ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
565
ชม
20
บท

หรูเจี่ยเป็นเพียงนักร้องกลางคืนในยุค 70 ช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มเข้ามายึดครองเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างที่เธอต้องพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดจากการขายให้นายพลญี่ปุ่น หรูเจี่ยก็หันไปมองตรงข้ามห้องชั้นสอง ได้กลิ่นซาลาเปาร้อนๆ หอมลอยแตะจมูก พลันเธอก็คิดได้ว่าต้องทำยังไง จึงจำต้องทำเป็นป่วยไม่ยอมกินอะไร เพื่อที่จะให้เถ้าแก่ร้านอ้วนพีที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามมาส่งอาหารให้เธอ แต่เพราะแผนการเลยทำให้เธอกินได้เพียงสองคำ ทั้งที่ท้องของเธอเรียกร้องอาหารอร่อยนั้นแทบขาดใจ เธอจะสามารถหนีพ้นชะตากรรมนี้ได้ไหม แล้วบุรุษอ้วนพีจะช่วยเธอได้หรือเปล่ามาลุ้นกัน

บทที่ 1 นักร้องกลางคืน

บรรยากาศยามค่ำคืน ครึกครื้นยามราตรี เหล่าบรรดานักท่องราตรีทั้งหลายต่างกำลังรื่นเริงบันเทิงใจอยู่ในสถานเริงรมย์แห่งหนึ่งใจกลางเมืองช่างไห่หรือที่คนต่่างชาติมักจะเรียกว่านครเซี่ยงไฮ้ สถานเริงรมย์แห่งนี้ชาวจีนมักนิยมเรียกว่าโรงน้ำชา โรงน้ำชาเปรียบเป็นดั่งวิมานของชาวมังกร หรือจะเปรียบเป็นสวรรค์ของคนรักในการดื่มด่ำเสียงดนตรีและการเต้นรำก็ว่าได้

ยามวิกาลนี้ข้างบนเวทีมีหญิงสาวใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือ คิ้ววาดคล้ายจันทร์ครึ่งเสี้ยว ดวงตาหงส์ เนินแก้มอ่อนช้อย นับเป็นโฉมสะคราญหยาดฟ้ามาสู่ดินผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งเธอกำลังร้องเพลงและโยกร่างกายเบา ๆ ไปตามเสียงลำนำดนตรีของจีนสมัยนิยมในยุคนี้ นอกจากใบหน้าของเธอจะงดงามชดช้อยแล้วน้ำเสียงของเธอยังไพเราะเพราะพริ้งยากที่จะหาผู้ใดมาเปรียบอีกด้วย ทำให้เธอมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วเซี่ยงไฮ้ ต่างเป็นที่หมายปองของชายในเมืองนี้

โรงน้ำชาแห่งนี้มีสาวใหญ่นามว่า เจินเยี่ย รับหน้าที่เป็นผู้จัดการ โดยคนทั่วไปมักจะเรียกเธอว่าเหลาป่าว คอยบริการแขกเหรื่ออยู่ด้านล่างเวที ด้วยนิสัยที่ปากจัดปากร้ายจึงทำให้ควบคุมดูแลที่นี่ได้ทุกอย่าง และยังคอยจัดเด็กสาว ๆ ต้อนรับแขกในแต่ละวันอีกด้วย

ซึ่งในตอนนี้โรงน้ำชาแห่งนี้มีสินค้าอันล้ำค่าอยู่หนึ่งชิ้น ที่บรรดาคุณชายกระเป๋าตุงพยายามจะซื้อตัวอยู่ทุกค่ำคืน บางคนถึงขั้นขอซื้อตัวเอาไปเลี้ยงดูด้วยเงินหลักหมื่นหลักแสนหยวนก็มีมาแล้ว และบุปผางามนางนี้นั้นก็มีนามว่า หรูเจี่ย นักร้องสาวสวยที่กำลังร้องรำทำเพลงอยู่บนเวทีนั่นเอง และรัตติกาลนี้ก็เป็นอีกคืนที่บรรดาแขกเหรื่อแย่งชิงหรูเจี่ยมาบริการตนที่ด้านล่าง

“ฉันให้ 500 หยวน ถ้าสาวสวยบนเวทียอมมานั่งบริการฉันข้างล่าง” คุณชายตระกูลเฉินกล่าวขึ้นนำเป็นคนแรก หลังจากนี้ก็มีคุณชายอีกตระกูลกล่าวตามมาติด ๆ

“ฉันให้ 1,000 หยวน! แต่ถ้าหากมาบริการฉันเป็นการส่วนตัวสองต่อสอง ฉันทุ่มให้อีกไม่อั้น หมดกระเป๋าก็ยอม!” บุรุษมีอายุกระเป๋าหนักเอ่ยบอกกับเจินเยี่ยน้ำเสียงหนักแน่น หมายให้คู่แข่งคนอื่นถอยไป และหยุดคิดที่จะมาแย่งสาวงามที่สุดของโรงน้ำชาแห่งนี้ไปจากเขา

ส่วนเจินเยี่ยถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ที่ถูกแย่งตัว แต่ก็ยกยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ เพราะเงินอันมากมายนั่นก็จะตกถึงมือของเธอด้วยเช่นกัน นอกจากหรูเจี่ยจะเป็นสินค้าอันล้ำค่าของโรงน้ำชาแห่งนี้แล้ว เธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอีกด้วย ตั้งแต่ถูกนำตัวมาไว้ที่นี่ก็ยังไม่เคยรับแขกเลยสักคน ทำเพียงแค่แต่งตัวสวยขึ้นร้องเพลงบนเวทีเท่านั้น เพื่อให้แขกเหรื่อยลโฉมความงามของเธอไปก่อนจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเซี่ยงไฮ้ จึงสามารถเรียกค่าตัวได้มากกว่าใครในตอนนี้

เจินเยี่ยพยายามปฏิเสธ หวังเรียกเงินได้มากกว่านี้ในอนาคตอันใกล้ และอยากเก็บหรูเจี่ยไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญของโรงน้ำชาก่อนอีกด้วย เพราะแขกคนสำคัญคนนี้กระเป๋าหนักยิ่งกว่าหนัก “ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะคุณชายทั้งหลาย ตอนนี้น้องหรูเจี่ยยังไม่ถึงเวลารับแขก ถ้าน้องพร้อมเมื่อไรเดี๋ยวดิฉันจะแจ้งให้แขกผู้เกียรติทุกท่านทราบโดยทั่วกันอย่างแน่นอน”

“ไอหยา….ฉันมาที่นี่หลายครั้งแล้วนะ เธอยังไม่พร้อมอีกหรือไง” คุณชายกู้ที่กระเป๋าหนักตบหน้าขาของตัวเองด้วยความหงุดหงิด

“อย่าพึ่งเสียอารมณ์ไปเลยนะคะคุณชายกู้ ดื่มเหล้าหมักอย่างดีอีกสักจอกให้อารมณ์เย็น ๆ ก่อนนะคะ” เจินเยี่ยพูดพร้อมกับรินเหล้าหมักใส่จอกให้คุณชายกู้อย่างเอาใจ

อึก! ปึก! “อ่าส์….ถ้าหรูเจี่ยพร้อมเมื่อไรเธอต้องบอกฉันเป็นคนแรกเลยนะ”

“ได้เลยค่ะคุณชายกู้ แต่ว่าตอนนี้คุณชายกู้สามารถตบรางวัลให้น้องหรูเจี่ยก่อนได้ที่หน้าเวทีเลยนะคะ ให้เยอะ ๆ น้องจะได้จำหน้าอันหล่อเหลาของคุณชายกู้ได้เป็นคนแรก”

“ดี ๆ ความคิดดี” ปึก! “นี่คือค่าตอบแทนสำหรับความคิดดี ๆ ของเธอ แต่ถ้าวันไหนหรูเจี่ยพร้อมรับแขกเมื่อไร แล้วเธอสามารถให้ฉันเป็นแขกคนแรกของหรูเจี่ยได้ ฉันจะตอบแทนเธอหนักกว่านี้อย่างแน่นอน”

“ขอบพระคุณมากค่ะคุณชายกู้” เจินเยี่ยรับเงินหยวนมาหนึ่งปึกก่อนจะไหว้แนบอกคุณชายกู้อย่างรู้งานมาก

เมื่อหรูเจี่ยร้องเพลงจนจบ ได้รับเงินมากมาย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่งดงามทำให้ทุกคนที่ได้เห็นเคลิบเคลิ้มหลงใหลได้อย่างง่ายดาย แต่พอเธอลงจากเวที แล้วเดินกลับเข้าไปด้านหลังได้เธอก็หุบยิ้มในทันที ใบหน้าที่เคยเปื้อนความสุขแปรเปลี่ยนเป็นเฉยเมยไร้ความรู้สึก ราวกับว่าไม่เคยรู้สึกมีความสุขมาก่อน

ตรงหน้าของเธอมีอาหารมากมายที่เจินเยี่ยสั่งเด็กในโรงน้ำชาให้เตรียมและจัดวางไว้ให้หรูเจี่ยโดยเฉพาะ แต่เธอไม่ยอมแตะมันเลยสักนิด เพราะเธอรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตเป็นอย่างมาก กินอะไรไม่ลง

“ไม่ยอมกินอีกแล้วเหรอ” เจินเยี่ยเดินเข้ามาดูหรูเจี่ยหลังจากที่เธอลงมาจากเวทีแล้ว สิ่งที่เธอเห็นคือใบหน้าอันเย็นชา ไร้อารมณ์ใด ๆ ของอีกฝ่าย ทั้งยังมองเมินราวกับไม่เห็นเจินเยี่ยยืนอยู่ตรงนี้ เรียกอารมณ์หงุดหงิดจากเธอได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว “จะเป็นให้ได้เลยใช่ไหมราชินีแห่งหิมะเนี่ย!” เจินเยี่ยพูดขนาดนี้หรูเจี่ยก็ยังไม่มีท่าทีจะสนใจ ยังคงนิ่งเงียบรักษามาดเย่อหยิ่งเอาไว้อย่างนั้น

“ทำไมไม่ยอมกินอาหารที่ฉันให้คนเตรียมไว้ให้” เจินเยี่ยพยายามระงับโทสะของตัวเอง แล้วพูดจาดี ๆ กับอีกฝ่าย เพราะอย่างไรหรูเจี่ยก็เป็นตัวทำเงินให้กับโรงน้ำชาแห่งนี้ ถ้าหากว่าเธอบอบช้ำทั้งภายในและภายนอกร่างกาย คงจะไม่เป็นการดีแน่

“ฉันไม่หิวค่ะ” ถ้อยคำเย็นชาดุจน้ำแข็งเอื้อนเอ่ยออกมา ปกติหรูเจี่ยจะเป็นคนพูดจาน้อยคำและสงวนท่าทีอยู่แล้ว แต่เจินเยี่ยก็ยังอดรู้สึกเบื่อหน่ายไม่ได้ ส่ายศีรษะด้วยความเอือมระอาใจ พ่นลมหายใจออกมาเป็นทางยาวอย่างเซ็ง ๆ

“จะไม่หิวได้ยังไง เธอไม่ยอมกินอะไรมาหลายวันแล้ว นี่ฉันอุตส่าห์ไปสรรหาของดีทั่วเมืองมาประเคนให้เธอเลยนะ แต่ดูเธอสิ ไม่เหลียวแลมันเลยสักนิด อย่างน้อยกินสักคำสองคำก็ยังดี เธออย่าดื้อด้านให้มันมากนักได้ไหม!” เจินเยี่ยบ่นชุดใหญ่ ก่อนจะใช้ช้อนตักอาหารมาหนึ่งอย่างแล้วพยายามจะยัดใส่ปากของหรูเจี่ย แต่เธอก็ขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์ ความหงุดหงิดที่ถูกขัดขืนยิ่งทำให้เจินเยี่ยหนักมืออย่างลืมตัว บีบคางให้หรูเจี่ยยอมอ้าปาก สุดท้ายก็ยัดอาหารเข้าไปในปากได้ แต่หรูเจี่ยกลับสำลักมันออกมาจนหมด “อัก ๆ อัก ๆ”

ท่าทางหายใจติดขัดและไอไม่หยุดของหรูเจี่ย ทำให้เจินเยี่ยได้สติว่าตัวเองเผลอทำเกินกว่าเหตุไป จึงรีบวิ่งไปบอกให้เด็กตามหมอมาดูอาการของหรูเจี่ยโดยเร็วที่สุด

….ตอนนี้หมอได้มาดูอาการของหรูเจี่ยที่ห้องพักส่วนตัวชั้นบนของโรงน้ำชาเรียบร้อยแล้ว และหมอก็กำลังตรวจอาการของเธออยู่ หรูเจี่ยไม่ได้แค่สำลักอาหารเท่านั้น แต่เธอมีอาการอิดโรยเพราะขาดสารอาหารจากการอดอาหารมาหลายวันอีกด้วย ทำให้เจินเยี่ยรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก เพราะอีกไม่กี่วัน แขกคนสำคัญก็จะมาชมการแสดงของหรูเจี่ยแล้วด้วย “อาการของหรูเจี่ยเป็นอย่างไรบ้างหมอ”

“อาการค่อนข้างน่าเป็นห่วงนะเนี่ย”

“น่าเป็นห่วง? หรูเจี่ยเป็นอะไรกันแน่”

“อาการลำสักอาหารนั้นไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ไม่น่าเป็นห่วง แต่ไอ้ที่น่าเป็นห่วงก็คือโรคใจ จากที่ได้ตรวจอาการ เหมือนมีไอร้อนในลมหายใจแสดงว่ามีไฟในตับ พอจับชีพจรดูก็พบว่าชีพจรมีจังหวะเต้นถี่ แต่กลับขึ้นลง ๆ หมายความว่าจิตใจไม่สงบ เครียดมาก เป็นทุกข์มาก เหมือนนังหนูนี่ไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว”

“ว่าไงนะ?! โรคใจ….ไม่อยากมีชีวิตอยู่อย่างนั้นเหรอ แล้วแบบนี้จะทำอย่างไร มีวิธีรักษาหรือไม่” เจินเยี่ยเมื่อได้ฟังก็มีท่าทีลนลาน น้ำเสียงตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ

“ลองให้นังหนูได้พักผ่อนดูก่อน แล้วหมอจะเจียดยาผงที่มีส่วนผสมของลูกพลับแห้งให้ไว้ต้มผสมกับน้ำผึ้งดื่มร้อน ๆ รสชาติเปรี้ยวหวานจะช่วยระบายความร้อนในร่างกายได้ดี แต่ที่สำคัญที่สุดคือต้องพยายามให้นังหนูนี่กินอาหารเยอะ ๆ อย่าปล่อยให้อดอาหารหลายวันจนขาดสายอาหารแบบนี้อีก”

ประโยคสุดท้ายที่หมอพูด เจินเยี่ยฟังพร้อมกับชำเลืองมองหรูเจี่ยอย่างเคือง ๆ เพราะเธอดื้อไม่ยอมกินอาหารเลยเป็นแบบนี้ “ค่ะหมอ เดี๋ยวฉันไปส่ง” เจินเยี่ยรับคำก่อนทั้งสองจะแลกเปลี่ยนกันก่อนจาก โดยเจินเยี่ยหยิบเงินในกระเป๋าส่งให้หมอ เมื่อหมอได้รับเงินแล้วก็ส่งห่อกระดาษที่มีผงยาอยู่ข้างในส่งให้เจินเยี่ย

หลังจากที่หมอกับเจินเยี่ยออกไปจากห้องแล้ว หรูเจี่ยก็ลุกขึ้นเพื่อเดินไปล็อคกลอนประตูห้อง ก่อนจะเดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งไว้ติดกับหน้าต่่าง แล้วทอดมองออกไปข้างนอก ข้างในใจของหรูเจี่ยในตอนนี้มีเพียงอารมณ์เบื่อหน่ายกับชีวิตของตัวเองที่กำลังเผชิญกับสิ่งเลวร้ายอยู่ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาที่เธอต้องรับแขกแล้ว

แต่ระหว่างที่หรูเจี่ยกำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ก็ได้กลิ่นอาหารหอม ๆ จากโรงเตี๊ยมขายซาลาเปาฝั่งตรงข้ามลอยมาแตะจมูก โครก! โครก! เสียงท้องของเธอก็ร้องดังขึ้นมาในทันที หรูเจี่ยจึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูเรียกเด็กในโรงน้ำชาขึ้นมาหาแล้วสั่งให้ไปซื้อซาลาเปาที่หอมมาถึงตรงนี้ให้หน่อย

‘ใครจะคิดว่าซาลาเปาไส้หมูธรรมดา จะทำให้ฉันอยากกินอาหารขึ้นมาได้’ หรูเจี่ยนึกในใจ ก้มมองตัวเองอย่างสมเพชในโชคชะตาอยู่ไม่น้อย คงจะจริงกับคำพูดที่เคยได้ยินมาว่าคนที่มีลมหายใจเท่านั้นที่จะยังมีความหวังได้ ถ้าเรายังรู้สึกหิว ก็แปลว่าเรายังมีลมหายใจ

เด็กในร้านเมื่อได้รับคำสั่งจากหรูเจี่ยก็รีบวิ่งไปทันที แต่ระหว่างทางได้เจอกับเจินเยี่ยจึงต้องหยุดวิ่งก่อน “กำลังจะไปไหน”

“พี่หรูเจี่ยบอกให้ไปซื้อซาลาเปาที่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามมาให้ครับ”

“ว่าไงนะ!”

“พี่หรูเจี่ยบอกให้ไปซื้อซาลาเปาที่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามมาให้ครับ” เด็กน้อยไร้เดียงสาพูดย้ำประโยคเดิม

“นี่เธอยอมกินอะไรแล้วเหรอ หรือว่าจะกลัวตายขึ้นมา หึ! รู้จักกลัวบ้างก็ดี จะได้รักษาชีวิตของตัวเองไว้ เอาล่ะ….รีบ ๆ ไปซื้อเข้า เดี๋ยวพี่หรูเจี่ยของแกจะเปลี่ยนใจเอาได้ มีเท่าไรก็เหมามาให้หมดเลยนะ เอาเงินนี่ไป” เจินเยี่ยพูดก่อนจะหยิบเงินหยวนแบงค์ใหญ่ส่งให้เด็ก

“ได้ครับเหลาป่าว” เด็กชายก้มหน้ารับคำสั่ง เมื่อได้เงินแล้วก็รีบวิ่งไปโรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามในทันที

เพียงไม่นานซาลาเปาไส้หมูร้อน ๆ จากโรงเตี๊ยมตรงข้ามโรงน้ำชาก็ได้มาเรียบร้อย เด็กชายรีบวิ่งขึ้นเอาไปให้หรูเจี่ยชั้นบน เมื่อหรูเจี่ยได้รับก็รู้สึกดีใจมาก สูดดมกลิ่นหอม ๆ จากซาลาเปาอยู่อย่างนั้น แต่พอกินเข้าจริงก็กินได้แค่ไม่กี่คำก็กินไม่ลง

เจินเยี่ยที่เข้ามาดูทีหลังเห็นว่าหรูเจี่ยกินซาลาเปาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น และตอนนี้หรูเจี่ยก็กำลังนอนหันหลังให้กับเธออยู่ เจินเยี่ยเลยไม่อยากรบกวน แต่ความกังวลยังมีอยู่มากล้น และคิดหาวิธีที่จะทำให้หรูเจี่ยยอมกินอะไรให้ได้ และวิธีเดียวที่คิดออกในตอนนี้ก็คือ….การไปขอร้องให้เถ้าแก่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามทำอาหารให้หรูเจี่ยกินทุกวัน เพราะอย่างน้อยซาลาเปาของเถ้าแก่นั่นก็ทำให้หรูเจี่ยอยากอาหารขึ้นมาได้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม
บทรักมาเฟียร้าย

บทรักมาเฟียร้าย

โรแมนติก

5.0

“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

อย่ายุ่งกับมันอีก! หัวใจของนายกูกำลังจะหันกลับมาหาคุณ

อย่ายุ่งกับมันอีก! หัวใจของนายกูกำลังจะหันกลับมาหาคุณ

Scarlett
5.0

หลังจากแต่งงานกับกู้หลางเอี้ยน โจวซีได้ทำหน้าที่เป็นภรรยาของกู้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แม้ว่าเขาจะมีคนที่รักอยู่แล้วและปฏิบัติต่อเธออย่างเย็นชา เธอก็ยังยินดีรับความเจ็บปวดเหมือนเป็นความสุข เมื่อทุกคนเห็นพฤติกรรมของโจวซีที่คอยตามใจเหมือนเงา เมื่อรักแรกที่ลืมไม่ลงของกู้หลางเอี้ยนกลับมาจากต่างประเทศ ทุกคนในเมืองต่างรอคอยที่จะเห็นเธออับอาย แต่ไม่คาดคิดว่าโจวซีจะเด็ดขาดและเซ็นสัญญาหย่าโดยไม่หันกลับไปมองอีก กู้หลางเอี้ยนกลับมาขวางเธอด้วยท่าทางที่ดื้อรั้นและตาแดงก่ำ "โจวซี เธอหมายความว่ายังไง?" เธอชูแหวนแต่งงานใหม่ในมือขึ้น พร้อมยิ้มอย่างสดใส "ขอโทษนะ ฉันกำลังจะแต่งงานแล้ว ไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว" …… ทุกคนคิดว่าโจวซีรักกู้หลางเอี้ยนอย่างลึกซึ้ง ราวกับว่าเธอยอมผ่านความยากลำบากและอุปสรรคเพื่อเขา แต่ไม่มีใครรู้ว่า เธอมองผ่านกู้หลางเอี้ยนไปยังชีวิตของคนอีกคนหนึ่งในอนาคต

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

Viv Thauer
5.0

เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

Samuel Wren
5.0

เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ