Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เลขาบำเรอรัก

เลขาบำเรอรัก

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
ชม
5
บท

ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!

บทที่ 1 1

“ไหนอาหารเช้าของฉัน” เสียงเข้มของเขมราชเอ่ยถามเลขาสาวที่หอบแฟ้มเอกสารเข้ามาให้เขาในห้องทำงาน

“ไม่มีค่ะ” สร้อยเพชรตอบอย่างสุภาพ ก็ในเมื่อเขาทิ้งมันลงถังขยะ เธอจะทำให้เขากินอีกทำไม

“นี่เธอ!” สีหน้าท่าทีของเธอทำให้เขาอยากจะจับมาฟาดก้นนัก

“ท่านประธานรบกวนเซ็นเอกสารด้วยนะคะ” เธอพูดจบก็หมุนตัวทำท่าจะเดินออกไป แต่เขาไม่ยอมให้คนอวดดีหนีไปไหนได้

“เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป” เขาเข้ามาขวางเอาไว้

“ท่านประธานมีอะไรอีกเหรอคะ”

“นึกยังไงถึงได้ใช้สรรพนามแบบนี้ หรืออยากประชด”

“ดิฉันไม่กล้าประชดท่านประธานหรอกค่ะ แต่ท่านประธานคงลืมไปแล้วว่าเป็นคนบอกดิฉันเองว่าเวลาอยู่บริษัทหรือเวลางานอย่าเรียกให้สนิทสนมมากนัก เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดเอาได้” เธอถอยหนี เขาก็ก้าวตาม ทำให้เธอจนมุม แผ่นหลังไปเบียดกับผนังห้องทำงานทางด้านหลัง

“กรุณาถอยไปด้วยค่ะ อื้อ...” ท่าทีอวดดีของเธอทำให้เขาต้องบดจุมพิตริมฝีปากนั้นอย่างดุเดือด

“นี่ปล่อยนะคะ” เธอจะฟาดใบหน้าของเขาแต่โดนรวบข้อมือเอาไว้ แถมมือหนายังกอบกุมใบหน้าของเธอแล้วบดจุมพิตอีกรอบ

“โอ๊ย!” เขมราชร้องเสียงหลงเมื่อโดนกัดปาก เธอกระแทกเข่าเข้าหา ก่อนที่จะผลักเขาจนกระเด็น

“สร้อยเพชร นี่เธอ! ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ” เขากุมเป้ากางเกงตัวเอง จุกจนตัวงอ เธอรีบเดินหนีไปที่ประตู

“เซ็นเอกสารเสร็จจะเข้ามาเอานะคะ” เธอพูดเสียงเข้มอย่างจริงจัง ก่อนที่จะงับประตูปิด

สร้อยเพชรผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะเดินกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะของตัวเอง

เขมราชเป็นลูกชายเจ้าหนี้รายใหญ่ของครอบครัว ก่อนบิดามารดาเสียชีวิตได้ทิ้งหนี้ก้อนใหญ่เอาไว้ให้เธอด้วย เธอไม่โทษว่าเป็นความผิดของพวกท่านที่บริหารงานผิดพลาด แต่หน้าที่ของเธอคือต้องแบกรับภาระหนี้สินพวกนั้นและใช้ให้หมดในชาตินี้

บิดามารดาของเขมราชเป็นเพื่อนกับบิดามารดาของเธอ พวกท่านให้บุพการีของเธอหยิบยืมเงินทองไปต่อยอดธุรกิจ แต่เจ๊งไม่เป็นท่า ท่านจึงเสนอให้เธอมาทำงานกับเขมราชเพื่อชดใช้หนี้สิน หลังจากที่บิดามารดาของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เสียชีวิตกะทันหันทั้งคู่

เขมราชกับเธอห่างเหินกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอต้องมาทำงานด้วยกัน จึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัด แต่กระนั้นก็พยายามทำดีกับเขาให้มากๆ การทำงานจะได้ราบรื่น เขาเห็นแบบนั้นกลับกลั่นแกล้งเธอสารพัด ให้เธอทำอาหารเช้ามาให้ แล้วก็โยนทิ้งถังขยะ บอกว่ารถชาติห่วยแตก เธอแก้มือไปทำมาใหม่ เขาก็ยังบอกว่ารสชาติห่วย สุดท้ายเธอก็เลยไม่ทำมาให้เขาอีก

พอไม่ทำมาให้ ก็เป็นอย่างที่เห็น เขาทวงอาหารเช้าแล้วก็อารมณ์เสีย หาว่าเธอไม่ทำอาหารเช้ามาให้ตามคำสั่ง

“เอกสารเรียบร้อยแล้ว เข้ามารับได้” ประโยคสั้น ๆ จากเครื่องอินเตอร์คอมทำให้เธอต้องลุกจากเก้าอี้อย่างเบื่อห่าย เดินเข้าไปในห้องทำงานของเขาอย่างมาดมั่น สีหน้าของเขาดูบึ้งตึงพอสมควร แต่เธอไม่ได้สนใจ มุ่งมั่นที่จะทำงานให้ดีเพื่อใช้หนี้ให้หมดเพียงเท่านั้น

“คิดว่าคุณพ่อคุณแม่และคุณย่าให้ท้ายแล้วเธอจะทำอะไรกับฉันก็ได้อย่างนั้นเหรอ” เขาเกลียดท่าทีหยิ่งยโสของเธอนัก

“ดิฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยค่ะ”

“สรรพนามของเธอนี่มัน” เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่อนหน้านี้เธอแทนตัวเองด้วยชื่อเล่น ตอนนี้กลับใช้สรรพนามเสียห่างเหิน ไม่เรียกว่าเธอประชด จะให้เรียกอะไรกันล่ะ

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวก่อน” เขาเข้ามาขวางเอาไว้ เธอก็ถอยหนี ท่าทีของเธอทำให้เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

“ไม่ต้องทำท่าทางรังเกียจฉันขนาดนั้นก็ได้ ฉันเองก็ไม่ได้คิดพิศวาสอะไรเธอนักหรอก”

“นี่ขนาดไม่พิศวาสยังทำขนาดนี้” เธอแดกดันเขา

“อย่าคิดว่าผู้ใหญ่ทุกคนชอบเธอ แล้วจะมีใครมาบังคับให้ฉันแต่งงานกับเธอได้”

“ท่านประธานคิดมากไปแล้วจริงๆ ฉันไม่หวังสูงขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะฉันเป็นแค่ลูกหนี้ของคุณเท่านั้น”

“อวดดี” เขากระชากเธอเข้ามาหา

“ว้าย! นี่ปล่อยนะ”

“อยากให้ปล่อยจริงๆ น่ะเหรอ ฉันไม่เห็นจะเชื่อเธอเลยสักนิด” เธอยกเข่าขึ้นเพื่อที่จะกระแทกเขาเหมือนเคย แต่คราวนี้เขารู้ทัน หลบได้ทันทีทันใด ก่อนที่จะบด

เบียดร่างของเธอไปกับผนังห้องทำงานอีกครั้ง ไม่มีช่องว่างให้เธอทำร้ายอะไรเขาได้อีก

“ผู้หญิงร้ายกาจแบบเธอนี่มันน่ารังเกียจที่สุด”

“ดิฉันไปทำอะไรให้ท่านประธานเคืองโกรธอีกเหรอคะ” เธอเอ่ยถามอย่างสงสัย

“ก็เธอไปออดอ้อนอะไรพ่อแม่แล้วก็คุณย่าล่ะ พวกท่านถึงได้อยากจะได้เธอมาเป็นสะใภ้”

“อันนี้ดิฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะ ถ้าคุณอยากรู้หรือสงสัยก็น่าจะไปถามท่านเองนะคะ”

“ปากดี” เขาบีบปลายคางของเธอจนเจ็บ

“ฉันเจ็บนะ” เธอพยายามดิ้นเขาก็ไม่ยอมปล่อย

“วันนี้ทุกคนให้ฉันพาเธอไปกินข้าวที่บ้านด้วยกัน เตรียมตัวเอาไว้ด้วย”

“ดิฉันจะไปเองค่ะ ไม่ต้องรบกวนคุณหรอกค่ะ”

“เธอนี่มันปากดีไม่เลิกรา ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะ”

“ถ้าท่านประธานขืนทำอะไรฉันลงไป ฉันอาจจะเอาเรื่องนี้ไปบอกผู้ใหญ่ของคุณก็ได้นะคะ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
5.0

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ