Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
272
ชม
20
บท

หรูเจี่ยเป็นเพียงนักร้องกลางคืนในยุค 70 ช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มเข้ามายึดครองเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างที่เธอต้องพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดจากการขายให้นายพลญี่ปุ่น หรูเจี่ยก็หันไปมองตรงข้ามห้องชั้นสอง ได้กลิ่นซาลาเปาร้อนๆ หอมลอยแตะจมูก พลันเธอก็คิดได้ว่าต้องทำยังไง จึงจำต้องทำเป็นป่วยไม่ยอมกินอะไร เพื่อที่จะให้เถ้าแก่ร้านอ้วนพีที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามมาส่งอาหารให้เธอ แต่เพราะแผนการเลยทำให้เธอกินได้เพียงสองคำ ทั้งที่ท้องของเธอเรียกร้องอาหารอร่อยนั้นแทบขาดใจ เธอจะสามารถหนีพ้นชะตากรรมนี้ได้ไหม แล้วบุรุษอ้วนพีจะช่วยเธอได้หรือเปล่ามาลุ้นกัน

บทที่ 1 นักร้องกลางคืน

บรรยากาศยามค่ำคืน ครึกครื้นยามราตรี เหล่าบรรดานักท่องราตรีทั้งหลายต่างกำลังรื่นเริงบันเทิงใจอยู่ในสถานเริงรมย์แห่งหนึ่งใจกลางเมืองช่างไห่หรือที่คนต่่างชาติมักจะเรียกว่านครเซี่ยงไฮ้ สถานเริงรมย์แห่งนี้ชาวจีนมักนิยมเรียกว่าโรงน้ำชา โรงน้ำชาเปรียบเป็นดั่งวิมานของชาวมังกร หรือจะเปรียบเป็นสวรรค์ของคนรักในการดื่มด่ำเสียงดนตรีและการเต้นรำก็ว่าได้

ยามวิกาลนี้ข้างบนเวทีมีหญิงสาวใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือ คิ้ววาดคล้ายจันทร์ครึ่งเสี้ยว ดวงตาหงส์ เนินแก้มอ่อนช้อย นับเป็นโฉมสะคราญหยาดฟ้ามาสู่ดินผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งเธอกำลังร้องเพลงและโยกร่างกายเบา ๆ ไปตามเสียงลำนำดนตรีของจีนสมัยนิยมในยุคนี้ นอกจากใบหน้าของเธอจะงดงามชดช้อยแล้วน้ำเสียงของเธอยังไพเราะเพราะพริ้งยากที่จะหาผู้ใดมาเปรียบอีกด้วย ทำให้เธอมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วเซี่ยงไฮ้ ต่างเป็นที่หมายปองของชายในเมืองนี้

โรงน้ำชาแห่งนี้มีสาวใหญ่นามว่า เจินเยี่ย รับหน้าที่เป็นผู้จัดการ โดยคนทั่วไปมักจะเรียกเธอว่าเหลาป่าว คอยบริการแขกเหรื่ออยู่ด้านล่างเวที ด้วยนิสัยที่ปากจัดปากร้ายจึงทำให้ควบคุมดูแลที่นี่ได้ทุกอย่าง และยังคอยจัดเด็กสาว ๆ ต้อนรับแขกในแต่ละวันอีกด้วย

ซึ่งในตอนนี้โรงน้ำชาแห่งนี้มีสินค้าอันล้ำค่าอยู่หนึ่งชิ้น ที่บรรดาคุณชายกระเป๋าตุงพยายามจะซื้อตัวอยู่ทุกค่ำคืน บางคนถึงขั้นขอซื้อตัวเอาไปเลี้ยงดูด้วยเงินหลักหมื่นหลักแสนหยวนก็มีมาแล้ว และบุปผางามนางนี้นั้นก็มีนามว่า หรูเจี่ย นักร้องสาวสวยที่กำลังร้องรำทำเพลงอยู่บนเวทีนั่นเอง และรัตติกาลนี้ก็เป็นอีกคืนที่บรรดาแขกเหรื่อแย่งชิงหรูเจี่ยมาบริการตนที่ด้านล่าง

“ฉันให้ 500 หยวน ถ้าสาวสวยบนเวทียอมมานั่งบริการฉันข้างล่าง” คุณชายตระกูลเฉินกล่าวขึ้นนำเป็นคนแรก หลังจากนี้ก็มีคุณชายอีกตระกูลกล่าวตามมาติด ๆ

“ฉันให้ 1,000 หยวน! แต่ถ้าหากมาบริการฉันเป็นการส่วนตัวสองต่อสอง ฉันทุ่มให้อีกไม่อั้น หมดกระเป๋าก็ยอม!” บุรุษมีอายุกระเป๋าหนักเอ่ยบอกกับเจินเยี่ยน้ำเสียงหนักแน่น หมายให้คู่แข่งคนอื่นถอยไป และหยุดคิดที่จะมาแย่งสาวงามที่สุดของโรงน้ำชาแห่งนี้ไปจากเขา

ส่วนเจินเยี่ยถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ที่ถูกแย่งตัว แต่ก็ยกยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ เพราะเงินอันมากมายนั่นก็จะตกถึงมือของเธอด้วยเช่นกัน นอกจากหรูเจี่ยจะเป็นสินค้าอันล้ำค่าของโรงน้ำชาแห่งนี้แล้ว เธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอีกด้วย ตั้งแต่ถูกนำตัวมาไว้ที่นี่ก็ยังไม่เคยรับแขกเลยสักคน ทำเพียงแค่แต่งตัวสวยขึ้นร้องเพลงบนเวทีเท่านั้น เพื่อให้แขกเหรื่อยลโฉมความงามของเธอไปก่อนจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเซี่ยงไฮ้ จึงสามารถเรียกค่าตัวได้มากกว่าใครในตอนนี้

เจินเยี่ยพยายามปฏิเสธ หวังเรียกเงินได้มากกว่านี้ในอนาคตอันใกล้ และอยากเก็บหรูเจี่ยไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญของโรงน้ำชาก่อนอีกด้วย เพราะแขกคนสำคัญคนนี้กระเป๋าหนักยิ่งกว่าหนัก “ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะคุณชายทั้งหลาย ตอนนี้น้องหรูเจี่ยยังไม่ถึงเวลารับแขก ถ้าน้องพร้อมเมื่อไรเดี๋ยวดิฉันจะแจ้งให้แขกผู้เกียรติทุกท่านทราบโดยทั่วกันอย่างแน่นอน”

“ไอหยา….ฉันมาที่นี่หลายครั้งแล้วนะ เธอยังไม่พร้อมอีกหรือไง” คุณชายกู้ที่กระเป๋าหนักตบหน้าขาของตัวเองด้วยความหงุดหงิด

“อย่าพึ่งเสียอารมณ์ไปเลยนะคะคุณชายกู้ ดื่มเหล้าหมักอย่างดีอีกสักจอกให้อารมณ์เย็น ๆ ก่อนนะคะ” เจินเยี่ยพูดพร้อมกับรินเหล้าหมักใส่จอกให้คุณชายกู้อย่างเอาใจ

อึก! ปึก! “อ่าส์….ถ้าหรูเจี่ยพร้อมเมื่อไรเธอต้องบอกฉันเป็นคนแรกเลยนะ”

“ได้เลยค่ะคุณชายกู้ แต่ว่าตอนนี้คุณชายกู้สามารถตบรางวัลให้น้องหรูเจี่ยก่อนได้ที่หน้าเวทีเลยนะคะ ให้เยอะ ๆ น้องจะได้จำหน้าอันหล่อเหลาของคุณชายกู้ได้เป็นคนแรก”

“ดี ๆ ความคิดดี” ปึก! “นี่คือค่าตอบแทนสำหรับความคิดดี ๆ ของเธอ แต่ถ้าวันไหนหรูเจี่ยพร้อมรับแขกเมื่อไร แล้วเธอสามารถให้ฉันเป็นแขกคนแรกของหรูเจี่ยได้ ฉันจะตอบแทนเธอหนักกว่านี้อย่างแน่นอน”

“ขอบพระคุณมากค่ะคุณชายกู้” เจินเยี่ยรับเงินหยวนมาหนึ่งปึกก่อนจะไหว้แนบอกคุณชายกู้อย่างรู้งานมาก

เมื่อหรูเจี่ยร้องเพลงจนจบ ได้รับเงินมากมาย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่งดงามทำให้ทุกคนที่ได้เห็นเคลิบเคลิ้มหลงใหลได้อย่างง่ายดาย แต่พอเธอลงจากเวที แล้วเดินกลับเข้าไปด้านหลังได้เธอก็หุบยิ้มในทันที ใบหน้าที่เคยเปื้อนความสุขแปรเปลี่ยนเป็นเฉยเมยไร้ความรู้สึก ราวกับว่าไม่เคยรู้สึกมีความสุขมาก่อน

ตรงหน้าของเธอมีอาหารมากมายที่เจินเยี่ยสั่งเด็กในโรงน้ำชาให้เตรียมและจัดวางไว้ให้หรูเจี่ยโดยเฉพาะ แต่เธอไม่ยอมแตะมันเลยสักนิด เพราะเธอรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตเป็นอย่างมาก กินอะไรไม่ลง

“ไม่ยอมกินอีกแล้วเหรอ” เจินเยี่ยเดินเข้ามาดูหรูเจี่ยหลังจากที่เธอลงมาจากเวทีแล้ว สิ่งที่เธอเห็นคือใบหน้าอันเย็นชา ไร้อารมณ์ใด ๆ ของอีกฝ่าย ทั้งยังมองเมินราวกับไม่เห็นเจินเยี่ยยืนอยู่ตรงนี้ เรียกอารมณ์หงุดหงิดจากเธอได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว “จะเป็นให้ได้เลยใช่ไหมราชินีแห่งหิมะเนี่ย!” เจินเยี่ยพูดขนาดนี้หรูเจี่ยก็ยังไม่มีท่าทีจะสนใจ ยังคงนิ่งเงียบรักษามาดเย่อหยิ่งเอาไว้อย่างนั้น

“ทำไมไม่ยอมกินอาหารที่ฉันให้คนเตรียมไว้ให้” เจินเยี่ยพยายามระงับโทสะของตัวเอง แล้วพูดจาดี ๆ กับอีกฝ่าย เพราะอย่างไรหรูเจี่ยก็เป็นตัวทำเงินให้กับโรงน้ำชาแห่งนี้ ถ้าหากว่าเธอบอบช้ำทั้งภายในและภายนอกร่างกาย คงจะไม่เป็นการดีแน่

“ฉันไม่หิวค่ะ” ถ้อยคำเย็นชาดุจน้ำแข็งเอื้อนเอ่ยออกมา ปกติหรูเจี่ยจะเป็นคนพูดจาน้อยคำและสงวนท่าทีอยู่แล้ว แต่เจินเยี่ยก็ยังอดรู้สึกเบื่อหน่ายไม่ได้ ส่ายศีรษะด้วยความเอือมระอาใจ พ่นลมหายใจออกมาเป็นทางยาวอย่างเซ็ง ๆ

“จะไม่หิวได้ยังไง เธอไม่ยอมกินอะไรมาหลายวันแล้ว นี่ฉันอุตส่าห์ไปสรรหาของดีทั่วเมืองมาประเคนให้เธอเลยนะ แต่ดูเธอสิ ไม่เหลียวแลมันเลยสักนิด อย่างน้อยกินสักคำสองคำก็ยังดี เธออย่าดื้อด้านให้มันมากนักได้ไหม!” เจินเยี่ยบ่นชุดใหญ่ ก่อนจะใช้ช้อนตักอาหารมาหนึ่งอย่างแล้วพยายามจะยัดใส่ปากของหรูเจี่ย แต่เธอก็ขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์ ความหงุดหงิดที่ถูกขัดขืนยิ่งทำให้เจินเยี่ยหนักมืออย่างลืมตัว บีบคางให้หรูเจี่ยยอมอ้าปาก สุดท้ายก็ยัดอาหารเข้าไปในปากได้ แต่หรูเจี่ยกลับสำลักมันออกมาจนหมด “อัก ๆ อัก ๆ”

ท่าทางหายใจติดขัดและไอไม่หยุดของหรูเจี่ย ทำให้เจินเยี่ยได้สติว่าตัวเองเผลอทำเกินกว่าเหตุไป จึงรีบวิ่งไปบอกให้เด็กตามหมอมาดูอาการของหรูเจี่ยโดยเร็วที่สุด

….ตอนนี้หมอได้มาดูอาการของหรูเจี่ยที่ห้องพักส่วนตัวชั้นบนของโรงน้ำชาเรียบร้อยแล้ว และหมอก็กำลังตรวจอาการของเธออยู่ หรูเจี่ยไม่ได้แค่สำลักอาหารเท่านั้น แต่เธอมีอาการอิดโรยเพราะขาดสารอาหารจากการอดอาหารมาหลายวันอีกด้วย ทำให้เจินเยี่ยรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก เพราะอีกไม่กี่วัน แขกคนสำคัญก็จะมาชมการแสดงของหรูเจี่ยแล้วด้วย “อาการของหรูเจี่ยเป็นอย่างไรบ้างหมอ”

“อาการค่อนข้างน่าเป็นห่วงนะเนี่ย”

“น่าเป็นห่วง? หรูเจี่ยเป็นอะไรกันแน่”

“อาการลำสักอาหารนั้นไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ไม่น่าเป็นห่วง แต่ไอ้ที่น่าเป็นห่วงก็คือโรคใจ จากที่ได้ตรวจอาการ เหมือนมีไอร้อนในลมหายใจแสดงว่ามีไฟในตับ พอจับชีพจรดูก็พบว่าชีพจรมีจังหวะเต้นถี่ แต่กลับขึ้นลง ๆ หมายความว่าจิตใจไม่สงบ เครียดมาก เป็นทุกข์มาก เหมือนนังหนูนี่ไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว”

“ว่าไงนะ?! โรคใจ….ไม่อยากมีชีวิตอยู่อย่างนั้นเหรอ แล้วแบบนี้จะทำอย่างไร มีวิธีรักษาหรือไม่” เจินเยี่ยเมื่อได้ฟังก็มีท่าทีลนลาน น้ำเสียงตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ

“ลองให้นังหนูได้พักผ่อนดูก่อน แล้วหมอจะเจียดยาผงที่มีส่วนผสมของลูกพลับแห้งให้ไว้ต้มผสมกับน้ำผึ้งดื่มร้อน ๆ รสชาติเปรี้ยวหวานจะช่วยระบายความร้อนในร่างกายได้ดี แต่ที่สำคัญที่สุดคือต้องพยายามให้นังหนูนี่กินอาหารเยอะ ๆ อย่าปล่อยให้อดอาหารหลายวันจนขาดสายอาหารแบบนี้อีก”

ประโยคสุดท้ายที่หมอพูด เจินเยี่ยฟังพร้อมกับชำเลืองมองหรูเจี่ยอย่างเคือง ๆ เพราะเธอดื้อไม่ยอมกินอาหารเลยเป็นแบบนี้ “ค่ะหมอ เดี๋ยวฉันไปส่ง” เจินเยี่ยรับคำก่อนทั้งสองจะแลกเปลี่ยนกันก่อนจาก โดยเจินเยี่ยหยิบเงินในกระเป๋าส่งให้หมอ เมื่อหมอได้รับเงินแล้วก็ส่งห่อกระดาษที่มีผงยาอยู่ข้างในส่งให้เจินเยี่ย

หลังจากที่หมอกับเจินเยี่ยออกไปจากห้องแล้ว หรูเจี่ยก็ลุกขึ้นเพื่อเดินไปล็อคกลอนประตูห้อง ก่อนจะเดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งไว้ติดกับหน้าต่่าง แล้วทอดมองออกไปข้างนอก ข้างในใจของหรูเจี่ยในตอนนี้มีเพียงอารมณ์เบื่อหน่ายกับชีวิตของตัวเองที่กำลังเผชิญกับสิ่งเลวร้ายอยู่ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาที่เธอต้องรับแขกแล้ว

แต่ระหว่างที่หรูเจี่ยกำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ก็ได้กลิ่นอาหารหอม ๆ จากโรงเตี๊ยมขายซาลาเปาฝั่งตรงข้ามลอยมาแตะจมูก โครก! โครก! เสียงท้องของเธอก็ร้องดังขึ้นมาในทันที หรูเจี่ยจึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูเรียกเด็กในโรงน้ำชาขึ้นมาหาแล้วสั่งให้ไปซื้อซาลาเปาที่หอมมาถึงตรงนี้ให้หน่อย

‘ใครจะคิดว่าซาลาเปาไส้หมูธรรมดา จะทำให้ฉันอยากกินอาหารขึ้นมาได้’ หรูเจี่ยนึกในใจ ก้มมองตัวเองอย่างสมเพชในโชคชะตาอยู่ไม่น้อย คงจะจริงกับคำพูดที่เคยได้ยินมาว่าคนที่มีลมหายใจเท่านั้นที่จะยังมีความหวังได้ ถ้าเรายังรู้สึกหิว ก็แปลว่าเรายังมีลมหายใจ

เด็กในร้านเมื่อได้รับคำสั่งจากหรูเจี่ยก็รีบวิ่งไปทันที แต่ระหว่างทางได้เจอกับเจินเยี่ยจึงต้องหยุดวิ่งก่อน “กำลังจะไปไหน”

“พี่หรูเจี่ยบอกให้ไปซื้อซาลาเปาที่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามมาให้ครับ”

“ว่าไงนะ!”

“พี่หรูเจี่ยบอกให้ไปซื้อซาลาเปาที่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามมาให้ครับ” เด็กน้อยไร้เดียงสาพูดย้ำประโยคเดิม

“นี่เธอยอมกินอะไรแล้วเหรอ หรือว่าจะกลัวตายขึ้นมา หึ! รู้จักกลัวบ้างก็ดี จะได้รักษาชีวิตของตัวเองไว้ เอาล่ะ….รีบ ๆ ไปซื้อเข้า เดี๋ยวพี่หรูเจี่ยของแกจะเปลี่ยนใจเอาได้ มีเท่าไรก็เหมามาให้หมดเลยนะ เอาเงินนี่ไป” เจินเยี่ยพูดก่อนจะหยิบเงินหยวนแบงค์ใหญ่ส่งให้เด็ก

“ได้ครับเหลาป่าว” เด็กชายก้มหน้ารับคำสั่ง เมื่อได้เงินแล้วก็รีบวิ่งไปโรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามในทันที

เพียงไม่นานซาลาเปาไส้หมูร้อน ๆ จากโรงเตี๊ยมตรงข้ามโรงน้ำชาก็ได้มาเรียบร้อย เด็กชายรีบวิ่งขึ้นเอาไปให้หรูเจี่ยชั้นบน เมื่อหรูเจี่ยได้รับก็รู้สึกดีใจมาก สูดดมกลิ่นหอม ๆ จากซาลาเปาอยู่อย่างนั้น แต่พอกินเข้าจริงก็กินได้แค่ไม่กี่คำก็กินไม่ลง

เจินเยี่ยที่เข้ามาดูทีหลังเห็นว่าหรูเจี่ยกินซาลาเปาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น และตอนนี้หรูเจี่ยก็กำลังนอนหันหลังให้กับเธออยู่ เจินเยี่ยเลยไม่อยากรบกวน แต่ความกังวลยังมีอยู่มากล้น และคิดหาวิธีที่จะทำให้หรูเจี่ยยอมกินอะไรให้ได้ และวิธีเดียวที่คิดออกในตอนนี้ก็คือ….การไปขอร้องให้เถ้าแก่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามทำอาหารให้หรูเจี่ยกินทุกวัน เพราะอย่างน้อยซาลาเปาของเถ้าแก่นั่นก็ทำให้หรูเจี่ยอยากอาหารขึ้นมาได้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม
ย้อนเวลามาพร้อมกับมิติของอนาคต

ย้อนเวลามาพร้อมกับมิติของอนาคต

โรแมนติก

5.0

หนิงอวี่ นักวิทยาศาสตร์สาวคนเก่ง ที่ต้องการทดลองเกี่ยวกับการข้ามมิติจากปัจจุบันสู่อดีต ซึ่งเธอนั้นได้ทำการทดลองเรื่องนี้มาร่วมสองปีแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งมีของตกจากฟ้ากลายเป็นกำไลหยกสีเขียวประกาย เธอจึงเข้าไปทดลองข้ามมิติเป็นครั้งสุดท้าย หากไม่ได้ก็จะล้มเลิกการทดลองนี้ แต่ใครจะคิดว่ามันจะนำพาเธอไปยังห้วงมิติแห่งหนึ่ง ข้ามไปแล้วเธอยังสามารถเอาของที่อยู่ในห้องทดลองออกมาได้ งานนี้ทั้งขนมขบเคี้ยว ข้าวสาร ปลากระป๋องสำเร็จรูปก็ข้ามมิติทำให้เธอไม่อดตายอีกแล้ว *************************** "ถ้าคุณหนูยอมกินข้าวจนหมด บ่าวจะนำเอาลูกอม รสนมให้ด้วยเจ้าค่ะ" "ลูกอมรสนมคือสิ่งใด?" "ขนมอย่างหนึ่งที่ทำมาจากน้ำตาลกวนกับนม ทั้งอมและเคี้ยวได้ หนุบหนับ รสชาติหวานและมีกลิ่นหอม รสชาติเป็นเลิศอย่างมากเจ้าค่ะ" หนิงอวี่บรรยายจนลี่ซือน้ำลายสอในปาก ถึงแม้ว่าจะเอาแต่ใจแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นเด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบอยู่ดี ******************* นิยายสนุกอบอุ่นหัวใจ กับของวิเศษไม่จำกัดแบบฟิน...

หย่าทวงแค้น

หย่าทวงแค้น

โรแมนติก

5.0

ความเจ็บช้ำกว่าการ “หย่า” ยังมีอะไรอีก นอกจากถูกคนที่รักหลอกไป “ฆ่า” ให้ตายทั้งเป็น **************** โง่แล้วยังทำเหมือนเดิม เขาเรียกว่าโง่ไร้สติ โง่แล้วกลายเป็นความแค้น เขาถึงเรียกว่าฉลาด มาดูกันว่าการกลับมาของเธอในครั้งนี้ จะทำให้เขาจดจำเธอในรูปแบบไหน ภรรยาที่ดี หรือ ภรรยาที่ตอบแทนอย่างสาสม!! ************************* รมินตามองไปยังรูปภาพแต่งงานบนฝาผนัง ภาพที่มีรอยยิ้มและ แววตาความรักนั้น เหตุใดวันนี้ถึงได้เศร้านักก็ไม่เข้าใจ เธอนั่งรอเขาราวครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงรถที่ขับมาอย่างรวดเร็ว และเสียงเบรกกะทันหันทำให้เธอเดินไปที่หน้าต่างแล้วชะโงกมอง เมื่อเห็นว่าเป็นธาวินผู้เป็นสามีเธอก็รีบลงจากชั้นสอง “ทำไมขับรถเร็วขนาดนั้นคะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง” “นี่คุณแช่งผมให้ตายเหรอ” คิ้วรมินตาขมวด “ตาไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่ตาเป็นห่วงคุณต่างหาก” “คุณห่วงชีวิตคุณเองจะดีกว่า ว่าคืนนี้คุณจะนอนไหน” แววตาคนเป็นภรรยาไม่แน่ใจว่าได้ยินผิดหรือเปล่า จึงถามเขาย้ำอีกครั้ง “คุณว่าอะไรนะคะ ตาไม่เข้าใจ” “โธ่เว้ย ทำไมถึงโง่ขนาดนี้ ผมกำลังขอหย่ากับคุณยังไงเล่า” ไม่พูดเปล่า อีกฝ่ายยังยกนิ้วขึ้นชี้หน้าผากเธอ จนเธอที่ตั้งสติไม่ได้เซถอยหลังจนล้มลง “รีบเซ็นใบหย่าแล้วออกไปจากบ้านของฉัน” “คุณหมายความว่ายังไง” “ก็หมายความว่าบ้านหลังนี้ หุ้นที่บริษัท โรงแรม ล้วนเป็นของผมหมดแล้ว ดังนั้นคุณก็หมดความหมาย รีบไสหัวไปซะ ก่อนที่ผมจะแจ้งข้อหาบุกรุกกับคุณ” “คุณ คุณทำกับตาแบบนี้ได้ยังไงกัน”

เดือนแสนจันทร์

เดือนแสนจันทร์

โรแมนติก

5.0

แสนจันทร์เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกสองขวบเพียงลำพัง เป็นเพราะเศรษฐกิจกำลังพัง เธอจึงถูกไล่ออกจากงาน จึงคิดหมายหาอาชีพใหม่ที่เธอสามารถเลี้ยงลูกได้ สุดท้ายเธอก็พบว่า อาชีพนักเขียน เป็นอาชีพที่ดี เธอจึงตั้งใจเขียนนิยายเรื่องแรกด้วยความตั้งใจ หนทางหาเลี้ยงครอบครัวดูเหมือนจะได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อนิยายของเธอได้รับคำชมจากคนอ่านมากมาย แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ถูกนักเขียนรุ่นใหญ่กล่าวหาว่า ลอกเลียนแบบนิยายของเธอ มีคนมารุมด่าประจานเธอมากมาย หากแต่เธอเพียงพยายามถามถึงหลักฐาน แต่อีกฝ่ายก็เอาทนายมาขู่อย่างเดียวแต่ไม่ส่งอะไรมาให้เลย จนสุดท้ายแล้วเธอก็ต้องยอมรับผิดเพียงเพราะไม่มีเงิน ทั้งที่เธอไม่เคยอ่านนิยายของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ผิดที่ตัวเธอไม่มีแรงสู้ ผิดที่ตัวเธอไม่มีเงินพอที่จะปกป้องอาชีพที่เธอเริ่มรักมัน ผิดที่เธอทำให้คนข้างตัวต้องผิดหวัง สายตามองไปยังคานไม้บนบ้าน มองไปยังค่าบ้านที่ค้างมาสามเดือน จึงมองหาเชือกมาผูกไว้ข้างบนคิดหมายจะฆ่าตัวตาย สองเท้าก้าวขึ้นเก้าอี้ไม้กลม เหยียบขึ้นไปด้วยหัวใจที่แตกสลาย สองมือจับเชือกแล้วคิดจะฆ่าตัวตาย จังหวะที่เชือกกำลังรัดคอนั้น เสียงลูกสาวตัวน้อยก็ร้องดังขึ้นมา เธอที่กำลังจะตายเห็นแบบนั้น น้ำตาก็ร่วงหล่นลงแก้มอาบหน้า ใช้เท้าผละเก้าอี้ล้มเสียงดัง เสียงเด็กน้อยร้องไห้ดังจนคนด้านนอกได้ยิน จังหวะที่เธอคิดจะตายนั้น จู่ ๆ ก็มีผู้ชายใส่สูทคนหนึ่งถีบประตูเข้ามา จากนั้นก็ช่วยเธอหลุดพ้นจากความตาย.... และเขาก็คือแสงสว่างของเธอ ทนายหนุ่มข้างบ้านที่จะเข้ามาช่วยให้ สองคนแม่ลูกพบเจอแต่สิ่งที่สวยงาม

สืบแค้นบัลลังก์เลือด

สืบแค้นบัลลังก์เลือด

โรแมนติก

5.0

เพราะพี่สาวของนางต้องตายอย่างปริศนา ทำให้เหมยลู่อิงต้องเข้าวังเพื่อสืบหาความจริง แต่ภายใต้อันตรายนั้นกลับพบว่าในวังหลวงนั้นอันตรายไม่แพ้กัน มีคลื่นลมแห่งความแค้นพร้อมแย่งชิงบัลลังก์เลือดนั้น ไม่สนว่าต้องพรากวิญญาณผู้ใด นางจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ในเมื่อมังกรที่ยิ่งใหญ่ในวังหลวงนั้นไม่ได้หลอกง่ายอย่างที่คิด เหมือนเขาจะว่างงาน เพราะผ่านไปแค่สามวัน “...” เหมยลู่อิงมองข้าวของที่กองอยู่ตรงหน้า คนผู้นี้ต้องการอะไรกันแน่ จะแกล้งนางไม่เลิกเลยหรือไง ส่งของบรรณาการผ้าแพรสวยงามมาให้นาง แล้วจะให้นางใช้เล่ห์กลอะไรปฏิเสธได้อีก สรุปจะให้นางถูกรุมตายแน่ๆ สตรีทั้งหลายต่างมองตาเป็นมัน ความประหลาดของฝ่าบาทนี้ทุกคนเริ่มชิน ไม่เคยเรียกนางเข้าเฝ้า แต่ก็ขยันส่งของมาให้ คราก่อนเป็นรังนก นางก็เอาถวายเจ้าแม่กวนอิม มาครานี้ถึงกับส่งเสื้อสตรีมา คงคิดว่านางเอาไปถวายไม่ได้น่ะสิ ฉินกงกงพูดแล้วก็ยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่ได้เข้าคายไม่ออกของนาง “คืนพรุ่งนี้ฮองเฮาจะมีงานเลี้ยงน้ำชาเหล่าสนมนางใน ฝ่าบาทจะเสด็จด้วย จึงพระราชทานชุดบรรณาการให้ตาอิ้งโดยเฉพาะ” ไม่ต้องย้ำคำว่าโดยเฉพาะก็ได้ คืนพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงเลยมีความประสงค์จะให้นางสวมชุดบรรณาการ ไม่ส่งมีดมาเลยล่ะ กะว่าจะให้นางโดนรุมในวัง นางไปทำเวรทำกรรมอะไรกับฮ่องเต้คนนี้นะเนี่ย จะบ้าตาย

 เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

โรแมนติก

5.0

ชาติภพก่อนนางต้องสูญเสียลูกและสามีเพราะคนร้ายกราดยิงในห้าง จนนางเลือกจบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายตาม พอเกิดชาติใหม่ก็มาอาศัยร่างที่ใบหน้าเหมือนตัวเองแถมมีลูกสาวที่หน้าเหมือนลูกสาวภพก่อนแต่กลับถูกสามีทิ้งให้มาอยู่ลำพังบนเขาจนอดข้าวตาย นางที่ได้มาอาศัยร้าง สัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวคนนี้ให้ดีที่สุด และหวังว่าจะเจอสามีนางในภพเช่นกัน หญิงหม้ายเช่นนางจะดูแลบุตรสาวด้วยตัวเอง... "ท่านแม่กอดเอวของท่านพ่อเอาไว้แบบนี้ห้ามปล่อยนะเจ้าคะ ถ้าท่านแม่กอดเอวท่านพ่อก็จะได้กอดถิงถิงไปด้วย" เสียงเล็กของสาวน้อยที่นั่งตรงกลางระหว่างเจินเป่าและเหนียงไป๋กล่าวบอกผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส เหนียงไป๋จึงไม่มีทางเลือกต้องพยักหน้ารับและทำตามที่บุตรสาวบอกแต่โดยดี ******************* นิยายสนุก น่ารัก อบอุ่นหัวใจ ดีต่อสุขภาพ แวะมาอ่านกันเยอะๆ นะคะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

วิวาห์ฟ้าแลบ

วิวาห์ฟ้าแลบ

โรแมนติก

5.0

[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

โรแมนติก

5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

คุณนายเป็นใบ้

คุณนายเป็นใบ้

โรแมนติก

5.0

เล่อซานเป็นคนใบ้ เธอถูกสามีละเลยมาเป็นเวลาห้าปี ม้แต่เธอตั้งท้องยังถูกแม่สามาีทำร้ายจนแท้งลูก หลังจากการหย่าร้าง สามีของเธอก็ประกาศหมั้นกับคนรักในใจของเขาทันที เธอกุมท้องที่นูนเล็กน้อยไว้ ในที่สุดก็ได้สติและเข้าใจว่าเขาไม่เคยจริงจังกับเธอมาก่อน... เธอหันหลังจากไปอย่างเด็ดขาด และทั้งสองก็กลายเป็นคนแปลกหน้า หลังจากที่เธอจากไป ชายคนนั้นก็ตามหาเธอไปทั่วโลก เมื่อพวกเขาได้พบกันอีกครั้ง เธอก็รักคนอื่นไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่เขาถามอย่างถ่อมตัวว่า "ได้โปรดอย่าไป..." ทว่าคำแรกที่เธอพูดก็คือให้เขาไปให้พ้น!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ