นางบำเรอในมือมาร

นางบำเรอในมือมาร

ชนิตร์นันท์

5.0
ความคิดเห็น
98.5K
ชม
105
บท

"ภคิน บริรักษ์" ไม่เคยคิดจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของบิดา แต่ที่ยอมไม่ได้คือ ท่านคิดจะยกย่องแม่เล้าให้มาเป็นเมียอย่างออกนอกหน้า หนำซ้ำยังเอาลูกเล้ามาฝากเป็นนักศึกษาฝึกงานในออฟฟิศเขาเสียด้วย แม้ไม่อยากเป็นสมภารกินไก่วัด แต่ไก่ก็น่าฟัดเสียจนเขาอดใจไม่ไหว แถมลูกเล้าแสนสวยยังกลายเป็นลูกที่แท้จริงของแม่เล้าที่คิดจะบินสูง เขายิ่งเพิ่มความชิงชังจนแทบจะขยี้เธอให้แหลกคามือ เพราะแน่ใจที่สุดว่าสองแม่ลูกนี้จะไม่มีวันปล่อยให้เขาสองพ่อลูกหลุดมือไปได้แน่ เมื่อเธอต้องการฝึกงานเขาก็จะอนุญาตให้ฝึก ทว่าจะฝึกแบบไหนนั้นเขาจะเป็นผู้กำหนดเอง และความคาดหวังหลังครบกำหนดนั้นคือ.. เธอจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานที่เขามอบให้อย่างไม่มีที่บกพร่อง “นางบำเรอฝึกหัด” คือตำแหน่งที่เธอเหมาะสม

บทที่ 1 EP.01

หลอดไฟสีแดงนวลที่ติดประดับไว้ตามจุดทำให้บรรยากาศที่มองเห็นสามารถสร้างความรู้สึกบางอย่างให้เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี บวกกับเสียงเพลงขับร้องและท่วงทำนองเครือคลอเหมือนจะปลุกเร้าอารมณ์ดิบๆ ของคนออกมาทำให้ชายหนุ่มไม่รีรอที่จะเลี้ยวเข้าไปจับจองในมุมประจำที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ

เพียงแค่สัมผัสเบาะนุ่ม สิ่งยั่วยวนที่จับต้องได้ก็แทบจะถลาขึ้นมาเกยอยู่บนตัก แสงไฟสลัวแดงระเรื่อส่งผลให้ความอวบอิ่มหยาดเยิ้มดูจะเพิ่มมากขึ้น เอวคอดส่ายสะบัดตามท่วงทำนองและบทเพลงปลุกเร้า ประกอบกับความหยุ่นนุ่มที่เสิร์ฟให้ถึงมือและปาก ก็แทบทำให้เขาไม่สามารถเก็บกดความเป็นชายไว้ได้อีกต่อไป

“ขึ้นห้องกันเถอะ พะ..พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”

หญิงสาวที่ยึดตักแกร่งของเขาเป็นที่นั่ง แหงนหน้าหัวเราะอย่างใส่จริตพลางบดเบียดบั้นท้ายสัมผัสสิ่งเร้าที่อยู่ด้านล่างอย่างเย้ายั่ว ก่อนจะเคลื่อนกายยักย้ายส่ายสะโพกตรงไปยังจุดที่เขาคิดจะปีนไปให้ถึง ทว่าดวงตาหวานที่แต่งแต้มงดงามก็ยังไม่วายหันมาเชิญชวนและกระดิกนิ้วเรียก ก่อนจะเคลื่อนย้ายนิ้วน้อยๆ นั้นเข้าสู่อุ้งปาก และดูดดึงราวเอร็ดอร่อยเสียเต็มประดา ชายหนุ่มนั่งมองตาค้างก่อนจะถลันตามร่างบางที่โยกย้ายไปดังคนละเมอ

ดวงตาคมสวยที่ถูกแต่งแต้มอย่างบรรจงทอดมองภาพที่เกิดขึ้นในบาร์แห่งนี้ ซึ่งไม่ได้แตกต่างไปจากมุมอื่นๆ หรือแตกต่างไปจากคืนอื่นๆ ที่เคยมองเห็นเลยสักนิด “สัตว์เพศผู้” คำที่เธอนิยมใช้เรียกผู้ชายพวกนี้

“ผู้ชายจะมีอะไรมากไปกว่า SEX”

ซึ่งเธอคิดว่าตัวเองคิดไม่ผิดเพราะกิจการบาร์กึ่งคาราโอเกะของเธอดูเหมือนจะดีวันดีคืนเพราะผู้ชายที่กระหาย SEX และต้องการได้รับการปลดเปลื้องจากผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่..เมีย และต้องยอมรับว่าผู้ชายประเภทนี้มีจำนวนอยู่มากเสียจน บาร์เล็กๆ ของเธอเมื่อ 5 ปีก่อนกลับกลายเป็นบาร์กึ่งคาราโอเกะขนาดใหญ่กว่า 4 คูหา

ห้องพักด้านบนที่เธอเรียกมันว่า “ห้องเชือด” มีมากมายกว่า 20 ห้อง แต่ก็ดูเหมือนกับว่าจะไม่เพียงพอเอาเสียเลย เพราะบรรดาลูกค้าขาประจำของเธอมักจะนิยมค้างคืนมากกว่าชั่วคราว แม้จะมีผู้ยื่นมือช่วยเหลือขอเป็นหุ้นส่วนเพื่อให้เธอขยายกิจการได้เพิ่มมากขึ้น แต่เธอกลับคิดว่า “บาปกรรม” ที่รับเพียงเท่านี้ก็คงจะพอแล้ว สำหรับคนที่ห้องหอไม่รอคิว หากจะหิ้วกันไปต่อข้างนอกเธอก็ไม่ว่า ขอแค่กลับตรงเวลาและวันรุ่งขึ้นไม่เสียงานก็พอแล้ว จนกลายเป็นว่าโรงแรมฝั่งตรงข้ามเหมือนจะกลายเป็นบัดดี้ทางธุรกิจของเธอไปอีกแห่งหนึ่ง

ผู้หญิงที่นั่งไขว่ห้างอยู่ที่เคาร์เตอร์มองดูเหตุการณ์ภายในบาร์ “ลินลดา” ท่าทางของเธอเขาเห็นอยู่ทุกวัน ดวงตาคมสวยที่แต่งแต้มเสียจนดูหวานซึ้ง ทรวดทรงอกเอวที่หญิงสาววัยไม่เกิน 25 ปียังต้องอาย เพราะการดูแลและรักษาเนื้อตัวอย่างดีทำให้ใครจะรู้บ้างว่า สาวสวยที่นั่งหน้าเชิดอยู่นั้นผ่านพ้นวัยเลข 3 มานานแล้ว ความสวยที่ใครๆ เห็นก็มักจะชมไม่ขาดปาก อีกทั้งบางคนยังกล้าที่จะทุ่มเพื่อให้ได้เธอมาครอง แต่ความสวยที่ใครๆ มองเห็นนั้นเขากลับคิดว่ามันเจือไปด้วย “ความเศร้า ความเหงา” ปะปนกับการโหยหาอะไรบางอย่าง

“เธอ..ไม่มีความสุข”

ดวงตาคู่สวยกวาดมองแขกที่มาใหม่และแขกที่นั่งอยู่เดิม เพื่อดูว่าใครอาจจะต้องการอะไรเพิ่มเติมจะได้เรียกเด็กมาบริการได้ถูก ทว่าริมฝีปากบางที่เคลือบลิปสติกสีแดงเป็นมันวาวก็ต้องคลี่ยิ้มเพราะ..เขา..ที่มองเห็น

“ท่านคะ มาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมไม่ให้เด็กไปตามดาล่ะคะ”

เสียงหวานส่งมาในทันทีที่เดินมาถึง ร่างอวบอิ่มกลมกลึงแถมยังหอมกรุ่นไปทั้งตัวนั่งลงแนบข้าง ภควัฒน์เพียงยิ้มบางเบา ก่อนจะเอื้อมมือไปกอบกุมฝ่ามือบอบบางที่เขาสัมผัสได้ถึงความกร้านสากอันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าความสวยที่มองเห็นนี้จะต้องผ่านอะไรมาบ้าง

“แค่ผมได้มองดา ผมก็มีความสุขแล้ว ให้ดาได้บริการแขกคนอื่นๆ จะดีกว่า”

“แหม.. พูดแบบนี้แปลว่าไม่ต้องการให้ดาเข้ามาคุยใช่ไหมคะ ได้ค่ะ ดาจะได้ไป แล้วท่านเรียกน้องคนไหนมาคุยล่ะคะ ดาจะได้ไปตามได้ถูก”

ลินลดาสะบัดหน้าหนีอย่างใส่จริตพร้อมทำท่าจะลุกออกไปทั้งที่ใจจริงนั้นมีความสุขมากที่ได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น

“โธ่! ดา ล้อผมเล่นอีกแล้ว ดาก็รู้ว่าผม.. ผมคิดยังไง”

ดวงตาสื่อความหมายจากหนุ่มใหญ่วัย 50 กว่าที่ทอดมองมา มันทำให้ดวงตาคมสวยถึงกับมีน้ำตาคลอ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขารู้สึกเช่นไร “ภควัฒน์” ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอมากไปกว่า “ความรัก” ดูจะน่าขำหากจะมีแขกสักคนที่บอกความรู้สึกว่า “หลงรัก” เธอหมดใจ แต่กว่า 3 ปีที่ ภควัฒน์เข้าวนเวียนมาหาเธอที่บาร์แห่งนี้ ก็คงจะเพียงพอที่จะพิสูจน์ในสิ่งที่เขายืนยันได้

ทุกครั้งที่มีแขกแข่งกันทุ่มเพื่อให้ได้ตัวเธอไปครอง เขาก็มักจะจ่ายตัดหน้าเพียงต้องการให้เธอไปนั่งคุยนั่งดื่มคลายเหงาเท่านั้น ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะต้องการอะไรจากตัวเธอ แม้เธอจะเสนอให้เขาทุกครั้งก็ตาม แต่สิ่งที่เขาเรียกร้องจากเธอในทุกครั้งนั้น เป็นสิ่งที่เธอตัดสินใจได้ยากยิ่ง “เลิก” เขาขอให้เธอเลิกกิจการบาร์และไปอยู่กินกับเขา เขาเพียงต้องการเพื่อนที่จะอยู่ร่วมกันจนแก่เฒ่าเท่านั้น และผู้หญิงที่เขาเลือกก็คือ..เธอ ลินลดา แม่เล้าวัย 38 ปี ที่ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากความสวยเท่านั้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ชนิตร์นันท์

ข้อมูลเพิ่มเติม
คนงานบ้านนายฝรั่ง

คนงานบ้านนายฝรั่ง

โรแมนติก

5.0

หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

โรแมนติก

5.0

#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
นางบำเรอในมือมาร
1

บทที่ 1 EP.01

23/02/2022

2

บทที่ 2 EP.02

23/02/2022

3

บทที่ 3 EP.03

23/02/2022

4

บทที่ 4 EP.04

23/02/2022

5

บทที่ 5 EP.05

23/02/2022

6

บทที่ 6 EP.06

22/02/2022

7

บทที่ 7 EP.07

22/02/2022

8

บทที่ 8 EP.08

22/02/2022

9

บทที่ 9 EP.09

22/02/2022

10

บทที่ 10 EP.10

22/02/2022

11

บทที่ 11 EP.11

23/02/2022

12

บทที่ 12 EP.12

23/02/2022

13

บทที่ 13 EP.13

23/02/2022

14

บทที่ 14 EP.14

23/02/2022

15

บทที่ 15 EP.15

23/02/2022

16

บทที่ 16 EP.16

23/02/2022

17

บทที่ 17 EP.17

23/02/2022

18

บทที่ 18 EP.18

23/02/2022

19

บทที่ 19 EP.19

26/02/2022

20

บทที่ 20 EP.20

26/02/2022

21

บทที่ 21 EP.21

26/02/2022

22

บทที่ 22 EP.22

26/02/2022

23

บทที่ 23 EP.23

26/02/2022

24

บทที่ 24 EP.24

26/02/2022

25

บทที่ 25 EP.25

26/02/2022

26

บทที่ 26 EP.26

26/02/2022

27

บทที่ 27 EP.27

26/02/2022

28

บทที่ 28 EP.28

26/02/2022

29

บทที่ 29 EP.29

26/02/2022

30

บทที่ 30 EP.30

26/02/2022

31

บทที่ 31 EP.31

26/02/2022

32

บทที่ 32 EP.32

26/02/2022

33

บทที่ 33 EP.33

26/02/2022

34

บทที่ 34 EP.34

26/02/2022

35

บทที่ 35 EP.35

28/02/2022

36

บทที่ 36 EP.36

28/02/2022

37

บทที่ 37 EP.37

28/02/2022

38

บทที่ 38 EP.38

28/02/2022

39

บทที่ 39 EP.39

28/02/2022

40

บทที่ 40 EP.40

28/02/2022