Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สาวน้อยอุ่นเตียงของคุณชาย

สาวน้อยอุ่นเตียงของคุณชาย

ArrowRightt

5.0
ความคิดเห็น
7
ชม
46
บท

ซาน…สาวน้อยวัยขบเผาะ เพราะอุบัติเหตุทำให้สูญเสียบิดามารดาผู้เป็นดั่งเสาหลักของชีวิตและโลกทั้งใบของเธอไป ญาติพี่น้องที่มีอยู่ก็ไม่สามารถพึ่งพาได้ พากันรวมหัวรังแกเธอ สาวน้อยจึงต้องดั้นด้นลงจากภูดอยสถานที่อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนด้วยตัวคนเดียว สู่เมืองหลวงอันศิวิไล เพื่อตามหาป้าอรพินที่เธอเคยเจอเพียงแค่ครั้งเดียวในงานศพพ่อแม่เธอ เพื่อขอความช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งพิงสุดท้าย …แต่ใครจะไปคิด เธอแค่อยากได้งานตำแหน่งเล็กๆ ในคฤหาสน์หลังใหญ่ทำเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ตำแหน่งที่ได้ดันพ่วงมาด้วยการเป็นสาวน้อยอุ่นเตียงของคุณชายน้อยเจ้าอารมณ์และเอาแต่ใจ มองเธอเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่ไร้ค่าไร้ราคา เขาเปรียบดั่งเจ้ากรรมนายเวร เป็นนายเหนือหัวที่เธอไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกพบ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นผู้มีพระคุณของเธอ การที่เด็กสาวอายุยังน้อยอย่างเธอต้องยอมพลีกายให้กับผู้ชายที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน แถมยังมีความคิดดูถูกเหยียดหยามและคอยกลั่นแกล้งเธอ ซานไม่มีวันยอมแน่ เธอยังมีความฝันที่อยากจะทำ เธอมีความสามารถมากกว่านี้ ถ้ามีโอกาสเธอจะต้องไปได้ไกลกว่านี้แน่ เพราะอย่างนั้นซานจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดไปจากคุณชายคนนี้ และเดินตามเส้นทางที่เธอวาดฝัน *** ตัวอย่างนิยาย อันตราย! จิตใต้สำนึกของฉันมันตะโกนบอกแบบนั้น…แต่ทำไมใจของฉันมันถึงไม่อยากหลบเลี่ยงอันตรายครั้งนี้เลย “คุณชายน้อย—คุณคิดจะทำอะไร?” “ซื่อบื้อ” เขากระซิบตอบที่ข้างหูฉัน ทั้งน้ำเสียงและลมหายใจของเขาทำให้ฉันรู้สึกคันยุบยิบที่ใบหู แต่เหนือสิ่งอื่นใด หัวใจของฉันมันเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกจากร่างอยู่แล้ว “คุณชายน้อย ปล่อยนะคะ” “กลัวหรอ?” เขากระซิบถามเสียงพร่า เขาทำแบบนี้เพราะลืมอะไรปรึเปล่า? ฉันคงต้องเตือนสติเขาหน่อย “...คุณไม่ทำอะไรซานหรอก คุณรังเกียจว่าซานต่ำต้อย รังเกียจว่าซานอยู่คนละระดับกับคุณ รังเกียจว่าซานเป็นเพียงแค่สาวใช้คนหนึ่ง คุณรังเกียจซานขนาดนี้ คุณจะทำอะไรซานลงได้ยังไง” “หึ นี่คือวิธีการเอาตัวรอดของเธอ?” “คุณชายน้อยย่อมรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน ซานอยู่ในสถานะไหน คุณเป็นคนที่ทั้งเก่งและฉลาด เป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์ คุณไม่มีวันเอาตัวมาเกลือกกลั้วกับโคลนตมแบบซานได้หรอก” “ถึงกับดูถูกตัวเองแบบนี้เลยหรอ ไหนบอกว่ารักศักดิ์ศรีนักหนาไง” “ซานไม่เคยดูถูกตัวเอง แต่ซานรู้ว่าคุณชายน้อยคิดกับซานแบบนี้ ซานเอาสิ่งนี้มาบอกและเตือนตัวเองทุกวัน เพื่อที่จะได้ไม่ลืมว่าตัวเองเป็นใคร…ซานอยู่ต่ำ ต่ำกว่าคุณมาก ทางเลือกของซานจึงมีน้อยกว่ามาก ถ้าซานไม่เตือนตัวเองแบบนี้ ต่อไปคนที่ต้องทุกข์ทรมานก็คือซานเอง” “นอนเถอะ ฉันไม่ทำอะไรเธอมากไปกว่านี้หรอก” จะให้นอนในท่านี้เนี่ยนะ ใครมันจะไปนอนหลับ! ฉันจึงพยายามจะขยับตัวออกไปจากอ้อมกอดของเขา “ถ้ายังขยับอีกฉันไม่รับปากนะว่าเธอจะปลอดภัย—ตอนนั้นที่มันแข็งก็เพราะเธอดิ้นหนีเนี่ยแหละ” “!!!” *คำเตือน* นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านอายุ 18 ปีขึ้นไป มีการใช้ความรุนแรง ความไม่เหมาะสมในเรื่องเพศ ผู้อ่านที่อายุน้อยกว่า 18 ปีควรใช้วิจารณญาณและสติในการอ่านให้มาก นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น! ไม่ควรลอกเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่ดีของตัวละคร ***นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดย ArrowRightt ©*** **ไม่อนุญาตให้ผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ดัดแปลง หรือนำเนื้อหาของนิยายเรื่องนี้ไปเผยแพร่ในช่องทางอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต หากผู้เขียนพบว่า มีการกระทำดังที่กล่าวมาข้างต้น นักเขียนจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด หากนักอ่านที่รักท่านใดพบเห็น การกระทำข้างต้นกับนิยายเรื่องนี้สามารถแจ้งในช่องคอมเม้นท์** ******** (นิยายลงวันละ 1 ตอน ลงถึงประมาณตอนที่ 30 จะมีอีบุ๊ค)

บทที่ 1 หนีเอาชีวิตรอด

คุณคงจะเข้าใจว่าระบบทาสมันถูกยกเลิกไปตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้วใช่มั้ย?

ในนามธรรมมันก็คงจะเป็นอย่างนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว…ชีวิตของคนหลายคนในยุคนี้ก็ใช้ชีวิตไม่ต่างจากทาสสักเท่าไหร่

อย่างเช่นตัว ‘ฉัน’ คนนี้ มีนามว่าซาน จารวี จินตชญานันท์ อายุแค่ 16 แต่ต้องมาทำงานรับใช้ในคฤหาสน์หลังใหญ่เยี่ยงทาส แล้วยังถูกกลั่นแกล้งสารพัดวิธีโดยคุณชายน้อยเจ้าอารมณ์และเอาแต่ใจ…

อืม…แต่แค่ทำงานเยี่ยงทาสหรือถูกกลั่นแกล้งมันก็พอทนได้อยู่หรอก เพราะฉันเป็นพวกอึดถึกทนอยู่แล้ว (ความจริงคือไม่มีที่ไป) …แต่การจะให้เด็กสาวอายุ 16 อย่างฉันไปเป็นผู้หญิงอุ่นเตียงที่สอนและให้ประสบการณ์เรื่องอย่างว่ากับคุณชายน้อยนี่สิ…ใครมันจะไปรับได้ แน่นอนว่าจะต้องต่อต้านทุกวิถีทางอยู่แล้ว!

ความจริงฉันอายุน้อยอย่างนี้ก็ควรจะไปเรียนหนังสือ เหมือนกับเด็กวัยเดียวกันในสังคมไม่ใช่หรอ?

ถ้าจะให้เล่าเรื่องราวในชีวิตของฉันคงจะต้องย้อนไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ในตอนที่ฉันวัยเพียง 14 ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต เพราะต้องสูญเสียพ่อกับแม่ผู้เป็นที่รักไปตลอดกาล จากอุบัติเหตุทางรถยนต์

ผู้ที่เป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของฉันทั้งคู่ได้จากฉันไปพร้อมกัน…ตอนยังอยู่พ่อกับแม่ก็รักกันมาก ตอนจากไปยังจากไปพร้อมกันอีก ช่างเป็นความรักที่โรแมนติกเสียจริง ฉันผู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวจึงต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นั้นมา

แต่ด้วยความที่ยังเด็กและเรียนหนังสืออยู่ แถมยังเป็นเด็กสาวที่คนในหมู่บ้านต่างขนานนามว่านางงามน้อย ฉันจึงไม่สามารถที่จะอยู่ในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นผู้ชายที่มีทั้งการเสพ ดื่ม และเกาะกลุ่มกันทำกิจกรรมผิดกฎหมายกันทั้งวันทั้งคืนได้

หมู่บ้านของฉันอยู่บนดอยที่ห่างไกลความเจริญในจังหวัดเชียงราย มันเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ มีคนอาศัยอยู่แค่สองถึงสามร้อยชีวิต ดังนั้นคนในหมู่บ้านก็จะรู้จักและเป็นญาติพี่น้องกันเสียส่วนใหญ่

พอพ่อแม่ฉันเสียไป จึงต้องย้ายไปอยู่กับครอบครัวของ ‘น้าสอางค์’ บ้านน้าอยู่ถัดไปอีก 3 หลัง ครอบครัวของน้ามีอยู่ 4 คน คือตัวน้า ‘น้าบุญเลิศ’ ผู้เป็นสามีและลูกสาวอีกสองคน

แต่อนิจจา…พอย้ายไปแล้ว น้าสอางค์ก็ขายบ้านของฉันที่อยู่มาตั้งแต่เกิดทิ้งทันที โดยให้เหตุผลสวยหรูว่าขายก็เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูฉัน

แต่นั่นเป็นที่ดินและบ้าน สมบัติเพียงอย่างเดียวที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ฉัน มันเป็นบ้านที่ไม่มีโฉนด แค่ทำสัญญาซื้อขายกันก็ถือว่าจบแล้ว และด้วยความที่ฉันยังเด็กและไม่มีความรู้จึงทำอะไรไม่ได้เลย

ฉันรู้ว่าน้าสอางค์เป็นพวกผีพนันเข้าสิง แกชอบเล่นไพ่และหวยใต้ดินมาก ได้เงินมาเท่าไหร่ก็หมดไปกับเรื่องพวกนี้ตลอด ทุกวันนี้แกก็เป็นหนี้คนทั้งหมู่บ้าน เพราะอย่างนั้นฉันเลยไม่ไว้ใจให้แกถือเงิน

ซึ่งทุกอย่างมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ พอผ่านไปแค่สัปดาห์เดียวเงินของน้าสอางค์ก็หมดไปกับเรื่องพวกนี้จริงๆ แน่นอนว่าฉันโกรธมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวของน้า ถ้าเถียงก็มีแต่จะโดนตีและด่าทอ เพราะอย่างนั้นเลยเลือกจะเงียบและกล้ำกลืนฝืนทนความทุกข์ระทมและขมขื่นนี้ไว้แค่ในใจ

ฉันใช้ชีวิตอยู่กับน้าสอางค์มาสามเดือน ทุกวันล้วนผ่านไปอย่างยากลำบาก เพราะต้องคอยรับใช้คนในบ้านทุกอย่าง ทำงานหนักเหมือนวัวเหมือนควายก็ไม่ปาน เพราะฉันไม่มีที่พึ่งอื่นแล้ว จึงทำได้แค่กัดฟันอดทน

ที่ผ่านมาไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน ฉันก็ไม่เคยปริปากบ่น พวกเขาให้ทำอะไรฉันทำได้หมดทุกอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันรับไม่ได้ นั่นก็คือ การกระทำของน้าบุญเลิศ…

ความจริงฉันก็ดูออกตั้งแต่พ่อแม่ยังไม่เสียแล้วว่าน้าบุญเลิศน่าจะคิดไม่ซื่อกับฉัน เพราะตอนอายุ 12 เคยถูกน้าจับก้น ถึงแม้จะทำเหมือนผู้ใหญ่หยอกล้อเด็ก แต่ฉันก็รู้ว่ามันไม่ปกติ และน้ามักจะใช้สายตาหื่นกระหายคอยโลมเลียตามเรือนร่างของฉันอยู่เสมอ เพราะตอนนั้นยังเด็กจึงไม่รู้ความ แต่ก็รู้ว่าไม่ชอบการกระทำแบบนั้นของน้า เลยไปเล่าให้แม่ฟัง ตอนนั้นแม่บอกว่าอย่าไปใกล้น้าบุญเลิศอีก ให้หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ต้องอยู่ตามลำพังกับแก โดยเฉพาะตอนแกเมา อย่าเข้าใกล้โดยเด็ดขาด

ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ทำตามแม่บอกโดยตลอด แต่พอมาอยู่บ้านเดียวกันแล้วมันก็หลบไม่ได้ พอเป็นอย่างนั้นฉันจึงมักจะถูกน้าบุญเลิศแทะโลมทางสายตาอยู่บ่อยครั้ง เวลาไม่มีใครอยู่บ้านแกก็ชอบมาจับและลูบไล้ตามร่างกายของฉัน

บอกตามตรงว่าฉันไม่ชอบเลย และรังเกียจมากด้วย เพราะอย่างนั้นจึงพยายามหนีตลอด เมื่อเจอสถานการณ์แบบนั้น

แต่สถานการณ์เลวร้ายที่สุดมันก็เกิดขึ้นจนได้ วันนั้นน้าบุญเลิศแกเมามา ฉันอยู่บ้านคนเดียว สบโอกาสแกคิดจะข่มขืนฉัน ตอนนั้นฉันกลัวมาก เกือบจะเสียตัวให้น้าแกไปแล้ว แต่ก็โชคดีที่คนเมามันควบคุมร่างกายได้ไม่ดีนัก ฉันเลยหนีออกมาได้

พอเอาเรื่องไปเล่าให้น้าสอางค์ฟังแกก็ไม่เชื่อ หาว่าตัวฉันเองนี่แหละที่เป็นคนไปยั่วผัวของแก ตอนนั้นฉันเอาเรื่องไปฟ้องแกที่วงไพ่พอดี เลยทำให้แกหงุดหงิดมาก และไล่ตะเพิดฉันออกมาอย่างกับหมูกับหมา

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาฉันก็เริ่มคิดแล้วว่าจะต้องหนีออกไปจากที่นี่ ฉันไม่มีทางอยู่ร่วมบ้านเดียวกับน้าบุญเลิศได้อีก—ไม่สิ ความจริงฉันจะอยู่หมู่บ้านนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน น้าบุญเลิศก็คงจะตามฉันไปได้

แล้วอีกอย่างพวกวัยรุ่นเสเพลในหมู่บ้านหลายคนก็ไม่น่าไว้ใจ การกระทำของคนพวกนั้นไม่ต่างจากน้าบุญเลิศเลย พอเห็นฉันก็มักจะใช้สายตาและคำพูดแทะโลมตลอด ถึงจะเพียงแค่นั้นแต่จะมั่นใจได้ยังไงว่าถ้าพวกเขาสบโอกาสจะไม่ทำกับฉันเหมือนที่น้าบุญเลิศทำ…เหตุการณ์และผู้คนเหล่านี้ทำให้ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้ชีวิตเลยสักนิด ฉันกลายเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีใครให้พึ่งพิง แต่ละวันผ่านพ้นไปด้วยความรู้สึกหวาดระแวง

ฉันมีความคิดอยากจะหนีออกไปจากที่นี่ทุกวัน ในสมองเต็มไปด้วยวิธีการต่างๆ ที่จะหนีออกไปและใช้ชีวิตยังไงต่อไป แต่ด้วยความที่ยังเรียนไม่จบ ม.3 หนีไปแล้วฉันจะทำอะไรได้ คำนำหน้าก็ยังเป็นเด็กหญิง จะไม่ถูกจับส่งบ้านเด็กเลี้ยงกำพร้าหรอกหรอ ดีไม่ดีถูกส่งกลับมาที่เดิมชีวิตของฉันคงจะจบเห่

เพราะอย่างนั้นจึงตัดสินใจอดทนจนกว่าจะเรียนจบ ม.3 แล้วค่อยหนี ระหว่างนี้ก็คิดแผนการว่าจะหนีไปที่ไหนแล้วทำอะไรต่อ แล้วจะเอาตัวรอดจากน้าบุญเลิศได้ยังไง

ซึ่งฉันก็ทำได้ดีทีเดียว ฉันสามารถเอาตัวรอดจากน้าบุญเลิศได้จนจบ ม.3 จริงๆ แต่ที่แย่คือ ฉันไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อไปกับชีวิตดี ฉันไม่รู้ว่าจะหนีไปที่ไหน และทำอะไรต่อดี วุฒิ ม.3 ที่ได้มาก็ถือว่ายังต่ำมากในยุคที่คนจบปริญญาตรีผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ความจริงฉันเป็นเด็กหัวดี เรียนเก่ง แต่น่าเสียดายที่โรงเรียนบนดอยที่ฉันอยู่มีสอนถึงแค่ ม.3 ถ้าอยากเรียนต่อก็ต้องไปเรียนในตัวอำเภอ แต่น้าฉันคงไม่ยอมแน่ มันเสียทั้งเงินและแรงงาน แกพูดกับฉันตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับแกแล้วว่าถ้าเรียนจบก็ไปทำงานรับจ้างทำไร่ทำสวนเหมือนพ่อกับแม่ของฉัน แล้วก็เอาเงินมาเลี้ยงน้อง ตอบแทนบุญคุณที่แกเลี้ยงฉันมา

…ถ้าฉันทำตามคำพูดของน้าก็บ้าแล้ว มาอยู่ด้วยยังไม่ถึงปีดี ใช้แรงงานฉันยิ่งกว่าทาส แถมยังขายบ้านเอาเงินฉันไปใช้จนหมดอีก บุญคุณก็ว่าตอบแทนหมดแค่นี้แล้ว

เพราะไม่มีที่ไปจึงต้องอาศัยอยู่กับน้า ช่วยแกเลี้ยงลูกน้อยวัย 3 กับ 7 ขวบ ระหว่างที่แกไปเล่นไพ่ แต่การเลี้ยงหลานทั้งสองจึงต้องอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้มีโอกาสได้เจอกับน้าบุญเลิศมากขึ้นด้วย

เป็นอย่างนั้นฉันจึงต้องระวังตัวให้มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ไม่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องอยู่กับน้าบุญเลิศตามลำพัง

แต่ใครจะไปคิดว่าน้าบุญเลิศแกจะบ้าบิ่นถึงขนาดนี้ ในวันหนึ่งที่แกเมามายกลับบ้านมา พอสบโอกาสแกก็เริ่มลวนลามและใช้กำลังรังแกฉัน ซึ่งครั้งนี้แกทำต่อหน้าเด็กน้อยสองคนผู้เป็นลูกของแกโดยไม่มีความเกรงกลัวหรือสำนึกเลยสักนิด เด็กทั้งสองที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ร้องไห้โวยวายลั่นบ้าน เพราะเห็นฉันกับน้าต่อสู้กันอย่างรุนแรง

ครั้งนี้ไม่รู้ว่าน้าบุญเลิศแกไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ฉันสู้แกไม่ได้เลย หนีก็ไม่พ้น ในตอนนั้นคิดว่าคงไม่รอดแล้ว เพราะน้าแกกระชากเสื้อผ้าของฉันจนหลุดลุ่ย แต่ดูเหมือนฉันจะยังมีโชคอยู่ เพราะในตอนนั้นน้าสอางค์กลับมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ฉันจึงได้รอดตัวไปอีกครั้ง

แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ฉันตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะหนีออกจากบ้านหลังนี้ให้ได้ ฉันไม่สามารถทนอยู่ในสถานที่ที่ไร้ซึ่งความปลอดภัยและต้องอยู่แบบหวาดระแวงในทุกๆ วันแบบนี้ได้อีกต่อไป

พอตัดสินใจได้แล้วก็ทำในกลางดึกคืนนั้นเลย ฉันไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเจอกับอะไรบ้าง แต่คิดว่ามันคงจะดีกว่าที่นี่

ซึ่งก็ดูเหมือนโชคของฉันจะยังไม่หมด ในตอนที่เก็บเสื้อผ้า ฉันเปิดดูพวกของที่ระลึกของพ่อแม่ในกล่องคุกกี้เก่าๆ แล้วบังเอิญเห็นกระดาษแผ่นเล็กๆ ในนั้นเขียนชื่อและที่อยู่ของคนคนหนึ่งเอาไว้…เธอชื่อ ‘อรพิน’ เป็นป้าของฉันเอง

ป้าอรพินแกไปทำงานอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่ยังสาว น้อยครั้งนักที่จะกลับมาบ้าน ฉันถึงจำแกไม่ค่อยได้ ที่กลับมาล่าสุดก็คือมางานศพพ่อกับแม่ฉัน

ถึงจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ฉันก็พอดูออกว่าป้าอรพินเป็นคนดี วันนั้นแกร้องไห้เสียใจอย่างหนักที่แม่ของฉัน หรือน้องสาวของแกจากไปอย่างกะทันหัน

ทุกอย่างมันดูลงตัวไปหมด ฉันมาเจอเจ้าสิ่งนี้ในวันที่ฉันคิดจะหนีออกจากบ้าน ฉันคิดว่าวิญญาณของพ่อแม่น่าจะดนใจให้ฉันได้เจอมัน พวกท่านคงจะสงสารลูกสาวที่รักเพียงคนเดียวจะต้องระหกระเหินเร่ร่อนไปอย่างไร้จุดหมาย จึงทำให้ฉันได้เจอกับชื่อและที่อยู่ พ่วงด้วยเบอร์ติดต่อของป้าอรพินมาให้

และในกลางดึกคืนนั้น ฉันก็ได้หนีออกจากบ้านของน้ามา ในหมู่บ้านจะมีรถของคนในหมู่บ้านขนผักไปขายในตัวอำเภอช่วงตี 4 ทุกวัน ฉันใช้โอกาสนี้ไปขอขึ้นรถกับพวกเขา

เจ้าของรถเป็นลุงกับป้าที่พ่อแม่ของฉันเคยทำงานให้ พวกเขาทั้งเอ็นดูและสงสารฉันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และรู้ว่าฉันถูกกระทำจากครอบครัวของน้าสอางค์ยังไงบ้าง พอรู้ว่าฉันจะหนีไปหาป้าที่กรุงเทพฯ จึงยินดีให้ฉันติดรถมาด้วย

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ฉันหนีจากครอบครัวนั้นมาได้สำเร็จ ตอนจากลุงกับป้าขายผัก พวกเขาใจดีให้เงินค่ารถในการเดินทาง แต่ฉันไม่ได้รับไว้ เพราะฉันขโมยเงินของน้าสอางค์มาจำนวนหนึ่ง ปกติฉันไม่ใช่เด็กขี้ขโมย แต่เงินที่น้าสอาค์ขายบ้านของพ่อแม่ฉันไป ฉันยังไม่ได้สักบาท จึงถือเสียว่านี่เป็นส่วนแบ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ฉันควรจะได้รับ บวกกับเงินที่ฉันเก็บจากการช่วยครูทำงานที่โรงเรียนอีกเล็กน้อย คิดว่ามันคงจะเพียงพอสำหรับเดินทางไปหาป้าอรพิน

การเดินทางไปกรุงเทพฯ ของฉันเป็นไปอย่างทุลักทุเล ด้วยความที่ไม่เคยเดินทางไกลแบบนี้มาก่อน จึงทำให้ฉันขึ้นรถผิดสายบ้าง ใช้เวลาในการเดินตามหารถนานไปบ้าง จนเกือบจะตกรถก็มี ร่างกายของฉันมันไม่ได้พักผ่อน ทำให้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แต่กำลังใจของฉันยังดี เพราะคงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการได้หลุดพ้นจากบ้านหลังนั้นมาแล้ว

ถึงการเดินทางจะค่อนข้างทุลักทุเลเพียงใดแต่ในที่สุดฉันก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านที่ป้าอยู่ได้อย่างปลอดภัย ถึงจะใช้เวลาถึง 2 วันก็เถอะ… เพราะขึ้นรถผิดสาย ทำให้เสียเวลาไปมาก แทนที่จะเดินทางมาถึงหมู่บ้านที่ป้าอยู่ในช่วงเย็นของวันนั้นเลย แต่เพราะหลงทางทำให้เดินทางมาถึงประมาณช่วงเที่ยงของอีกวัน ทำให้สภาพของฉันค่อนข้างอิดโรย ถึงจะลำบากหน่อย แต่อย่างน้อยก็เดินทางมาถึงแล้ว ทำให้สบายใจไปได้อีกเปลาะหนึ่ง

ถึงจะมาถึงหมู่บ้านที่ป้าอยู่ได้อย่างปลอดภัย แต่ฉันก็ไม่ได้เจอกับป้าเลยในทันที เพราะยังมีอุปสรรคอยู่อย่างหนึ่ง—นั่นก็คือการรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านแห่งนี้ มันความเข้มงวดมากเกินไป…ฉันจึงไม่สามารถเข้าไปหาป้าได้

แต่โชคดีที่มีเบอร์ป้าอยู่ จึงขอยืมโทรศัพท์ของคุณ รปภ. เพราะฉันไม่มีโทรศัพท์

หลังจากโทรบอกป้าแล้ว ป้าก็ดูจะตกใจไม่น้อยจึงรีบมาหาฉันทันที พอป้ามาถึงฉันก็ได้เล่าเรื่องทุกอย่างที่ครอบครัวของน้าทำกับฉันให้ป้าฟังอย่างละเอียด

ป้าอรพินเป็นคนดีอย่างที่คิดไว้ หลังจากฟังเรื่องของฉันจบ แกก็ร้องห่มร้องไห้ เพราะสงสารและเวทนาในโชคชะตาอันอาภัพของฉัน แกไม่สงสัยสักนิดว่าฉันจะโกหก แถมยังต่อว่าสองน้านั่นไปอีกหลายประโยค

ในตอนนั้นฉันก็อุ่นใจแล้วว่าคงได้ที่พึ่งพิงที่สามารถพึ่งพาได้จริงๆ —แต่น่าเสียดายที่มันไม่เป็นอย่างนั้น เพราะที่ที่ป้าแกทำงานอยู่คือ คฤหาสน์มหาธนกิตต์ ไม่ใช่สถานที่ที่จะพาใครเข้าไปก็ได้

เพราะอย่างนั้น ป้าอรพินจึงต้องให้ฉันรออยู่ที่ป้อมรักษาความปลอดภัยก่อน ส่วนป้าจะไปขอความเมตตาจากคุณหญิงของบ้าน ว่าจะพอให้ฉันพักอยู่ที่นั่นได้ไหม ฉันจึงได้แต่เฝ้ารอป้าด้วยความหวัง

***

ArrowRightt :ตอนแรกเกริ่นนำชีวิตของซานก่อน ตอนต่อไปเนื้อเรื่องจะเริ่มเข้มข้นและน่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ ถ้าชอบอย่าลืมกดติดตามนิยายเรื่องนี้ไว้ เมื่อลงตอนต่อไปท่านผู้อ่านจะได้รับแจ้งเตือนจากนิยายนะจ๊ะ👍

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

Amye Hochschild
5.0

ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

Abelard Evans
5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

แหวนก้อย
5.0

‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สาวน้อยอุ่นเตียงของคุณชาย
1

บทที่ 1 หนีเอาชีวิตรอด

11/08/2024

2

บทที่ 2 สร้างปัญหาใหญ่แล้ว

11/08/2024

3

บทที่ 3 สูงศักดิ์เยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน

12/08/2024

4

บทที่ 4 หยิ่งทะนงที่ไร้ราคา

12/08/2024

5

บทที่ 5 ต่ำต้อยจึงจะอยู่รอด

13/08/2024

6

บทที่ 6 ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้านายถูกเสมอ

13/08/2024

7

บทที่ 7 พบเจออีกครั้งกลับทำให้ประหลาดใจ

12/08/2024

8

บทที่ 8 ความผิดพลาดที่เขย่าหัวใจ

14/08/2024

9

บทที่ 9 ทำงานวันแรกก็เต็มไปด้วยความผิดพลาด

15/08/2024

10

บทที่ 10 จูบแรกที่ไม่รู้ตัว

15/08/2024

11

บทที่ 11 รวมหัวรังแกเด็กใหม่

16/08/2024

12

บทที่ 12 ยืมมือคุณชายใหญ่แก้แค้น

17/08/2024

13

บทที่ 13 สาวใช้ตัวน้อยคนนี้ไม่ธรรมดา

18/08/2024

14

บทที่ 14 จับคนร้ายได้ทั้งหมดด้วยมันสมองของเธอ

19/08/2024

15

บทที่ 15 พี่ขอรับเลี้ยงเธอต่อจากแกนะ

20/08/2024

16

บทที่ 16 เห็นเขาดีหน่อยก็จะทรยศฉัน

21/08/2024

17

บทที่ 17 ให้ตายฉันก็ไม่มีวันชอบของราคาถูก!

22/08/2024

18

บทที่ 18 พี่ชายคนใหม่พาเที่ยวและกิน

23/08/2024

19

บทที่ 19 ความไม่พอใจเมื่อถูกแย่งชิง

24/08/2024

20

บทที่ 20 ความวุ่นวายในครอบครัวผู้สูงศักดิ์

25/08/2024

21

บทที่ 21 ถ้าเอาชนะใจเขาได้ ก็จะเห็นมุมน่ารักและใจดีของเขา

26/08/2024

22

บทที่ 22 การปีนเตียงเจ้านายเป็นสิ่งไม่สมควร

27/08/2024

23

บทที่ 23 ถูกขอเป็นแฟนซะแล้ว

28/08/2024

24

บทที่ 24 ขัดขวางและกีดกันทุกคนที่เข้าใกล้เธอ

29/08/2024

25

บทที่ 25 ต้องทำให้เขาเห็นว่าฉันไม่ได้โง่

30/08/2024

26

บทที่ 26 รอยยิ้มของเธอทำให้เขายิ้มตาม

31/08/2024

27

บทที่ 27 ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว

01/09/2024

28

บทที่ 28 คุณชายตัวร้ายกลับให้โอกาสที่มีค่าที่สุด

02/09/2024

29

บทที่ 29 เห็นพวกเขารักกัน แต่ทำไมฉันถึงได้เจ็บปวด

03/09/2024

30

บทที่ 30 หน้าที่ของเธอจะใครก็มาทำแทนไม่ได้

04/09/2024

31

บทที่ 31 กลิ่นของเธอทำให้สบายใจ

05/09/2024

32

บทที่ 32 นอนร่วมเตียงเดียวกัน

06/09/2024

33

บทที่ 33 คุณบอกให้ฉันหักห้ามใจ แต่คุณกลับมายั่วยวนฉัน

07/09/2024

34

บทที่ 34 วันเกิดที่ดีที่สุด

08/09/2024

35

บทที่ 35 คู่แข่งหัวใจปรากฏตัว

09/09/2024

36

บทที่ 36 การแข่งขันที่เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีของเด็กดอย

10/09/2024

37

บทที่ 37 คนไม่สนิท ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้อง

11/09/2024

38

บทที่ 38 คุณชายน้อย—ไอ้โรคจิต!

12/09/2024

39

บทที่ 39 ลาพักใจ

13/09/2024

40

บทที่ 40 ระยะห่างทำให้รู้ว่าสำคัญมากแค่ไหน

14/09/2024