Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
 เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
13.6K
ชม
20
บท

ชาติภพก่อนนางต้องสูญเสียลูกและสามีเพราะคนร้ายกราดยิงในห้าง จนนางเลือกจบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายตาม พอเกิดชาติใหม่ก็มาอาศัยร่างที่ใบหน้าเหมือนตัวเองแถมมีลูกสาวที่หน้าเหมือนลูกสาวภพก่อนแต่กลับถูกสามีทิ้งให้มาอยู่ลำพังบนเขาจนอดข้าวตาย นางที่ได้มาอาศัยร้าง สัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวคนนี้ให้ดีที่สุด และหวังว่าจะเจอสามีนางในภพเช่นกัน หญิงหม้ายเช่นนางจะดูแลบุตรสาวด้วยตัวเอง... "ท่านแม่กอดเอวของท่านพ่อเอาไว้แบบนี้ห้ามปล่อยนะเจ้าคะ ถ้าท่านแม่กอดเอวท่านพ่อก็จะได้กอดถิงถิงไปด้วย" เสียงเล็กของสาวน้อยที่นั่งตรงกลางระหว่างเจินเป่าและเหนียงไป๋กล่าวบอกผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส เหนียงไป๋จึงไม่มีทางเลือกต้องพยักหน้ารับและทำตามที่บุตรสาวบอกแต่โดยดี ******************* นิยายสนุก น่ารัก อบอุ่นหัวใจ ดีต่อสุขภาพ แวะมาอ่านกันเยอะๆ นะคะ

บทที่ 1 ภพปัจจุบัน

…แดนเนรมิต…ที่ถูกเนรมิตขึ้นมาให้เป็นโลกแห่งความสุขสำหรับครอบครัวและคนทุกเพศทุกวัย ได้มาพักผ่อนในวันหยุด ซึ่งเป็นการพักผ่อนไปกับบรรยากาศที่สดใส และในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ก็เป็นอีกวันที่สวนสนุกใจกลางเมืองหลวงของจีนแผ่นดินใหญ่ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย เดินสวนกันไปมาอย่างมีชีวิตชีวา เสียงจอแจพูดคุยของผู้คนดังอยู่รอบทิศ โดยเฉพาะเสียงของเด็ก ๆ บรรยากาศครื้นเครงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

หนึ่งในครอบครัวหลายครอบครัวในที่นี่ ก็มีครอบครัวแสนอบอุ่นครอบครัวหนึ่ง ที่มีพ่อชื่อว่าเถียนฟง แม่ชื่อว่าเหนียงไป๋ และลูกสาวชื่อว่าถิงถิง ซึ่งเถียนฟงและเหนียงไป๋ก็ได้พาถิงถิงมาเที่ยวสวนสนุกในวันหยุดเหมือนกับครอบครัวอื่นทั่ว ๆ ไป

“บรึ๋น บรึ๋น บรึ๋น” เสียงของคุณพ่อผู้แสนใจดีและอบอุ่นกำลังขับเครื่องบิน หยอกล้อกับลูกสาวผู้น่ารัก ซึ่งเครื่องบินที่นั่งอยู่นี้ เป็นเครื่องเล่นสำหรับครอบครัว พ่อแม่ลูกนั่งในตัวเรือบินที่กำลังลอยล่องขึ้นลงโดยอัตโนมัติ ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขสนุกสนาน บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ”

เมื่อครบเวลาของเครื่องเล่น ทุกคนก็ลงมาจากเครื่องเล่นเครื่องบินลำน้อยด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม และดูเหมือนว่าถิงถิงจะติดใจกับเครื่องเล่นของที่นี่เข้าให้แล้ว “แม่คะพ่อคะ ถิงถิงอยากขึ้นอันนั้นด้วยค่ะ” เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโตปานไข่ห่าน ใบหน้าอ้วนกลมเหมือนซาลาเปา พวงแก้มปริแตกจนเห็นสีชมพูอ่อน รูปร่างอ้วนฉุพุงพลุ้ยชี้นิ้วสั้น ๆ กลม ๆ ไปที่รถไฟทรงโบราณ ที่ขึ้นนั่งได้ทั้งครอบครัวเช่นเคย แต่เครื่องเล่นนี้เป็นเครื่องเล่นที่เอาไว้นั่งชมบรรยากาศที่สวยงามและร่มรื่นของพฤกษานานาพันธุ์ พ่อกับแม่มองหน้ากันแล้วพยักหน้าตกลงทั้งสองฝ่าย ก่อนจะจูงมือน้อย ๆ ของลูกสาวคนละข้างไปยังเครื่องเล่นรถไฟโบราณ

ทุกอย่างรอบข้างที่ถูกจัดไว้นั้นสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กน้อยเป็นอย่างมาก พ่อกับแม่ชี้นั่นชี้นี่ให้ลูกได้ดู เป็นภาพความทรงจำที่ดีมาก ๆ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลโชยเข้ามาแตะปลายจมูกของคนทั้งสาม เด็กน้อยตัวกลมยิ้มร่ามีความสุข สายลมพัดผ่านทำให้ผมเส้นบางปลิวไสวปิดดวงตาโต คุณพ่อผู้แสนดีก็ปัดออกให้อย่างอ่อนโยน ทั้งยังปัดเส้นผมที่ปกคลุมใบหน้ารูปไข่ของคุณแม่คนสวยออกให้ด้วยเช่นกัน

ครอบครัวนี้ถือว่าเป็นครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวกัน ทั้งยังอบอุ่นและแน่นแฟ้น มีความสัมพันธ์ภายในครอบครัวระหว่างพ่อแม่ลูกที่เกิดร่วมกันอย่างลึกซึ้ง พ่อกับแม่มีเวลาให้ลูกน้อยเสมอ ทั้งเถียนฟงและเหนียงไป๋ให้ความสำคัญกับลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองเป็นอันดับหนึ่ง ออกไปท่องเที่ยวด้วยกันในทุก ๆ วันหยุด ทั้งสามคนจึงผูกพันและสนิทสนมกันมาก และทุก ๆ ที่ที่ไปด้วยกัน ก็มักจะเป็นภาพทรงจำที่ดีของครอบครัวนี้เสมอ

เมื่อครบเวลาของเครื่องเล่นรถไฟโบราณชมเมือง ทุกครอบครัวก็ลงมาจากเครื่องเล่นพร้อมกัน ๆ “อึ๊บ” คุณพ่อที่ตัวใหญ่และแข็งแรงกว่ามีหน้าที่อุ้มลูกสาวที่เริ่มอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเพราะพลังงานเริ่มหมดออกจากเครื่องเล่น ลูกสาวเมื่อถูกอุ้มก็ซบไหล่ผู้เป็นพ่อในทันที คล้ายกำลังจะหลับ “ตัวแสบง่วงนอนแล้วใช่ไหมเนี่ย” ผู้เป็นพ่อถามลูกน้อยด้วยความเอ็นดู ก่อนจะกดริมฝีปากไปที่แก้มป่องหนัก ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

“หิวน้ำไหมลูก” เหนียงไป๋ถามลูกสาว แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากลูกน้อยนั้นเป็นแค่เพียงการส่ายหน้าเบา ๆ บนหัวไหล่กว้างของผู้เป็นพ่อ

“ลูกคงง่วงแย่แล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันเลยดีไหม” เถียนฟงหันหน้าไปขอความเห็นจากภรรยาคนสวย และแน่นอนว่าเหนียงไป๋ต้องพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “อื้ม ดีเหมือนกัน”

“โอเค” เสียงทุ้มตอบตกลงภรรยาพร้อมกับยื่นมือหนาไปให้เธอจับกุมเอาไว้ เถียนฟงเสมอต้นเสมอปลายกับเหนียงไป๋เสมอ ตั้งแต่วันแรกที่ตกหลุมรักกันจนถึงวันนี้ คำสัญญาที่เถียนฟงให้ไว้กับเหนียงไป๋ว่าจะปกป้องทั้งร่างกายและความรู้สึกของเธอนั้น เถียนฟงไม่เคยผิดสัญญาเลยสักครั้ง เหนียงไป๋รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากที่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ และได้เป็นแม่ของลูกเขา

จุดหมายปลายทางอันแสนยาวไกล ความเหนื่อยล้าและลมเย็น ๆ จากเครื่องปรับอากาศของรถยนต์ ทำให้เหนียงไป๋ที่ตั้งใจว่าจะนั่งคุยเป็นเพื่อนสามีตลอดทางนั้น เผลอหลับใหลไปพร้อมกับแก้วตาดวงใจตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่ในคาร์ซีทเบาะหลัง…รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเจื้อยของถิงถิงพูดขึ้น “คุณแม่คะ คุณแม่คะ” คนเป็นแม่ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน เมื่อได้ยินเสียงของลูกก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นในทันที “อ้าว....ตื่นแล้วเหรอลูก”

“หนูหิวข้าวค่ะ” เด็กตัวน้อยบนคาร์ซีทที่พึ่งตื่นจากการหลับลึก ก็ตาใสไม่งอแงเลยสักนิด ทั้งยังพูดจาเจื้อยแจ้วออดอ้อนพ่อกับแม่ให้พาแวะห้างสรรพสินค้าที่กำลังจะถึงข้างหน้า เด็กน้อยจำได้เพราะพ่อกับแม่เคยพามาบ่อย ๆ เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใกล้บ้านมากที่สุด

ความจริงเถียนฟงมองถิงถิงในกระจกมองหลังอยู่ตลอด ตั้งแต่ได้ยินเสียงลูกขยับตัวแล้ว เมื่อลูกสาวขยับปากน้อยเพื่อเปล่งเสียงเล็กออกมา ก็ทำให้ผู้เป็นพ่อหลุดขำเบา ๆ ออกมาในทันที “หึหึ” เพราะลูกสาวชอบแวะห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มาก ยังแอบคิดอยู่ในใจเลยว่าถิงถิงต้องตื่นตอนที่ใกล้ถึงห้างเป็นแน่ และแน่นอนว่าเมื่อลูกเอ่ยขอ คุณพ่อผู้ใจดีและตามใจลูกสาวตัวน้อยตลอดจะไม่ขัด “เดี๋ยวพ่อพาแวะกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้าข้างหน้านะลูก”

“เย้ ๆ พ่อใจดีที่สุดในโลกเลย”

“ฮ่า ๆ”

…ภายในห้างสรรพสินค้า วันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ แน่นอนว่าต้องเต็มไปด้วยครอบครัวและกลุ่มวัยรุ่นเดินสวนกันไปมาอย่างคับคั่ง ด้วยความหิว ครอบครัวนี้จึงพากันเดินตรงไปขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปยังชั้นสอง ที่เป็นชั้นของศูนย์รวมร้านอาหาร ซึ่งมีทั้งร้านอาหารไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น และเกาหลี แต่กลิ่นอาหารหอม ๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายจากฟู้ดส์คอร์สเรียกความสนใจจากผู้เป็นแม่ของครอบครัวนี้ได้มากกว่าร้านอาหารอื่น ๆ “เราไปกินที่ฟู้ดส์คอร์สกันดีไหม มีอาหารให้เลือกเยอะ ราคาประหยัดอีกด้วย”

“ฮ่า ๆ สมกับที่เป็นแม่จริง ๆ” เถียนฟงหลุดขำภรรยาคนสวยออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะตั้งแต่ที่เขาแต่งงานกับเหนียงไป๋ เธอก็เปลี่ยนเป็นคุณแม่จอมงก ที่มักจะคำนวณทุกอย่างก่อนจะใช้จ่าย

คำพูดสองแง่สองง่ามของสามี ทำให้ผู้เป็นภรรยาช้อนตาเขียวใส่ทันที ก่อนจะยื่นมือไปหยิกแก้มสากแรง ๆ หนึ่งที “จะว่าฉันขี้งกเหรอ เดี๋ยวเถอะ ๆ”

“อะ โอ๊ย ผมไม่ได้พูดเลยนะ” สามีภรรยาคู่นี้มักจะหยอกล้อกันแบบนี้อยู่บ่อย ๆ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้ทั้งสองรักกันอย่างเหนียวแน่นมากขึ้น

“แม่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เลือกที่นั่งไว้รอก่อนได้เลย”

“อื้ม…”

ระหว่างที่เหนียงไป๋กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากฟู้ดส์คอร์สมากนัก อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงโวกเหวกโวยวายด้วยความหวาดผวาดังขึ้น

“ว๊าย!”

“กรี๊ด!”

ก่อนที่ผู้คนจะเริ่มวิ่งเบียดเสียดกันมาจากทางฟู้ดส์คอร์ส เหนียงไป๋เริ่มใจคอไม่ดีจะเดินกลับไปหาสามีและลูกสาว แต่ทว่าเธอกลับถูกเบียดจากผู้คนที่หลั่งไหลวิ่งมาเข้าไปในห้องน้ำ “อ๊ะ!” หลายคนวิ่งเข้ามาในห้องน้ำด้วยเช่นกัน ก่อนที่ประตูใหญ่จะมีใครบางคนปิดและใส่กลอน

เหนียงไป๋ตกใจมาก จึงเอ่ยถามคนข้าง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น “กะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” แต่อีกฝ่ายกลับเอานิ้วชี้ทาบปาก เป็นสัญญาณบอกให้เงียบก่อน แทนการเปล่งเสียงพูด บรรยากาศในตอนนี้มันเย็นยะเยือกสร้างความหวาดหวั่นเสียวสันหลังกระจายไปยังทุกคนในห้อง

ปัง! ปัง! ตอนที่เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นคล้ายเสียงปืนนั้น เหนียงไป๋สะดุ้งเฮือกใหญ่ หันขวับมองคนรอบข้างนึกว่าหูตัวเองฟังผิดไป พลันหนาวสะท้านไปทั้งแผ่นหลัง ตระหนกวาบขึ้นมาในใจ รู้สึกหวาดหวั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พอจะเริ่มรู้แล้วว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น เพราะได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศเกลี่ยกล่อมให้คนร้ายใจเย็นและหยุดการกระทำ

เหนียงไป๋เริ่มวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เป็นห่วงสามีกับลูกสาวที่อยู่ด้านนอก ทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกคนข้าง ๆ ดึงแขนเอาไว้ เธอจึงจำต้องนั่งลงที่เดิมอย่างฝืนใจ ปัง! ปัง! เสียงปืนดังขึ้นเรื่อย ๆ และมีเสียงรถพยาบาลจากข้างนอกตัวห้างดังระงม

ช่องด้านล่างประตูที่แสงลอดผ่านเข้ามาได้ ทำให้ทุกคนในห้องน้ำต่างเห็นเงาร่างของยมทูตเดินผ่านไปผ่านมา ความเย็นยะเยือกขนลุกซุ่พลันจู่โจม ใบหน้าของทุกคนแข็งทื่อ เอามือปิดปากของตัวเองไม่ให้กรีดร้อง จนกระทั่งเงาดำหน้าประตูเคลื่อนไปทางอื่น

แต่ทว่า…แกร๊ก!

ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังขึ้นถี่รัวติดต่อกันหลายนัด ทุกคนในห้องน้ำต่างขวัญผวา ใบหน้าซีดเผือดไปตาม ๆ กัน

แต่แล้ว…เมื่อเสียงปืนสงบลง เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น “วิสามัญคนร้ายสำเร็จแล้ว” เหมือนกับว่าเสียงก่อนหน้านี้ จะเป็นการต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนร้าย และในที่สุดคนร้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตก่อนที่คนร้ายจะเข้ามาในห้องน้ำได้

ประตูถูกเปิดออก ซึ่งเป็นฝีมือของตำรวจ ความรู้สึกปลอดภัยก็ทำให้เหนียงไป๋และทุกคนถอนหายใจได้อย่างโล่งอก ตอนนี้เป็นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ไม่มีเวลาเหลือพอให้ตั้งคำถามซ้ำสอง เมื่อเหนียงไป๋ออกมาจากห้องน้ำได้แล้ว เธอก็ไม่ยอมเดินตามคนอื่น ๆ ไปต่อ แต่กลับกวาดสายตามองซ้ายมองขวาก่อนจะเอ่ยถามเจ้าหน้าที่คนข้าง ๆ น้ำเสียงร้อนรน โดยที่ไม่สนใจศพของคนร้ายที่นอนคว่ำหน้าอยู่เลยสักนิด เวลานี้สามีกับลูกสำคัญที่สุด “คุณคะ สามีกับลูกสาวของฉันถูกช่วยเหลือออกไปแล้วใช่ไหมคะ”

“อย่างไรตอนนี้ออกไปจากห้างก่อนดีกว่าครับ ถ้าด้านนอกไม่มีสามีกับลูกของคุณ ค่อยแจ้งกับตำรวจด้านนอกนะครับ”

เจ้าหน้าที่ตอบได้เพียงเท่านั้นจริง ๆ ในเวลานี้ แต่ด้วยความร้อนใจ เหนียงไป๋จึงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมากดโทรหาสามี ปกตีสามีของเธอจะเปิดเสียงโทรศัพท์มือถือไว้ตลอดด้วยหน้าที่การงาน กริ๊ง! กริ๊ง! เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของสามีดังอยู่ไม่ไกล เหนียงไป๋ก็เริ่มใจคอไม่ดี เท้าเล็กก้าวไปข้างหน้าเรื่อย ๆ ตามเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ โดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามของเจ้าหน้าที่ด้านหลัง

และแล้วเมื่อเดินมาถึง ภาพตรงหน้าก็ทำให้เหนียงไป๋เข่าทรุดลงกับพื้นในทันที โทรศัพท์มือถือร่วงหล่นจากมือบางไปด้วย ภาพลูกสาวในอ้อมอกของสามีนอนจมกองเลือด ไร้ลมหายใจไปแล้วทั้งสองคน

การจากไปไม่มีวันกลับของสามีและลูก เหนียงไป๋ยอมรับความจริงไม่ได้ คิดว่านี่ต้องเป็นความฝันแน่ ๆ “มะ ไม่จริง ไม่ใช่เรื่องจริง เถียนฟง ถิงถิง ตื่น ตื่นสิ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ”

จนกระทั่งร่างที่โชกเลือดถูกยกขึ้นมาด้วยฝีมือของเธอเอง แขนข้างซ้ายของสามีที่ห้อยลงมา สายตาของเธอเหลือบไปเห็นแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายของสามี ความมืดมนเข้ามาปกคลุมในใจ มันเหมือนเวลานั้นโลกได้หยุดหมุน เวลาได้ถูกหยุดลง น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด “ฮึก…ฮือ… ไม่จริง ฮือ…” ภาพเหนียงไป๋ที่กำลังร้องไห้โฮ กอดสามีกับลูกสาว ช่างเป็นภาพที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก

…เมื่อเรื่องที่สุดแสนเลวร้ายเป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน งานไว้อาลัยและส่งผู้ที่ล่วงลับไปสู่สุคติก็ถูกจัดขึ้นด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

หีบศพสองหีบถูกตั้งอยู่เบื้องหน้าไม้กางเขนอันใหญ่ หน้าหีบศพถูกประดับประดาด้วยดอกไม้สีขาวดำ พิธีเริ่มต้นด้วยการร้องเพลงนมัสการพระเจ้า กล่าวประวัติผู้วายชนม์ กล่าวคำอาลัย และต่อด้วยศาสนาจารย์แสดงธรรมเทศนา บรรยายธรรมในเรื่องหลังความตาย และบทเรียนชีวิตของผู้ที่ล่วงลับ

ตลอดการทำพิธี เหนียงไป๋ร้องไห้ไม่หยุด เกือบจะเป็นลมหลายรอบ เนื่องจากกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่ต้องจากกันไปตลอดกาล ผู้ที่มาร่วมงานและญาติมิตรต่างพากันมาวางดอกไม้แสดงความอาลัย ก่อนที่จะนำหีบศพทั้งสองกับไปฝังลงดินก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีตามศาสนา

เหนียงไป๋ในตอนนี้เหมือนร่างไร้วิญญาณ รอดชีวิตมาได้ก็เหมือนตายทั้งเป็น แม่ของเธอขับรถมาส่งเธอที่บ้าน ชวนเธอไปนอนด้วยเหนียงไป๋ก็ไม่ยอมไป ยืนยันที่จะนอนที่บ้านของตัวเอง เมื่อเหนียงไป๋ไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ความเจ็บปวดก็ตีเข้าปะทะที่อกข้างซ้ายของเธอในทันที บ้านที่มีข้าวของประจำวันวางระเกะระกะ แม้จะไม่ได้เป็นระเบียบ แต่ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายการใช้ชีวิตครอบครัว

ความทรงจำของวันที่ผ่านไปท่วมท้นอยู่ในใจเหมือนอัลบั้มรูปเก่า ๆ สายตาของตุ๊กตาหมีของถิงถิงที่ทรุดโทรมทำให้รู้สึกเศร้าหมอง ภาพขาวดำเก่า ๆ ทำให้เธอยิ้มได้ นึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขภายในใจ เมื่อเดินมาสักพักร่างบางก็ทรุดตัวล้มลง เธอไม่สามารถรับถึงความเจ็บปวดอันมากล้นได้อีก

ร่างบางนอนคดคู้ ไหล่สั่นสะท้าน นิ้วมือทั้งห้ากุมขมับแน่น น้ำตาหยดแรกไหลออกมาตามด้วยสายทางน้ำอุ่นไหลรินตามมาติด ๆ เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นพร้อมกับความโศกเศร้าไร้ที่สิ้นสุด มุมปากสั่นระริก เผชิญอยู่กับความเจ็บปวดรวดร้าวจิตใจแหลกสลาย

‘เถียนฟงฉันคิดถึงคุณ ถิงถิงแม่คิดถึงลูก แม่อยู่คนเดียวไม่ได้จริง ๆ’

ความโศกเศร้าเป็นอย่างมากทำให้เหนียงไป๋ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่ควรทำ สายตาของเธอเหลือบไปเห็นกระปุกยา ก่อนที่จะลุกขึ้นไปหยิบมันมา…

‘เถียนฟง ถิงถิง รอแม่ก่อนนะ พระเจ้ากำลังจะพาแม่ไปหา’

พระองค์ มารับชีวิตของลูกไปด้วยเถิด อาเมน…

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

Amye Hochschild
5.0

ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ

คู่ทาสของกษัตริย์ผู้โหดร้าย

คู่ทาสของกษัตริย์ผู้โหดร้าย

Devy Tseko
5.0

พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง
1

บทที่ 1 ภพปัจจุบัน

14/10/2024

2

บทที่ 2 เกิดใหม่เป็นเหนียงไป๋สตรีม้ายและบุตรสาว

14/10/2024

3

บทที่ 3 ไม่มีอะไรจะกิน

14/10/2024

4

บทที่ 4 หาเครื่องปรุงทำขนมหวาน

14/10/2024

5

บทที่ 5 บัวลอยไข่หวานสูตรใหม่

14/10/2024

6

บทที่ 6 เปิดร้านขายขนมหวานกัน

14/10/2024

7

บทที่ 7 ถูกแม่ผัวรังแก

14/10/2024

8

บทที่ 8 น้องสะใภ้เอาเปรียบ

14/10/2024

9

บทที่ 9 สามีกลับมา

14/10/2024

10

บทที่ 10 ข้าจะหย่า

14/10/2024

11

บทที่ 11 บุตรสาวที่น่ารัก

14/10/2024

12

บทที่ 12 พืชพรรณที่งอกเงย

14/10/2024

13

บทที่ 13 สามีพยายามตามง้อ

14/10/2024

14

บทที่ 14 เปิดร้านขนมหวาน

14/10/2024

15

บทที่ 15 ความจริงเปิดเผย

14/10/2024

16

บทที่ 16 บุรุษไม่นำพา

14/10/2024

17

บทที่ 17 สตรีมากหน้าหลายตา

14/10/2024

18

บทที่ 18 ภรรยาข้า

14/10/2024

19

บทที่ 19 ความจริงจากสามี

14/10/2024

20

บทที่ 20 คู่แล้วไม่แคล้วกัน

14/10/2024