5.0
ความคิดเห็น
1.1K
ชม
46
บท

โจชัว โจนส์ ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลเอิร์ลอันเก่าแก่ในประเทศอังกฤษ บุตรชายซึ่งเกิดจากภรรยาลับของเจคอบ โจนส์ เพิ่งจะถูกนับญาติก็ตอนเมื่อไม่มีใครสืบทอดสมบัติของตระกูล โชคที่เหมือนจะดีนำพาเขาเข้าสู่วังวนพันธะแห่งบาปอันซึ่งตกทอดมาสู่รุ่นต่อรุ่น ในเมื่อเขาเป็นหนึ่งในผู้สืบสายเลือด เขาก็จำต้องมีชะตากรรมตกอยู่ในห้วงคำสาปโดยที่เขาไม่ได้ก่อ ปริศนาที่คฤหาสน์ประจำตระกูลนั้นเก็บซ่อนอยู่จำเป็นต้องเร่งไขให้กระจ่างก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้ด้วยความช่วยเหลือของ ออแลนโด้ ลอว์เรนซ์ สายสัมพันธ์เสน่หาก่อตัวขึ้นรางๆ ภายใต้เงามืดของภายใต้เงามืดของทูตผู้นำพามาซึ่งคำสาปอาถรรพ์

บทที่ 1 โจชัว โจนส์

เสียงบาทหลวงผู้ดำเนินพิธีศพของหญิงวัยกลางคนซึ่งนอนสงบนิ่งอยู่ในโลงไม้ตรงหน้า ดังระคนกับเสียงเม็ดฝนโปรยปรายกระทบพื้นหญ้า สร้างความหดหู่ให้กับผู้ร่วมพิธีเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปี ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายคนเดียวของผู้จากไป ดวงตาสีมะฮ็อกกานีฉายแววโศกเศร้าอย่างชัดแจ้ง หากแต่ไม่มีน้ำตาเอ่อคลอให้เห็นสักหยด มีเพียงความสงบนิ่งราวกับเขารับรู้มานานแล้วว่าสักวันก็คงจะมีวันนี้ ...วันที่พระเจ้าพรากบุคคลอันเป็นที่รักไปจากเขาตลอดกาล...

“...ดังนั้นพวกเราจึงมอบร่างกายของเธอสู่พื้นดิน จากดินสู่ดิน จากเถ้าสู่เถ้า จากธุลีสู่ธุลี ในความแน่นแท้และความหวังอันไว้วางใจได้ของการคืนชีพสู่ชีวิตอันชั่วนิรันดร์”

ดินในกำมือถูกโปรยลงไปบนโลงศพเป็นพิธีการสุดท้าย ก่อนเหล่าสัปเหร่อจะช่วยกันกลบฝังร่างแม่ของชายหนุ่มให้หลับใหลภายใต้ผืนดินแห่งนี้ไปตลอดกาล

“เธอกลับคืนสู่อ้อมอกของพระบิดาแล้ว อย่าได้เป็นห่วงไปเลยครับคุณโจนส์”

บาทหลวงผู้ประกอบพิธีเอ่ยเบาๆ กับเขา เรียกให้ ‘โจชัว โจนส์’ หันไปมองใบหน้าเหี่ยวย่นทว่าแฝงด้วยความโอบอ้อมอย่างช้าๆ ก่อนจะตอบรับสั้นๆ

“ครับ ผมก็หวังว่าแม่คงจะสบาย”

“คุณนายเป็นคนดี พระเจ้าต้องรักเธออย่างแน่นอน”

“ครับ”

จริงๆ ก็ตอบรับไปอย่างนั้น เขาไม่มีความเชื่อในเรื่องพระเจ้าด้วยซ้ำไป เว้นเสียแต่ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายเช่นแม่ของเขาที่หันหน้าเข้าหาศาสนาอันเป็นที่พึ่งสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นใจ จึงทำให้บาทหลวงประจำโบสถ์แห่งนี้สนิทสนมกับครอบครัวมากเป็นพิเศษ ในเมื่อเห็นว่าเป็นความสุขของแม่ในช่วงชีวิตสุดท้าย โจชัวจึงยินยอมให้แม่ทำตามใจโดยไม่มีข้อแม้ เพียงต้องการยืดเวลาให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้นานที่สุดเท่านั้น แต่กระนั้น ร่างกายเธอก็ไม่อาจต้านทานโรคร้ายที่กัดกินดุจปรสิตนี้ได้

“พ่อขอตัวก่อน ไว้เจอกันนะคุณโจนส์”

“ครับ”

โจชัวจ้องมองแผ่นหลังชายชราที่เดินห่างออกไปครู่หนึ่ง ก่อนกลับมาให้ความสนใจกับหลุมศพของแม่อีกครั้ง เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเพียงก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเธอยังมีชีวิตอยู่ เขาไม่เคยรู้สึกว่าโลกทั้งใบหันหลังให้เขาเท่ากับวันนี้มาก่อนเมื่อสมาชิกในครอบครัวคนเดียวที่เขามีได้จากไป คนที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเขา นึกไม่ออกเลยว่าต่อจากนาทีนี้ชีวิตจะดำเนินไปอย่างไร เงินสะสมจากการทำงานทั้งหมดก็หมดไปกับค่ารักษาพยาบาล ต้องออกจากมหาวิทยาลัยกลางคันเพราะความเจ็บป่วยของแม่ ซ้ำร้าย เจ้าของห้องเช่าที่เช่าอยู่ก็ไม่ยอมให้ค้างค่าเช่าอีกต่อไป อาทิตย์นี้ก็เป็นอาทิตย์สุดท้ายสำหรับการหาที่อยู่ใหม่พร้อมกับหนี้ค่าเช่าก้อนโตที่ต้องสะสาง

ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าควรจะร้องไห้ดีหรือไม่ ในหัวคิดถึงแต่ปัญหามากมายที่วนเวียนเข้ามาอย่างสับสน โดยไม่ทันสังเกตเห็นใครบางคนเดินมาจากข้างหลัง ก่อนเขาจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อน้ำเสียงแหบห้าวเอ่ยขึ้น

“ขอโทษนะครับ คุณใช่โจชัว โจนส์หรือเปล่า”

“อ่ะ...อ๋อ ใช่ครับ”

โจชัวหลุดออกจากภวังค์ ดวงตาปราดมองชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานในชุดสูทสีดำอย่างสงสัยด้วยไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน และค่อนข้างมั่นใจว่าทั้งเขาและแม่ไม่เคยรู้จักแต่อย่างใด ฝ่ายตรงข้ามพอเห็นสีหน้าสงสัยของชายหนุ่ม ก็รีบล้วงนามบัตรออกจากกระเป๋าเสื้อสูทส่งให้พร้อมกับแนะนำตัว

“ผมคือทนายคอนเนอร์ครับ เป็นทนายประจำตระกูลโจนส์ ตระกูลของคุณพ่อคุณน่ะครับ”

ว่าพลางกระชับร่มสีดำในมืออีกข้างเพื่อดึงไม่ให้กระเป๋าเอกสารซึ่งหนีบไว้ที่สีข้างไหลร่วงลงไป พลางส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“คุณพ่อหรือ”

“ครับ คุณ เจคอบ โจนส์ น่ะครับ”

โจชัวเกือบลืมไปแล้วว่าตนก็มีพ่อด้วย เนื่องจากพ่อของเขานั้นไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดู ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่แม่เท่านั้นที่ทำงานทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูเขาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แต่ก็เคยได้ยินแม่เล่าให้ฟังอยู่เหมือนกันว่าพ่อนั้นเป็นบุตรหลานของตระกูลเอิร์ล1 เก่าแก่ตระกูลหนึ่งของอังกฤษ เป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาหมายปองซึ่งครั้งหนึ่งเคยคบหากับแม่ของเขาทั้งๆ ที่ตนมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว พอพลาดพลั้งให้กำเนิดเขาขึ้นมา ผู้เป็นปู่จึงบังคับให้แต่งงานและยัดเงินให้แม่เขาก้อนหนึ่งเพื่อให้ตัดขาดจากพ่อด้วยเหตุผลว่าตระกูลโจนส์จะต้องรักษาสายเลือดชั้นสูงเอาไว้ ซึ่งมันไร้สาระมากสำหรับศตวรรษนี้ และเขาเองก็ไม่เคยได้พบพ่อสักครั้งเพราะแม่กีดกัน กระนั้นก็น่าแปลกที่ยอมให้เขาใช้นามสกุลของพ่อ แทนที่จะใช้นามสกุลตามแม่

อย่างไรก็ตาม โจชัวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากว่าใครจะเป็นพ่อหรือจะใช้นามสกุลตามใคร นอกเหนือจากอดแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใดจู่ๆ ทนายประจำตระกูลถึงได้มาหาเขาในวันนี้

“แล้วมีธุระอะไรกับผมหรือครับ”

“คุณคงทราบข่าวอุบัติเหตุของคุณโจนส์กับคุณนายโจนส์แล้วสินะครับ”

“อุบัติเหตุหรือครับ”

“ครับ อุบัติเหตุทางรถยนต์ของทั้งคู่เมื่ออาทิตย์ก่อนน่ะครับ”

บอกตรงๆ ว่าจำไม่ได้เพราะมัวแต่วุ่นวายอยู่กับอาการป่วยของแม่ แต่ก็พอคุ้นหูได้ยินผ่านๆ มาอยู่บ้างว่าพ่อและแม่เลี้ยงประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหลังจากไปพักตากอากาศที่คฤหาสน์ในชนบท สีหน้าท่าทางเหมือนนึกออกของโจชัว ทำให้ทนายคอนเนอร์รีบพูดต่อถึงการมาในวันนี้ของตนทันที

“ที่ผมมาในวันนี้ก็เพราะผมต้องจัดการพินัยกรรมให้กับทายาทผู้มีสิทธิอันชอบธรรมในทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลโจนส์ ซึ่งนั่นก็คือคุณซึ่งเป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย นับว่าแม่คุณฉลาดนะครับที่ให้คุณใช้นามสกุลคุณโจนส์แทนที่จะเป็นนามสกุลตัวเอง บังเอิญจริงๆ ที่คุณนายโจนส์ก็เสียชีวิตด้วย ไม่อย่างนั้นทรัพย์สินทั้งหมดคงไม่ตกมาถึงคุณอย่างแน่นอน”

โจชัวหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย รู้สึกว่าชายตรงหน้านี้พูดไม่เข้าหูเอาเสียเลย หากแต่ไม่ได้พูดโต้ตอบแต่อย่างใด ยืนมองทนายคอนเนอร์ด้วยสายตาว่างเปล่าขณะที่เจ้าตัวยังพูดจ้อไม่หยุด

“เดี๋ยวผมจะแจ้งรายละเอียดทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลให้ฟังนะครับ แต่ตอนนี้ผมว่าเราเข้าไปหลบในที่ร่มก่อนดีกว่า ฝนเริ่มตกหนักกว่าเดิมแล้ว”

คอนเนอร์เชิญชวนก่อนรีบจ้ำเดินไปยังโบสถ์ที่อยู่ห่างออกไปเพียงเล็กน้อย ทิ้งให้โจชัวเดินตามหลังอย่างช้าๆ ฝ่าหยาดฝนโปรยปรายเข้าสู่วังวนแห่งพันธะบางอย่างโดยไม่รู้ตัว

“ตามที่พินัยกรรมระบุ ทายาทโดยชอบธรรมจะมีสิทธิในทรัพย์สินทั้งหมดของคุณเจคอบ โจนส์ รวมถึงหุ้นส่วนธุรกิจและที่ดินเก่าแก่ของตระกูล ทั้งนี้ ผมในฐานะทนายได้รับมอบหมายให้ดูแลธุรกิจก่อนชั่วคราวและสอนคุณโจชัวให้รู้วิธีการบริหารภายในระยะเวลาไม่ 3 ปี จากนั้นทรัพย์สินในส่วนนี้จะเป็นของคุณโจชัวโดยสมบูรณ์ สรุปคือคงจะมีแต่พวกหุ้นส่วนนะครับที่ยังไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ขาดให้ทั้งหมดได้”

ทนายคอนเนอร์ว่ายาวพร้อมจัดแจงเอกสารสำคัญต่างๆ ในมือให้เรียบร้อยหลังจากอธิบายสิทธิในทรัพย์สินของตระกูลให้กับทายาทคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ของตระกูลโจนส์เป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ผู้ฟังไม่มีท่าทีสนอกสนใจในรายการทรัพย์สินซึ่งตนเพิ่งได้รับอย่างตกกระไดพลอยโจนสักนิด มีเพียงใบหน้านิ่งเรียบและดวงตาคู่สวยมองจ้องไปยังใบหน้าของชายวัยกลางคนตรงหน้าเท่านั้น

“มีคำถามอะไรมั้ยครับ”

ทนายคอนเนอร์ละมือจากเอกสาร เงยหน้าขึ้นมาถาม เขามองลอดกรอบแว่นตา ประจันสายตาโดยไม่แสดงความประหม่าใดๆ จากดวงตาสีมะฮ็อกกานีนั่นสักนิด

โจชัวเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนตอบ

“ไม่มีครับ”

“โอเคครับ งั้นธุระของผมกับคุณสำหรับวันนี้ก็หมดแล้วล่ะ”

“ขอบคุณที่แจ้งข่าวครับ”

“ยินดีครับ”

โจชัวว่าแล้วละสายตาจากทนายคอนเนอร์ไปกวาดมองประติมากรรมรอบๆ ตัวโบสถ์นิกายโรมันคาธอลิกแห่งนี้ เขาแทบนับครั้งได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมานั้นเคยเข้ามาเหยียบโบสถ์กี่ครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นประติมากรรมสมัยใหม่ แต่มันก็ทำให้คนห่างร้างไกลศาสนาอย่างเขาสนใจได้ไม่น้อย ขณะที่ทนายคอนเนอร์เองก็ชื่นชมความงามบางอย่างอยู่เช่นกัน พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้สำหรับอธิษฐานภายในโบสถ์ บิดตัวแสดงอาการเมื่อยล้าออกมาเล็กน้อย สายตาชำเลืองจับจ้องใบหน้าเรียวสวยได้รูปของชายหนุ่มอย่างชื่นชม ผมหยักศกสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่านั่นยิ่งขับให้เขาแลดูงามงดราวกับรูปปั้นเทพบุตรกรีกก็ไม่ปาน มีเพียงใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ นั่นแหละที่ไม่ค่อยเจริญหูเจริญตาสักเท่าไหร่นัก แต่ก็นับว่าโจชัวนั้นมีรูปร่างหน้าตาดีกว่าเจคอบ ผู้เป็นพ่ออยู่มากโข

ดูท่าทางจะได้แม่มาเยอะ

เปรี้ยง!

พินิจพิจารณาความงามของชายหนุ่มตรงหน้าได้ไม่เท่าไหร่ พลันเสียงฟ้าร้องก็ลั่นดังกัมปนาท ทำเอาชายทั้งสองสะดุ้งสุดตัว มองหน้ากันเลิ่กลั่กพลัน ครู่เดียว ทนายคอนเนอร์ก็เป็นฝ่ายแค่นหัวเราะแก้เก้อออกมาก่อนจะพูดเรื่องลมฟ้าอากาศ

“พายุคงจะเข้าแน่ๆ ดูสิ หลังคาโบสถ์กระทบกันกึงกังเชียว โบสถ์นี่ก็เก่าแล้วด้วย น่ากลัวหลังคาจะพังลงมาเสียจริง”

คำพูดของเขาทำให้โจชัวต้องตั้งใจฟังเสียงเม็ดฝนและกระแสลมแรงซัดหลังคาโบสถ์อย่างตั้งใจ จริงอย่างที่ทนายคอนเนอร์พูด หากอยู่นานกว่านี้ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เห็นหลังคาโบสถ์ทะลุลงมาจริงๆ ก็ได้

“ผมว่าเรากลับกันดีกว่ามั้ย ดูท่าไม่ค่อยดีซะแล้วสิ”

“เอาสิครับ”

โจชัวเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ ก่อนทั้งคู่จะพากันวิ่งฝ่าพายุฝนบ้าคลั่งออกไปนอกตัวโบสถ์ แม้จะมีร่ม แต่ก็หาได้ช่วยกันอะไรได้มากมายเท่าไหร่นัก ไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึงยังลานจอดรถ ทนายคอนเนอร์กดรีโมทปลดล็อครถเก๋งคู่ใจ ก่อนยกมือป้องปากตะโกนเรียกชายหนุ่มที่กำลังตั้งท่าจะวิ่งต่อออกไปยังประตูรั้วของโบสถ์

“คุณโจนส์ครับ! ไปด้วยกันสิ เดี๋ยวผมขับไปส่ง!”

โจชัวชะงักขาพลัน หันกลับมาตะโกนบอก “ไม่ต้องหรอกครับคุณคอนเนอร์ สถานีรถไฟใต้ดินอยู่ใกล้ๆ นี่เอง วิ่งไปแป๊บเดียวก็ถึง!”

“เวลาอย่างนี้กว่าจะได้ขึ้นรถไฟ คงต้องฝ่าฝูงคนอีกเยอะ มาเถอะครับ! ผมไปส่งเอง!”

โจชัวยืนพิจารณาครู่เดียวก็ตัดสินใจตอบตกลงพลัน วิ่งย้อนกลับมายังรถของทนายคอนเนอร์ก่อนแทรกตัวขึ้นไปนั่งข้างเบาะคนขับ เนื้อตัวเปียกโชกทำเอาหยดน้ำหยดแหมะในรถราวกับน้ำตกจนโจชัวรู้สึกเกรงใจขึ้นมา

“ขอโทษที่ทำรถคุณเลอะเทอะนะครับ”

“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกครับ เปียกแค่นี้มันทำความสะอาดได้ แต่ถ้าพินัยกรรมของตระกูลคุณเปียกนี่สิ ผมซวยแน่”

ทนายคอนเนอร์ยิ้มรับอย่างใจดี เขาไม่เป็นห่วงรถตัวเองกับเรื่องแค่นี้หรอก สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือกระเป๋าเอกสารที่เก็บพินัยกรรมทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้านปอนด์มากกว่า ขืนมีเอกสารแผ่นใดแผ่นหนึ่งเสียหายขึ้นมา เขานี่แหละที่จะแย่

เขาใช้ผ้าเช็ดซับหยาดน้ำฝนบนกระเป๋าเอกสารอยู่ครู่ใหญ่จนเสร็จ ก่อนจะนำมันไปวางไว้บนเบาะหลังอย่างเบามือ พลันหันมาติดเครื่องยนต์ ถามคนข้างๆ ถึงที่หมายปลายทาง

“แล้วคุณโจชัวพักอยู่แถวไหนหรือครับ”

“ขับไปตามถนนสายหลักน่ะครับ ใกล้ถึงแล้วผมจะบอกอีกที”

โจชัวไม่บอกสถานที่ชัดเจนด้วยไม่ต้องการให้ทนายคอนเนอร์ถามอะไรจุกจิก เช่นว่าทำไมถึงไปอยู่ย่านนั้น เป็นถึงทายาทเศรษฐีระดับแนวหน้าของประเทศ ทำไมถึงไม่ไปอยู่ที่หรูๆ เป็นต้น ส่วนทนายคอนเนอร์เองก็พอจะเดาใจชายหนุ่มออก จึงไม่ถามอะไรออกไปอีก นอกจากขับรถออกไปตามเส้นทางที่โจชัวบอกเท่านั้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หนูแดง หนูแดงตัวน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
รับผมเป็นพ่อของลูกนะครับ[Mpreg]

รับผมเป็นพ่อของลูกนะครับ[Mpreg]

นิยายวาย

5.0

เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!

อาคิรา ครุฑใต้ตะวัน

อาคิรา ครุฑใต้ตะวัน

โรแมนติก

5.0

เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!

แม่หยาดฟ้าของไอ้หมาดิน

แม่หยาดฟ้าของไอ้หมาดิน

โรแมนติก

5.0

“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ

ลักรัก

ลักรัก

นิยายวาย

5.0

เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!

นักพรตเจ้าสำราญ

นักพรตเจ้าสำราญ

นิยายวาย

5.0

แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!

ระบำทะเลทราย

ระบำทะเลทราย

นิยายวาย

5.0

หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ภรรยาหวานใจคือบอสตัวจริง ได้รับความรักเอาใจสุด ๆ!

ภรรยาหวานใจคือบอสตัวจริง ได้รับความรักเอาใจสุด ๆ!

Devi Frair
5.0

ได้ข่าวว่าเจ้าเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่ทำให้ครอบครัวลี่ล่มสลาย ถูกขับไล่ออกจากประเทศไปหลายปี… ตอนนี้กลับมาแล้ว คืนนั้น หลี่ เย่ถิงจับเอวเธอแน่นแล้วกดเธอเข้ากับมุมกำแพงอย่างแรง ดวงตาเย็นเยียบมืดลึก “ฉันอนุญาตเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?” เฉียวเว่ยยี่ยิ้มเย้ยเย็น “คุณหลี่ คำคนมันน่ากลัวนะคะ เราสองคนจบกันไปนานแล้ว กรุณารักษามารยาทด้วยค่ะ” วันถัดมา เหล่าบรรดาผู้มีอำนาจทั่วทั้งเมืองจิงก็ได้รับบัตรแดงคำเตือนจากครอบครัวลี่ทันทีว่า “คุณนายรองของพวกเราอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ไม่ชอบได้ยินคำซุบซิบนินทา” พวกคนที่นั่งรอให้เฉียวเว่ยยี่ตกต่ำแล้วหนีไปแบบหมดรูป ??? พวกคุณไปจดทะเบียนกันตั้งแต่เมื่อไหร่?

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สาปบุตรซาตาน
1

บทที่ 1 โจชัว โจนส์

22/02/2022

2

บทที่ 2 ย่านอันธพาล

22/02/2022

3

บทที่ 3 คฤหาสน์เก่าประจำตระกูล

22/02/2022

4

บทที่ 4 ไม่คุ้นหน้า

22/02/2022

5

บทที่ 5 ความรู้สึกเมื่อกี้

22/02/2022

6

บทที่ 6 ได้เวลาปาร์ตี้

22/02/2022

7

บทที่ 7 ข่าวดี

22/02/2022

8

บทที่ 8 อยู่ตามลำพัง

22/02/2022

9

บทที่ 9 อคติเกินไป

22/02/2022

10

บทที่ 10 เดินสำรวจ

22/02/2022

11

บทที่ 11 สมุดบันทึกประจำวัน

18/04/2022

12

บทที่ 12 หาโอกาส

18/04/2022

13

บทที่ 13 ความสัมพันธ์ของผู้หญิง

18/04/2022

14

บทที่ 14 ความรู้สึกวูบไหว

18/04/2022

15

บทที่ 15 สมุดบันทึกเก่า

18/04/2022

16

บทที่ 16 ไม่อาจควบคุมความรู้สึก

18/04/2022

17

บทที่ 17 ความยุ่งยากทีจะตามมา

18/04/2022

18

บทที่ 18 ใครคือฆาตกร

18/04/2022

19

บทที่ 19 ในห้องนอนเด็ก

18/04/2022

20

บทที่ 20 ปริศนาของผู้หญิงคนนั้น

18/04/2022

21

บทที่ 21 เป็นวิธีการที่ดีที่สุด

18/04/2022

22

บทที่ 22 ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ

18/04/2022

23

บทที่ 23 เริ่มต้นเล่านิทาน

18/04/2022

24

บทที่ 24 ไม่อาจปฏิเสธ

18/04/2022

25

บทที่ 25 ความร้อนรุ่มแผ่ซ่าน

18/04/2022

26

บทที่ 26 ยังไม่ใช่ตอนนี้

18/04/2022

27

บทที่ 27 ขโมยจุมพิต

18/04/2022

28

บทที่ 28 การตัดสินใจ

18/04/2022

29

บทที่ 29 สัมผัสได้ถึงลมหายใจ

18/04/2022

30

บทที่ 30 คำสาปกำลังมา

18/04/2022

31

บทที่ 31 กุญแจฝั่งตะวันตก

18/04/2022

32

บทที่ 32 ไม่ยอมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

18/04/2022

33

บทที่ 33 การหลอกล่อ

18/04/2022

34

บทที่ 34 สวดอ้อนวอนพระเจ้า

18/04/2022

35

บทที่ 35 สัญชาตญาณ

18/04/2022

36

บทที่ 36 อุบัติเหตุ

18/04/2022

37

บทที่ 37 การตายของทนายคอนเนอร์

18/04/2022

38

บทที่ 38 ความจริงที่ซ่อนเร้น

18/04/2022

39

บทที่ 39 รอยยิ้มครั้งสุดท้าย

18/04/2022

40

บทที่ 40 เครื่องมือทรมานนักโทษ

18/04/2022