5.0
ความคิดเห็น
2K
ชม
10
บท

ไป๋หมิงลี่ต้องแต่งไปเป็นอนุเฟิงเหวินเฉิง บุรุษซึ่งทำให้สกุลของนางต้องล้มจ่ม บิดาทิ้งนางไว้กับเฟิงเหวินเฉิงให้นางแต่งไปเป็นเพียงอนุของเขา นางไม่ยอมและจะไม่ก้มหน้าให้ผู้ใด หากผู้ใดรังแกข้าก็อย่ามาหาว่าข้าร้าย เพราะข้าร้ายแล้วไงมันหนักหัวอะไรเจ้า!!

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังถูกหามมาคู่กัน แต่มิได้ขนาบข้างกันอย่างซ้ายและขวา ด้านหลังยังมีขบวนซึ่งเล็กกว่าเกี้ยวหลังแรกมากนัก

วันนี้ตระกูลเฟิงมีงานมงคลจากสองตระกูลที่จะมาเกี่ยวดองกันมีผู้คนมากหน้าหลายตามาร่วมยินดีในงานคับคั่งเลยทีเดียว

เฟิงเหวินเฉิงอยู่ในชุดคลุมสีแดงยาวตามแบบฉบับเจ้าบ่าว ที่คอยต้อนรับแขกเหรื่อที่มาเป็นสักขีพยานในงานนี้ เขารอคอยเจ้าสาวของตนเองอยู่ในจวนอย่างสุขุม

งานแต่งจัดในช่วงดวงตะวันตกดิน เทียนมงคลถูกจุดอยู่ทั่วทุกที่ ความสว่างไสวล้อมรอบตัวของชายหนุ่ม นับเป็นวันดีที่เฟิงเหวินเฉิงก็เพิ่งเคยพบเจอ

วันนี้เขาแต่งเจ้าสาวเข้าจวนสองตระกูล หนึ่งในนั้นคืออนุภรรยา ที่เขาได้มาด้วยความไม่ชอบธรรม แต่เขาคาดไว้ว่าสิ่งนี้จะเป็นผลดีต่อนางในภายหน้า หากว่านางเข้าใจ แต่เขาถือว่าเขาได้ทำตามมโนธรรมที่ตัวเองวางไว้อย่างดีแล้ว เพื่อไม่ให้ผู้คนนินทาว่าร้ายในสิ่งที่เขาทำเอาไว้

ชายหนุ่มก็ยังใจเย็น และรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

การเดินทางเข้าจวนใกล้เสร็จสิ้น รอแค่เจ้าสาวสองนางเท่านั้นที่อยู่ภายในเกี้ยวทั้งสองหลัง

หลังหนึ่งคันสีแดงเพลิงซึ่งตกแต่งเต็มไปด้วยระย้าจากลูกปัดสีร้อนแรง ถูกประดิษฐ์ให้เป็นลวดลายหงษ์สองคู่เกาะเกี่ยวกัน ผ้าม่านทึบสีเดียวกับตัวเกี้ยวมิได้ทำให้เห็นรูปโฉมของเจ้าสาวด้านในนัก

คนแบกเกี้ยวล้วนเป็นชายหนุ่มร่างกำยำและแข็งแรง บุรุษเหล่านี้คือส่วนหนึ่งในคนรับใช้ของตระกูลหาน

ส่วนอีกหลังเป็นเกี้ยวเจ้าสาวธรรมดาทั่วไป มิได้สวยงามอลังการเช่นหลังแรก

เกี้ยวหลังแรกถูกหามเข้าไปภายในจวนด้วยความชื่นมื่น เต็มไปด้วยเกียรติยศและสมเกียรติ แต่ในส่วนของหลังที่สองนั้น กลับถูกแบกเข้าไปหลังจวนตระกูลเฟิงอย่างไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี และหาได้มีการสนใจจากผู้ใด นั่นก็เพราะมันหาได้สำคัญต่องานในครั้งนี้ แต่มีค่าต่อเฟิงเหวินเฉิงแค่เพียงผู้เดียว

แขกเหรื่อในงานมิได้รับรู้ว่ายังมีนางที่เป็นเจ้าสาวของคุณชายเฟิงอีกหนึ่งคน

ภายในเกี้ยวก็เช่นกัน เจ้าสาวที่มิได้อยากแต่งงานเข้าพิธีอันเป็นมงคลนี้ ได้หยิบมีดสั้นขึ้นมา นางมองคมมีดแวววาวที่จดจ่ออยู่ด้วยความห้าวหาญ สีหน้านางเรียบนิ่ง ดวงตาคมสวยมิได้เผยความปรารถนาใดออกมา แต่นางคิดดีแล้วว่าในวันนี้ชีวิตต้องดับลงเพราะความอดสูที่มีภายในใจนั้นยากเกินที่จะมีผู้ใดเข้าถึงมัน

“ถ้าข้าต้องอยู่เป็นอนุให้เฟิงเหวินเฉิงกับหานซูหนิงรังแกแล้วละก็ สู้ข้าตายไปเสียดีกว่า!!”

ตอนนี้น้ำตานางหยดลงมาหนึ่งครั้ง แต่ก็มิได้มีผู้ใดพบเห็น นางมองออกไปข้างนอกที่ยังเป็นเงาเลือนราง ผ่านผ้าม่านสีแดง ประตูจวนของเฟิงเหวินเฉิงอยู่ตรงหน้านางแล้ว ขบวนหยุดอยู่แค่ตรงนี้เพราะต้องรอให้เขาเข้ามาเปิดหลังจากคำนับฟ้าดินกับหานซูหนิงเสร็จสิ้น เพราะนางผู้นี้ได้แต่งเข้าเป็นฮูหยินเอกของตระกูล

นางซึ่งเป็นอนุที่มีศักดิ์และอำนาจน้อยกว่า ย่อมมิต่างจากต้นไม้ที่ให้พวกเขาเหยียบย่ำ ไป๋หมิงลี่จึงพร้อมยอมตายเสียตั้งแต่ตอนนี้ อย่าให้ใครได้รับรู้ว่านางแต่งเป็นเจ้าสาวที่ไม่มีใครยอมรับของเขา

สตรีตระกูลไป๋มีใจห้าวหาญ นางจรดคมมีดที่บางเฉียบลงบนข้อมือซ้ายของตนเอง หมายจะตัดเส้นเลือดใหญ่ให้โลหิตรินไหลออกมาจนหมดตัว จะได้จบสิ้นความสังเวชในชาติภพนี้เสียที

เสียงกรีดเนื้อเบียดลงไปจนถึงเส้นโลหิตกลมใหญ่ แค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่นางหลับตา น้ำข้นสีแดงฉานก็กระฉูดออกมาจากก้อนเนื้อ จนพุ่งเข้าชำแรกสู่เนื้อผ้าม่านสีแดง แทบกลมกลืนไปกับมันจนแยกไม่ออก ถึงจะเป็นคนกรีดเฉือนผิวหนังตนเอง แต่พอเห็นภาพตรงหน้าที่เลือดไหลเป็นน้ำขนาดนั้น นางถึงกับหายใจหอบถี่และทำอันใดไม่ถูก ถึงกับสลบแน่นิ่งไป

เสียงกรีดร้องของนางมิได้มีผู้ใดได้ยิน เพราะขบวนที่ขนเกี้ยวได้วางนางลงตามคำสั่งของเจ้าตระกูล และเดินทางกลับพร้อมกับเงินค่าจ้างหลายชั่ง

เฟิงเหวินเฉิงที่ทำพิธีการไหว้ฟ้าดินและดื่มสุรามงคลเสร็จแล้ว เริ่มรู้สึกกังวลใจที่มิได้มีผู้ใดเดินทางมาบอกกล่าวกับเขาเรื่องนาง

“ทำไมจนถึงป่านนี้แล้วยังมิพบเจอตัวนางเลย หรือว่าจะเข้าไปในห้องหออีกฝั่งของจวนเสียแล้ว” ชายหนุ่มขมวดคิ้วทำสีหน้าไม่พอใจออกมาเล็กน้อย แต่ก็มิได้เอ่ยออกไปให้ผู้ใดได้ยิน หานซูหนิงเองก็ยังมิได้เข้าไปในห้องหอ รอให้เขานั้นนำพาเกาะเกี่ยวแขนเข้าไปกับนาง แต่หาใช่เช่นนั้น เมื่อสามีหมาด ๆ เช่นเขากลับบอกให้นางเข้าไปกับสาวใช้ก่อน ส่วนเขาจะล่วงไปทำธุระที่มิได้บอกกล่าวกับนาง

“ฮูหยินหานซูหนิง โปรดเข้าห้องหอก่อนเถิดเจ้าค่ะ” สาวใช้ในจวนนำนางเดินเข้าไป แต่ในใจของหานซูหนิงนั้นรู้ดีอยู่ว่าเขานั้นหมายเดินทางไปที่ใด นางก็ทำสีหน้าหงุดหงิดไม่พอใจกับสาวใช้แล้วเดินเข้าไปรอด้านในห้องหอเพียงลำพัง

ขบวนเกี้ยวยังอยู่ที่เดิมหน้าห้องหอรอบด้านมีเพียงสาวใช้ประจำตัวของนางเฝ้าอยู่ด้านนอกเกี้ยวอย่างร้อนใจ ซึ่งเฟิงเหวินเฉิงเองต้องเดินเข้ามาเพื่อดูว่า ไป๋หมิงลี่ยังอยู่ตรงนี้หรือไม่

“ถึงนางจะร้ายกาจกับข้ามากมาย แต่หวังว่าครานี้คงต้องจำยอมกันบ้าง” แต่เฟิงเหรินเฉิงก็ต้องเบิกตาโพลงเพราะความตกใจ เมื่อเห็นภาพตรงหน้า

“ไป๋หมิงลี่!! เจ้าทำอะไรนะ!!”

ชายหนุ่มถลาเข้าไปในเกี้ยวเพื่อยกตัวนางออกมา เพราะเห็นภาพที่เขาเองก็ต้องตกตะลึง ไม่คิดว่าหญิงสาวถึงกับทำเช่นนี้และไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวถึงต้องทำเช่นนั้น

“นะ…นี่เจ้าเกลียดข้าจนต้องปลิดชีพตัวเองเลยหรือไร โธ่! ไป๋หมิงลี่ข้าไม่ให้เจ้าตายฟื้นขึ้นมารับผิดชอบในสิ่งที่ครอบครัวเจ้าเดี๋ยวนี้”

ชายหนุ่มมองใบหน้าที่ซีดเผือดของนาง ก่อนที่เขาจะนำผ้าคาดเอวมาพันข้อมือเพื่อห้ามเลือด และอุ้มนางที่หมดสติอยู่เข้าไปในจวนอีกฝั่งของห้องหอ ที่อยู่ห่างจากห้องของหานซูหนิง

“จะ…เจ้า..เจ้าคนถ่อย เฟิงเหวินเฉิง ขะ..ข้าเกลียด..เจ้า..”

นางเพ้อออกมาเมื่อสายตาแสนริบหรี่มองเห็นหน้าของชายหนุ่มที่นางมิอยากเจอ และสติสุดท้ายของนางก็ดับวูบลง…

เมื่อสามเดือนก่อนหน้านี้..

“นี่คือผู้ใดหรือท่านพ่อ”

ไป๋หมิงลี่ก้าวเท้าเข้าไปยังร้านค้าของบิดาตน ไป๋ติงตงทำกิจการเกี่ยวกับการค้าสิ่งทอและเครื่องใช้หลายต่อหลายอย่าง เขาเป็นพ่อค้าคหบดีที่ร่ำรวย และตระกูลไป๋เป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้านในเมืองนี้ เพราะมีสินค้าหลากหลายเกินไป และไป๋ติงตงทำทุกอย่างเองมิได้ จึงได้ว่าจ้างให้คุณชายแห่งตระกูลเฟิงเข้ามาทำงานเป็นนักบัญชีของร้านเขา

แต่ไป๋หมิงลี่กลับคิดว่าเขานั้นมิได้เหมาะกับงานนี้สักหน่อย เพราะนางเองก็เคยพูดกับบิดาว่านางก็ทำได้ มิต้องให้ใครมาทำแทนนาง

“ข้าทำเองก็ได้ท่านพ่อ ให้คุณชายเฉิงไปทำงานอย่างอื่นเถอะ” นางตั้งแง่กับเขา หาว่าเขานั้นทำงานที่สบายเกินไป ทำไมไม่ไปทำอย่างอื่นที่ชายชาตรีควรลงมือ

“เจ้าเอานี่ไปล้างให้ข้า ให้เสร็จในเร็วไวด้วย” นางใช้งานเขาสารพัด การกลั่นแกล้งของนางไม่ได้ทำให้เขาอยากรู้สึกทำงานน้อยลงแต่อย่างใด เขายังคงอดทนกับนิสัยชอบระรานและร้ายกาจของคุณหนูไป๋หมิงลี่ เพราะเฟิงเหวินเฉิงรับมือกับนางได้อย่างดี

“ทำบัญชีเป็นเรื่องของคนในตระกูล ท่านพ่อคิดเช่นไรให้เขาเข้ามาดูแลเช่นนี้ คุณชายเฟิงเป็นคนนอก ท่านไว้ใจเขาไม่ได้นะ”

ไป๋หมิงลี่ถึงแม้จะร้ายกาจและไม่ค่อยน่ารักในสายตาผู้อื่น แต่นางเป็นคนฉลาดหัวไวและมีสายตาที่เฉียบคม นางมิเคยไว้ใจใครโดยเฉพาะบุรุษผู้นี้

“เจ้าเป็นสตรี ไปทำงานอื่นเถอะ อย่างพวกงานเย็บปัก หรือช่วยดูแลงานทอผ้าก็ยังได้ คุณชายเฟิงเหวินเฉิงเป็นคนที่ไว้ใจได้เจ้าอย่ามาสอดรู้ให้มากความเลย เสียเวลายิ่งนัก” บิดาของนางออกปากไล่ทุกครั้งเมื่อนางเข้ามาสอดปากเรื่องนี้

ไป๋หมิงลี่เฝ้าระวังให้บิดาได้ไม่นาน เฟิงเหวินเฉิงก็ออกลาย เป็นอย่างที่นางคิดไม่มีผิด เขานั้นเป็นคนชั่วอย่างที่นางรู้สึกจริง ๆ

“เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร หักหลังบิดาข้าไปเข้ากับจวนสกุลหานที่เป็นปรปักษ์ทางการค้ากับสกุลไป๋ เจ้ามันเลวระยำเฟิงเหวินเฉิง!!”

นางโวยวายเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มหักหลักบิดา เขาเปลี่ยนแปลงตัวเลขในบัญชี ทำให้การค้าขายขาดทุน รวมทั้งจ้างพวกคนร้ายมาขโมยทรัพย์สินจากร้านนาง

“โง่จริง ๆ บุตรสาวตระกูลไป๋ ตลอดเวลาที่เฟิงเหวินเฉิง อยู่ที่นี่เจ้ามิเคยเคลือบแคลงใจเลยหรือไง ช่างน่าสังเวชใจที่ครานี้ตระกูลคหบดีที่ร่ำรวยจะกลายเป็นยาจกบ้าง ตระกูลของเจ้าก็เคยทำชั่วช้าต่อผู้อื่นมาก่อนเช่นกัน เจ้ามิรู้หรือไร!“

หานตงเฉียนชี้หน้าด่าทอนางและบิดา แต่เฟิงเหวินเฉิงก็ห้ามเขาพูดอีก

”พอได้แล้วหานตงเฉียน หยุดพูดเถอะตอนนี้ท่านได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ก็ออกไปได้เสียที ข้ามีเรื่องต้องทำธุระกับไป๋ติงตงให้เสร็จสิ้น“

คนที่ถูกพูดถึงแสยะยิ้มเดินออกไปด้วยความสบายใจ ที่เขาได้โค่นคู่ค้ารายใหญ่สำเร็จ

ชายหนุ่มเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าอดีตเจ้าของกิจการอย่างไป๋ติงตง โดยที่บุตรสาวของเขาก็ยังอยู่ข้าง ๆ กาย

“ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธแค้นข้ายิ่งนัก แต่สิ่งที่เจ้าเคยทำกับสกุลตู้นั้นยากที่จะให้อภัย ถือเสียว่าครั้งนี้ท่านได้ตอบแทนกระดูกให้แก่สกุลที่ท่านทำล้มตาย เพราะความเสียใจที่เสียรู้ให้ท่านในครั้งนั้นเถอะนะ”

เฟิงเหวินเฉิงเป็นบุตรชายสกุลตู้อย่างที่เขาเอ่ยมา บิดามารดาของเขาจากไปและอยู่บนสรวงสวรรค์นานแค่ไหน เขาก็ยังจดจำความหลังได้มิลืมเลือน

แต่ในตอนนี้เขาก็ยังมีความปราณีต่อไป๋ติงตง

“ข้ารู้ว่าเจ้ามิได้ชื่นชอบความยากจน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน หากไม่อยากให้บุตรสาวต้องลำบาก ก็ให้นางมาเป็นเจ้าสาวข้า ส่วนเจ้าผู้เป็นบิดาข้าจะยกทรัพย์ให้ส่วนหนึ่งเป็นสินไหมในการใช้ชีวิตต่อไป แต่เจ้าก็ต้องออกจากเมืองนี้เช่นกัน”

“เจ้าคนชั่วช้า!! ให้ข้าตายเสียดีกว่าไปเป็นเจ้าสาวร่วมหอกับเจ้า!”

นางกล่าววาจาหมายมาด ความอาฆาตของนางยังคงคุกรุ่น คนที่ทำเช่นนี้กับครอบครัวนางให้ล่มจม มีสิทธิ์ทำเช่นนี้กับนางหรือ เท่ากับว่าศักดิ์ศรีของนางนั้นจบสิ้น และไป๋หมิงลี่จะมิยอมเด็ดขาด บิดานางก็คงยืนกรานเข้าข้างนางเป็นแน่

แต่เปล่าเลย ไป๋ติงตงเป็นคนที่มิให้ใครมาหยามเขาได้ว่าเป็นยาจกและยากไร้ เขาเลือกรับสินทดแทนที่เฟิงเหวินเฉิงหยิบยื่นให้ และยกบุตรสาวเพียงคนเดียวให้แต่งงานกับชายผู้ล่มตระกูล

“ไป๋หมิงลี่ ต่อไปเจ้าจะขอบใจพ่อที่เลือกทางเดินให้เจ้าเช่นนี้ เชื่อข้าเถอะว่ามันจะเป็นการดีกับเจ้าในภายหน้า!”

“ท่านพ่อ!!”

ไป๋หมิงลี่ถึงกับเข่าทรุดลงกองกับพื้น ที่นางได้ยินบิดาเอ่ยคำนั้นราวกับฟ้าถล่ม นี่นางหูมิได้ฝาดไปใช่หรือไม่

นางถูกบิดาทอดทิ้งเช่นนั้นหรือ…

“ข้ารักเจ้านะลูกรัก ไปกับคุณชายเฟิงเหวินเฉิงเถอะ ถือว่าเจ้าได้ตอบแทนบุญคุณบิดาในชาตินี้”

นางอดทนอดกลั้นมิให้เสียน้ำตา เพราะความอัปยศ หญิงสาวกัดฟันกรอด คอยดูสิข้าจะเอาคืนพวกเจ้าให้สาสม

หญิงร้ายและชายเลวทั้งสองตระกูล ไป๋หมิงลี่คนนี้จะไม่ยอมอภัยให้แน่ ๆ!!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

โรแมนติก

3.5

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เธอคนนี้ ไม่ใช่สาวส้มหล่น

เธอคนนี้ ไม่ใช่สาวส้มหล่น

Livia
5.0

ตอนเด็กถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว แม่ถูกทำร้าย ฉือเนี่ยนสาบานว่าจะเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา!ครั้งแรกที่กลับมาที่เมืองจิง เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและสำส่อนหลายคนบอกว่าลู่เหยียนสือต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้มาสนใจฉือเนี่ยนแต่มีแค่ลู่เหยียนสือเท่านั้นที่รู้ ว่าเธอที่เขารักและทะนุถนอมนั้นมากความสามารถ สามารถสร้างความวุ่นวายให้ทั้งเมืองจิงได้ด้วยตัวคนเดียวเธอคือหมอมือหนึ่ง เธอคือแฮ็กเกอร์มือทอง และยังเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องจากบุคคลสำคัญคนภายนอก: "คุณลู่ คุณจะเอาใจภรรยาจนไม่มีขอบเขตเลยเหรอ ทำไมแม้แต่ประชุมยังต้องอุ้มเธอไว้ด้วย!"ลู่เหยียนสือ "ต้องเอาใจภรรยาถึงจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู"ต่อมาความลับของเธอถูกเปิดเผย ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหันมาชื่นชมและยกย่องเธอ...

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ