นิยายชุด ใต้เงาเสน่หา

นิยายชุด ใต้เงาเสน่หา

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
ชม
26
บท

1. ใต้เงาเสน่หา เมื่อชีวิตในเมืองพังทลาย "พิมพ์ขวัญ" หญิงสาววัยใกล้สามสิบจึงตัดสินใจกลับไปยังบ้านสวนในอำเภอเล็ก ๆ ที่เธอเคยจากมา ท่ามกลางแปลงพุดซ้อนและบ้านไม้หลังเดิม เธอได้พบกับ "ครูธีร์" ชายหนุ่มผู้เงียบขรึม ผู้สูญเสียภรรยาและไม่เคยเปิดใจให้ใครอีกเลย ไม่มีคำรัก ไม่มีคำสัญญา มีเพียงความเงียบที่เข้าใจกัน ดอกไม้ที่ค่อย ๆ บานในหัวใจ และใครสักคนที่จับมือไว้แน่น บางครั้ง ความรักที่มั่นคงที่สุด อาจซ่อนอยู่ในบ้านไม้หลังเก่า ภายใต้เงาของดอกไม้ที่ไม่มีใครมองเห็น แต่กลับเบ่งบานอยู่เสมอ 2. เมียรัก จากหญิงสาวในโลกปัจจุบัน สู่ร่างหญิงอวบกลางหมู่บ้านชนบทในยุคที่ไม่คุ้นตา คำขอพรให้พบรักแท้จากยมทูต กลับพาเธอมาพบผู้ชายที่เคยมีบุญคุณต่อกัน ในโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยสายลม กลิ่นสมุนไพร และหัวใจที่ค่อย ๆ เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของพรหมลิขิต แต่คือการลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง และสร้างครอบครัวจากศูนย์ เพราะความรักแท้ คือการมองเห็นคุณค่าของกันและกัน ไม่ว่าในร่างไหนหรืออดีตแบบใด 3. อาทิม "การตายของพ่อที่ถูกปิดไว้ด้วยฉากฆ่าตัวตาย กลายเป็นเงื่อนงำที่พา 'พลอยเพชร' ก้าวสู่โลกมืดของความลับและการทรยศ ผู้ต้องสงสัยกลับเป็นคนใกล้ตัวที่เธอไม่เคยคาดคิด ท่ามกลางอันตรายที่จ่อคอหอย มีเพียง 'ทิม' ชายหนุ่มผู้พร้อมเสี่ยงตายเพื่อปกป้องเธอ ความจริงที่รออยู่เบื้องหน้าจะเปลี่ยนทั้งชะตา...และหัวใจของเธอไปตลอดกาล"

บทที่ 1 1

เธอกลับบ้านในวันที่หัวใจอ่อนแรง เสียงฝนกระทบกระจกหน้าต่างของรถทัวร์สายเหนือบ่งบอกว่ากำลังจะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ แต่กับพิมพ์ขวัญ ฤดูที่เปียกปอนนั้นมาเยือนหัวใจของเธอตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้ว และมันยังไม่มีวี่แววว่าจะผ่านพ้นไปได้ง่าย ๆ

หญิงสาววัยยี่สิบเก้าปีที่เคยมั่นใจในทุกย่างก้าวของชีวิต ยืนมองเส้นทางคดเคี้ยวที่ทอดผ่านทุ่งนาและแนวเขาไกลสุดลูกหูลูกตาผ่านกระจกหน้าต่างรถ ดวงตาที่เคยสดใสกลับหม่นลงเล็กน้อย ทุกอย่างดูเหมือนหล่นหายไปพร้อมกับความไว้ใจ

เธอถูกแฟนหนุ่มที่คบหากันมาห้าปีหักหลัง ทรยศ และนอกใจไปคบกับเจ้านายของตัวเอง แล้วทำให้เธอตกเป็นแพะรับบาปในเรื่องยักยอกเอกสารบริษัท พิมพ์ขวัญไม่มีโอกาสแม้แต่จะอธิบาย ทุกอย่างจบลงในพริบตาเหมือนโดนผลักตกจากหน้าผาอย่างเลือดเย็น

“ถึงอำเภอแล้วนะคะ ใครจะลงตรงนี้เตรียมตัวด้วยค่ะ” เสียงกระเป๋ารถทัวร์ดังขึ้นปลุกเธอจากภวังค์

พิมพ์ขวัญเก็บสัมภาระเพียงไม่กี่ชิ้นลงจากรถพร้อมกับเสื้อฝนสีฟ้าอ่อน เธอเดินลากกระเป๋าใบเก่าไปตามทางเดินที่แฉะน้ำ เป้าหมายของเธออยู่ไม่ไกล บ้านไม้หลังเล็กที่มีสวนดอกไม้ล้อมรอบของยายละม่อมที่เธอรักมากที่สุดในโลก รอคอยอยู่เบื้องหน้า

“พิมพ์ขวัญของยายกลับมาแล้วเหรอลูก” เสียง อ่อนโยนดังมาจากใต้ถุนบ้าน พิมพ์ขวัญชะงักแล้วรีบเดินเข้าไปหาในทันที เธอกอดร่างผอมบางของหญิงชราที่เธอไม่ได้กอดมานานร่วมปี กลิ่นสบู่กลิ่นสมุนไพรประจำตัวของยายยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม

“ยายจ๋า หนูคิดถึงยายที่สุดเลยจ้ะ คราวนี้ขวัญจะกลับมาอยู่กับยายนะจ๊ะ”

“ยายก็คิดถึงหนูจ้ะ กลับมาอยู่ด้วยกันนะ ที่นี่คือบ้านของขวัญ เราก็พอมีที่ทางทำมาหากิน” คำพูดสั้น ๆ แค่นั้น ทำให้เธอร้องไห้จนหมดแรง กอดยายเหมือนเด็กที่หลงทางกลับบ้าน

บ้านหลังนี้อยู่ในอำเภอเล็ก ๆ ห่างจากตัวเมืองไปพอสมควร รอบข้างเป็นบ้านชาวสวนและโรงเรียนประถมเล็ก ๆ ที่อยู่ถัดไปแค่รั้วไม้เตี้ย ๆ

พิมพ์ขวัญใช้เวลาหลายวันปรับตัวกับชีวิตที่ไร้ความเร่งรีบจากเมืองหลวง ยามเช้าเธอช่วยยายรดน้ำต้นไม้ในแปลงดอกไม้หลากสี ทั้งพุดซ้อน ชมนาด โมก สะเลเต และดาวเรืองที่ปลูกไว้เต็มแปลง กลิ่นหอมจาง ๆ ลอยปะปนกับไอหมอก ทำให้ใจเธอค่อย ๆ สงบลงทีละวัน

วันหนึ่ง พิมพ์ขวัญกำลังแบกฟางแห้งมาคลุมแปลงพุดซ้อนอยู่หลังบ้าน แล้วได้ยินเสียงผู้ชายดังมาจากอีกฝั่งของรั้ว

“คุณใช้ฟางสดแบบนั้น ระวังเชื้อรานะครับ”

เธอหันไปมองในทันที ก็พบกับชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตพับแขน กางเกงผ้าฝ้าย และหมวกสานปีกกว้างกำลังยืนอยู่ข้างรั้วฝั่งโรงเรียน สีหน้าเขานิ่งเรียบแต่ไม่เย็นชา เสียงทุ้มนั้นให้ความรู้สึกเหมือนเสียงหนังสือบทเรียนเก่า ๆ ที่อ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก

“เอ่อ... เชื้อราเหรอคะ” พิมพ์ขวัญพูดเสียงสั่น ๆ พร้อมยกมือเช็ดเหงื่อจากหน้าผาก

“ใช่ครับ ถ้าจะใช้คลุมดิน ลองเอาฟางไปตากแดดก่อนจะดีกว่า” เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้พิมพ์ขวัญยืนมองตามแผ่นหลังเขาไปด้วยความสงสัย ว่าเขาคือใครกัน

ตอนค่ำ พิมพ์ขวัญจึงถามยายระหว่างที่ช่วยหั่นผักทำแกงจืด

“ยายจ๋า ผู้ชายข้างบ้านที่แต่งตัวเรียบร้อย ๆ เหมือนครู เขาเป็นใครเหรอจ๊ะ”

“อ๋อ ครูธีร์น่ะเหรอ เป็นคนดีมากนะลูก อยู่ที่นี่มาสามปีแล้ว ตั้งแต่ภรรยาเขาเสียไปก็อยู่คนเดียว ดูแลเด็ก ๆ ที่โรงเรียนอย่างดีเลย”

“เขาแต่งงานแล้วเหรอจ๊ะ”

“เคยแต่งจ้ะ แต่ภรรยาเขาเสียไปเพราะรถชนตอนกลับจากซื้อหนังสือให้เด็ก ๆ ครูธีร์เลยไม่เคยพูดถึงเรื่องความรักอีกเลย ไม่เคยเห็นยิ้มให้ใครเลยเหมือนกัน”

พิมพ์ขวัญเงียบลง จู่ ๆ ภาพชายหนุ่มข้างรั้วเมื่อเช้าก็ชัดเจนขึ้นมาในใจ รอยยิ้มมุมปากของเขาอาจจะไม่ใช่แค่ความสุภาพ แต่มันเหมือนรอยยิ้มที่ยังเก็บบางสิ่งไว้ภายใน

เช้าวันต่อมา พิมพ์ขวัญตั้งใจเอาฟางไปตากแดดที่ลานข้างบ้านตามคำแนะนำของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ ในใจแอบหวังว่าเขาอาจเดินผ่านมาทางรั้วอีกและเธอจะได้ทักทาย

เธอนั่งลงข้างต้นแก้วที่เริ่มแตกใบใหม่ จับกล้องเก่า ๆ ที่ติดตัวมาจากกรุงเทพฯ ขึ้นมาถ่ายภาพดอกไม้ ท้องฟ้า และเงาไม้ที่ทอดผ่านแปลงเพาะกล้า

และเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้รั้ว เธอก็เงยหน้าขึ้น และเจอเขาอีกครั้ง

“อรุณสวัสดิ์ครับ” ครูธีร์เอ่ยเสียงเรียบ แต่ท่าทางไม่ได้ห่างเหินเหมือนวันแรก

“สวัสดีค่ะ เอ่อ... ฉันตากฟางแล้วนะคะ ตามคำแนะนำ” เขาหัวเราะเบา ๆ ครั้งแรกที่เธอได้ยินเสียงหัวเราะของเขา

“ดีมากครับ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป” หัวใจของพิมพ์ขวัญที่เคยแตกละเอียดเริ่มซ่อมแซมด้วยเสียงจากธรรมชาติ เสียงหัวเราะเบา ๆ และสายตาอ่อนโยนของใครบางคนที่พูดน้อยคำ แต่กลับให้ความอบอุ่นลึกซึ้งกว่าคำพูดใด

บ้านสวนหลังเดิมที่เคยเป็นเพียงสถานที่พักใจกำลังจะกลายเป็นพื้นที่ปลูกความรู้สึกใหม่ ๆ ทีละนิด

ท่ามกลางฤดูฝนที่ยังตกพรำ ๆ นั้น เธอเริ่มรู้สึกว่า

บางทีความสุขอาจไม่ต้องมาในรูปของชัยชนะหรือชื่อเสียงเสมอไป แต่มันคือการได้กลับบ้านในวันที่หัวใจอ่อนแรง และได้เจอใครสักคน ที่ยืนรออยู่ข้างรั้วไม้ริมสวน

เขามักทักทายเธอเสมอ จนเกิดเป็นความเคยชิน ธีร์ดูเป็นผู้ชายสุภาพ เรียบง่าย ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรให้ต้องระมัดระวังมากนัก กลิ่นดอกพุดกับรอยยิ้มของคนแปลกหน้าทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวอย่างประหลาด

เสียงนกร้องยามเช้ากลายเป็นเสียงนาฬิกาปลุกใหม่ของพิมพ์ขวัญในบ้านสวนหลังเก่า

เธอไม่ต้องเร่งรีบแต่งหน้าทาปาก ไม่ต้องวิ่งขึ้นรถไฟฟ้า ไม่ต้องฝ่ารถติดกลางกรุง

ที่นี่คือโลกอีกใบที่ห่างไกลจากชีวิตเดิมอย่างสิ้นเชิง

“พิมพ์ขวัญ เอาถุงดินไปใส่แปลงพุดให้ยายหน่อยลูก ดอกเริ่มแคระเพราะดินแข็งแล้ว” เสียงยายละม่อมดังมาจากหน้าระเบียง

“ค่า หนูจัดการให้เลย” พิมพ์ขวัญขานรับ พลางยืดเส้นยืดสาย ก่อนจะคว้าหมวกปีกกว้างกับถุงดินแล้วเดินไปยังแปลงพุดข้างบ้าน

ต้นพุดซ้อนเรียงกันอยู่หลายสิบต้น พุ่มเขียวขจีแต่เริ่มโรยราในบางต้น พิมพ์ขวัญนั่งยอง ๆ อย่างคล่องแคล่วกว่าช่วงแรก ๆ ที่เพิ่งมาอยู่ มือของเธอเริ่มชินกับกลิ่นดิน ความเหนียวของโคลน และแมลงเล็ก ๆ ที่บินวนรอบต้นไม้

เธอเงยหน้าขึ้นอย่างเผลอไผล เมื่อลมเช้าวันนั้นพัดเอากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกพุดเข้าจมูก มันเป็นกลิ่นหวานเย็น คล้ายสบู่แต่ไม่ฉุน ไม่แรง กลับอบอุ่นอย่างประหลาด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
นิยายชุด อุ้มรักประกาศิต

นิยายชุด อุ้มรักประกาศิต

โรแมนติก

5.0

1. อุ้มรักประกาศิต ภายใต้การแต่งงานที่เต็มไปด้วยความลับและการเสียสละ เขา "ประกาศิต" ชายหนุ่มผู้แอบรักมานาน เธอ "พราวรุ้ง" หญิงสาวที่ยอมอุ้มท้องแทนเพื่อรักษายาย ความจริงที่ไม่อาจปิดบังตลอดไป กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรักอันอบอุ่น เมื่อความผูกพันค่อย ๆ เบ่งบาน จนกลายเป็นครอบครัวที่หัวใจปรารถนา 2. หวานใจภีม เมื่อการคลุมถุงชนไม่ได้พาแค่คนสองคนมาเจอกัน แต่พา "หัวใจ" และ "ชุมชน" ให้เติบโตไปพร้อมกัน ภีม หนุ่มสหกรณ์ข้าวอินทรีย์ผู้จริงจังกับงานจนใครๆ แซวว่าแต่งกับนาแล้ว พลอยใส บัณฑิตสาวโก๊ะสดใส กลับบ้านเกิดพร้อมฝันอยากทำคอนเทนต์วิถีบ้านๆ ทั้งสองถูกจับให้ร่วมมือกันเพื่อหวังสร้างแบรนด์ข้าวชุมชน แต่ทั้งคู่ตั้งกติกา ทดลองรัก 3 เดือน จากความไม่เต็มใจ กลายเป็นรอยยิ้มที่ค่อยๆ ละลายกำแพงหัวใจ จากตลาดนัด งานวัด จนถึงทุ่งนา ทั้งคู่ร่วมกันสร้างเพจ "ครัวคันนา" และแคมเปญ "ข้าวถุงเดียวเลี้ยงชุมชน" ที่ทำให้ทั้งตำบลคึกคัก ท่ามกลางเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และโมเมนต์จิกหมอน ภีมจะยอมรับหรือไม่ว่า เขาแพ้หัวใจสดใสนั้นตั้งแต่วันแรกเจอ หวานใจภีม นิยายคลุมถุงชนแสนอบอุ่น ที่จะทำให้คุณยิ้มเหมือนอยู่กลางทุ่งข้าวสีทอง 3. หวานใจเลอทรัพย์ เมื่อ "เลอทรัพย์" วิศวกรหนุ่มสายนิ่งผู้ถนัดแต่เครื่องจักร ต้องมาเจอกับ "มินตรา" อสม.สาวโก๊ะเสียงใส ขวัญใจชาวบ้านผู้มากับพลังงานล้นเหลือ แค่แรกเจอก็ชวนให้ชีวิตที่เคยเงียบสงบของเขาสั่นไหว จากแปลงผักเล็กๆ กลางทุ่ง กลายเป็นสนามหัวใจที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ การโกลาหลจากฝูงไก่และห่านตัวแสบ และมิตรภาพที่งอกงามเหมือนผักสวนครัว แต่เมื่อโครงการเพื่อเด็กๆ ใกล้ล่มเพราะปั๊มน้ำพังกลางวิกฤต ชายหนุ่มผู้พูดน้อยจะพิสูจน์หัวใจให้สาวอสม.โก๊ะฮาเห็นได้หรือไม่ ว่าความรักที่เขามี...หนักแน่นไม่ต่างจากรถไถที่เขาขับ เสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และคำสั้นที่สุดในโลก... "อยู่ด้วยกันไหม" คือคำตอบสุดท้ายที่ทำให้ทั้งหมู่บ้านเขินแทน!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

หงส์คืนฟ้า ชะตารัก

หงส์คืนฟ้า ชะตารัก

ซีไซต์
5.0

"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ