Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
4.7
ความคิดเห็น
158K
ชม
71
บท

เพราะความแค้น... เขาจึงทำทุกอย่างเพื่อให้เธอเจ็บ เพราะความรัก... เธอถึงยอมตกเป็นเหยื่อรักของเขา ความเข้าใจผิดของเขา... ทำให้เธอต้องกลายเป็นหมากในเกมส์ล้างแค้นอย่างไม่มีทางเลือก รัชชานนท์ไม่เคยคิดเลยว่า...ผู้หญิงที่ตั้งหน้าตั้งตา สั่งสมองให้เกลียดชัง จะทำให้หัวใจกระด้างของตนเองเต้นแรงที่สุดในชีวิต นทิชามีเสน่ห์ หอมหวานเย้ายวน จนเขาไม่อาจจะปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้ ดังนั้น... นอกจากจะหลอกล่อให้เธอเดินตามเกมส์แค้นแล้ว เขาก็ยังมีหน้าที่ที่ต้องทำให้เธอ ปีนขึ้นจากหลุมรักไม่ได้เช่นกัน...

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ร่างสูงหกฟุตสามนิ้วยืนสงบนิ่งอยู่หน้าเจดีย์ของน้องสาวเพียงคนเดียวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยสายตาอาลัยเศร้าหมอง ชุดสูทไร้ที่ติกลืนไปกับเส้นผมสีดำสนิทที่ถูกสายลมโชยพัดแผ่วๆ จนปรกหน้าผาก

ไหล่กว้างซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวช่วยเน้นให้เห็นกล้ามเนื้อกำยำแสดงถึงความแข็งแรงและมีพละกำลังอย่างน่าทึ่ง แสงตะวันกล้ายามสนธยาที่อาบไร้ลงสู่พื้นเบื้องล่าง ช่วยเน้นรูปหน้าหล่อเข้มคมคายให้คล้ายกับหินสลักที่ไร้ชีวิต

ดวงตาสีนิลถูกห้อมล้อมด้วยขนตาดกดำเป็นประกายดุดันพร้อมจะฟาดฟันกับผู้ที่เป็นศัตรูให้ย่อยยับอย่างไม่ปรานี สันจมูกโด่งตรงช่วยเสริมให้ใบหน้าหล่อกระชากใจนั้นสมบูรณ์แบบราวกับถูกปั้นแต่งโดยจิตรกรเอกของโลก

โหนกแก้มสูงและกรามสี่เหลี่ยมมีไรเคราเขียวครึ้มที่ทำให้เขาดูแกร่งกระด้าง น่ากลัว และต่ำลงไปกว่านั้นคือริมฝีปากหยักสีสดบางได้รูปที่ปราศจากรอยยิ้มแห่งความสุขมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ด้วยการกระทำที่น่ารังเกียจของหญิงชายคู่นั้น

รัชชานนท์ วนิชเจริญกุล ทายาทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของโรงแรมหรูห้าดาวในเครือ วนิชกรุ๊ป ชายหนุ่มสูญเสียบิดาและมารดาไปกับอุบัติเหตุบนท้องถนนเมื่อสิบปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเขาพึ่งจะเรียนจบปริญญาโทจากมหาลัยชื่อดังในอังกฤษใหม่ๆ และเมื่อไม่นานมานี้เอง เขาก็ต้องสูญเสียญาติสนิทที่เหลือเพียงคนเดียวไปอีกคน

รฎาพร วนิชเจริญกุล น้องสาวอันเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ต้องมาตายจากไปอย่างไร้ค่าเพราะความโลเลและสับปลับของผู้ชายคนนั้น

กรามแกร่งขบกันเป็นสันจนเนื้อข้างแก้มกระตุกเป็นริ้ว ดวงตาที่ดุกระด้างจ้องมองรูปหน้าเจดีย์เก็บกระดูกของน้องสาวนิ่ง ก่อนจะฝืนยิ้มน้อยๆ ให้กับรูปของรฎาพร

“พี่มาแล้ว... พี่มาเยี่ยมพรแล้ว...”

สายพระพายที่พัดแผ่วๆ มาปะทะผิวสีคล้ามแดดไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหนาวสั่นแม้แต่น้อยทั้งๆ ที่อากาศยามเย็นย่ำและใกล้กับชายทะเลแบบนี้จะเหน็บหนาวแค่ไหนก็ตาม

“วันนี้พี่นำของที่พรชอบมาให้พรด้วย ข้าวต้มกุ้ง แล้วก็...”

น้ำเสียงห้าวขาดช่วงไปไม่อาจจะฝืนพูดจนจบได้ เมื่อก้อนสะอื้นมันจุกที่ลำคอ ความเจ็บปวดกับการสูญเสียที่ได้รับทำให้ชายหนุ่มแปลงร่างเป็นอสูรร้ายเลือดเย็นได้ในทันที และเขาได้เตรียมแผนการทุกอย่างไว้เพื่อชำระแค้นกับศัตรูที่ทำลายชีวิตของน้องสาวให้ย่อยยับคามือ

“พะโล้... องุ่นแดง...น้ำส้มคั้น...”

รัชชานนท์พยายามสะกดกลั้นอารมณ์เศร้าหมองเอาไว้อย่างที่สุด แม้มันจะผ่านมาปีกว่าแล้ว กับอุบัติเหตุครั้งนั้น อุบัติเหตุที่พรากรฎาพรไปจากเขา แต่เขาก็ไม่อาจจะลบเลือนมันออกไปจากสมองได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว

‘พวกเขาหลอกพร... พวกเขาทำร้ายพร พรเกลียดพวกเขา...’

รฎาพรคร่ำครวญไปตลอดทางขณะที่ขับรถอยู่ในวันที่เกิดโศกนาฏกรรม ทั้งๆ ที่เขาพยายามหว่านล้อมเพื่อที่จะเป็นคนขับเองหลายต่อหลายครั้ง แต่น้องสาวก็ไม่ยินยอม จนทุกอย่างสายเกินแก้

ภาพที่รฎาพรนอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดหลังจากที่รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางยังฝังแน่นอยู่ในสมอง เลือดสดๆ ของน้องสาวไหลออกมาจากปากและจมูก ตอนนั้นกระจกได้บาดดวงตาของเขาทั้งสองข้างจนไม่อาจจะช่วยเหลือน้องสาวได้เลย...

‘พี่นนท์...พร...เจ็บเหลือ..เกิน...พร...เจ็บ...”

แต่คำพูดของเธอยังฝังลึกอยู่ในใจ และเขาก็คงไม่อาจจะลืมมันไปได้ ถ้าความแค้นนี้ยังไม่ได้รับการชำระ เขาจะทำให้พวกมันย่อยยับราวกับตายทั้งเป็น และเมื่อถึงวันนั้นเขาจะลากพวกมันมากราบหลุมศพรฎาพรให้จงได้

“พี่สัญญา ว่าพี่จะทำลายไอ้ผู้ชายคนนั้น และคนที่มันรักทุกคน ให้มันทรมานกว่าที่พรได้รับร้อยเท่าพันเท่า” ชายหนุ่มยิ้มให้รูปอยู่นาน ก่อนรอยยิ้มจะค่อย ๆ จางลงพร้อมกับแววตากร้าวจัด

“พี่จะให้พวกมันชดใช้ทุกอย่างที่ทำไว้กับพร...!”

ชายหนุ่มเน้นหนักทุกคำพูด พร้อมกับยิ้มให้กับรูปอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับเป็นรอยยิ้มที่ดูโหดเหี้ยมและน่ากลัวที่สุด

มือหนาสีแทนตวัดแว่นดำขึ้นปกปิดดวงตาคมกล้าราวกับคมมีดของตนเอง ก่อนจะหมุนตัวเดินจากเจดีย์ของรฎาพรออกมาช้าๆ ริมฝีปากหยักสีสดที่บางเฉียบเม้มเข้าหากันแน่น ทุกย่างก้าวที่เหยียบย่ำไปข้างหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้น

เขาจะทำให้ไอ้คนที่ทำลายชีวิตที่กำลังสวยงามของรฎาพรให้มันย่อยยับไม่มีชิ้นดี เขาจะทำให้โลกใบนี้คือบ้านที่ไม่น่าอยู่ของพวกมัน

“อดิเทพ... นทิชา ถึงเวลาแล้วที่พวกแกจะต้องชดใช้...”

เสียงเครื่องยนต์ที่คำรามเข้ามาใกล้และดับสนิทลงในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที นทิชาพยุงร่างบอบบางที่พึ่งฟื้นไข้ของตนเองถลันมาเกาะขอบหน้าต่างในห้องหอของตนเอง...

ร่างสูงใหญ่ กำยำ น่าเกรงขามของรัชชานนท์ก้าวลงมาจากรถลีมูซีนสีดำเงาวับ หัวใจสาวเต้นระรัวแทบจะกระดอนออกมาจากอก ลมหายใจชะงักติดอยู่แค่ลำคอ จะมองกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เขา... รัชชานนท์ก็ยังคงทำให้ร่างกายของเธอมีปฏิกิริยาแปลกประหลาด คลื่นความร้อนเดือดพล่านไปทั่วร่างสาว

เหตุการณ์เมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมากลับเข้ามาในสมองอีกครั้ง คล้ายกับสายน้ำเชี่ยวที่ไหลเปลี่ยนทิศทาง มันน่าจะมีแต่ความยินดีไม่ใช่หรือ... หากว่าการแต่งงานในครั้งนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความใจร้ายของผู้ชายที่ชื่อ รัชชานนท์

‘อย่าคิดว่าที่ฉันจัดงานแต่งงานในครั้งนี้เพราะฉันรักเธอ...ฉันแค่ต้องการทำให้ไอ้อดิเทพมันรู้เท่านั้นแหละของสิ่งไหนคือของๆ ฉัน และมันไม่มีสิทธิ์แตะต้อง...!’

นี่คือคำพูดของเขาที่กระซิบแผ่วเบามาที่ใบหูของเธอ และมันก็ทำให้หัวใจที่เบิกบานอยู่เมื่อครู่นี้แฟบลงได้ทันตา หญิงสาวจำได้ว่าต้องฉาบใบหน้าด้วยรอยยิ้มหวานทุกครั้งที่มีแขกเดินเข้ามาในงาน และเมื่อไม่อาจจะทานทนต่อความเจ็บปวดจากคมมีดที่รัชชานนท์จ้วงใส่อกได้อีกต่อไป น้ำตาก็ไหลเอ่อล้นขอบตาจนหล่อนต้องรีบเช็ดมันออกไปอย่างรวดเร็ว

บรรยากาศภายในงานแต่งที่แขกเหรื่อทุกคนร่วมกันอวยพรให้เขาและเธอมีความสุข แต่ใครจะรู้บ้างเล่าว่าจริงๆ แล้วผู้ชายที่แสร้งทำเป็นยิ้มอบอุ่นให้กับหล่อนนี้จะร้ายกาจราวกับอสูรร้าย

เพราะหลังจากที่ผู้ใหญ่ส่งตัวบ่าวสาวทั้งคู่เข้าหอแล้ว เธอและเขาก็ถูกทิ้งให้อยู่ในห้องหอที่จัดแต่งด้วยสีชมพูทั่วทั้งห้องตามลำพัง กลิ่นดอกกุหลาบหอมละมุนทำให้นทิชาอดเคลิ้มฝันถึงคืนวิวาห์อันแสนโรแมนติกไม่ได้ แต่สำหรับรัชชานนท์มันคงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเพียงไม่นานเขาก็เผยธาตุแท้ออกมา

คำพูดที่เต็มไปด้วยความขยะแขยงชิงชังระดมกันโพยพุ่งออกมาจากริมฝีปากหยักสวยสีสดของเขาไม่ขาดสาย และทุกคำพูดมันก็ทำให้หล่อนได้แต่ปล่อยน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวด

‘เธอจะต้องอุ้มท้องลูกของฉัน และเมื่อคลอดแล้วเธอก็ต้องไปจากชีวิตฉันกับลูกในทันที...’ น้ำเสียงกระด้างที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของเขาในวันนั้นยังฝังใจไม่คลาย

‘และอย่าได้กลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก เพราะฉันเกลียดเธอ...!’

ลำคอตีบตันรวดร้าวเพราะน้ำตาที่นทิชาพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้ หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าแค่หล่อนติดหนี้เขาเพียงแค่สามแสน ทำไมรัชชานนท์ถึงได้ใจร้ายกับหล่อนมากนัก ทำไมถึงต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีกันมากมายขนาดนี้

ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่เขาเอ่ยปากบอกว่าจะจัดงานแต่งงานให้นั้น หล่อนคิดว่าเขาเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ผิดคาด เพราะนอกจากเขาจะตอกย้ำถึงจุดประสงค์ที่จัดงานแต่งแล้ว เขายังทำให้ความฝันของหล่อนที่มีเขาอยู่ในนั้นพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี

หล่อนโง่เองที่หลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ ปิดหูปิดตาไม่สนใจความจริงที่ชายหนุ่มแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังเวลาที่เผชิญหน้ากันว่ารังเกียจและขยะแขยงหล่อนเพียงไหน

นทิชายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมาจากดวงตากลมโตที่ตอนนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำใสๆ ที่มันจะไหลออกมาพร้อมๆ กับความเสียใจเสมอด้วยความรวดร้าว ถึงเวลาแล้วที่หล่อนควรจะต่อต้านเขาเสียที หล่อนจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายที่ทั้งตาบอดและหัวใจบอดคนนี้ทำราวกับว่าหล่อนไม่มีหัวใจอีกแล้ว

หญิงสาวตลบผ้าม่านลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรับรู้ถึงกระแสสายตาคมกล้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นตาสีดำแหงนเงยขึ้นมายังตำแหน่งที่หล่อนยืนอยู่ แม้เขาจะยังคงมองไม่เห็น แต่กระนั้นอิทธิพลจากเขาก็ทำให้หล่อนสั่นสะท้านได้อย่างง่ายดาย

ระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์หลังจากแต่งงาน หล่อนป่วยเป็นไข้ทับระดูทำให้รัชชานนท์ไม่ทวงสิทธิ์กับร่างกายของหล่อนได้ แต่วันนี้ประจำเดือนก็ได้หมดลงแล้ว และไอ้อาการตัวร้อนจากพิษไข้ก็ทุเลาลงจนแทบจะเรียกได้ว่าหายสนิทแล้ว เนื้อตัวสาวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวขึ้นมาทันที

คืนนี้รัชชานนท์จะใช้สิทธิ์นั้นกับเรือนร่างของหล่อนไหมนะ...

แล้วถ้าเขาคิดจะใช้สิทธิ์นั้นจริงๆ หล่อนควรจะทำยังไงดี... หล่อนจะทำใจได้แค่ไหนกันกับการที่ต้องปล่อยให้ผู้ชายที่เกลียดหล่อนเต็มหัวใจทำลายสิ่งล้ำค่าของชีวิตผู้หญิง...

แต่หล่อนมีทางเลือกอย่างนั้นหรือ...

เงินจำนวนสามแสนบาทที่หล่อนขอยืมไปจากเขา โดยใช้เรือนร่างของหล่อนและการผลิตลูกให้เขาเป็นเครื่องรับประกัน เขาคงดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้สิ่งที่หวัง แต่สำหรับหล่อนมันคือฝันร้ายที่คงจะเฝ้าหลอกหลอนไปตลอดชีวิต จนกระทั่งบัดนี้หญิงสาวยังคิดไม่ออกเลยว่าตัวเองจะทิ้งลูกน้อยไว้กับผู้ชายที่เห็นหล่อนเป็นเพียงขยะข้างทางที่ซื้อหาได้ด้วยเงินได้อย่างไร

หล่อนจะใจร้ายถึงขั้นนั้นเลยหรือ... จะทอดทิ้งสายเลือดของตัวได้จริงๆ หรือ...

ยาคุมกำเนิด...!

ทางออกเพียงทางเดียวที่พระเจ้าประทานใส่มือมาให้ ใช่... หากหล่อนไม่ต้องการที่จะเจ็บปวดในอนาคตด้วยการที่ต้องระเห็จไปอยู่ในฐานะแม่ใจร้ายที่ทอดทิ้งลูกน้อยไว้กับพ่อใจยักษ์ล่ะก็ หล่อนก็จะต้องคุมกำเนิด และก็จะให้เขาล่วงรู้ไม่ได้...

และในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน หล่อนก็จะต้องหางานทำ ต้องเก็บเงินมาใช้หนี้รัชชานนท์ให้ครบทั้งต้นและดอก เพื่อชีวิตของหล่อนจะได้หลุดพ้นจากเจ้าบ่าวอสูรอย่างเขาเสียที

“แม้มีนจะรักคุณ แต่มีนก็ยอมทำตามความต้องการของคุณไม่ได้ค่ะ คุณนนท์...”

เมื่อหลุดจากภวังค์สาวน้อยที่แสนจะอาภัพนักอย่างนทิชาก็พึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าหมอง หัวใจปวดร้าวราวกับถูกกลุ่มเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง

“มีนยอมทิ้งลูกไว้กับคุณไม่ได้ มีนรู้ดีว่าคุณไม่มีทางรักแก พอๆ กับที่คุณไม่เคยรักมีน...”

ยิ่งคิดความเจ็บปวดร้าวลึกก็ทะลวงเข้าไปในหัวใจ หยาดน้ำตาใสๆ เอ่อคลอดวงตากลมโตหวานฉ่ำของหล่อนจนแทบจะมองฝ่าอากาศไปไม่เห็น หญิงสาวพยายามกล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงคอไปอย่างยากลำบาก ก่อนที่จะรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อพยุงกายที่อ่อนล้าให้ลุกขึ้นยืน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการที่จะต้องเผชิญหน้ากับอสูรร้ายอย่างรัชชานนท์

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ เนื้อนวล

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ