Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
350
ชม
20
บท

หรูเจี่ยเป็นเพียงนักร้องกลางคืนในยุค 70 ช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มเข้ามายึดครองเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างที่เธอต้องพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดจากการขายให้นายพลญี่ปุ่น หรูเจี่ยก็หันไปมองตรงข้ามห้องชั้นสอง ได้กลิ่นซาลาเปาร้อนๆ หอมลอยแตะจมูก พลันเธอก็คิดได้ว่าต้องทำยังไง จึงจำต้องทำเป็นป่วยไม่ยอมกินอะไร เพื่อที่จะให้เถ้าแก่ร้านอ้วนพีที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามมาส่งอาหารให้เธอ แต่เพราะแผนการเลยทำให้เธอกินได้เพียงสองคำ ทั้งที่ท้องของเธอเรียกร้องอาหารอร่อยนั้นแทบขาดใจ เธอจะสามารถหนีพ้นชะตากรรมนี้ได้ไหม แล้วบุรุษอ้วนพีจะช่วยเธอได้หรือเปล่ามาลุ้นกัน

บทที่ 1 นักร้องกลางคืน

บรรยากาศยามค่ำคืน ครึกครื้นยามราตรี เหล่าบรรดานักท่องราตรีทั้งหลายต่างกำลังรื่นเริงบันเทิงใจอยู่ในสถานเริงรมย์แห่งหนึ่งใจกลางเมืองช่างไห่หรือที่คนต่่างชาติมักจะเรียกว่านครเซี่ยงไฮ้ สถานเริงรมย์แห่งนี้ชาวจีนมักนิยมเรียกว่าโรงน้ำชา โรงน้ำชาเปรียบเป็นดั่งวิมานของชาวมังกร หรือจะเปรียบเป็นสวรรค์ของคนรักในการดื่มด่ำเสียงดนตรีและการเต้นรำก็ว่าได้

ยามวิกาลนี้ข้างบนเวทีมีหญิงสาวใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือ คิ้ววาดคล้ายจันทร์ครึ่งเสี้ยว ดวงตาหงส์ เนินแก้มอ่อนช้อย นับเป็นโฉมสะคราญหยาดฟ้ามาสู่ดินผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งเธอกำลังร้องเพลงและโยกร่างกายเบา ๆ ไปตามเสียงลำนำดนตรีของจีนสมัยนิยมในยุคนี้ นอกจากใบหน้าของเธอจะงดงามชดช้อยแล้วน้ำเสียงของเธอยังไพเราะเพราะพริ้งยากที่จะหาผู้ใดมาเปรียบอีกด้วย ทำให้เธอมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วเซี่ยงไฮ้ ต่างเป็นที่หมายปองของชายในเมืองนี้

โรงน้ำชาแห่งนี้มีสาวใหญ่นามว่า เจินเยี่ย รับหน้าที่เป็นผู้จัดการ โดยคนทั่วไปมักจะเรียกเธอว่าเหลาป่าว คอยบริการแขกเหรื่ออยู่ด้านล่างเวที ด้วยนิสัยที่ปากจัดปากร้ายจึงทำให้ควบคุมดูแลที่นี่ได้ทุกอย่าง และยังคอยจัดเด็กสาว ๆ ต้อนรับแขกในแต่ละวันอีกด้วย

ซึ่งในตอนนี้โรงน้ำชาแห่งนี้มีสินค้าอันล้ำค่าอยู่หนึ่งชิ้น ที่บรรดาคุณชายกระเป๋าตุงพยายามจะซื้อตัวอยู่ทุกค่ำคืน บางคนถึงขั้นขอซื้อตัวเอาไปเลี้ยงดูด้วยเงินหลักหมื่นหลักแสนหยวนก็มีมาแล้ว และบุปผางามนางนี้นั้นก็มีนามว่า หรูเจี่ย นักร้องสาวสวยที่กำลังร้องรำทำเพลงอยู่บนเวทีนั่นเอง และรัตติกาลนี้ก็เป็นอีกคืนที่บรรดาแขกเหรื่อแย่งชิงหรูเจี่ยมาบริการตนที่ด้านล่าง

“ฉันให้ 500 หยวน ถ้าสาวสวยบนเวทียอมมานั่งบริการฉันข้างล่าง” คุณชายตระกูลเฉินกล่าวขึ้นนำเป็นคนแรก หลังจากนี้ก็มีคุณชายอีกตระกูลกล่าวตามมาติด ๆ

“ฉันให้ 1,000 หยวน! แต่ถ้าหากมาบริการฉันเป็นการส่วนตัวสองต่อสอง ฉันทุ่มให้อีกไม่อั้น หมดกระเป๋าก็ยอม!” บุรุษมีอายุกระเป๋าหนักเอ่ยบอกกับเจินเยี่ยน้ำเสียงหนักแน่น หมายให้คู่แข่งคนอื่นถอยไป และหยุดคิดที่จะมาแย่งสาวงามที่สุดของโรงน้ำชาแห่งนี้ไปจากเขา

ส่วนเจินเยี่ยถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ที่ถูกแย่งตัว แต่ก็ยกยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ เพราะเงินอันมากมายนั่นก็จะตกถึงมือของเธอด้วยเช่นกัน นอกจากหรูเจี่ยจะเป็นสินค้าอันล้ำค่าของโรงน้ำชาแห่งนี้แล้ว เธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอีกด้วย ตั้งแต่ถูกนำตัวมาไว้ที่นี่ก็ยังไม่เคยรับแขกเลยสักคน ทำเพียงแค่แต่งตัวสวยขึ้นร้องเพลงบนเวทีเท่านั้น เพื่อให้แขกเหรื่อยลโฉมความงามของเธอไปก่อนจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเซี่ยงไฮ้ จึงสามารถเรียกค่าตัวได้มากกว่าใครในตอนนี้

เจินเยี่ยพยายามปฏิเสธ หวังเรียกเงินได้มากกว่านี้ในอนาคตอันใกล้ และอยากเก็บหรูเจี่ยไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญของโรงน้ำชาก่อนอีกด้วย เพราะแขกคนสำคัญคนนี้กระเป๋าหนักยิ่งกว่าหนัก “ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะคุณชายทั้งหลาย ตอนนี้น้องหรูเจี่ยยังไม่ถึงเวลารับแขก ถ้าน้องพร้อมเมื่อไรเดี๋ยวดิฉันจะแจ้งให้แขกผู้เกียรติทุกท่านทราบโดยทั่วกันอย่างแน่นอน”

“ไอหยา….ฉันมาที่นี่หลายครั้งแล้วนะ เธอยังไม่พร้อมอีกหรือไง” คุณชายกู้ที่กระเป๋าหนักตบหน้าขาของตัวเองด้วยความหงุดหงิด

“อย่าพึ่งเสียอารมณ์ไปเลยนะคะคุณชายกู้ ดื่มเหล้าหมักอย่างดีอีกสักจอกให้อารมณ์เย็น ๆ ก่อนนะคะ” เจินเยี่ยพูดพร้อมกับรินเหล้าหมักใส่จอกให้คุณชายกู้อย่างเอาใจ

อึก! ปึก! “อ่าส์….ถ้าหรูเจี่ยพร้อมเมื่อไรเธอต้องบอกฉันเป็นคนแรกเลยนะ”

“ได้เลยค่ะคุณชายกู้ แต่ว่าตอนนี้คุณชายกู้สามารถตบรางวัลให้น้องหรูเจี่ยก่อนได้ที่หน้าเวทีเลยนะคะ ให้เยอะ ๆ น้องจะได้จำหน้าอันหล่อเหลาของคุณชายกู้ได้เป็นคนแรก”

“ดี ๆ ความคิดดี” ปึก! “นี่คือค่าตอบแทนสำหรับความคิดดี ๆ ของเธอ แต่ถ้าวันไหนหรูเจี่ยพร้อมรับแขกเมื่อไร แล้วเธอสามารถให้ฉันเป็นแขกคนแรกของหรูเจี่ยได้ ฉันจะตอบแทนเธอหนักกว่านี้อย่างแน่นอน”

“ขอบพระคุณมากค่ะคุณชายกู้” เจินเยี่ยรับเงินหยวนมาหนึ่งปึกก่อนจะไหว้แนบอกคุณชายกู้อย่างรู้งานมาก

เมื่อหรูเจี่ยร้องเพลงจนจบ ได้รับเงินมากมาย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่งดงามทำให้ทุกคนที่ได้เห็นเคลิบเคลิ้มหลงใหลได้อย่างง่ายดาย แต่พอเธอลงจากเวที แล้วเดินกลับเข้าไปด้านหลังได้เธอก็หุบยิ้มในทันที ใบหน้าที่เคยเปื้อนความสุขแปรเปลี่ยนเป็นเฉยเมยไร้ความรู้สึก ราวกับว่าไม่เคยรู้สึกมีความสุขมาก่อน

ตรงหน้าของเธอมีอาหารมากมายที่เจินเยี่ยสั่งเด็กในโรงน้ำชาให้เตรียมและจัดวางไว้ให้หรูเจี่ยโดยเฉพาะ แต่เธอไม่ยอมแตะมันเลยสักนิด เพราะเธอรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตเป็นอย่างมาก กินอะไรไม่ลง

“ไม่ยอมกินอีกแล้วเหรอ” เจินเยี่ยเดินเข้ามาดูหรูเจี่ยหลังจากที่เธอลงมาจากเวทีแล้ว สิ่งที่เธอเห็นคือใบหน้าอันเย็นชา ไร้อารมณ์ใด ๆ ของอีกฝ่าย ทั้งยังมองเมินราวกับไม่เห็นเจินเยี่ยยืนอยู่ตรงนี้ เรียกอารมณ์หงุดหงิดจากเธอได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว “จะเป็นให้ได้เลยใช่ไหมราชินีแห่งหิมะเนี่ย!” เจินเยี่ยพูดขนาดนี้หรูเจี่ยก็ยังไม่มีท่าทีจะสนใจ ยังคงนิ่งเงียบรักษามาดเย่อหยิ่งเอาไว้อย่างนั้น

“ทำไมไม่ยอมกินอาหารที่ฉันให้คนเตรียมไว้ให้” เจินเยี่ยพยายามระงับโทสะของตัวเอง แล้วพูดจาดี ๆ กับอีกฝ่าย เพราะอย่างไรหรูเจี่ยก็เป็นตัวทำเงินให้กับโรงน้ำชาแห่งนี้ ถ้าหากว่าเธอบอบช้ำทั้งภายในและภายนอกร่างกาย คงจะไม่เป็นการดีแน่

“ฉันไม่หิวค่ะ” ถ้อยคำเย็นชาดุจน้ำแข็งเอื้อนเอ่ยออกมา ปกติหรูเจี่ยจะเป็นคนพูดจาน้อยคำและสงวนท่าทีอยู่แล้ว แต่เจินเยี่ยก็ยังอดรู้สึกเบื่อหน่ายไม่ได้ ส่ายศีรษะด้วยความเอือมระอาใจ พ่นลมหายใจออกมาเป็นทางยาวอย่างเซ็ง ๆ

“จะไม่หิวได้ยังไง เธอไม่ยอมกินอะไรมาหลายวันแล้ว นี่ฉันอุตส่าห์ไปสรรหาของดีทั่วเมืองมาประเคนให้เธอเลยนะ แต่ดูเธอสิ ไม่เหลียวแลมันเลยสักนิด อย่างน้อยกินสักคำสองคำก็ยังดี เธออย่าดื้อด้านให้มันมากนักได้ไหม!” เจินเยี่ยบ่นชุดใหญ่ ก่อนจะใช้ช้อนตักอาหารมาหนึ่งอย่างแล้วพยายามจะยัดใส่ปากของหรูเจี่ย แต่เธอก็ขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์ ความหงุดหงิดที่ถูกขัดขืนยิ่งทำให้เจินเยี่ยหนักมืออย่างลืมตัว บีบคางให้หรูเจี่ยยอมอ้าปาก สุดท้ายก็ยัดอาหารเข้าไปในปากได้ แต่หรูเจี่ยกลับสำลักมันออกมาจนหมด “อัก ๆ อัก ๆ”

ท่าทางหายใจติดขัดและไอไม่หยุดของหรูเจี่ย ทำให้เจินเยี่ยได้สติว่าตัวเองเผลอทำเกินกว่าเหตุไป จึงรีบวิ่งไปบอกให้เด็กตามหมอมาดูอาการของหรูเจี่ยโดยเร็วที่สุด

….ตอนนี้หมอได้มาดูอาการของหรูเจี่ยที่ห้องพักส่วนตัวชั้นบนของโรงน้ำชาเรียบร้อยแล้ว และหมอก็กำลังตรวจอาการของเธออยู่ หรูเจี่ยไม่ได้แค่สำลักอาหารเท่านั้น แต่เธอมีอาการอิดโรยเพราะขาดสารอาหารจากการอดอาหารมาหลายวันอีกด้วย ทำให้เจินเยี่ยรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก เพราะอีกไม่กี่วัน แขกคนสำคัญก็จะมาชมการแสดงของหรูเจี่ยแล้วด้วย “อาการของหรูเจี่ยเป็นอย่างไรบ้างหมอ”

“อาการค่อนข้างน่าเป็นห่วงนะเนี่ย”

“น่าเป็นห่วง? หรูเจี่ยเป็นอะไรกันแน่”

“อาการลำสักอาหารนั้นไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ไม่น่าเป็นห่วง แต่ไอ้ที่น่าเป็นห่วงก็คือโรคใจ จากที่ได้ตรวจอาการ เหมือนมีไอร้อนในลมหายใจแสดงว่ามีไฟในตับ พอจับชีพจรดูก็พบว่าชีพจรมีจังหวะเต้นถี่ แต่กลับขึ้นลง ๆ หมายความว่าจิตใจไม่สงบ เครียดมาก เป็นทุกข์มาก เหมือนนังหนูนี่ไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว”

“ว่าไงนะ?! โรคใจ….ไม่อยากมีชีวิตอยู่อย่างนั้นเหรอ แล้วแบบนี้จะทำอย่างไร มีวิธีรักษาหรือไม่” เจินเยี่ยเมื่อได้ฟังก็มีท่าทีลนลาน น้ำเสียงตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ

“ลองให้นังหนูได้พักผ่อนดูก่อน แล้วหมอจะเจียดยาผงที่มีส่วนผสมของลูกพลับแห้งให้ไว้ต้มผสมกับน้ำผึ้งดื่มร้อน ๆ รสชาติเปรี้ยวหวานจะช่วยระบายความร้อนในร่างกายได้ดี แต่ที่สำคัญที่สุดคือต้องพยายามให้นังหนูนี่กินอาหารเยอะ ๆ อย่าปล่อยให้อดอาหารหลายวันจนขาดสายอาหารแบบนี้อีก”

ประโยคสุดท้ายที่หมอพูด เจินเยี่ยฟังพร้อมกับชำเลืองมองหรูเจี่ยอย่างเคือง ๆ เพราะเธอดื้อไม่ยอมกินอาหารเลยเป็นแบบนี้ “ค่ะหมอ เดี๋ยวฉันไปส่ง” เจินเยี่ยรับคำก่อนทั้งสองจะแลกเปลี่ยนกันก่อนจาก โดยเจินเยี่ยหยิบเงินในกระเป๋าส่งให้หมอ เมื่อหมอได้รับเงินแล้วก็ส่งห่อกระดาษที่มีผงยาอยู่ข้างในส่งให้เจินเยี่ย

หลังจากที่หมอกับเจินเยี่ยออกไปจากห้องแล้ว หรูเจี่ยก็ลุกขึ้นเพื่อเดินไปล็อคกลอนประตูห้อง ก่อนจะเดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งไว้ติดกับหน้าต่่าง แล้วทอดมองออกไปข้างนอก ข้างในใจของหรูเจี่ยในตอนนี้มีเพียงอารมณ์เบื่อหน่ายกับชีวิตของตัวเองที่กำลังเผชิญกับสิ่งเลวร้ายอยู่ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาที่เธอต้องรับแขกแล้ว

แต่ระหว่างที่หรูเจี่ยกำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ก็ได้กลิ่นอาหารหอม ๆ จากโรงเตี๊ยมขายซาลาเปาฝั่งตรงข้ามลอยมาแตะจมูก โครก! โครก! เสียงท้องของเธอก็ร้องดังขึ้นมาในทันที หรูเจี่ยจึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูเรียกเด็กในโรงน้ำชาขึ้นมาหาแล้วสั่งให้ไปซื้อซาลาเปาที่หอมมาถึงตรงนี้ให้หน่อย

‘ใครจะคิดว่าซาลาเปาไส้หมูธรรมดา จะทำให้ฉันอยากกินอาหารขึ้นมาได้’ หรูเจี่ยนึกในใจ ก้มมองตัวเองอย่างสมเพชในโชคชะตาอยู่ไม่น้อย คงจะจริงกับคำพูดที่เคยได้ยินมาว่าคนที่มีลมหายใจเท่านั้นที่จะยังมีความหวังได้ ถ้าเรายังรู้สึกหิว ก็แปลว่าเรายังมีลมหายใจ

เด็กในร้านเมื่อได้รับคำสั่งจากหรูเจี่ยก็รีบวิ่งไปทันที แต่ระหว่างทางได้เจอกับเจินเยี่ยจึงต้องหยุดวิ่งก่อน “กำลังจะไปไหน”

“พี่หรูเจี่ยบอกให้ไปซื้อซาลาเปาที่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามมาให้ครับ”

“ว่าไงนะ!”

“พี่หรูเจี่ยบอกให้ไปซื้อซาลาเปาที่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามมาให้ครับ” เด็กน้อยไร้เดียงสาพูดย้ำประโยคเดิม

“นี่เธอยอมกินอะไรแล้วเหรอ หรือว่าจะกลัวตายขึ้นมา หึ! รู้จักกลัวบ้างก็ดี จะได้รักษาชีวิตของตัวเองไว้ เอาล่ะ….รีบ ๆ ไปซื้อเข้า เดี๋ยวพี่หรูเจี่ยของแกจะเปลี่ยนใจเอาได้ มีเท่าไรก็เหมามาให้หมดเลยนะ เอาเงินนี่ไป” เจินเยี่ยพูดก่อนจะหยิบเงินหยวนแบงค์ใหญ่ส่งให้เด็ก

“ได้ครับเหลาป่าว” เด็กชายก้มหน้ารับคำสั่ง เมื่อได้เงินแล้วก็รีบวิ่งไปโรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามในทันที

เพียงไม่นานซาลาเปาไส้หมูร้อน ๆ จากโรงเตี๊ยมตรงข้ามโรงน้ำชาก็ได้มาเรียบร้อย เด็กชายรีบวิ่งขึ้นเอาไปให้หรูเจี่ยชั้นบน เมื่อหรูเจี่ยได้รับก็รู้สึกดีใจมาก สูดดมกลิ่นหอม ๆ จากซาลาเปาอยู่อย่างนั้น แต่พอกินเข้าจริงก็กินได้แค่ไม่กี่คำก็กินไม่ลง

เจินเยี่ยที่เข้ามาดูทีหลังเห็นว่าหรูเจี่ยกินซาลาเปาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น และตอนนี้หรูเจี่ยก็กำลังนอนหันหลังให้กับเธออยู่ เจินเยี่ยเลยไม่อยากรบกวน แต่ความกังวลยังมีอยู่มากล้น และคิดหาวิธีที่จะทำให้หรูเจี่ยยอมกินอะไรให้ได้ และวิธีเดียวที่คิดออกในตอนนี้ก็คือ….การไปขอร้องให้เถ้าแก่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามทำอาหารให้หรูเจี่ยกินทุกวัน เพราะอย่างน้อยซาลาเปาของเถ้าแก่นั่นก็ทำให้หรูเจี่ยอยากอาหารขึ้นมาได้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

Frannie Bettuzzi
5.0

คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."

ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด

ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด

ซีไซต์
5.0

ความสุขในฐานะคุณหนูอันดับหนึ่งของหนานอิงต้องพังลงทันใด เมื่อนางถูกโจรชั่วจับตัวมาและยังกระทำย่ำยี กระทั่งมารดาของนางยังถูกคร่าชีวิต สาวใช้ข้างกายถูกตัดลิ้นจนเสียสติกลายเป็นคนบ้าใบ้ ทั้งหมดด้วยความริษยาของฮูหยินใหญ่ผู้นั้น หนานอิงได้พบกับหานเซียวและลู่หนิงหวังสองอ๋องพี่น้องที่คอยช่วยเหลือนาง อ๋องผู้ป่าเถื่อนโหดร้ายและแสนเย็นชา แม้จะให้การช่วยเหลือแต่นางก็กลายเป็นนางบำเรอของพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าสองอ๋องจะโหดร้ายแต่นางจำต้องอดทน สุดท้ายนางกลายเป็นมือสังหารที่วางชีวิตไว้กับพวกเขาเพื่อแลกกับการแก้แค้น นางถูกฝึกอย่างหนักจนเก่งกาจยิ่ง หนานอิงจะทำเช่นใดเมื่อได้รู้ว่า คนที่ย่ำยีนางและเป็นศัตรูที่นางต้องการสังหารคือ สองอ๋องทั้งสองที่เป็นผู้กระทำย่ำยีนางจนปางตาย ฆ่า หรือ ไม่ฆ่า ล้วนเป็นนางที่ต้องเลือก! หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นความรักแบบ 3P โปรดดาวน์โหลดตัวอย่างก่อนอ่านค่ะ ภาคต่อของนิยายเรื่องนี้คือเรื่อง Trigger warning: 3P

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ซีไซต์
5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ