5.0
ความคิดเห็น
53.3K
ชม
82
บท

การเสียชีวิตของมารดาอย่างกะทันหันทำให้ชีวิตของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีอย่าง ‘กานต์’ เปลี่ยนไปราวกับหน้ามือหลังมือ ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาต้องอึ้งงันจนพูดไม่ออก นอกจากเรื่องการจากไปของมารดาแล้ว ก็คือเรื่องที่เขามี ‘พ่อเลี้ยง’ โดยที่ตนไม่เคยรู้มาก่อน ‘ออสติน สเวน’ นักธุรกิจชาวอเมริกันก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา พร้อมกับข้อเสนอเพื่อให้เขาได้ศึกษาต่อจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ เด็กหนุ่มที่สิ้นไร้ไม้ตอก ไม่เหลือใครนอกจากตนเองจะทำอะไรได้อีก ได้แต่ตอบตกลงไปเสี่ยงโชคเอาข้างหน้า สายสัมพันธ์ระหว่างเขาและผู้ชายตาสีฟ้าน้ำทะเลจึงเริ่มต้นขึ้น ในฐานะ ‘เด็กในการดูแล’ และ ‘ผู้ปกครอง’ ทว่า...ออสติน สเวน มีเสน่ห์เหลือล้นมากเกินไปจนทำให้กานต์แทบไม่อาจห้ามใจให้ไม่คิดกับเขาเป็นอื่น ขณะที่ชีวิตประสบกับจุดหักเห ความรู้สึกวุ่นวายที่พร่างพรายขึ้นมาในใจก็ทำให้กานต์สับสน ‘ผู้ปกครอง’ ที่ค่อยๆ กลายเป็น ‘เจ้าของหัวใจ’ ชักจะทำให้เด็กหนุ่มแสนดีคนนี้เกเรขึ้นทีละน้อยแล้วสิ...

บทที่ 1 แด๊ดดี้ครับ

หากมารดาผู้บังเกิดเกล้าไม่เสียชีวิตกะทันหัน เด็กหนุ่มก็คงจะไม่มีโอกาสได้เจอกับ ‘เขา’

…พ่อเลี้ยง

...ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี

‘กานต์’ เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีคิดว่าตนน่าจะหายตกใจเรื่องนี้แล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ เขาก็ยังคงสับสนอยู่ ด้วยเรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเสียจนเขารับมือไม่ทัน ทุกอย่างมันเริ่มมาจากที่เมื่อปีที่แล้ว มารดาบอกกับเขาว่าจะไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ร้านอาหารไทยในอเมริกาเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวและส่งเสียเขาให้เรียนต่อ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กานต์ต้องย้ายไปอยู่กับยายซึ่งแก่ชรามากแล้วที่ต่างจังหวัด ทว่าใครจะคิดว่าจู่ๆ วันหนึ่งก็มีข่าวว่ามารดาของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต

ตั้งแต่ที่บิดามารดาแยกทางกันเมื่ออายุได้เพียงสิบปี กานต์ก็อยู่กับมารดามาตลอด บิดาไม่เคยเหลียวแลด้วยมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว การสูญเสียทำให้ทั้งเขาและยายเสียศูนย์อยู่ไม่น้อย เขามืดแปดด้าน คิดไม่ออกว่าต่อจากนี้ตนจะใช้ชีวิตอย่างไร

แต่...หลังจากงานศพของมารดาเขา จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากล่ามชาวไทยที่อาศัยอยู่ในอเมริกาติดต่อมา พร้อมกับส่งข่าวน่าตกใจให้เขากับยายรับรู้

มารดาของเขาแต่งงานใหม่กับชายชาวอเมริกัน...

กานต์ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรนอกจากตกใจดี มารดาแต่งงานใหม่แต่ไม่เคยบอกกับเขา เท่าที่ได้ยินจากล่ามคนนั้น ดูเหมือนว่าจะแต่งงานกันมาเกือบปีแล้ว อะไรไม่ว่า ผู้ชายคนนั้นยังเสนอทางเลือกบางอย่างให้กับเขา

จะเป็นผู้ปกครองให้จนกว่ากานต์จะบรรลุนิติภาวะ...

แน่นอนว่าหมายถึงการส่งเสียเลี้ยงดูค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตของเขาด้วย โดยมีเงื่อนไขเดียว

...กานต์ต้องย้ายไปอยู่ที่อเมริกากับผู้ชายคนนั้น

เด็กหนุ่มซึ่งเหลือยายเป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวไม่มีวันที่จะทิ้งครอบครัวไปอยู่กับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าตาแน่ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะอ้างตัวว่าเป็นพ่อเลี้ยงและมีใบจดทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานก็ตาม

แต่แล้ว...ความสูญเสียก็มาเยือนอีกครั้ง

ยายซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายตรอมใจจากการเสียลูกสาว อีกทั้งยังมีโรคชรา ทำให้จากไปอย่างปัจจุบันทันด่วนด้วยอีกคน ทำให้กานต์สิ้นไร้ไม้ตอก ในเมื่อหันไปทางไหนก็ไม่เห็นทางรอด เขาจึงจำเป็นต้องกลับคำ

เขาจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกากับพ่อเลี้ยงในฐานะ ‘เด็กในการดูแล’

ทันทีที่เขาตัดสินใจติดต่อไปทางล่ามของพ่อเลี้ยง ทุกอย่างก็ถูกตระเตรียมอย่างรวดเร็ว

กานต์มองไปรอบๆ ตัวอย่างประหม่า หลังจากวันนั้นที่เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นโทรหาล่ามคนนั้น วันนี้เขาก็มายืนอยู่บนดินแดนแห่งเสรีภาพแล้ว

ดวงตากลมสีนิลฉายแววกังวลออกมาอย่างไม่ปกปิด มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์มือถือที่ต่อไวไฟสนามบิน ก่อนจะยกขึ้นมากดเข้าไปในโปรแกรมแชตเพื่อตรวจดูว่าเขาไม่ได้มาผิดสนามบิน

สนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี... ไม่ผิดแน่ อีกฝ่ายบอกให้เขาขึ้นเครื่องมาลงที่นี่

ไม่เพียงแต่บอก เป็นคนจองตั๋วให้ด้วยซ้ำ แล้วก็บอกให้เขามายืนรอที่แถวประตูทางออก สังเกตคนที่มายืนถือป้ายที่มีชื่อเขาให้ดี เพราะอีกฝ่ายจะส่งคนมารับ แต่ผ่านมาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง กานต์ยังไม่เห็นจะมีใครมายืนถือป้ายที่มีชื่อเขาเลยสักคน

ความกังวลพร่างพราย เรียวคิ้วเริ่มขมวดมุ่นเข้าหากัน

ถ้าพ่อเลี้ยงเขาไม่มาล่ะ ถ้าเขาถูกหลอกมาลอยแพที่อเมริกา เขาจะทำอย่างไร?

คิดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ความกังวลไม่มีสิ้นสุด มีแต่จะทวีคูณ ในหัวคำนวณจำนวนเงินที่ได้รับมาจากผู้ชายคนนั้นเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางซึ่งพอจะมีติดตัวอยู่ทันควัน

ถ้าถูกเท อย่างน้อยก็มากพอที่จะไปเช่าโรงแรมแถวสนามบินนอน...มั้ง

คิดไปแล้วก็ไม่มั่นใจหรอก แต่เอาเถอะ อย่างน้อยเขาก็ท่องจำเบอร์โทรศัพท์ของสถานทูตไทยในอเมริกาได้ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา ก็คงต้องโทรไปขอความช่วยเหลือจากที่นั่น

ทว่าก่อนที่จะคิดอะไรไปไกล อันดับแรกเขาควรจะโทรหาพ่อเลี้ยงของเขาก่อนต่างหาก เผื่อว่าอีกฝ่ายจะลืม

ปิ๊บ...

ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร แค่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู หน้าจอก็ดับไปทันควัน กานต์สบถออกมา

“บ้าฉิบ ทำไมแบตฯ จะต้องมาหมดตอนนี้ด้วยวะ”

รู้สึกได้ถึงลางร้าย ภาษาอังกฤษตัวเองก็พูดไม่คล่อง แม้ว่าก่อนหน้านั้น พ่อเลี้ยงของเขาจะส่งเงินมาให้ไปเรียนปรับพื้นฐานก่อนมาที่นี่บ้างแล้วก็เถอะ เบอร์ของผู้ชายคนนั้นเขาก็จำไม่ได้ มิหนำซ้ำก็ยังไม่ได้จดเอาไว้

อะไรมันจะซวยขนาดนั้นวะไอ้กานต์...

อดไม่ได้เลยที่จะบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรงเพื่อสงบสติอารมณ์

เอาล่ะ ใจเย็นๆ อย่างน้อยก็เดินหาอีกรอบก่อน เผื่อว่าจะมาแล้ว

คิดได้ก็ลากกระเป๋าใบเขื่องไปละแวกหน้าประตูทางออกอีกครั้ง สายตามองหาคนที่คาดว่าน่าจะเป็นคนที่พ่อเลี้ยงของเขาส่งมารับ แต่นึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ได้ถามไว้ว่าคนที่มารับมีหน้าตาท่าทางเป็นแบบไหน นึกโทษตัวเองที่สะเพร่าจนแทบอยากจะยีหัวให้ยุ่งนัก

ทว่าทุกความคิดก็ต้องยุติลงเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งก้าวผ่านประตูเข้ามา

เขาใส่สูทสีกรม แต่งตัวเนี้ยบสะอาดสะอ้านตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มองปราดเดียวก็รู้ว่าเครื่องแต่งกายทุกอย่างบนตัวเขาเป็นของแบรนด์เนมราคาแพง แต่อะไรก็ไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับเครื่องหน้าของเขา

คมเข้ม...มีไรหนวดเคราขึ้นเล็กน้อย เส้นผมสีน้ำตาลมะฮอกกานี และดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล ล้วนแล้วทำให้เขาดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ขนาดกานต์ที่เห็นเขาครั้งแรกยังหยุดมองไม่ได้เลย

หล่อมาก อย่างกับนายแบบหลุดออกมาจากนิตยสาร

ดูแล้วผู้ชายคนนั้นไม่น่าจะอายุอานามในวัยยี่สิบกว่าๆ หรอก น่าจะเข้าเลขสามแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ทำให้กานต์ละสายตาจากเขาไม่ได้เลยสักนิด

มอง...จนลืมไปแล้วว่ามีเรื่องสำคัญกว่านี้ต้องทำ

ผู้ชายคนนั้นมาหยุดยืนบริเวณเดียวกับที่พวกคนมารอรับผู้โดยสาร ก่อนที่จะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก พลันขมวดคิ้วยุ่งเหยิง จากนั้นก็กดโทรออกอีกครั้ง เมื่อปลายสายไม่มีการตอบสนอง เขาก็เก็บโทรศัพท์กลับเข้าที่เดิม ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูท คว้ากระดาษขนาดเอสี่ออกมากาง บนกระดาษนั้นเขียนว่า ‘Kan’

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจนักว่านั่นเป็นชื่อของเขาหรือเปล่า ชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ทีเดียวกว่าจะตัดสินใจเดินไปหยุดตรงหน้าแล้วเอ่ยปากถาม

“อะ...เอ็กซ์คิวส์มี...”

จากนั้นก็พูดต่อไม่ออก ทั้งนึกคำไม่ออกว่าควรจะถามว่าอะไรดี ทั้งพูดไม่ออกเพราะถูกดวงตาสีฟ้าคู่นั้นจ้องมอง

คุณมารอผมใช่ไหม...ภาษาอังกฤษพูดว่าอะไร

กานต์อึกๆ อักๆ ครู่หนึ่งทีเดียว คาดเดาได้เลยว่าพ่อเลี้ยงของเขาจะต้องเสียดายเงินที่ส่งเขาไปเรียนปรับพื้นฐานแน่ๆ ขนาดประโยคง่ายๆ ยังพูดไม่ได้ เอาไว้ถ้าถูกว่าเรื่องนี้ค่อยแก้ตัวไปแล้วกันว่าเพราะไม่ค่อยได้คุยกับชาวต่างชาติก็เลยประหม่า

ขณะที่ผู้ชายคนนั้นมองเด็กหนุ่มตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วรอให้อีกฝ่ายพูด แต่ในเมื่อคนตรงหน้าไม่พูด นอกจากส่งเสียง ‘เอ่อๆ อ่าๆ’ ไม่เลิก เขาเลยเป็นฝ่ายเปิดปากแทน

“กานต์ใช่ไหม”

คนถูกเรียกชื่อถึงกับเบิกตาโตทันควัน

ภาษาไทย!?

ไม่ทันจะได้ถาม ผู้ชายคนนั้นก็พูดขึ้นมาอีก

“ฉันมารับเธอ”

ได้ยินเท่านั้น ความกังวลของกานต์ก็มลายหายไปในพริบตา

“พ่อเลี้ยง...เอ่อ...คุณสเวนส่งคุณมารับผมเหรอครับ”

ในเมื่อพูดภาษาไทยมา เขาก็พูดภาษาไทยตอบ ถึงจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าทำไมฝรั่งตรงหน้าถึงพูดไทยได้ชัดขนาดนี้ แต่การไปให้พ้นจากสนามบินนี่ก็เป็นเรื่องสำคัญกว่า

คนถูกถามพยักหน้า ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ส่วนกานต์กลับยิ้มกว้าง

“ค่อยยังชั่ว ผมนึกว่าจะไม่มีใครมารับผมซะแล้ว”

“ประชุมเลิกช้ากว่ากำหนดน่ะ ขอโทษด้วย” เขาว่า “จะไปกันหรือยัง” แล้วก็ถามมาอีก

“ครับ”

มีเหตุผลอะไรจะต้องปฏิเสธอีก กานต์พยักหน้าตอบตกลงทันที ก่อนจะลากกระเป๋าเดินตามหลังผู้ชายคนนั้นไป ในใจก็ขบคิดไม่หยุด

ผู้ชายคนนี้...หรือจะเป็นลูกน้องของพ่อเลี้ยงเขา?

รู้ว่า ออสติน สเวน คนนั้นเป็นนักธุรกิจ แล้วก็รู้ด้วยว่าเป็นเจ้าของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ถ้าจะมีลูกน้องคอยทำงานให้ก็ไม่แปลก

“ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”

พอเดินออกมานอกสนามบินจนกระทั่งถึงลานจอดรถ ระหว่างที่รอให้ผู้ชายคนนั้นยกกระเป๋าใส่ท้ายรถให้ กานต์ก็ออกปากถาม อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองพลางเลิกคิ้วเล็กน้อยเป็นเชิงให้ถามได้

“คุณทำงานให้คุณสเวนเหรอครับ”

เสียงปิดท้ายรถดังตามมาหลังจากนั้น ก่อนที่คนถูกถามจะยืดตัวขึ้น

“ฉันดูเหมือนลูกน้องของพ่อเลี้ยงเธอเหรอ”

กานต์เม้มริมฝีปากไปครู่ “เปล่าครับ แต่คุณสเวนบอกว่าจะส่งคนมารับผม ผมก็เลยเดาเอาว่าคงจะเป็นลูกน้อง”

คนฟังหัวเราะเบาๆ ในลำคอ “เขาไม่ได้ส่งคนมารับเธอหรอก”

สีหน้าของเด็กหนุ่มฉาบพรายไปด้วยความสงสัยทันที

ถ้าไม่ได้ส่งมา แล้วคนตรงหน้าเขาเป็นใครกันล่ะ

หรือว่า...

เกือบจะคิดไปแล้วว่าเป็นมิจฉาชีพแอบอ้างอะไรหรือเปล่า ทว่าผู้ชายตรงหน้าก็พูดขึ้นมาก่อน

“เพราะเขามารับเธอเอง”

กานต์เบิกตาโต มองคนพูดอย่างไม่เชื่อสายตา

“งะ...งั้นก็แสดงว่าคุณคือ...”

“ออสติน สเวน”

พูดจบก็ยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองตกตะลึงไปได้ไม่ยาก แต่ถึงจะไม่ยิ้ม กานต์ก็ตะลึงงันไปแล้ว

พ่อเลี้ยงของเขายังหนุ่มขนาดนี้เลยเหรอ!?

หนุ่มอย่างเดียวไม่พอ หล่อประหนึ่งนายแบบบนรันเวย์อีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่าแม่ของเขาจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้

“ขึ้นรถได้แล้ว จะได้กลับบ้านกัน”

กานต์ได้สติคืนกลับมาในตอนนี้ พยักหน้ารับหงึกหงัก เดินไปเปิดประตูรถข้างคนขับ แทรกตัวเข้าไปนั่งท่ามกลางความรู้สึกสับสน

ออสติน สเวน...มีเรื่องทำให้เขาเซอร์ไพรส์ไม่หยุดหย่อนเลยจริงๆ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หนูแดง หนูแดงตัวน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
รับผมเป็นพ่อของลูกนะครับ[Mpreg]

รับผมเป็นพ่อของลูกนะครับ[Mpreg]

นิยายวาย

5.0

เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!

อาคิรา ครุฑใต้ตะวัน

อาคิรา ครุฑใต้ตะวัน

โรแมนติก

5.0

เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!

แม่หยาดฟ้าของไอ้หมาดิน

แม่หยาดฟ้าของไอ้หมาดิน

โรแมนติก

5.0

“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ

ลักรัก

ลักรัก

นิยายวาย

5.0

เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!

นักพรตเจ้าสำราญ

นักพรตเจ้าสำราญ

นิยายวาย

5.0

แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!

ระบำทะเลทราย

ระบำทะเลทราย

นิยายวาย

5.0

หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

Silas Thorn
5.0

ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ล่อลวงภรรยาเข้าสู่อ้อมกอด : สามีลึกลับคือมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง

ล่อลวงภรรยาเข้าสู่อ้อมกอด : สามีลึกลับคือมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง

Nevsa Ybarra
5.0

คุณลู่ผู้เย่อหยิ่งแสร้งทำตัวเป็นช่างซ่อมรถเพื่อแต่งงานกับเจียงวานก็เพียงเพื่อแก้แค้น ในสายตาของเขา เธอเป็นผู้หญิงใจแคบที่รังเกียจความพิการของเขา เขาแสร้งทำท่าทางเอาอกเอาใจ ดูเหมือนรักใคร่ แต่ในใจกลับเฉยชาไร้ความรู้สึก ทว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร เขากลับตกหลุมรักเธอโดยไม่รู้ตัว หลังหย่าขาด เขากลับรู้สึกเสียดาย พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขอคืนดี ทว่ากลับได้รับเพียงเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากเธอ “คุณลู่คงจำคนผิดแล้วมั้ง อดีตสามีของฉันเขา... เป็นแค่ช่างซ่อมรถคนหนึ่ง ไม่ใช่เจ้าของบริษัทลู่ซื่อกรุ๊ปผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่งของประเทศแบบคุณ ฉันเอื้อมไม่ถึงหรอก” คุณลู่หัวเราะหึ ๆ สองเสียง “ไม่ต้องเอื้อมหรอก งั้นฉันจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทแล้วไปเป็นช่างซ่อมรถก็ได้” “??”

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

หัวใจร่วงโรย

หัวใจร่วงโรย

Evelyn Hart
5.0

ลู่หลีเคยได้รับการช่วยชีวิตจากสามีของเธอ แต่หลังจากเขาสูญเสียความทรงจำ เขากลับลืมเธอเสียสนิท สามปีหลังจากแต่งงาน เพ่ยซือหานถึงกับนอกใจต่อหน้าผู้คน ทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก ลู่หลีรู้สึกผิดหวังมาก จากนั้นก็เซ็นเอกสารหย่าทันที ตั้งแต่นั้นมา เธอได้กลับมาเป็นหญิงสาวที่มีอำนาจอีกครั้ง หมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือเธอ ตำนานนักแข่งรถคือเธอ แฮกเกอร์ระดับโลกคือเธอ และนักออกแบบอัจฉริยะก็เป็นเธอเช่นกัน ต่อมา เพ่ยซือหานไม่เพียงแต่เสียใจจนสุดขีด แต่ยังฟื้นความทรงจำได้อีกด้วย เขาถึงกับบุกเข้าไปในงานแต่งงาน “เสี่ยวหลี ขอร้องเถอะ ให้โอกาสผมอีกครั้ง!” แต่เอวของลู่หลีถูกโอบกอดไว้โดยใครอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจ เขาหัวเราะในลำคอว่า “ที่รัก มีคนที่กำลังเล่นกับไฟ”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
Like Daddy, Like Baby แด๊ดดี้ครับ...
1

บทที่ 1 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

2

บทที่ 2 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

3

บทที่ 3 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

4

บทที่ 4 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

5

บทที่ 5 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

6

บทที่ 6 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

7

บทที่ 7 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

8

บทที่ 8 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

9

บทที่ 9 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

10

บทที่ 10 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

11

บทที่ 11 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

12

บทที่ 12 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

13

บทที่ 13 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

14

บทที่ 14 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

15

บทที่ 15 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

16

บทที่ 16 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

17

บทที่ 17 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

18

บทที่ 18 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

19

บทที่ 19 แด๊ดดี้ครับ

03/03/2022

20

บทที่ 20 ไม่พอใจ

03/03/2022

21

บทที่ 21 แด๊ดดี้คร้าบ

03/03/2022

22

บทที่ 22 ไม่สามารถควบคุม

03/03/2022

23

บทที่ 23 ไม่ควร...

03/03/2022

24

บทที่ 24 กอดฉัน

03/03/2022

25

บทที่ 25 ผิดพลาดครั้งใหญ่

03/03/2022

26

บทที่ 26 คิดมากไป

03/03/2022

27

บทที่ 27 ไม่ควรที่จะเปิด

03/03/2022

28

บทที่ 28 สัญญา

03/03/2022

29

บทที่ 29 ไม่มีอะไร

03/03/2022

30

บทที่ 30 Goodnight

03/03/2022

31

บทที่ 31 ความลับ

03/03/2022

32

บทที่ 32 น่าตื่นเต้น

03/03/2022

33

บทที่ 33 มากไปหน่อย

03/03/2022

34

บทที่ 34 ไม่ควรเลย...

03/03/2022

35

บทที่ 35 อยากลอง

03/03/2022

36

บทที่ 36 แสนจะซื่อตรง

03/03/2022

37

บทที่ 37 ขึ้นห้องก็ดี

03/03/2022

38

บทที่ 38 สอนภาคปฏิบัติ

03/03/2022

39

บทที่ 39 กลายเป็นเด็กดื้อ

03/03/2022

40

บทที่ 40 พ่อเลี้ยง

03/03/2022