พลับพลึงเหมราช

พลับพลึงเหมราช

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
76.5K
ชม
64
บท

ในสายตาของเขา เธอคงเป็นได้แค่เพียง เศษธุลีดินที่ไร้ค่า +++ “คุณเหม พอก่อนค่ะ พลับพลึงไม่ไหวแล้ว” เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียกเขาว่าคุณ แทนคำว่า ‘พี่’ ในอดีต เพราะความห่างเหินเย็นชาที่เขามีให้เธอมันมากมายหลายร้อยเท่านัก หญิงสาวร้องบอกเสียงแหบพร่า ดันหน้าท้องแกร่งของเขาออกห่าง แต่เหมือนผลักหินผาหนักอึ้งที่ไม่ยอมขยับเลยแม้แต่น้อย “คนอย่างเธอกล้าหืออือกับฉันเหรอ...” เขาก้มมองร่างน้อยที่ล้มซุนไปกับกองฟาง พลับพลึงร้องไห้สะอื้นยามเขาย่ำยี “กับฉันทำเป็นสะดีดสะดิ้งร้องไห้สะอึกสะอื้น เวลาอยู่กับผู้ชายคนอื่น เธอหัวร่อต่อกระซิก ระริกระรี้เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ” เขาไม่เคยสนใจน้ำตาของคนอย่างเธอ สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอให้จมดิน

บทที่ 1 1

“ช่วยซื้อหัวมันต้มหนูหน่อยนะคะ ช่วยซื้อหน่อยค่ะ” เสียงหวานใสเจือแววเศร้าสร้อยของเด็กหญิงพลับพลึงพาตะกร้าใบเก่าๆ พร้อมทั้งมันเทศต้มวิ่งขายไปตามงานในช่วงเทศกาลปีใหม่อยู่ในหมู่บ้านซึ่งจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เธอใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ และไม่มีแม้แต่รองเท้าที่จะสวมใส่ แต่เธอก็ยังขายมันต้มไม่ได้สักหัว เพราะผู้คนหันไปสนใจซื้อของกินแสนอร่อยอย่างอื่นแทน

เธอตื่นขึ้นมาต้มมันเทศที่ไปขุดมาจากในป่าแถวบ้านตั้งแต่ย่ำรุ่ง ก่อนจะเดินเท้าเปล่ามายังงาน เด็กน้อยมองความตื่นตาตื่นใจของงานซึ่งมีเครื่องเล่นหลายอย่าง ทั้งชิงช้า ม้าหมุนหรือกระเช้าลอยฟ้า แม้จะอยากเล่นแค่ไหนแต่เธอไม่มีเงินติดตัวสักบาทเดียว ได้แต่ยืนมองด้วยความอิจฉาเด็กคนอื่นๆ

ผู้คนในงานสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ ด้วยชุดใหม่ในเทศกาลปีใหม่ เธอก้มมองเสื้อผ้าขาดๆ มอซอของตัวเองแล้วหน้าเศร้า จำไม่ได้ว่าตัวเองได้รับเสื้อผ้าที่มีคนใจบุญบริจาคมาให้กี่ปีมาแล้ว เพราะเด็กน้อยสวมชุดเก่าๆ ซอมซ่อ จึงไม่มีใครอยากอุดหนุนมันเทศของเธอ รวมถึงสายตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน

เด็กน้อยพลับพลึงเดินเท้ากลับบ้านด้วยความเศร้าใจระคนหวาดกลัว เธอกลัวบิดาจะทุบตีเอา ท่านเป็นคนติดเหล้า และชอบขู่ให้เธอไปทำงานหาเงินตั้งแต่เด็ก ท้องของเธอร้องไปตลอดทางที่เดินกลับบ้าน จำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้ไปยืนอยู่หน้าร้านขายลูกชิ้นปิ้งแต่ไม่มีเงินซื้อ จึงได้แต่กลืนน้ำลายด้วยความหิว จนโดนพ่อค้าไล่ตะเพิดออกมา หาว่าเกะกะหน้าร้าน

เท้าเล็กๆ ที่ไร้รองเท้าติดกายเจ็บปวดไปหมดเพราะโดนหนามทิ่มตำขณะย่ำเดิน เด็กหญิงเดินมาถึงบ้านก็ไม่กล้าเดินเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียงบิดาตั้งวงกินเหล้ากับบรรดาเพื่อนๆ ของพวกท่านอยู่ด้านในของตัวบ้าน

ภายในบ้านกำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานในขณะที่เธอเต็มไปด้วยความเศร้า พลับพลึงสะดุดหกล้มระหว่างเดินเข้าไปใต้ถุนบ้าน เด็กน้อยไม่กล้าร้องเสียงดังกลัวบิดารู้ว่ากลับมาแล้ว เธอเข้าไปนั่งขดตัวอยู่ที่ซอกเล็กๆ ด้วยความหนาวเหน็บ เก็บมันเทศต้มขึ้นมาปัดเศษดินออกไปเบาๆ ก่อนจะนำมาปอกกินด้วยความหิวโหยแล้วเผลอหลับไป เด็กน้อยถูกกระชากแขนให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงสาย เธอเห็นใบหน้าถมึงทึงของบิดาก็สะดุ้งสุดตัว

“ไหนเงินนางพลับพลึง”

“ไม่มีจ้ะพ่อ เมื่อคืนหนูขายมันเทศไม่ได้เลยจ้ะ”

“อะไรนะ นางลูกหน้าโง่ทำไมถึงขายไม่ได้ โกหกหรือเปล่า เอ็งอมเงินใช่ไหม”

“หนูเปล่านะจ๊ะ”

“หัดโกหกตั้งแต่เด็ก สันดานเหมือนแม่มึงไม่มีผิด โตขึ้นคงจะหนีตามผู้ชายไปเหมือนแม่มึง มานี่เลย วันนี้กูจะเอาเลือดหัวมึงออก” นายพันหยิบไม้เรียวมาถือเอาไว้ก่อนจะหวดไปที่สะโพกเล็กๆ ของบุตรสาวเต็มแรง

“โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย! พ่อจ๋า หนูเจ็บ อย่าตีหนูเลย หนูขายมันเทศไม่ได้จริงๆ นะจ๊ะ หนูไม่ได้โกหก”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปมึงไม่ต้องไปโรงเรียนอีกต่อไปแล้ว เรียนไปก็เปลืองเงิน” คนพูดยังตีไม่หยุดมือ

“พ่อจ๋า อย่าตีหนูเลย หนูเจ็บ” เด็กน้อยยกมือไหว้ปลกๆ ร้องไห้น้ำตาเปรอะเปื้อน

“ต่อจากนี้ไปมึงต้องออกมาทำงานหาเงิน”

“หนูอยากเรียนต่อ พ่อให้หนูเรียนเถอะนะจ๊ะ” เด็กน้อยเอ่ยขอร้องเสียงสั่น ร้องไห้จนน้ำตาไหลพรากอาบแก้มนวลทั้งสองข้าง ปวดแสบปวดร้อนไปหมดที่โดนไม้เรียวหวดลงมาบนสะโพกไม่ยั้งแรง

“กูไม่ให้มึงเรียนแล้ว หูแตกหรือไงวะ ไปทำงานไป” นายพันผลักร่างบุตรสาวจนหงายหลัง ไล่ให้ไปทำงาน ไล่ตีไม่ยั้งหากอีกฝ่ายดื้อ

พลับพลึงทำงานมือไม้สั่นเทา แอบคิดถึงมารดาจับใจ ตั้งแต่จำความได้เธอก็ไม่เคยเห็นหน้ามารดามาก่อน มีแต่ป้าลำไยเพื่อนของมารดาเล่าให้ฟังเท่านั้นว่ามารดาเป็นคนใจดี

“พ่อเอ็งนี่มันใจร้ายจริงๆ ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ เมื่อก่อนมันรักเอ็งมากนะ” ลำไยพูดกับเด็กน้อยที่เอ็นดูเหมือนลูกหลานเพราะท่านไม่มีครอบครัวและเคยเป็นเพื่อนจินดามารดาของพลับพลึงมาก่อน

“พ่อเคยรักหนูด้วยเหรอจ๊ะ” พลับพลึงเอ่ยถามเสียงเศร้า พลับพลึงไม่เข้าใจว่าความรักจากบิดาเป็นเช่นไร เธอไม่เคยสัมผัสสิ่งที่เรียกว่าความรักจากท่านเลย

“กินอะไรหรือยัง ป้าทำข้าวเหนียวหมูทอดเหลืออยู่อีกนิดมากินสิ” ลำไยเปลี่ยนเรื่อง นึกสงสารปนเวทนาเด็กน้อยจับใจ

“กินได้จริงๆ เหรอจ๊ะ” เด็กน้อยเอ่ยถามกลืนน้ำลายด้วยความหิว

“กินได้สิ เอ็งก็เหมือนลูกหลาน ไม่มีข้าวกินมากินบ้านป้าได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” ลำไยตักข้าวเหนียวหมูทอดให้เด็กน้อยหน้าตามอมแมม เสื้อผ้าก็เก่าๆ ขาดๆ ถ้าเธอพอช่วยอะไรได้ก็จะช่วยเพราะสงสาร พลับพลึงยกมือไหว้ป้าลำไยก่อนจะกินข้าวเหนียวหมูทอดด้วยความหิว ลำไยเห็นแล้วเศร้าใจในชะตาชีวิตของเด็กน้อย มือคล้ำๆ ลูบศีรษะเล็กๆ นั้นเบาๆ

“แล้วนี่เอ็งจะไปไหนล่ะ” ลำไยเอ่ยถาม มองเด็กน้อยที่กินด้วยความหิวอย่างเอ็นดู

“ไปดายหญ้าจ้ะ มีคนจ้างหนู” ประโยคของเด็กน้อยทำให้ลำไยของขึ้น นึกโกรธไปถึงบิดาของเด็กน้อย

“พ่อเอ็งไม่ทำงานรึไง เอาแต่ใช้เอ็ง แล้วนี่ไม่ไปโรงเรียนแล้วเหรอพลับพลึง”

“พ่อไม่ให้เรียนแล้วจ้ะ” เด็กน้อยหยุดกินเพราะเริ่มกลืนไม่ลง น้ำตาซึมด้วยความเศร้า อยากเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่บิดาไม่ให้เรียน

“ไอ้พันนี่มันยังไงกัน ลูกเต้าก็ไม่ให้เรียน บ้าบอคอแตกที่สุด” ลำไยด่ายาวเหยียดด้วยความโมโห

“หนูต้องไปทำงานแล้วนะจ๊ะป้า เดี๋ยวไปสายเขาจะจ้างคนอื่น”

“เอาขนมนี่ไปกินรองท้องนะ” ลำไยหยิบขนมกล้วยยัดใส่มือเด็กน้อย

“ขอบคุณป้ามากเลยนะจ๊ะ” พลับพลึงยกมือไหว้อย่างดีใจ ซาบซึ้งในบุญคุณของท่านเหลือล้น ลำไยมองตามร่างเล็กไปด้วยความเวทนา ท่านเองก็หาเช้ากินค่ำ ขายของได้บ้างไม่ได้บ้าง กำไรน้อยนิดอยากจะช่วยให้มากกว่านี้แต่ไม่มีปัญญาเลยช่วยเท่าที่ช่วยได้เท่านั้น

พลับพลึงคอยรับจ้างทำงานเท่าที่จะทำได้เพื่อหาเงินมาให้บิดา ผู้ใหญ่คนไหนใจดีก็จ้างเธอ แต่คนไหนเห็นว่าจะเอาเปรียบได้ก็เอาเปรียบ เด็กน้อยตัวเล็กๆ เที่ยวของานทำไปเรื่อยๆ มือน้อยๆ หยาบกร้านเพราะต้องทำงานทุกวัน แทบไม่ได้หยุดพักแม้แต่วันเดียว

เด็กน้อยแอบเดินลัดเลาะไปที่โรงเรียนด้วยเท้าเปล่าๆ มองเด็กคนอื่นๆ ที่กำลังเรียนหนังสือแล้วร้องไห้เบาๆ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงลานโล่ง เสียงสะอื้นนั้นทำให้ครูใหญ่ที่เดินสำรวจอยู่บริเวณโรงเรียนได้ยินเข้า

“อ้าว... พลับพลึงมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้ทำไม” ครูใหญ่เอ่ยถามด้วยความสงสาร เด็กในโรงเรียนนั้นมีไม่กี่คน จึงทำให้ครูใหญ่จึงจำชื่อเด็กทุกคนได้

“คือหนู...” พลับพลึงเงยหน้าขึ้นมองครูใหญ่น้ำตานอง ก่อนจะสะอื้นฮักๆ

“เป็นอะไรบอกครูมาซิ แล้วทำไมไม่มาเรียนเหมือนคนอื่นเขา” ครูใหญ่เอ่ยถามพลางลูบศีรษะไปมา พลับพลึงยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก มืออุ่นๆ นั้นทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความเมตตาปรานี

“เอาเช็ดน้ำตาซะ” ครูใหญ่สุภาพหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าส่งให้เด็กน้อย เธอรับไปซับน้ำตาที่ใบหน้าก่อนจะพูดเสียงสะอึกสะอื้น

“พ่อไม่ให้พลับพลึงเรียนหนังสืออีกแล้ว ฮึกๆ ฮือๆๆ” เด็กน้อยพูดไปร้องไห้ไป ครูใหญ่เห็นแล้วสะท้อนใจ

“เดี๋ยวครูจะไปคุยกับพ่อของเธอเอง” ครูใหญ่สุภาพมองเด็กน้อยด้วยแววตาสงสารจับใจ คิดว่าควรต้องไปคุยกันให้รู้เรื่อง

“พ่อจะตีหนูอีกไหมคะ” คนที่โดนพ่อตีบ่อยๆ เริ่มหวาดกลัว

“เดี๋ยวครูให้พูดเอง เชื่อครูสิ” ครูใหญ่ลูบศีรษะเด็กน้อยเพื่อปลอบประโลม

“จริงๆ เหรอคะ” พลับพลึงเอ่ยถาม สีหน้ามีความหวัง

“จริงสิ” น้ำเสียงปรานีเอื้อเอ็นดูของครูใหญ่ทำให้เด็กน้อยยิ้มออก

“เลิกเรียนแล้ว งั้นเดี๋ยวเราไปกันเลยนะ”

“ค่ะ” มือแสนอบอุ่นของครูใหญ่จับมือเล็กๆ พาเดินไปยังบ้านของเด็กน้อยซึ่งอยู่ห่างออกไปจากโรงเรียนหลายกิโลเมตร

ครูใหญ่สุภาพจูงมือเด็กน้อยเดินมาตามทางทุรกันดารของหมู่บ้าน พอมาถึงบ้านไม้หลังเก่าๆ โทรมๆ เขาก็เห็นว่าบิดาของเด็กน้อยกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่บนแคร่ใต้ต้นมะขาม

“นายพัน” ครูใหญ่เอ่ยเรียกเสียงหนัก พันวางจอกเหล้ามือสั่นก่อนจะยกมือขึ้นท่วมหัว เหลือบมองบุตรสาวที่ยืนหลบอยู่ทางด้านหลังของครูใหญ่ด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก คิดว่าบุตรสาวคงไปฟ้องอะไรครูใหญ่เป็นแน่ อีกฝ่ายเลยมาถึงบ้านเช่นนี้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
นิยายชุด ใต้เงาเสน่หา

นิยายชุด ใต้เงาเสน่หา

โรแมนติก

5.0

1. ใต้เงาเสน่หา เมื่อชีวิตในเมืองพังทลาย "พิมพ์ขวัญ" หญิงสาววัยใกล้สามสิบจึงตัดสินใจกลับไปยังบ้านสวนในอำเภอเล็ก ๆ ที่เธอเคยจากมา ท่ามกลางแปลงพุดซ้อนและบ้านไม้หลังเดิม เธอได้พบกับ "ครูธีร์" ชายหนุ่มผู้เงียบขรึม ผู้สูญเสียภรรยาและไม่เคยเปิดใจให้ใครอีกเลย ไม่มีคำรัก ไม่มีคำสัญญา มีเพียงความเงียบที่เข้าใจกัน ดอกไม้ที่ค่อย ๆ บานในหัวใจ และใครสักคนที่จับมือไว้แน่น บางครั้ง ความรักที่มั่นคงที่สุด อาจซ่อนอยู่ในบ้านไม้หลังเก่า ภายใต้เงาของดอกไม้ที่ไม่มีใครมองเห็น แต่กลับเบ่งบานอยู่เสมอ 2. เมียรัก จากหญิงสาวในโลกปัจจุบัน สู่ร่างหญิงอวบกลางหมู่บ้านชนบทในยุคที่ไม่คุ้นตา คำขอพรให้พบรักแท้จากยมทูต กลับพาเธอมาพบผู้ชายที่เคยมีบุญคุณต่อกัน ในโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยสายลม กลิ่นสมุนไพร และหัวใจที่ค่อย ๆ เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของพรหมลิขิต แต่คือการลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง และสร้างครอบครัวจากศูนย์ เพราะความรักแท้ คือการมองเห็นคุณค่าของกันและกัน ไม่ว่าในร่างไหนหรืออดีตแบบใด 3. อาทิม "การตายของพ่อที่ถูกปิดไว้ด้วยฉากฆ่าตัวตาย กลายเป็นเงื่อนงำที่พา 'พลอยเพชร' ก้าวสู่โลกมืดของความลับและการทรยศ ผู้ต้องสงสัยกลับเป็นคนใกล้ตัวที่เธอไม่เคยคาดคิด ท่ามกลางอันตรายที่จ่อคอหอย มีเพียง 'ทิม' ชายหนุ่มผู้พร้อมเสี่ยงตายเพื่อปกป้องเธอ ความจริงที่รออยู่เบื้องหน้าจะเปลี่ยนทั้งชะตา...และหัวใจของเธอไปตลอดกาล"

นิยายชุด อุ้มรักประกาศิต

นิยายชุด อุ้มรักประกาศิต

โรแมนติก

5.0

1. อุ้มรักประกาศิต ภายใต้การแต่งงานที่เต็มไปด้วยความลับและการเสียสละ เขา "ประกาศิต" ชายหนุ่มผู้แอบรักมานาน เธอ "พราวรุ้ง" หญิงสาวที่ยอมอุ้มท้องแทนเพื่อรักษายาย ความจริงที่ไม่อาจปิดบังตลอดไป กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรักอันอบอุ่น เมื่อความผูกพันค่อย ๆ เบ่งบาน จนกลายเป็นครอบครัวที่หัวใจปรารถนา 2. หวานใจภีม เมื่อการคลุมถุงชนไม่ได้พาแค่คนสองคนมาเจอกัน แต่พา "หัวใจ" และ "ชุมชน" ให้เติบโตไปพร้อมกัน ภีม หนุ่มสหกรณ์ข้าวอินทรีย์ผู้จริงจังกับงานจนใครๆ แซวว่าแต่งกับนาแล้ว พลอยใส บัณฑิตสาวโก๊ะสดใส กลับบ้านเกิดพร้อมฝันอยากทำคอนเทนต์วิถีบ้านๆ ทั้งสองถูกจับให้ร่วมมือกันเพื่อหวังสร้างแบรนด์ข้าวชุมชน แต่ทั้งคู่ตั้งกติกา ทดลองรัก 3 เดือน จากความไม่เต็มใจ กลายเป็นรอยยิ้มที่ค่อยๆ ละลายกำแพงหัวใจ จากตลาดนัด งานวัด จนถึงทุ่งนา ทั้งคู่ร่วมกันสร้างเพจ "ครัวคันนา" และแคมเปญ "ข้าวถุงเดียวเลี้ยงชุมชน" ที่ทำให้ทั้งตำบลคึกคัก ท่ามกลางเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และโมเมนต์จิกหมอน ภีมจะยอมรับหรือไม่ว่า เขาแพ้หัวใจสดใสนั้นตั้งแต่วันแรกเจอ หวานใจภีม นิยายคลุมถุงชนแสนอบอุ่น ที่จะทำให้คุณยิ้มเหมือนอยู่กลางทุ่งข้าวสีทอง 3. หวานใจเลอทรัพย์ เมื่อ "เลอทรัพย์" วิศวกรหนุ่มสายนิ่งผู้ถนัดแต่เครื่องจักร ต้องมาเจอกับ "มินตรา" อสม.สาวโก๊ะเสียงใส ขวัญใจชาวบ้านผู้มากับพลังงานล้นเหลือ แค่แรกเจอก็ชวนให้ชีวิตที่เคยเงียบสงบของเขาสั่นไหว จากแปลงผักเล็กๆ กลางทุ่ง กลายเป็นสนามหัวใจที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ การโกลาหลจากฝูงไก่และห่านตัวแสบ และมิตรภาพที่งอกงามเหมือนผักสวนครัว แต่เมื่อโครงการเพื่อเด็กๆ ใกล้ล่มเพราะปั๊มน้ำพังกลางวิกฤต ชายหนุ่มผู้พูดน้อยจะพิสูจน์หัวใจให้สาวอสม.โก๊ะฮาเห็นได้หรือไม่ ว่าความรักที่เขามี...หนักแน่นไม่ต่างจากรถไถที่เขาขับ เสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และคำสั้นที่สุดในโลก... "อยู่ด้วยกันไหม" คือคำตอบสุดท้ายที่ทำให้ทั้งหมู่บ้านเขินแทน!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ล่อลวงภรรยาเข้าสู่อ้อมกอด : สามีลึกลับคือมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง

ล่อลวงภรรยาเข้าสู่อ้อมกอด : สามีลึกลับคือมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง

Nevsa Ybarra
5.0

คุณลู่ผู้เย่อหยิ่งแสร้งทำตัวเป็นช่างซ่อมรถเพื่อแต่งงานกับเจียงวานก็เพียงเพื่อแก้แค้น ในสายตาของเขา เธอเป็นผู้หญิงใจแคบที่รังเกียจความพิการของเขา เขาแสร้งทำท่าทางเอาอกเอาใจ ดูเหมือนรักใคร่ แต่ในใจกลับเฉยชาไร้ความรู้สึก ทว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร เขากลับตกหลุมรักเธอโดยไม่รู้ตัว หลังหย่าขาด เขากลับรู้สึกเสียดาย พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขอคืนดี ทว่ากลับได้รับเพียงเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากเธอ “คุณลู่คงจำคนผิดแล้วมั้ง อดีตสามีของฉันเขา... เป็นแค่ช่างซ่อมรถคนหนึ่ง ไม่ใช่เจ้าของบริษัทลู่ซื่อกรุ๊ปผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่งของประเทศแบบคุณ ฉันเอื้อมไม่ถึงหรอก” คุณลู่หัวเราะหึ ๆ สองเสียง “ไม่ต้องเอื้อมหรอก งั้นฉันจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทแล้วไปเป็นช่างซ่อมรถก็ได้” “??”

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
4.5

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ