทำให้หัวใจดวงเล็กของสาวน้อยเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ “อือ...ฉันเป็นปีศาจที่เธอแตะต้องได้เด็กน้อย อีกอย่างไปซื้อเตียงใหม่ด้วยนะ ขาฉันยาวกว่าเตียงของหนู ขอขนาดเท่าเดิมเนี่ยแหละ แต่ขอยาวหน่อย ฉันเป็นคนต่างชาติเลยตัวใหญ่ไปนิด” “ไม่นิดเลย คุณตัวใหญ่เหมือนยักษ์เลยต่างหาก” “แต่ฉันก็เข้าไปอยู่ในตัวหนูได้แล้วกันถึงจะใหญ่” “คนลามก” หล่อนเอียงหน้าเบือนหนีด้วยความเขินอาย “ลามกอะไร ฉันแค่พูดความจริง ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ขอเอาอีกสักสองรอบก่อนจะไปทำงานนะเด็กน้อย อ่ะ...อื้อ” แล้วเขาก็แนบปากลงไปบดจูบปากน้อยที่กำลังจะตอบทันที.....

ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก)

ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก)

โรแมนติก

5.0

สวัสดีนักอ่านทุกท่านอีกครั้งในเดือนนี้นะคะ มาแล้วกับนิยายของสาวอ้วน นางเอกเราอ้วนค่ะ อ้วนอ้วนกับไอ้เสริม นิยายเรื่อง “ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก)” เป็นเรื่องราวของไอ้เสริมกับสมบุญพยาบาลสาววิชาชีพที่มีหุ่นอวบแน่น ไม่อวบล่ะค่ะ เธออ้วนน่ารักเตะตาพระเอกของเราเลย นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงยุคโควิด-19 และนางเอกเราเป็นพยาบาลต้องทำงานหนัก แต่ก็ยังมีพระเอกของเราอยู่เป็นกำลังใจ ไหนจะหนี้สินครอบครัวอีก พระเอกของเราก็จัดการให้ทุกอย่าง คือสาวอ้วนเจอผู้ชายที่ดีไม่พอยังเปย์อีกค่ะ หนี้สินที่มีก็เหลือ 0 และแน่นอนว่าเปย์แล้วต้องได้สิ และนั่นแหละ แล้วเธอจะหนีรอดได้ยังไง.... อยากรู้แล้วสิคะ ว่าความตื่นเต้น ตลก เฮฮา จะเป็นยังไง และความรักของพวกเขาจะเป็นยังไง และเปย์แล้วจะต้องได้ แล้วเขาได้กันด้วยวิธีไหนต้องไปลุ้นในเล่มแล้วค่ะ ฝากนักอ่านกดเก็บสาวอ้วนกับไอ้เสริมเข้าชั้นด้วยนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นภาคต่อนิยายเรื่อง “ถ่อย” อ่านแยกได้ไม่งงค่ะ เป็นคู่ของคนสนิทของพระเอกจากเรื่องถ่อยค่ะ นิยายชุดนี้มีทั้งหมด 3 เรื่อง 1.ถ่อย (ยักษ์ คีรี ดอว์สัน VS มายาวี) มีอีบุ๊คพร้อมโหลดค่ะ 2.ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก) (ไอ้เสริม VS สมบุญ) 3.ทางผ่านจอมเถื่อน (ไอ้ช้อย VS กุลธิดา) สถานะกำลังเขียน คิดหื่นเชิญเสพ ณิการ์(ยักษ์)

ทางผ่านจอมเถื่อน

ทางผ่านจอมเถื่อน

โรแมนติก

5.0

สวัสดีนักอ่านทุกท่านนะคะ กลับมาพบกันอีกครั้งกับนิยายเรื่องใหม่เหมือนเคยค่ะ วันนี้ณิการ์มาพร้อมกับนิยายเรื่อง “ทางผ่านจอมเถื่อน” เป็นเรื่องราวของไอ้ช้อยกับกุลธิดา แน่นอนค่ะไอ้ช้อยคนเถื่อน เป็นเพื่อนรักคู่หูของไอ้เสริมจากเรื่อง “ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก)” ค่ะ และสองหนุ่มก็เป็นลูกน้องสนิทมือซ้ายมือขวาและพ่วงตำแหน่งน้องชายที่รักของนายยักษ์ คีรี ดอว์สันจากเรื่อง “ถ่อย” ค่ะ สำหรับไอ้ช้อยแล้วกุลธิดาเป็นเพียงทางผ่าน และทางผ่านสายนี้แหละที่ทำให้เขาปวดหัวที่สุด หล่อนปิดบังความลับมาตลอดหลายปี และถ้าไม่บังเอิญเจอกันเขาคงไม่รู้ว่าตัวเองมีลูกกับหญิงสาว และแน่นอนว่าการเจอกันครั้งนี้เขาไม่ปล่อยเธอไปแน่ ในเมื่อเธอเป็นแม่ของลูกเขาและเป็นเมียเขา ยังไงเขาก็ไม่ปล่อยเธอไป แล้วทางผ่านที่เคยผ่านมาแล้วจะย้อนหวนคืนหรือไม่ ฝากนักอ่านเก็บเข้าชั้นหนังสือไว้อ่านแก้เหงาแก้เบื่อในช่วงอยู่บ้านกันด้วยนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นภาคต่อนิยายเรื่อง “ถ่อย” กับเรื่อง “ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก)” ค่ะ สามารถอ่านแยกได้ไม่งงค่ะ เป็นคู่ของคนสนิทของพระเอกจากเรื่องถ่อยค่ะ นิยายชุดนี้มีทั้งหมด 3 เรื่อง 1.ถ่อย (ยักษ์ คีรี ดอว์สัน VS มายาวี) 2.ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก) (ไอ้เสริม VS สมบุญ) 3.ทางผ่านจอมเถื่อน (ไอ้ช้อย VS กุลธิดา) คิดหื่นเชิญเสพ ณิการ์(ยักษ์)

ถ่อย

ถ่อย

โรแมนติก

5.0

สวัสดีทุกคน วันนี้ณิการ์เริ่มต้นเดือนด้วยนิยายเรื่อง “ถ่อย” กับนามปากกา “ยักษ์” คิดถึงนามปากกานี้มากเลยจัดพลอตเรื่องนี้มาปั่นค่ะ เพราะมันสื่อถึงแนวของนามปากกา “ยักษ์” ได้ดีที่สุดค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นแนวโคแก่หญ้าอ่อนค่ะ นิยายเรื่อง “ถ่อย” ชื่อก็บอกอยู่แล้วค่ะว่านิยายเรื่องนี้จะใช้เซ็กส์และความรุนแรงดำเนินเรื่องนะคะ นิยายเรื่องนี้จะเน้นไปทางทำร้ายทารุณ พระเอกเลว ต่ำทราม ถ่อยเหมือนชื่อเรื่องเลยค่ะ มาดูกันว่า “ยักษ์ คีรี ดอว์สัน” จะพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์ของสาวน้อยอย่าง “มายาวี” ได้ไหม และจะทำยังไงเมื่อคนถ่อย คนเลวอย่างเขาเริ่มหวั่นไหวไปกับเด็กที่ตัวเองได้มา เธอเป็นแค่สินค้าที่นำมาใช้หนี้ แต่แล้วเขากลับหลงสินค้าที่ดิ้นได้เถียงเก่งไปแล้วนี้สิ สุดท้ายนี้ฝากนักอ่านสนับสนุนด้วยนะคะ แน่นอนว่านามปากกา “ยักษ์” นามปากกาของณิการ์นามนี้จะเน้นไปทางนิยายที่ต่ำทราม เน้นรักคนเลว ให้อภัยคนต่ำทรามค่ะ และย้ำค่ะ ใช้เซ็กส์และความรุนแรงดำเนินทั้งเรื่องค่ะนิยายเรื่องนี้ สาระอาจไม่มีแต่สาระเลวมีให้ด่าทั้งเรื่องค่ะ สำหรับใครที่อยากเสพความหื่นหวานๆ อ่อนโยนนั้นติดตามได้นามปากกา “ณิการ์” ของณิการ์นะคะ ฝากติดตามด้วยนะคะ

พี่กันต์คนใหญ่ดุ

พี่กันต์คนใหญ่ดุ

โรแมนติก

5.0

กับคนอื่นพ่อมาเฟียผิวสีโหดเหี้ยมดุดัน แต่กับน้องน้อยอย่างเธอเขาอ่อนโยนอ่อนหวานพร้อมเป็น 'สัตว์เลี้ยง' ของเธอก็ว่าได้ +++++++ “ทำไมชอบเถียงพี่นักหนูณิ ยอมรับความจริงซะบ้างว่าตัวเองน่ะเป็นของพี่” ตอนนี้ณิการ์เหมือนกับเป็นคนละคนที่ตนรู้จักเลย แต่จะว่าไปจะแบบเมื่อก่อน ตอนที่ยังไม่ได้ครอบครองกับหลังที่ได้ครอบครองแล้ว เป็นแบบไหนเขาก็ชอบทั้งนั้น ‘เซ็กซี่ชะมัดเวลาเถียงไม่ยอมลงให้แบบนี้ มันน่าจับกดลงบนเตียงสีชมพูนี้นัก’ “ก็คุณกันต์พูดไม่ถูกนี่” “ไม่ถูกยังไง หนูณิเป็นของพี่ มันไม่ถูกต้องตรงไหน หรือต้องให้ทำให้ดูด้วยไหมว่าเป็นของพี่กันต์ยังไง แบบไหน ท่าไหนในวันนั้น” “ณิไม่คุยกับคุณกันต์แล้วค่ะ ออกไปจากห้องณิได้แล้ว ถ้าจะมาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้” “ไม่คุยกับผัวแล้วจะคุยกับใคร หรือให้พี่กันต์บอกแม่ไหมว่าเราสองคน ‘ได้กันแล้ว’ แถมได้กันในคอกม้าคืนฝนตกตอนไปเที่ยวเขาใหญ่ด้วย วันนั้นเราทำ...” กันต์ยังพูดไม่จบ เสียงเล็กของน้องน้อยก็พูดแทรกขึ้นพร้อมกับยกมือปิดปากเขา “หยุดพูดเลยนะคะคุณกันต์” “งั้นคืนนี้ก็ให้พี่นอนด้วยสิ รู้ไหมว่าพี่อยากได้หนูณิทุกวันเลยนะ ตั้งแต่วันนั้นพี่ก็อยากก็หิวแต่หนูณิ” ยิ่งสองแก้มนวลแดงระเรื่อ เขาก็ยิ่งอยากพูดแกล้ง “คนทะลึ่ง ณิไม่คุยกับคุณกันต์แล้ว และณิอยากบอกให้คุณกันต์รู้ไว้ว่า ‘มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแน่นอนค่ะ’ คุณกันต์ก็ลืมมันได้แล้วค่ะ คุณกันต์ก็มีสาวๆ เยอะรอบข้างเต็มไปหมด จะมาสนใจเด็กในบ้านอย่างณิทำไมคะ” “หนูณิไม่เหมือนใคร ไม่แคร์แบบนี้พี่กันต์ยิ่งอยากให้มันเกิดขึ้นอีก” เขาจะคว้ามือเล็ก แต่มือน้อยก็ยกถอยหนีอย่างรู้ทัน “ฉลาด รู้ทันพี่ด้วย น่ารักที่สุดเมียพี่กันต์” “ก็คุณกันต์ชอบถึงเนื้อถึงตัวณิตลอด ณิต้องปกป้องตัวเองค่ะ และมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองแน่ อย่าหวังว่าจะได้เอาเปรียบณิอีก” “น่าสนใจนะ ปกป้องตัวเองจากผัวตัวเองเนี่ย...หึหึ” ปล. นิยายเรื่องแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้นค่ะ จะมีเนื้อหาบางฉากบางบทที่เวอร์วังเกินจริงนะคะ บางฉากแทบจะเป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง แต่ในนิยายเรื่องนี้เป็นไปได้เพราะเนื้อหาเป็นเพียงจินตนาการที่แต่งขึ้นค่ะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนนะคะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

โรแมนติก

4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า “ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?” เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า “ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว...” ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?”

นางบำเรออุ้มรัก

นางบำเรออุ้มรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ณัฐรวีเป็นได้เพียงนางบำเรอไร้ราคา เปรียบดังผืนหญ้าให้เมฆาย่ำยียิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย ทุกการกระทำของเขาอัดแน่นไปด้วยความแค้นที่แฝงความรักไม่รู้ตัว ในวันที่หล่อนจากไป หล่อนไปแต่ตัวและลูกน้อยในครรภ์ ............ แควก...แควก “กรี๊ด! อย่าค่ะ อย่าทำรวีแบบนี้...ฮือ” เสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้น ตามด้วยเสียงกรีดร้อง อ้อนวอนของณัฐรวี ทว่าคนกระทำหาได้ฟังเสียงหล่อน เขายังคงออกแรงฉีกเสื้อผ้าจนขาดติดมือมาอีกหลายครั้ง ทั้งเนื้อทั้งตัวหล่อนเหลือเพียงชุดชั้นในท่อนบนและท่อนล่าง “รวีกลัวแล้ว ต่อไปรวีจะไม่ใส่ชุดนี้อีก...ฮือ...พี่เมฆอย่าทำอะไรรวีเลยนะคะ” กระแสเสียงสั่นเครือ เจ้าของประโยคคำพูดน้ำตาไหลอาบแก้ม ยกมือไหว้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้าด้วยท่าทางหวาดกลัว “เธอไม่มีสิทธิ์ใส่ชุดนี้ ชุดนี้ฉันซื้อให้แก้วตา ไม่ได้ซื้อให้เธอใส่” เสียงเขาเดือดดาล ก่อนกระชากแขนเรียวเล็กสุดแรง ร่างณัฐรวีลอยขึ้นตามแรงฉุด “อย่าเอาตัวเธอไปเทียบกับแก้วตา เธอมันก็แค่เศษดินเศษหญ้าที่รองมือรองเท้าฉัน เป็นได้แค่นางบำเรอ แต่แก้วตาคือว่าที่เมียฉัน จำใส่หัวไว้” พูดจบ ณัฐรวีรับรู้ถึงแรงเหวี่ยง เสี้ยววินาทีต่อมา ร่างงามกระทบกับที่นอนเต็มแรง หล่อนเจ็บไปทั้งตัว แต่นี่มันเป็นแค่ความเจ็บปวดเริ่มต้น ความปวดร้าวระบมร่างกายและจิตใจกำลังตามมาชุดใหญ่ เป็นความเจ็บปวดที่ไม่เคยชาชินสักครั้ง

สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

มหาเศรษฐี

4.9

เมื่อองค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ถูกวางยาปลุกกำหนัดในคืนวันอภิเษกสมรส... จิรัชยาเป็นเพียงลูกของนางบำเรอของอัครมหาเสนาบดีประจำมหานครฟาดิลาห์ หน้าที่ของลูกนอกสมรสอย่างหล่อนก็คือคอยรับใช้ ฮันนา ว่าที่องค์สุลตาน่า ความทุกข์แสนสาหัสเดียวในใจของหล่อนก็คือการแอบหลงรักจ้าวผู้ครองแคว้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่แล้วความฝันของหล่อนก็เป็นจริง เมื่อหล่อนได้นอนอยู่ใต้ร่างขององค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ แต่คืนนั้นมันเป็นคืนแต่งงานของเขากับฮันนา...! “ยังไม่รีบไสหัวลงไปจากเตียงอีกหรือ!” กายสาวบอบช้ำยังไม่ทันได้ขยับลงจากแท่นบรรทมก็ถูกเขาผลักไสแรงๆ จนกลิ้งตกลงมากองกับพื้นห้องไม่ต่างจากเศษขยะสกปรก น้ำตาแห่งความปวดร้าวไหลพรากออกมาราวกับสายฝน “หม่อมฉัน... ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉัน...” จิรัชยาพยายามจะอธิบาย แต่เสียงเกรี้ยวกราดขององค์สุลต่านแผดดังก้องขึ้นเสียก่อน หล่อนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว “เธอกล้ามากนะที่วางยาฉัน!” “หม่อมฉัน... ไม่รู้เรื่องนะเพคะ หม่อมฉัน... ไม่ได้ทำ...” หล่อนสะอื้นได้อย่างน่าเวทนา แต่ก็ไม่ได้รับความเมตตาจากชายผู้สูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย “ถ้าเธอไม่ได้ทำ งั้นก็คงเป็นแม่ของเธอสินะที่ทำ จิรัชยา!”

One night Stand แค่แฟนคืนเดียว

One night Stand แค่แฟนคืนเดียว

มหาเศรษฐี

5.0

นายนิโคลัส เคลดัลซ่าร์ คนสนิทมักเรียกเขาว่านิค อายุ 32 ปี เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์น่าค้นหา ด้วยหน้าตาที่เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ ยิ่งทำให้น่าหลงใหล เขามีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ จมูกโด่งเป็นสันนัยน์ตาสีฟ้า สะกดทุกสายตาที่จ้องมอง เขามีน้องสาวหนึ่งคนชื่อนิโคล เมื่อบิดาเสียชีวิตลงด้วยโรคร้าย เขาจึงกลับมาดูแลและสานต่อธุรกิจที่เมืองไทย ครอบครัวของเขาทำเกี่ยวกับผลไม้แปรรูปหลายชนิด เขาเป็นชายหนุ่มที่สาวๆ ต่างก็หมายตา แต่ดูเหมือนว่าเขานั้นจะไม่เคยมองใคร นอกจากเธอผู้หญิงคนนั้น หล่อนขอให้เขาช่วยเป็นแฟนเธอแค่คืนเดียว โดยที่เขานั้นได้เสนอข้อแลกเปลี่ยน ด้วยการมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเธอ ภายใต้เงื่อนไขแค่วันไนท์สแตนด์ จบแล้วแยกทางไม่มีอะไรค้างคาใจ และที่เขานั้นต้องแปลกใจคือเธอยอมตกลงอย่างง่ายดาย ที่สำคัญกว่านั้นนิโคลัสยังได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ นางสาวพริมโรส มารยาทงามเลิศ ทุกคนมักจะเรียกเธอว่าพิมพ์ เธออายุ 23 ปี เรียนมหา'ลัยปีสุดท้าย อีกไม่นานเดือนกว่าก็จะจบแล้ว เธอเป็นสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ ลูกครึ่งไทยเยอร เธอถูกอบรมเลี้ยงดูแบบไทยแท้ มารดาของเธอสอนให้รักนวลสงวนตัว เมื่อนางเคยพลาดพลั้งมีอะไรกับบิดาของพริมโรสจนตั้งครรภ์ เพราะความรักทำให้คนตาบอด เมื่อมารดาของเธอได้รู้ความจริงว่าชายอันเป็นที่รักนั้น เขาแค่หลอกลวงหวังแค่เสพสมจากกายของเธอ เขาไม่ยอมรับทารกน้อยในครรภ์ แต่นางก็อดทนกล้ำกลืนเลี้ยงดูพริมโรสจนเติบใหญ่ ได้อย่างสง่างามเธอสวยอย่างมีคุณภาพและทรงคุณค่าในตัว แต่ทว่าทุกอย่างกลับซ้ำรอยเดิม เมื่อพริมโรสเสียใจที่แฟนหนุ่มคบหาดูใจกันมานานถึงเจ็ดปี ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจวบจนจะจบปริญญาตรี แค่เธอไม่ยอมชิงสุกก่อนห่าม เขากลับประชดด้วยการนอกกายนอกใจเธอ มิหนำซ้ำผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนสนิทของพริมโรส หญิงสาวเสียใจจนแทบเสียสติ และแล้วเธอก็ประชดแฟนเก่าด้วยการหาใครสักคนมาเป็นแฟน เธอหวังเพียงแค่อยากแสดงให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นไม่แคร์ จนกระทั่งเธอยอมตกปากรับคำ มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับนิโคลัสผู้ชายที่พบกันในผับ ที่สำคัญเธอนั้นไม่รู้จักกับเขามาก่อน.. ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

 เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

โรแมนติก

5.0

ชาติภพก่อนนางต้องสูญเสียลูกและสามีเพราะคนร้ายกราดยิงในห้าง จนนางเลือกจบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายตาม พอเกิดชาติใหม่ก็มาอาศัยร่างที่ใบหน้าเหมือนตัวเองแถมมีลูกสาวที่หน้าเหมือนลูกสาวภพก่อนแต่กลับถูกสามีทิ้งให้มาอยู่ลำพังบนเขาจนอดข้าวตาย นางที่ได้มาอาศัยร้าง สัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวคนนี้ให้ดีที่สุด และหวังว่าจะเจอสามีนางในภพเช่นกัน หญิงหม้ายเช่นนางจะดูแลบุตรสาวด้วยตัวเอง... "ท่านแม่กอดเอวของท่านพ่อเอาไว้แบบนี้ห้ามปล่อยนะเจ้าคะ ถ้าท่านแม่กอดเอวท่านพ่อก็จะได้กอดถิงถิงไปด้วย" เสียงเล็กของสาวน้อยที่นั่งตรงกลางระหว่างเจินเป่าและเหนียงไป๋กล่าวบอกผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส เหนียงไป๋จึงไม่มีทางเลือกต้องพยักหน้ารับและทำตามที่บุตรสาวบอกแต่โดยดี ******************* นิยายสนุก น่ารัก อบอุ่นหัวใจ ดีต่อสุขภาพ แวะมาอ่านกันเยอะๆ นะคะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ