5.0
ความคิดเห็น
53.2K
ชม
82
บท

การเสียชีวิตของมารดาอย่างกะทันหันทำให้ชีวิตของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีอย่าง ‘กานต์’ เปลี่ยนไปราวกับหน้ามือหลังมือ ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาต้องอึ้งงันจนพูดไม่ออก นอกจากเรื่องการจากไปของมารดาแล้ว ก็คือเรื่องที่เขามี ‘พ่อเลี้ยง’ โดยที่ตนไม่เคยรู้มาก่อน ‘ออสติน สเวน’ นักธุรกิจชาวอเมริกันก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา พร้อมกับข้อเสนอเพื่อให้เขาได้ศึกษาต่อจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ เด็กหนุ่มที่สิ้นไร้ไม้ตอก ไม่เหลือใครนอกจากตนเองจะทำอะไรได้อีก ได้แต่ตอบตกลงไปเสี่ยงโชคเอาข้างหน้า สายสัมพันธ์ระหว่างเขาและผู้ชายตาสีฟ้าน้ำทะเลจึงเริ่มต้นขึ้น ในฐานะ ‘เด็กในการดูแล’ และ ‘ผู้ปกครอง’ ทว่า...ออสติน สเวน มีเสน่ห์เหลือล้นมากเกินไปจนทำให้กานต์แทบไม่อาจห้ามใจให้ไม่คิดกับเขาเป็นอื่น ขณะที่ชีวิตประสบกับจุดหักเห ความรู้สึกวุ่นวายที่พร่างพรายขึ้นมาในใจก็ทำให้กานต์สับสน ‘ผู้ปกครอง’ ที่ค่อยๆ กลายเป็น ‘เจ้าของหัวใจ’ ชักจะทำให้เด็กหนุ่มแสนดีคนนี้เกเรขึ้นทีละน้อยแล้วสิ...

บทที่ 1 แด๊ดดี้ครับ

หากมารดาผู้บังเกิดเกล้าไม่เสียชีวิตกะทันหัน เด็กหนุ่มก็คงจะไม่มีโอกาสได้เจอกับ ‘เขา’

…พ่อเลี้ยง

...ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี

‘กานต์’ เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีคิดว่าตนน่าจะหายตกใจเรื่องนี้แล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ เขาก็ยังคงสับสนอยู่ ด้วยเรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเสียจนเขารับมือไม่ทัน ทุกอย่างมันเริ่มมาจากที่เมื่อปีที่แล้ว มารดาบอกกับเขาว่าจะไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ร้านอาหารไทยในอเมริกาเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวและส่งเสียเขาให้เรียนต่อ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กานต์ต้องย้ายไปอยู่กับยายซึ่งแก่ชรามากแล้วที่ต่างจังหวัด ทว่าใครจะคิดว่าจู่ๆ วันหนึ่งก็มีข่าวว่ามารดาของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต

ตั้งแต่ที่บิดามารดาแยกทางกันเมื่ออายุได้เพียงสิบปี กานต์ก็อยู่กับมารดามาตลอด บิดาไม่เคยเหลียวแลด้วยมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว การสูญเสียทำให้ทั้งเขาและยายเสียศูนย์อยู่ไม่น้อย เขามืดแปดด้าน คิดไม่ออกว่าต่อจากนี้ตนจะใช้ชีวิตอย่างไร

แต่...หลังจากงานศพของมารดาเขา จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากล่ามชาวไทยที่อาศัยอยู่ในอเมริกาติดต่อมา พร้อมกับส่งข่าวน่าตกใจให้เขากับยายรับรู้

มารดาของเขาแต่งงานใหม่กับชายชาวอเมริกัน...

กานต์ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรนอกจากตกใจดี มารดาแต่งงานใหม่แต่ไม่เคยบอกกับเขา เท่าที่ได้ยินจากล่ามคนนั้น ดูเหมือนว่าจะแต่งงานกันมาเกือบปีแล้ว อะไรไม่ว่า ผู้ชายคนนั้นยังเสนอทางเลือกบางอย่างให้กับเขา

จะเป็นผู้ปกครองให้จนกว่ากานต์จะบรรลุนิติภาวะ...

แน่นอนว่าหมายถึงการส่งเสียเลี้ยงดูค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตของเขาด้วย โดยมีเงื่อนไขเดียว

...กานต์ต้องย้ายไปอยู่ที่อเมริกากับผู้ชายคนนั้น

เด็กหนุ่มซึ่งเหลือยายเป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวไม่มีวันที่จะทิ้งครอบครัวไปอยู่กับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าตาแน่ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะอ้างตัวว่าเป็นพ่อเลี้ยงและมีใบจดทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานก็ตาม

แต่แล้ว...ความสูญเสียก็มาเยือนอีกครั้ง

ยายซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายตรอมใจจากการเสียลูกสาว อีกทั้งยังมีโรคชรา ทำให้จากไปอย่างปัจจุบันทันด่วนด้วยอีกคน ทำให้กานต์สิ้นไร้ไม้ตอก ในเมื่อหันไปทางไหนก็ไม่เห็นทางรอด เขาจึงจำเป็นต้องกลับคำ

เขาจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกากับพ่อเลี้ยงในฐานะ ‘เด็กในการดูแล’

ทันทีที่เขาตัดสินใจติดต่อไปทางล่ามของพ่อเลี้ยง ทุกอย่างก็ถูกตระเตรียมอย่างรวดเร็ว

กานต์มองไปรอบๆ ตัวอย่างประหม่า หลังจากวันนั้นที่เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นโทรหาล่ามคนนั้น วันนี้เขาก็มายืนอยู่บนดินแดนแห่งเสรีภาพแล้ว

ดวงตากลมสีนิลฉายแววกังวลออกมาอย่างไม่ปกปิด มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์มือถือที่ต่อไวไฟสนามบิน ก่อนจะยกขึ้นมากดเข้าไปในโปรแกรมแชตเพื่อตรวจดูว่าเขาไม่ได้มาผิดสนามบิน

สนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี... ไม่ผิดแน่ อีกฝ่ายบอกให้เขาขึ้นเครื่องมาลงที่นี่

ไม่เพียงแต่บอก เป็นคนจองตั๋วให้ด้วยซ้ำ แล้วก็บอกให้เขามายืนรอที่แถวประตูทางออก สังเกตคนที่มายืนถือป้ายที่มีชื่อเขาให้ดี เพราะอีกฝ่ายจะส่งคนมารับ แต่ผ่านมาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง กานต์ยังไม่เห็นจะมีใครมายืนถือป้ายที่มีชื่อเขาเลยสักคน

ความกังวลพร่างพราย เรียวคิ้วเริ่มขมวดมุ่นเข้าหากัน

ถ้าพ่อเลี้ยงเขาไม่มาล่ะ ถ้าเขาถูกหลอกมาลอยแพที่อเมริกา เขาจะทำอย่างไร?

คิดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ความกังวลไม่มีสิ้นสุด มีแต่จะทวีคูณ ในหัวคำนวณจำนวนเงินที่ได้รับมาจากผู้ชายคนนั้นเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางซึ่งพอจะมีติดตัวอยู่ทันควัน

ถ้าถูกเท อย่างน้อยก็มากพอที่จะไปเช่าโรงแรมแถวสนามบินนอน...มั้ง

คิดไปแล้วก็ไม่มั่นใจหรอก แต่เอาเถอะ อย่างน้อยเขาก็ท่องจำเบอร์โทรศัพท์ของสถานทูตไทยในอเมริกาได้ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา ก็คงต้องโทรไปขอความช่วยเหลือจากที่นั่น

ทว่าก่อนที่จะคิดอะไรไปไกล อันดับแรกเขาควรจะโทรหาพ่อเลี้ยงของเขาก่อนต่างหาก เผื่อว่าอีกฝ่ายจะลืม

ปิ๊บ...

ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร แค่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู หน้าจอก็ดับไปทันควัน กานต์สบถออกมา

“บ้าฉิบ ทำไมแบตฯ จะต้องมาหมดตอนนี้ด้วยวะ”

รู้สึกได้ถึงลางร้าย ภาษาอังกฤษตัวเองก็พูดไม่คล่อง แม้ว่าก่อนหน้านั้น พ่อเลี้ยงของเขาจะส่งเงินมาให้ไปเรียนปรับพื้นฐานก่อนมาที่นี่บ้างแล้วก็เถอะ เบอร์ของผู้ชายคนนั้นเขาก็จำไม่ได้ มิหนำซ้ำก็ยังไม่ได้จดเอาไว้

อะไรมันจะซวยขนาดนั้นวะไอ้กานต์...

อดไม่ได้เลยที่จะบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรงเพื่อสงบสติอารมณ์

เอาล่ะ ใจเย็นๆ อย่างน้อยก็เดินหาอีกรอบก่อน เผื่อว่าจะมาแล้ว

คิดได้ก็ลากกระเป๋าใบเขื่องไปละแวกหน้าประตูทางออกอีกครั้ง สายตามองหาคนที่คาดว่าน่าจะเป็นคนที่พ่อเลี้ยงของเขาส่งมารับ แต่นึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ได้ถามไว้ว่าคนที่มารับมีหน้าตาท่าทางเป็นแบบไหน นึกโทษตัวเองที่สะเพร่าจนแทบอยากจะยีหัวให้ยุ่งนัก

ทว่าทุกความคิดก็ต้องยุติลงเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งก้าวผ่านประตูเข้ามา

เขาใส่สูทสีกรม แต่งตัวเนี้ยบสะอาดสะอ้านตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มองปราดเดียวก็รู้ว่าเครื่องแต่งกายทุกอย่างบนตัวเขาเป็นของแบรนด์เนมราคาแพง แต่อะไรก็ไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับเครื่องหน้าของเขา

คมเข้ม...มีไรหนวดเคราขึ้นเล็กน้อย เส้นผมสีน้ำตาลมะฮอกกานี และดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล ล้วนแล้วทำให้เขาดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ขนาดกานต์ที่เห็นเขาครั้งแรกยังหยุดมองไม่ได้เลย

หล่อมาก อย่างกับนายแบบหลุดออกมาจากนิตยสาร

ดูแล้วผู้ชายคนนั้นไม่น่าจะอายุอานามในวัยยี่สิบกว่าๆ หรอก น่าจะเข้าเลขสามแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ทำให้กานต์ละสายตาจากเขาไม่ได้เลยสักนิด

มอง...จนลืมไปแล้วว่ามีเรื่องสำคัญกว่านี้ต้องทำ

ผู้ชายคนนั้นมาหยุดยืนบริเวณเดียวกับที่พวกคนมารอรับผู้โดยสาร ก่อนที่จะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก พลันขมวดคิ้วยุ่งเหยิง จากนั้นก็กดโทรออกอีกครั้ง เมื่อปลายสายไม่มีการตอบสนอง เขาก็เก็บโทรศัพท์กลับเข้าที่เดิม ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูท คว้ากระดาษขนาดเอสี่ออกมากาง บนกระดาษนั้นเขียนว่า ‘Kan’

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจนักว่านั่นเป็นชื่อของเขาหรือเปล่า ชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ทีเดียวกว่าจะตัดสินใจเดินไปหยุดตรงหน้าแล้วเอ่ยปากถาม

“อะ...เอ็กซ์คิวส์มี...”

จากนั้นก็พูดต่อไม่ออก ทั้งนึกคำไม่ออกว่าควรจะถามว่าอะไรดี ทั้งพูดไม่ออกเพราะถูกดวงตาสีฟ้าคู่นั้นจ้องมอง

คุณมารอผมใช่ไหม...ภาษาอังกฤษพูดว่าอะไร

กานต์อึกๆ อักๆ ครู่หนึ่งทีเดียว คาดเดาได้เลยว่าพ่อเลี้ยงของเขาจะต้องเสียดายเงินที่ส่งเขาไปเรียนปรับพื้นฐานแน่ๆ ขนาดประโยคง่ายๆ ยังพูดไม่ได้ เอาไว้ถ้าถูกว่าเรื่องนี้ค่อยแก้ตัวไปแล้วกันว่าเพราะไม่ค่อยได้คุยกับชาวต่างชาติก็เลยประหม่า

ขณะที่ผู้ชายคนนั้นมองเด็กหนุ่มตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วรอให้อีกฝ่ายพูด แต่ในเมื่อคนตรงหน้าไม่พูด นอกจากส่งเสียง ‘เอ่อๆ อ่าๆ’ ไม่เลิก เขาเลยเป็นฝ่ายเปิดปากแทน

“กานต์ใช่ไหม”

คนถูกเรียกชื่อถึงกับเบิกตาโตทันควัน

ภาษาไทย!?

ไม่ทันจะได้ถาม ผู้ชายคนนั้นก็พูดขึ้นมาอีก

“ฉันมารับเธอ”

ได้ยินเท่านั้น ความกังวลของกานต์ก็มลายหายไปในพริบตา

“พ่อเลี้ยง...เอ่อ...คุณสเวนส่งคุณมารับผมเหรอครับ”

ในเมื่อพูดภาษาไทยมา เขาก็พูดภาษาไทยตอบ ถึงจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าทำไมฝรั่งตรงหน้าถึงพูดไทยได้ชัดขนาดนี้ แต่การไปให้พ้นจากสนามบินนี่ก็เป็นเรื่องสำคัญกว่า

คนถูกถามพยักหน้า ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ส่วนกานต์กลับยิ้มกว้าง

“ค่อยยังชั่ว ผมนึกว่าจะไม่มีใครมารับผมซะแล้ว”

“ประชุมเลิกช้ากว่ากำหนดน่ะ ขอโทษด้วย” เขาว่า “จะไปกันหรือยัง” แล้วก็ถามมาอีก

“ครับ”

มีเหตุผลอะไรจะต้องปฏิเสธอีก กานต์พยักหน้าตอบตกลงทันที ก่อนจะลากกระเป๋าเดินตามหลังผู้ชายคนนั้นไป ในใจก็ขบคิดไม่หยุด

ผู้ชายคนนี้...หรือจะเป็นลูกน้องของพ่อเลี้ยงเขา?

รู้ว่า ออสติน สเวน คนนั้นเป็นนักธุรกิจ แล้วก็รู้ด้วยว่าเป็นเจ้าของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ถ้าจะมีลูกน้องคอยทำงานให้ก็ไม่แปลก

“ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”

พอเดินออกมานอกสนามบินจนกระทั่งถึงลานจอดรถ ระหว่างที่รอให้ผู้ชายคนนั้นยกกระเป๋าใส่ท้ายรถให้ กานต์ก็ออกปากถาม อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองพลางเลิกคิ้วเล็กน้อยเป็นเชิงให้ถามได้

“คุณทำงานให้คุณสเวนเหรอครับ”

เสียงปิดท้ายรถดังตามมาหลังจากนั้น ก่อนที่คนถูกถามจะยืดตัวขึ้น

“ฉันดูเหมือนลูกน้องของพ่อเลี้ยงเธอเหรอ”

กานต์เม้มริมฝีปากไปครู่ “เปล่าครับ แต่คุณสเวนบอกว่าจะส่งคนมารับผม ผมก็เลยเดาเอาว่าคงจะเป็นลูกน้อง”

คนฟังหัวเราะเบาๆ ในลำคอ “เขาไม่ได้ส่งคนมารับเธอหรอก”

สีหน้าของเด็กหนุ่มฉาบพรายไปด้วยความสงสัยทันที

ถ้าไม่ได้ส่งมา แล้วคนตรงหน้าเขาเป็นใครกันล่ะ

หรือว่า...

เกือบจะคิดไปแล้วว่าเป็นมิจฉาชีพแอบอ้างอะไรหรือเปล่า ทว่าผู้ชายตรงหน้าก็พูดขึ้นมาก่อน

“เพราะเขามารับเธอเอง”

กานต์เบิกตาโต มองคนพูดอย่างไม่เชื่อสายตา

“งะ...งั้นก็แสดงว่าคุณคือ...”

“ออสติน สเวน”

พูดจบก็ยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองตกตะลึงไปได้ไม่ยาก แต่ถึงจะไม่ยิ้ม กานต์ก็ตะลึงงันไปแล้ว

พ่อเลี้ยงของเขายังหนุ่มขนาดนี้เลยเหรอ!?

หนุ่มอย่างเดียวไม่พอ หล่อประหนึ่งนายแบบบนรันเวย์อีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่าแม่ของเขาจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้

“ขึ้นรถได้แล้ว จะได้กลับบ้านกัน”

กานต์ได้สติคืนกลับมาในตอนนี้ พยักหน้ารับหงึกหงัก เดินไปเปิดประตูรถข้างคนขับ แทรกตัวเข้าไปนั่งท่ามกลางความรู้สึกสับสน

ออสติน สเวน...มีเรื่องทำให้เขาเซอร์ไพรส์ไม่หยุดหย่อนเลยจริงๆ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หนูแดง หนูแดงตัวน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
รับผมเป็นพ่อของลูกนะครับ[Mpreg]

รับผมเป็นพ่อของลูกนะครับ[Mpreg]

นิยายวาย

5.0

เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!

คุณพ่อแสนหวาน [นิยายชุด "คุณพ่อมีรัก" ลำดับที่ 1]

คุณพ่อแสนหวาน [นิยายชุด "คุณพ่อมีรัก" ลำดับที่ 1]

โรแมนติก

5.0

อยู่ๆ เลขาฯ ส่วนตัวมากฝีมืออย่าง ‘แสนรัก’ ที่มีสัมพันธ์สวาทกับเขาก็หายตัวไปไม่บอกกล่าว ทำให้ ‘สมุทร’ กรรมการบริหารสุดหล่อแสนเจ้าชู้ขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก ดังนั้นการกลับมาของเธอตามคำสั่งของบิดาซึ่งเป็นประธานบริษัทจึงเป็นการล้างแค้น เขากะเอาคืนให้สมใจกับที่เธอฝากรสรักไว้แล้วหนีหายไปไม่บอกในอีกไม่กี่เดือนให้หลัง ทว่าการแก้แค้นแบบเด็กประถมของสมุทรก็ต้องเป็นอันต้องชะงักเมื่อแสนรักไม่ได้กลับมาคนเดียว แต่ดันมี "เจ้าตัวน้อย" ติดสอยห้อยตามมาด้วยคำว่า ‘ลูกสาวของแสนรัก’ ตราอยู่บนหน้าผากของเด็กน้อยนามว่า ‘แสนหวาน’ ตัวโตๆ หากแต่นอกเหนือจากชื่อนั้น ดันมีดีเอ็นเอของสมุทรแปะอยู่บนหน้า ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ลูกเขาชัดๆ แม้ว่าแสนรักจะปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่ก็ตาม ถ้าไม่ใช่ลูกเขาแล้วจะเป็นลูกใคร!? ปฏิบัติการทวงคืนลูกสาวคนสวยแสนจ้ำม่ำต้องมา ในเมื่อคนเป็นแม่ไม่ยอมรับเขาเป็นพ่อของลูก เขาก็จะเข้าทางลูกนี่แหละ แล้วมาดูกันว่าน้องหนูแสนหวานจะเป็นลูกเขาจริงหรือไม่ เขาจะเป็นทั้งสามีและคุณพ่อที่ทั้งแสนรักและแสนหวานปฏิเสธไม่ลงเลยคอยดูสิ!

สาปบุตรซาตาน

สาปบุตรซาตาน

นิยายวาย

5.0

โจชัว โจนส์ ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลเอิร์ลอันเก่าแก่ในประเทศอังกฤษ บุตรชายซึ่งเกิดจากภรรยาลับของเจคอบ โจนส์ เพิ่งจะถูกนับญาติก็ตอนเมื่อไม่มีใครสืบทอดสมบัติของตระกูล โชคที่เหมือนจะดีนำพาเขาเข้าสู่วังวนพันธะแห่งบาปอันซึ่งตกทอดมาสู่รุ่นต่อรุ่น ในเมื่อเขาเป็นหนึ่งในผู้สืบสายเลือด เขาก็จำต้องมีชะตากรรมตกอยู่ในห้วงคำสาปโดยที่เขาไม่ได้ก่อ ปริศนาที่คฤหาสน์ประจำตระกูลนั้นเก็บซ่อนอยู่จำเป็นต้องเร่งไขให้กระจ่างก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้ด้วยความช่วยเหลือของ ออแลนโด้ ลอว์เรนซ์ สายสัมพันธ์เสน่หาก่อตัวขึ้นรางๆ ภายใต้เงามืดของภายใต้เงามืดของทูตผู้นำพามาซึ่งคำสาปอาถรรพ์

รักสุดเฮี้ยบ ผู้จัดการจัดให้!

รักสุดเฮี้ยบ ผู้จัดการจัดให้!

นิยายวาย

5.0

ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินเลือดร้อนไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่นัก แต่สำหรับ ‘ไลเกอร์’ อดีตบอยแบนด์วง Animalz ที่สร้างข่าวฉาวจากคดีทะเลาะวิวาทกับเพื่อนร่วมวงจนวงแตกแล้ว ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด เขายังคงเดบิวต์เปิดตัวเป็นศิลปินเดี่ยวในนาม ‘ลีแทจิน’ และใช้ชื่อเสียงเดิมสร้างความดังกระฉ่อนพร้อมกับสร้างข่าวฉาวไม่หยุดหย่อน แถมยังเป็นนักร้องที่ไม่มีผู้จัดการคนไหนอยากร่วมงานด้วยอีก ร้อนถึงบริษัทที่สังกัดต้องเฟ้นหาผู้จัดการมาแทนให้โดยด่วน หวยจึงมาออกที่ ‘นัชฌาน’ ผู้จัดการหนุ่มขึ้นชื่อในเรื่องความเฮี้ยบด้วยหวังว่าจะปราบพยศเสือกลายพันธุ์ตัวนี้ได้ ทว่ารูปร่างหน้าตาประหนึ่งเด็กมัธยมปลายของผู้จัดการคนใหม่นั้น ไม่ได้ทำให้ลีแทจินหวั่นเกรงได้เลย มิหนำซ้ำยังลากนัชฌานเข้าไปพัวพันกับสารพัดปัญหาที่เขาก่อขึ้นอีก ดูเหมือนปัญหาทำท่าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เสียด้วย อย่างนี้ผู้จัดการหน้าอ่อนต้องจัดบทเรียนชุดใหญ่มาสั่งสอนไลเกอร์ตัวนี้ให้กลายเป็นลูกแมวเชื่องๆ เสียแล้ว!

อรุณรักษ์

อรุณรักษ์

โรแมนติก

4.8

‘เจ้าที่แรง’ คำคำนี้ไม่สามารถทำอะไรสาวสมัยใหม่อย่าง ‘กลิ่นหอม’ ที่เฉิดฉายย้ายเข้าบ้านใหม่ที่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง พร้อมกับ ‘ของแถมประจำบ้าน’ ที่โครงการหมู่บ้านจัดสรรแถมให้โดยไม่รู้ตัว นอกจากจะต้องรับมือกับหนี้ก้อนบักเอ้กด้วยวัยยี่สิบปลายๆ มิหนำซ้ำยังไม่ได้แต่งงาน แล้วยังจะต้องรับมือกับเจ้าที่มือใหม่อย่าง ‘ขุนอริญชย์เพียงสวัสดิ์’ ทุกเช้า สาย บ่าย เย็น แต่ขอโทษ ระหว่างมีหนี้ก้อนโตเพราะซื้อบ้านหลังแรก กับย้ายออกเพราะกลัวแพ้ภัยให้กับเจ้าที่ แน่นอนล่ะว่ากลิ่นหอมต้องเลือกกลัวเป็นหนี้หัวโตอยู่แล้ว! อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ทนอยู่มันด้วยกันนี่แหละ กลิ่นหอมคนนี้ไม่ยอมย้ายหนีไปไหนแน่ๆ! ขณะเดียวกัน หญิงสาวก็เริ่มรู้ถึงเรื่องราวบางอย่างระหว่างตนกับเจ้าที่รูปหล่อจากอดีตชาติทีละน้อย รักเอยรักเพียงเจ้าแม่มิ่งขวัญ ดุจชีวันถนอมเจ้าราวบุปผา คะนึงรักมิอาจห่างกายา แม้นแก้วตาหลบซ่อนลึกสุดใจ เสมือนดั่งซ่อนกลิ่นส่งกลิ่นหอม เย้าภมรดมดอมหอมแห่งไหน พี่จักตามรักเจ้าสืบต่อไป กลิ่นหอมไกลดั่งรักของพี่เอย

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ตำนานตาม่วง

ตำนานตาม่วง

Wald Bridges
5.0

"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
Like Daddy, Like Baby แด๊ดดี้ครับ...
1

บทที่ 1 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

2

บทที่ 2 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

3

บทที่ 3 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

4

บทที่ 4 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

5

บทที่ 5 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

6

บทที่ 6 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

7

บทที่ 7 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

8

บทที่ 8 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

9

บทที่ 9 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

10

บทที่ 10 แด๊ดดี้ครับ

21/02/2022

11

บทที่ 11 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

12

บทที่ 12 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

13

บทที่ 13 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

14

บทที่ 14 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

15

บทที่ 15 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

16

บทที่ 16 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

17

บทที่ 17 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

18

บทที่ 18 แด๊ดดี้ครับ

22/02/2022

19

บทที่ 19 แด๊ดดี้ครับ

03/03/2022

20

บทที่ 20 ไม่พอใจ

03/03/2022

21

บทที่ 21 แด๊ดดี้คร้าบ

03/03/2022

22

บทที่ 22 ไม่สามารถควบคุม

03/03/2022

23

บทที่ 23 ไม่ควร...

03/03/2022

24

บทที่ 24 กอดฉัน

03/03/2022

25

บทที่ 25 ผิดพลาดครั้งใหญ่

03/03/2022

26

บทที่ 26 คิดมากไป

03/03/2022

27

บทที่ 27 ไม่ควรที่จะเปิด

03/03/2022

28

บทที่ 28 สัญญา

03/03/2022

29

บทที่ 29 ไม่มีอะไร

03/03/2022

30

บทที่ 30 Goodnight

03/03/2022

31

บทที่ 31 ความลับ

03/03/2022

32

บทที่ 32 น่าตื่นเต้น

03/03/2022

33

บทที่ 33 มากไปหน่อย

03/03/2022

34

บทที่ 34 ไม่ควรเลย...

03/03/2022

35

บทที่ 35 อยากลอง

03/03/2022

36

บทที่ 36 แสนจะซื่อตรง

03/03/2022

37

บทที่ 37 ขึ้นห้องก็ดี

03/03/2022

38

บทที่ 38 สอนภาคปฏิบัติ

03/03/2022

39

บทที่ 39 กลายเป็นเด็กดื้อ

03/03/2022

40

บทที่ 40 พ่อเลี้ยง

03/03/2022