Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
Omega's instinct สัญชาตญาณดิบ [Omegaverse]

Omega's instinct สัญชาตญาณดิบ [Omegaverse]

หนูแดง หนูแดงตัวน้อย

5.0
ความคิดเห็น
4K
ชม
92
บท

โลกใบนี้ถูกกำหนดด้วยชนชั้น... ชนชั้นสูง ชนชั้นกลาง และชนชั้นล่าง ทว่าชนชั้นไม่ได้ถูกแบ่งแยกโดยชาติตระกูล ทว่าแบ่งแยกโดย ‘เพศ’ อัลฟ่า [ α ] ...ชนชั้นสูงที่มีสิทธิ์แทบจะในทุกอย่าง เบต้า [ β ] ...ชนชั้นกลางที่มีชีวิตล่องลอยไปวันๆ โอเมก้า [ Ω ] ...ชนชั้นล่างที่แทบจะไม่ถูกเรียกว่ามนุษย์ ...เศษสวะในสังคม ชิ้นเนื้อไร้ค่าที่สังคมตัดทิ้งไม่ได้จึงต้องเอาไปใช้ ประโยชน์ในการเล่นสนุกของเหล่าชนชั้นสูงที่เรียกว่า ‘เกม’ เมื่อคนที่เกิดมาในชนชั้นสูงอย่าง ‘เจเรมี เมอร์ซี’ บุตรชายโทนของหนึ่งในตระกูลผู้นำเกิดอาการฮีท ความจริงที่ว่าเขาเป็นโอเมก้า ไม่ใช่อัลฟ่าทำให้เขาถูกลดลำดับชนชั้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นจอมวายร้ายอย่างเขาจะไปยืดอกยอมรับได้อย่างไร ความดื้อดึงทำให้คนที่พยายามปกป้องเขาถูกจับเป็นตัวประกัน เจเรมีจึงต้องกระโจนลงไปในเกมที่มีชีวิตเป็นเดิมพันอย่างไร้ทางเลือก การตัดสินใจบ้าคลั่งนั้นทำให้เขาได้เจอกับ ‘คริส ฟ็อกซ์’ อัลฟ่าตระกูลผู้นำจากแดนอื่นที่ถูกจองจำในข้อหากบฏ เป้าหมายของคริสมีอย่างเดียวคือแย่งชิงโอเมก้ามาเป็นของตัวเองให้ได้ ชัยชนะจะทวงคืนอิสระของเขาที่ถูกริดรอนไปแต่การครอบครองโอเมก้าอย่างเจเรมีนั้นไม่ง่ายเลย …เหมือนกำลังสู้กับปีศาจอยู่ก็ไม่ปาน เจเรมีจะเลือกฆ่าทุกคนเพื่อที่จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ หรือยอมตกเป็นสมบัติของอัลฟ่าสักคนเพื่อแลกกับชีวิตของคนที่รัก เป็นสิ่งที่ใครก็คาดเดาไม่ได้จริงๆ...

บทที่ 1 ตอนที่ 1

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มีความหลากหลาย มีอัตลักษณ์เป็นของตนเอง ทว่าบางครั้งความหลากหลายเหล่านั้นก็ก่อให้เกิดปัญหา หนทางที่จะขจัดปัญหาเหล่านั้นออกไป ดูเหมือนจะมีเพียงหนทางเดียว... ควบคุมระบบความคิดของมนุษย์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

การจำแนกลักษณะทางกายภาพของมนุษย์จึงถือกำเนิดขึ้น การจัดลำดับทางชนชั้นเพื่อให้สมาชิกในสังคมปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ที่พึงมีของตนถูกนำมาใช้เป็นรากฐานในการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกัน การผลักดันให้กลุ่มคนที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นตัวปัญหาหลักของสังคมลงไปอยู่ชั้นล่างสุดของห่วงโซ่อาหารเป็นเรื่องที่ควรกระทำ กลุ่มคนที่มีจำนวนมากทว่าไร้ความสามารถถูกนับเป็นประชากรส่วนใหญ่ ขณะที่กลุ่มคนจำนวนมากที่สุดเป็นลำดับสองและมีความสามารถมากเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจในการถือครองสิทธิ์และควบคุมปัจจัยต่างๆ แนวความคิดจารีตประเพณีของสังคมล้วนกลั่นกรองออกจากมันสมองของคนกลุ่มนี้ แน่นอนว่าเป็นความคิดที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและประเสริฐที่สุดแล้วสำหรับทุกชีวิต

ทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติตาม จำเป็นต้องยอมรับอย่างไร้เงื่อนไข การกระทำตามบทบาทหน้าที่ทุกอย่างต้องไปในแนวทางเดียวกันตามสถานะทางสังคมของตนเอง ทั้งหมดก็เพื่อ...ความสงบเรียบร้อย

หากแต่การจัดลำดับชนชั้นของกลุ่มคนจากยอดพีระมิดออกจะแปลกเสียหน่อย พวกเขาไม่ได้วัดค่าคนจากความสามารถหรือจำแนกบุคคลจากต้นกำเนิดและวงศ์ตระกูล หากแต่เป็น... เพศ

ในโลกนี้มีเพศสรีระที่มองเห็นได้ด้วยตาอยู่สองลักษณะซึ่งก็คือเพศชายและเพศหญิง ทว่าเพศที่เป็นเครื่องมือในการแบ่งชนชั้นกลับเป็นเพศอีกรูปแบบหนึ่งที่แยกออกมาจากเพศสรีระ

อัลฟ่า [ α ] ...เพศที่ถือครองสิทธิ์ทุกอย่างในสังคม ความสามารถอันโดดเด่นทำให้ได้รับการยกย่องเป็นชนชั้นสูงของสังคม

เบต้า [ β ] ...เพศส่วนมากของประชากรทั่วไป ชนชั้นกลางของสังคมที่มีชีวิตตามครรลองที่อัลฟ่ากำหนดให้

และโอเมก้า [ Ω ] ...เพศที่ถูกบีบให้เป็นชนชั้นล่างและแทบจะไม่ถูกเรียกว่ามนุษย์ด้วยถูกขนานนามว่าเป็น ‘ตัวปัญหาของสังคม’

ชนชั้นสุดท้ายเป็นประชากรชั้นสองที่มีจำนวนน้อยที่สุดชนิดเรียกได้ว่ามีเพียงหยิบมือและที่ถูกเรียกว่าเป็นตัวปัญหามีสาเหตุมาจากเหล่าอัลฟ่าเห็นว่าพวกโอเมก้ามีอำนาจบางอย่างที่ได้จากธรรมชาติในการทำให้อัลฟ่าแตกคอกันเอง ในภาษาทางการเรียกว่าการ ‘ฮีท (Heat)’ อาการอันเป็นสัญลักษณ์ของการเรียกร้องการสืบพันธุ์ซึ่งจะมีการปล่อยฟีโรโมนออกมาในแต่ละช่วงของทุกเดือน และสารเคมีจากร่างกายของโอเมก้านั้นมีผลต่อปฏิกิริยาคลุ้มคลั่งของอัลฟ่า

กี่ทศวรรษแล้วที่เหล่าอัลฟ่าต้องเปิดศึกนองเลือดฆ่ากันเองเพียงเพราะแย่งชิงโอเมก้า เพื่อไม่ให้เสียบุคลากรในกลุ่มอัลฟ่าไปอย่างไร้ประโยชน์ การจำกัดการขยายพันธุ์ของโอเมก้าจึงเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด การกวาดล้างครั้งใหญ่ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อไม่ช้านานนี้ เด็กที่เกิดมาพร้อมกับเพศนี้มักจะถูกสังหารตั้งแต่ลืมตาเป็นทารก หากแต่ในระยะหลังการสังหารเริ่มจะเบาบางลงเมื่อมีเรื่องของเงินตราเข้ามาเกี่ยวข้อง

จาก ‘สิ่งมีชีวิตที่ควรกำจัด’ กลายเป็นชิ้นเนื้อไร้ค่าที่มีดีแค่ตอบสนอง ‘ความต้องการ’ ให้กับอัลฟ่าเท่านั้น แต่มีหลายครั้งเช่นกันที่โอเมก้ากลายเป็น ‘เครื่องจักรผลิตทายาท’ ตามแต่จุดประสงค์ของอัลฟ่าผู้ถือครองแต่ละคน

และใช่... เพศโอเมก้า ไม่ว่าสรีระจะเป็นชายหรือหญิงต่างสามารถให้กำเนิดทายาทได้ หากแต่ถ้าตั้งท้องให้กับอัลฟ่าแล้วเด็กที่เกิดมาเป็นโอเมก้า ชีวิตเล็กๆ นั่นจะไม่ได้รับการไยดี อาจถูกสังหารหรือส่งขายทอดตลาดมืดก็เป็นเรื่องที่อัลฟ่าผู้เป็นเจ้าของจะตัดสินใจ ถึงจะเป็นผู้สืบสายเลือด แต่ถ้าหากเป็นโอเมก้าแล้ว ชนชั้นสูงอย่างอัลฟ่าก็ไม่มีทางยอมรับ สายเลือดบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะได้รับการนับญาติ แม้ความจริงจะเกิดจากเศษสวะชั้นต่ำของสังคม แต่อัลฟ่าก็คืออัลฟ่า และอัลฟ่าก็จะไม่มีทางเป็นโอเมก้าเด็ดขาด

ไม่มีวัน...

บทเรียนในชั้นเรียนของสถาบันพัฒนาบุคลากรของชนชั้นสูงแห่งมหานครเพิร์ลสร้างความเบื่อหน่ายให้กับชายหนุ่มผมบลอนด์ไม่น้อย เขาจำไม่ได้ดีนักว่าตนได้ยินผู้เป็นอาจารย์สาธยายความสูงส่งของอัลฟ่าและสาเหตุที่ทำให้เกิดการแบ่งแยกชนชั้นมากี่ครั้งแล้ว แต่จำได้ว่าได้ยินเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่จำความได้ ระบบความคิดว่าอัลฟ่าเป็นเพศที่สูงส่ง ส่วนโอเมก้าเป็นเพศที่ต่ำช้าเข้าหูเขานับครั้งไม่ถ้วน หากชายหนุ่มกลับไม่เห็นว่าจะสมเหตุสมผลตรงไหนเลย นอกจากคิดว่ามันไม่ยุติธรรม

ถูกแล้ว... ไม่ยุติธรรมสำหรับพวกโอเมก้าหรือแม้แต่เบต้าที่เรียกได้ว่าเป็นแรงงานสำคัญของระบบเศรษฐกิจเอง ถึงระบบความคิดนี้จะเอื้อให้อัลฟ่าอย่างเขาได้รับผลประโยชน์สูงสุด แต่หากมองในมุมของเขา เขากลับคิดว่าถึงความยุติธรรมจะมีไม่เท่าเทียมกัน อย่างน้อยพวกโอเมก้าก็สมควรได้รับการมองว่าเป็น ‘มนุษย์’ บ้าง ไม่ใช่เครื่องมือผลิตทายาท สิ่งของบำบัดความใคร่ หรือของเล่นในเการเรียนการสอนปัญญาอ่อนอย่างที่เขาเห็นตรงหน้านี้

ดวงตาสีฟ้าสว่างกลอกขึ้นบนเล็กน้อยเมื่อเห็นโอเมก้าชายคนหนึ่งในสภาพเปลือยท่อนบนถูกมัดติดกับเก้าอี้หน้าชั้นเรียน สีหน้าของอีกฝ่ายดูทุกข์ทรมาน เนื้อตัวแดงเรื่อให้พอรู้ได้ว่าเลือดภายในสูบฉีดเพียงใด ดวงตาเรียวหรี่ปรือ หายใจหอบหนักและดูไม่ค่อยจะมีสติสักเท่าไหร่ ดูท่าอีกไม่นาน สติสัมปชัญญะคงจะหลุดเป็นแน่

“เพราะโอเมก้ามีกลิ่นฟีโรโมนที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศซึ่งส่งผลกระทบต่ออัลฟ่าโดยตรง เราจึงจำเป็นต้องควบคุมจำนวนอย่างที่พวกคุณรู้กันเพราะไม่อย่างนั้นมันจะเป็นปัญหา ผมเชื่อว่าพวกคุณบางคนคงเคยเห็นโอเมก้ามากันบ้าง แต่บางคนอาจจะไม่เคยรู้ว่าฤทธิ์ของกลิ่นฟีโรโมนมันรุนแรงขนาดไหน ต่อให้พวกคุณอัดยาต่อต้านการตอบสนองต่อฟีโรโมนของโอเมก้าเข้าไป แต่ถ้าโอเมก้าปล่อยฟีโรโมนออกมาถึงขีดสุด ยาอะไรก็ยากที่จะระงับ เหมือนอย่างตอนนี้ที่ผมให้ยากระตุ้นฟีโรโมนกับโอเมก้าเข้าไป พวกคุณจะรู้สึกตื่นเต้นโดยไม่มีสาเหตุ ส่วนโอเมก้าก็จะมีอาการประมาณนี้”

ผู้สอนประจำคลาสอธิบายพลางใช้เลเซอร์พอยเตอร์ส่องไปยังร่างกายของโอเมก้าคนนั้น ขณะที่บรรดานักศึกษาในชั้นเรียนที่ผ่านการทานยาต่อต้านการตอบสนองต่อฟีโรโมนของโอเมก้าเข้าไปแล้วมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเมื่อจมูกได้กลิ่นหอมหวานแปลกๆ ลอยโชยมา อัลฟ่าชายบางคนมีอาการตอบสนองขึ้นมาเล็กน้อยด้วยซ้ำ

สายตาของหนุ่มผมบลอนด์เหลือบมองยังเป้ากางเกงของเพื่อนร่วมชั้นที่มีรอยนูนขึ้นมาพลันหัวเราะหึในลำคอ

น่าสมเพช!

อาจจะมีแค่เขาคนเดียวที่คิดว่าแนวความคิดที่ถูกยัดเยียดฝังหัวในสังคมนี้มันเป็นเรื่องทุเรศ

“ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมบางครั้งพวกเราต้องกำจัดโอเมก้าทิ้ง เพื่อรักษาจำนวนของอัลฟ่าและความสงบสุขของสังคมเอาไว้ ต่อให้การกระทำนั้นมันโหดร้ายไปหน่อยก็ต้องทำ”

พอได้ยินศาสตราจารย์อธิบายต่ออย่างนั้น คนที่มองเหตุการณ์อยู่ตลอดก็ผินหน้าหนี ยกแขนขึ้นเท้าคาง ทำหูทวนลมด้วยความระอา

รักษาความสงบสุขของสังคมงั้นเหรอ... ตั้งแต่เกิดมาเห็นจะมีแต่อัลฟ่านี่แหละที่รังแกโอเมก้า ไม่เคยเห็นโอเมก้าคนไหนก่อความวุ่นวายเลย ดูอย่างตอนนี้สิ มีแต่โอเมก้าที่ถูกรังแก ไหนว่าเป็นตัวปัญหาไง ย้อนแย้งชะมัด

แนวความคิดทุเรศจนไม่อยากจะได้ยินได้ฟังอีก หากแต่ปฏิเสธไปก็เท่านั้นเมื่อผู้สอนเห็นว่าลูกศิษย์ในคลาสคนหนึ่งออกอาการเมินต่างจากคนอื่นๆ ที่ตื่นเต้นกันจนเนื้อตัวสั่น

“ตั้งใจฟังหน่อยคุณเมอร์ซี ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่คลาสของผมจะพาโอเมก้าตัวเป็นๆ มาให้พวกคุณศึกษาอย่างใกล้ชิดได้”

คนถูกเรียกว่าเมอร์ซี หรือชื่อเต็มๆ เจเรมี เมอร์ซี เหลือบสายตากลับไปยังชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่กลางห้อง คำพูดนั้นทำให้เขาต้องแสยะยิ้มออกมา

“ก็คุณไม่พาเขาออกมาจากห้องนอนของคุณ แล้วผมจะศึกษาอย่างใกล้ชิดได้ไงล่ะศาสตราจารย์ วันหลังก็รู้จักพาเขาออกจากห้องบ้าง ไม่ใช่ให้อยู่แต่บนเตียง”

คนถูกย้อนหน้าม้าน จริงอยู่ที่โอเมก้าซึ่งใช้เป็นตัวอย่างในการศึกษาเป็น ‘คนของเขา’ แต่จะเป็นไปเพื่ออะไรนั้นก็ไม่เห็นต้องพูดออกมาเลยนี่ รู้กันอยู่แก่ใจแล้ว การพูดออกมาโต้งๆ แบบนี้มันไร้มารยาทชะมัด

“ระวังคำพูดด้วย สำหรับผม เขาก็แค่เพื่อการศึกษา”

“ระวังอย่าหักโหมก็แล้วกันครับ คุณอายุมากแล้ว” เจเรมียังคงยอกย้อน

ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่ได้สอน ชายหนุ่มคนนี้มักแสดงท่าทีกระด้างกระเดื่องออกมาเสมอ ต่างจากอัลฟ่าคนอื่นๆ ที่เห็นดีเห็นงามด้วย และไม่ใช่แค่กับเขาคนเดียว กับผู้สอนคนอื่นๆ ก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน หากคิดถึงตรงนี้ก็ไม่แปลกใจนักเมื่อตระหนักได้ว่าคนคนนี้มาจากตระกูล ‘เมอร์ซี’

...ตระกูลหนึ่งในสี่ของกลุ่มผู้มีอำนาจในการปกครองมหานครแห่งนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ของสภา

ถึงจะเป็นพวกชอบค้านกันตั้งแต่ต้นตระกูลยันรุ่นลูกหลาน กระนั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เจเรมีจะมาอวดเบ่งในคลาสเรียนของเขาอย่างนี้ ก่อนศาสตราจารย์จะยกมือขึ้นกอดอก พูดอย่างจริงจัง

“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณไม่ชอบหน้าผมเพราะอะไร แต่อยากจะขอแนะนำว่าคุณควรตั้งใจให้มากกว่านี้ ต่อให้เหม็นขี้หน้าหรือหัวข้อประวัติศาสตร์การปกครองของผมจะน่าเบื่อ มันก็เป็นสิ่งที่อัลฟ่าต้องเรียนรู้ไว้โดยเฉพาะคนที่มาจากตระกูลนักปกครองอย่างคุณ”

ใจก็แค่อยากจะเตือนให้อีกฝ่ายตระหนักถึงหน้าที่ของตน หากแต่เจเรมีไม่ได้สนใจสักนิด ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มพราย

“การสอนของคุณก็ใช่ว่ามันจะห่วยแตกหรอกนะ แต่ผมคิดว่าแนวความคิดการปกครองอะไรนั่นมันฟังดูล้าหลังไปหน่อย”

ถูกปรามาสไม่พอ ยังโดนลูบคม คนฟังถึงกับหน้าตึง สูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรงแล้วถามออกมา

“ล้าหลังยังไง ลองพูดมาสิ”

อยากจะแลกเปลี่ยนความคิดงั้นเหรอ ก็ได้ เขาจะลองรับฟังดูสักหน่อย อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่เอาแต่ต่อต้านไปเสียทุกเรื่องจะพูดอะไรได้บ้าง

ในเมื่อเปิดโอกาสให้แล้ว เจเรมีก็ยืดตัวขึ้น ว่าด้วยน้ำเสียงสบายๆ

“ผมคิดว่าไอ้ความคิดเรื่องโอเมก้าต้องถูกกำจัดถ้ามีปริมาณเยอะขึ้นมันทุเรศน่ะ เอาจริงๆ พวกนั้นมันก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเราใช่ไหมล่ะ ทำไมถึงถูกกำหนดให้เป็นเหยื่อ ในเมื่อเลือกเกิดไม่ได้ เลือกเพศก็ไม่ได้ อย่างน้อยก็น่าจะมีสิทธิ์เลือกวิถีชีวิตตัวเองสิจริงไหม ผมว่าจริงๆ แล้วตัวปัญหาของสังคมอะไรที่คุณพูดนั่นไม่น่าจะใช่โอเมก้าด้วยซ้ำไปนะ แต่เป็นพวกอัลฟ่าอย่างคุณกับผมนี่แหละ”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ หนูแดง หนูแดงตัวน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ