5.0
ความคิดเห็น
35.5K
ชม
100
บท

เมื่อสาวอกหัก ยอมมาเป็นเพียงแค่มดแดงแฝงพวงมะม่วง ขอแค่ให้ได้อยู่ใกล้ชายที่รัก จนกว่าเขาจะแต่งงาน แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือการเปิดประตูพรหมลิขิตเข้าอย่างจัง ตึกๆ ตักๆ ตึกๆๆ ตักๆๆ จังหวะการเต้นของหัวใจนาราชานั้นถี่กระชั้นขึ้นจนเธอเหมือนจะเป็นลม ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมองธามด้วยซ้ำ แม้จะไม่ได้มองแต่เพราะตอนนี้อยู่ใกล้กันมากเกินไป ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ของธามได้ “โอ๊ย! ใจจ๋า อย่าเต้นดังไป เดี๋ยวเขาได้ยินหมด” นาราชาที่ยังคงหลับตาเอ่ยบอกหัวใจที่ตอนนี้เต้นรัวยิ่งกว่ากลองเพลยามออกรบ แต่เหมือนจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่นักและพอรับรู้ว่าปลายนิ้วของธามกำลังขยับ นาราชาก็ตัดสินใจเอ่ยถามออกไป “เอ่อ…ขะ…คุณธามคะ มันจำเป็นต้องจับตรงนั้นด้วยหรือคะ” “ตรงนั้นรู้เหรอว่าคือตรงไหน” “ก็ตรงที่คุณธามหยุดปลายนิ้วไว้น่ะค่ะ” เพราะยังคงหลับตา จึงไม่รู้ว่าตอนนี้มือธามอยู่ที่ไหน นั่นทำให้ธามอยากแกล้งคนรู้ดี “หึหึ…ถ้าไม่จับ แล้วฉันจะรู้ขนาดไหม” “หุ่นที่ปั้นนี่มันต้องรู้ขนาดของคนที่มาเป็นแบบ แบบเป๊ะๆ เลยเหรอคะ” “ใช่…ฉันชอบความเป๊ะ….” -------------------------------------------------------------------------------- “เสื้อเชิ้ตก็หอม เสื้อยืดก็หอม กางเกงยีนส์ก็ยังหอม โอ๊ย! เสื้อผ้าผู้ชายอะไรใส่แล้วยังหอมเหมือนยังไม่ได้ใส่ นี่ก็หอม เอ๊ย!” นี่ก็หอมที่ว่าคือบ็อกเซอร์สีขาวที่ตอนนี้อยู่ในมือเธอ แล้วเมื่อครู่เธอก็เอาเจ้านี่ขึ้นมาหอม มาดมไปตั้งหลายครั้ง หึหึ นาราชาเพ่งมองเจ้าบ็อกเซอร์สีขาวในมือ จินตนาการบางสิ่งบางอย่างก็โลดแล่นอยู่ในสมองอย่างไม่อาจห้ามได้ นั่นพลอยทำให้ใบหน้าเธอร้อนผ่าวๆ กับความคิดเชิงสิบแปดบวกของตัวเองในขณะนี้ “ยัยจิ้งบ้า คิดอะไรของหล่อน หล่อนเป็นผู้หญิงยิงเรือนะยะ” นาราชายิ้มเขิน แต่อยู่ๆ เสียงออดหน้าบ้านที่ดังขึ้นก็ทำให้คนที่กำลังเพ้อฝันถึงกับสะดุ้ง แล้วรีบออกไปดูทันที แต่พอเห็นว่าในมือกำลังถืออะไรติดมาด้วย ก็รีบเหน็บไว้กับขอบกางเกงพร้อมกับดึงเสื้อยืดตัวยาวที่สวมอยู่ลงมาปิด

บทที่ 1 เมื่อหัวใจเจ็บปวด

“ผมจะแต่งงานเร็วๆ นี้ครับ”

นี่คือประโยคที่เสียดแทงเข้าสู่หัวใจของคนฟังอย่างนาราชาอย่างจัง ประโยคนี้ทำเอาเธอหูอื้อไปเสียดื้อๆ รู้สึกอึนๆ อย่างบอกไม่ถูก อยากร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออก เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มที่เธอเฝ้ามอบความรักให้ข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่งมานานหลายปีนั้น ได้ออกมาประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนว่าเขากำลังจะแต่งงาน! แต่งงาน! คำคำนี้ดังเป็นแอคโค่กึกก้องอยู่ในหัวของนาราชา

ข่าวที่ได้รู้ ทำให้เธอไม่อาจนิ่งเฉยได้ ในเมื่อหัวใจที่แสนเจ็บปวด มันเรียกร้องให้ต้องบินกลับมาเมืองไทยทันทีทั้งๆ ที่ขณะนั้นเธอกำลังเรียนต่อระดับปริญญาโทอยู่ที่ต่างประเทศ

ยังดีที่ตอนเกิดเรื่องเป็นช่วงค้นคว้าหาข้อมูลส่งงาน จึงไม่มีคลาสให้ต้องเข้าเรียนจริงๆ จังๆ แต่ก็ใช่ว่าเวลาจะมีมากนัก นั่นทำให้การกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ นาราชาตัดสินใจที่จะใช้เวลาอยู่กับชายหนุ่มที่เธอรักให้คุ้มค่า ก่อนที่เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในสายตาเธอ ผู้หญิงที่ถึงเวลานี้ก็ยังไม่มีใครได้เห็นรูปร่างหน้าตา แต่เชื่อมั่นได้ว่าต้องเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นคงไม่อาจคว้าหัวใจของธามไปครอบครองได้เช่นนี้

“เฮ้อ! มันอิจฉารู้ไหม อิจฉาทุกที อิจฉาที่พี่รักเค้า ไม่รักใคร แอบตาร้อน ซ่อนเร้น อยากเป็นบ้างได้หม้าย อยากเป็นคนที่พี่ชาย รักคนเดียว…”

“อ้าว! ครึ้มอกครึ้มใจอะไร ถึงมานั่งร้องเพลง” พระแพงส่ายหน้าให้เพื่อนสนิท ที่อยู่ๆ ก็ร้องเพลงขึ้นมาดื้อๆ แต่จะว่าไป เนื้อเพลงมันแปลกๆ ทะแม่งๆ หูอยู่นะ

“ครึ้มอกครึ้มใจซะที่ไหน อกหักอยู่ล่ะไม่ว่า เฮ้อ” ว่าแล้วเสียงถอนหายใจก็ดังมาจากนาราชาเฮือกใหญ่ ขณะที่สายตาก็ยังคงจ้องมองไปยังบ้านหลังที่อยู่ติดกัน อดคิดไม่ได้ว่าป่านฉะนี้แล้วเจ้าของบ้านจะไปอยู่เสียที่ไหน เพราะนี่ก็หลายวันแล้วที่ไม่ได้เห็นหนุ่มในดวงใจกลับมาสักที

หรือเขามัวแต่ไปอยู่กับว่าที่เจ้าสาว คิดแบบนี้แล้ว นาราชาก็คอตกเหมือนดอกทานตะวันตอนบ่าย ออกแนวหงุดหงิด พานอยากจะติด จีพีเอสไว้บนตัวธาม ถ้าเมื่อไหร่อยากรู้พิกัด ก็แค่ใช้กูเกิ้ลค้นหาแต่ก็คงทำได้แค่คิด

“ร้องเพลงแล้วก็ให้เครดิตเจ้าของเพลงด้วย เดี๋ยวถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์เพลง” พระเพื่อนตะโกนบอกออกมาจากห้องครัว เพราะรู้สึกหิวจึงเข้าไปหาอะไรลงท้อง

“ขอขอบคุณเพลงอิจฉา ของนักร้องบิว กัลยาณี อาร์ สยาม ที่มันโดนใจพี่มาก ฉึกๆ จนต้องขอซับน้ำตาแป๊บ” คิดแล้วคนอกหักก็ถอนหายใจยาว

“นี่ก็เอาจริง” พระแพงส่ายหน้าให้ทั้งเพื่อนสนิทและแฝดผู้พี่ ที่เล่นมุกส่งมุกกันอย่างถูกจังหวะ

“เฮ้อ! คิดแล้วก็อยากเห็นหน้าว่าที่ภรรยาคุณธาม”คนอกหักเพ้อแบบเจ็บๆ ออกมา ก่อนจะขยับแว่นสายตาที่สวมอยู่นิดหน่อย พระเพื่อนที่ตอนนี้กำลังเดินกลับมานั่งใกล้ๆ ทั้งคู่ได้ทีเอ่ยขึ้น

“เห็นแล้วได้อะไร”

“นั่นสิ เห็นแล้วได้อะไร พอเห็นคราวนี้แกก็จะยิ่งเจ็บช้ำระกำทรวงเข้าไปอีก อยู่แบบนี้แหละดีแล้ว ขืนได้เห็นจากที่อิจฉาจะกลายเป็นริษยา”คำพูดของพระแพงก็ทำเอาคนฟังถอนหายใจออกมาหนักๆ อีกครั้ง

“เฮ้อ! ตอนนี้บอกเลยว่าฉันเป็นทั้งสองคำที่แกพูดมาเลยแพงอิจฉาแรงมากจนกลายเป็นริษยาเข้าไปแล้ว ขนาดยังไม่ทันจะได้เห็นหน้า ก็ยังรู้สึกเกลียดผู้หญิงคนนั้นเข้ากระดูก ฮือๆ” นาราชาบอกไปตรงๆ เพราะถึงแม้จะทำใจมาส่วนหนึ่ง แต่เธอก็ใช่ว่าจะเป็นแม่พระ ถึงจะไม่รู้สึกอะไรก่อนจะทำเสียงร้องไห้ สงสารตัวเอง

“จะเกลียดก็ไม่แปลก เพราะตอนนี้ฉันมั่นใจว่า ผู้หญิงครึ่งค่อนประเทศก็มีอาการและความรู้สึกแบบเดียวกันกับแกเป๊ะ ใครๆ ก็คงอยากรู้ว่าผู้หญิงที่ไหนกันสามารถคว้าหัวใจหนุ่มฮอตอย่างคุณธามไปครอง ถึงขนาดประกาศต่อหน้าสื่อว่าจะแต่งงานได้แบบนี้” แต่ถึงจะพูดแบบนี้ แต่พระเพื่อนก็เบ้ปากเบาๆ เพราะเธอคือผู้หญิงที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่เอ่ยมาแน่ๆ นั่นธามไม่ใช่ชายในฝัน เพราะต่อให้เขาจะหล่อเหลามากแค่ไหน แต่สำหรับเธอไม่ใช่ก็คือไม่ใช่

“ไปโพสต์ให้นักสืบพันทิปช่วยไหมจิ้ง” พระแพงเสนอความคิดเห็น ที่อยู่ๆ วิธีนี้ก็ผุดขึ้นมาในสมอง

“บ้า…ใครจะมาสืบให้”พระเพื่อนแย้งขึ้น ก่อนจะมองน้องสาว ฝาแฝดที่แม้รูปร่างหน้าตาจะเหมือนกันจนใครต่อใครต่างแยกไม่ออกว่าคนไหนพี่คนไหนน้อง แต่เรื่องอุปนิสัยใจคอก็มีบางมุมที่ต่างกันบ้าง แต่ถ้าไม่สนิทจริงก็ยากจะแยกออกอีกตามเคย

เธอนั้นเป็นสาวประเภทชอบลุย ชอบเที่ยวป่า เที่ยวเขาคนเดียว แต่กลับชอบการทานเค้กเป็นชีวิตจิตใจ ใครโพสต์ว่ามีเค้กที่ไหนเด็ด ที่ไหนดัง เธอต้องหาเวลาไปชิมให้ได้แม้จะต้องข้ามเขาลงห้วย นั่งเรือไปก็ตามส่วนพระแพงนั้นขาลุยเช่นกัน แต่ชอบเที่ยวตามห้างสรรพสินค้าเที่ยวตามเมืองมากกว่า ชอบทานของหวานที่เป็นขนมไทยแต่ไม่ชอบทานเค้กซะอย่างนั้น

“เอ้า! เผื่อมีคนในสมาคมอกหักรักคุดเหมือนแกเยอะไง หูตานักสืบพันทิปเป็นสับปะรด อาจจะรู้เห็นมาก็เป็นได้นะเพื่อนว่าใครคือว่าที่เจ้าสาวคุณธาม”

“อย่าเลย เพราะอีกไม่นาน เพื่อนรับรองว่ายัยจิ้งต้องได้เห็นว่าที่ ศรีภรรยาของคุณธามแน่นอน ดีไม่ดีอาจได้เห็นเป็นคนแรก” พระเพื่อนยิ้มมุมปาก แต่ก็ไม่วายถูกเบรกจากคู่แฝดของตัวเอง

“มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอเพื่อน” พระแพงฟังแล้วก็คิ้วขมวดชวนสงสัย

“ใช่…เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมง ยัยจิ้งต้องไปเป็นแม่บ้านให้คุณธาม แล้วแพงคิดดูว่าแฟนที่ไหนจะไม่มาบ้านคนรักบ้าง จริงไหม”

“เออใช่”ได้ฟังแล้วพระแพงพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนนาราชานั้นแค่นั่งฟังเฉยๆความรู้สึกมันก็เจ็บจี๊ดที่หัวใจจนทำให้ห่อเหี่ยว เฮ้อ! คนอกหักได้แต่นั่งถอนหายใจออกมา

“แล้วถ้าเจอเขาขึ้นมา แกจะทำไงจิ้ง” พระเพื่อนเอ่ยถามคนที่เอาแต่นั่งฟังเพราะตอนนี้ในสมองกำลังมโนภาพขณะที่เธอคว้าว่าที่เจ้าสาวของธามมาตบๆ แล้วก็ตบๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็แค่การคิดไปเอง ก่อนที่นาราชาจะพูดออกมาด้วยโทนเสียงที่แฝงไว้ด้วยความเศร้า

“ยังคิดไม่ออกเลย ว่าถึงตอนนั้นจริงๆ ฉันจะทำตัวยังไง”

“แต่ฉันคิดออก”

“หืม…คิดออก ยังไง” นาราชาหันไปถามพระเพื่อน

“คิดออก ว่าแกได้ซดน้ำใบบัวบกเป็นสวนอีกน่ะสิ เอานี่ กินก่อนเลย จะได้เป็นภูมิคุ้มกัน” ว่าแล้วพระเพื่อนก็วางน้ำใบบัวบกที่หยิบตืดมือมาให้นาราชา ซึ่งเธอก็รับไปดื่มอย่างไม่มีท่าทีอิดออดให้เห็น

“คนแบบฉัน คงทำได้แค่แอบรักอยู่แบบนี้ละมั้งชีวิตมันเศร้าจริงๆ” เอ่ยเสร็จก็ซดน้ำใบบัวบกไปอีกอึกใหญ่

“เอาน่ะ อย่างน้อยๆ แกก็ได้ทำตามหัวใจเรียกร้องด้วยการไปเป็นแม่บ้านให้คุณธาม อนาคตแกนี่มดแดงแฝงพวงมะม่วงเป๊ะ” พระแพงส่ายหน้าให้เพื่อนสนิท เพราะทุกอย่างรอบตัวของนาราชานั้นดูจะสมบูรณ์แบบไปหมด ยกเว้นเรื่องความรักเรื่องเดียว

“ก็เห็นเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงมาตั้งหลายปี เฝ้ามอง เฝ้ารักจนเขาจะแต่งงานอยู่แล้ว ยังไม่เลิกรักอีก” พระเพื่อนส่ายหน้าให้ เธอนั้นศรัทธาในความรักที่นาราชามีให้ธาม เพราะนาราชาไม่มองใครอื่นเลย แต่สุดท้ายดูเหมือนธามจะไม่ใช่เนื้องอกเพื่อนรักของเธอเสียแล้ว

“ถ้าไม่ทำแบบนี้ ฉันก็ไม่ได้อยู่ใกล้เขาน่ะสิ”คนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่งตัดพ้อเบาๆ แล้วตามด้วยเสียงถอนหายใจดัง เฮ้อ…แบบยาวเหยียด

“ไหนๆ ก็ตัดสินใจว่าจะลุยไปแล้วก็เอาให้รุ่ง ดีกว่ามานั่งเสียดายทีหลัง แล้วมาพูดว่ารู้แบบนี้น่าจะทำแบบนั้น แบบนี้ตั้งนานแล้ว” พระเพื่อนส่งยิ้มหวานให้นาราชา เพราะไม่ว่าเพื่อนคนนี้จะตัดสินใจยังไง เธอและพระแพงก็จะอยู่เคียงข้างเสมอ แบบนั้นถึงได้เรียกว่าเพื่อนกัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

มหาเศรษฐี

5.0

เธอคือ....นางโจร ส่วนเขาคือนายตำรวจ...มือหนึ่ง แต่พรหมลิขิตกลับชักพาให้นางโจรอย่างเธอปล้นความรักไปจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่าง...เขา +++++ “ผมบอกไปหรือยังว่าผมรักคุณ” “ยังค่ะ” มีนาเอ่ยตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อคืนเหมือนเธอจะได้ยินเมฆาบอกรัก แต่มันก็แผ่วเบาเสียจนคิดว่าเธอคงฝันหรือไม่ก็เพ้อไปเองคนเดียว “โอเค...ผมรักคุณ” เมฆาบอกรักคนในอ้อมกอด มันคือคำว่ารักที่แสนเรียบง่ายแต่ทว่ากลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ทั้งจากคนพูดและคนที่ได้ยิน เพราะหากไม่แน่ใจว่ารักเมฆาหรือจะพูดคำนี้ออกมา “ผู้ชายเขาบอกรักกันง่ายๆ แบบนี้เหรอคะ” “ใครบอกว่าง่าย เมื่อคืนกว่าผมจะบอกรักคุณมีนด้วยภาษากายได้ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเชียวนะ” “ทะลึ่ง” มีนามองค้อนมาให้ นั่นเพราะรู้ความหมายที่เมฆาเอ่ยว่าคืออะไร “ผมพูดเรื่องจริง” “แต่ฉันเป็นโจรที่เคยยกเค้าบ้านคุณนะคะ ถูกแจ้งจับอีก แบบนี้คุณยังจะรักฉันอย่างนั้นเหรอ” “มีกฎหมายข้อไหน ห้ามไม่ให้ตำรวจรักกับโจรบ้าง” “ก็...” คนฟังแย้งไม่ออก “ผมว่าความรักมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว รักก็คือรัก” “แต่เราต่างกันเกินไป ฉันคิดว่า...” “โลกนี้ไม่มีคำว่าต่าง ต่อให้มีเราก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันก็ได้นี่ครับ ผมขอแค่โอกาส” “ฉัน...” “ผมรักคุณมีน ต่อให้จะนอนคิดนั่งคิดหรือตีลังกาคิดก็ยังรัก” เมฆาเอ่ยคำว่ารักให้คนในอ้อมกอดได้ยินและได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอีกครั้ง “แล้วถ้าฉันปฏิเสธละคะ คุณจะว่ายังไง” “ผมคงเสียใจหนักมากแน่” เมฆาเสียใจจริงๆ แต่เขาคงไม่ถอดในจากเธอด้วยเรื่องแค่นี้แน่ แต่ทว่าคำพูดหลังจากนั้นของมีนากลับทำให้คนฟังยิ้มกว้างออกมา “แต่ฉันไม่อยากเห็นคุณเสียใจ” “งั้นก็รับรักผม ได้ไหม” “เฮ้อ! ไหนๆ ฉันก็ได้คุณแล้วก็คงต้องแมนๆ รับผิดชอบ ฉันรับรักคุณก็ได้อะ คุณจะได้ไม่ร้องไห้เสียใจเพราะฉัน” มีนาพูดติดตลก นั่นเพราะไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้อึดอัด คำพูดของเธอทำให้เมฆาถึงกับหัวเราะ ก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมโปงทั้งเธอและเขา แล้วเริ่มปฏิบัติการยืนยันว่าแท้จริงแล้วใครได้ใครกันแน่ และใครต้องรับผิดชอบใคร

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

มนุษย์หมาป่า

5.0

‘เขาเป็นแวมไพร์ที่ปฏิเสธการดื่มเลือด แต่กลับไม่ปฏิเสธหากจะได้กลืนกินเธอ’ ------------ “วันนี้นายริทเป็นอะไร ดูเหม่อๆ” “นั่นนะสิ” คนงานอีกคนเห็นด้วย ก่อนจะหยุดการสนทนาใดๆ แล้วตัดดอกไม้ต่ออย่างขะมักเขม้น ส่วนคนที่พวกเขาเอ่ยถึงนั้น ตอนนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้าเช่นเดียวกัน กระทั่งได้ดอกไม้ครบตามจำนวน เชโรมจึงเดินไปยังรถที่ตอนนี้มีดอกไม้แสนสวยอยู่ท้ายกระบะเต็มไปหมด แต่จังหวะนั้น สายตาของเชโรมกลับมองไปเห็นกระต่ายสีขาวที่เขาเลี้ยงไว้หลุดออกมาจากกรง จึงเดินไปอุ้มมันขึ้น ท่าทางเขาดูอ่อนโยนเสียจนมาศิตาที่ผ่านมาเห็น คิดว่าตัวเองตาฝาด จนต้องขยี้ตาแรงๆ สามสี่ครั้ง “ผู้ชายหน้าโหดกับกระต่ายสีขาว ดูยังไงก็ไม่เห็นจะเข้ากันสักนิด สงสัยจะเลี้ยงกระต่ายไว้กินแน่ๆ” “เลี้ยงไว้ดูจ้ะ นายริทชอบกระต่ายสีขาว ตรงนู่นเป็นกรงกระต่าย มีหลายสิบตัว” คนงานสาวคนหนึ่งเอ่ยแย้งให้ผู้เป็นเจ้านาย “ชีวิตดูมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วขัดแย้งกับหน้าตาสุดๆ แวมไพร์ตนอื่นๆ มีแต่จะเลี้ยงกระต่ายไว้ดื่มเลือด นี่อะไร เลี้ยงไว้ดูเล่น โอ๊ย! พ่อมังสวิรัติ” มาศิตาบ่นคนเดียวอีกตามเคย ตามมาด้วยอีกประโยค “สอนแวมไพร์ให้ดื่มเลือด มันจะเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำปะวะเนี่ย ของมันเป็น มันอยู่ในสายเลือด จะให้เรามาสอนเขาทำไม หืม” คนข้างๆ ที่เผลอได้ยินทั้งสองประโยคนี้เข้า กลับมีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด พอจะถามมาศิตาก็เดินตัวปลิวไปเสียแล้ว “ใครเป็นแวมไพร์หว่า หรือเราจะหูฝาดไป” คนงานสาวที่เพิ่งจะเอ่ยแก้ต่างเรื่องกระต่ายให้เชโรมไปเมื่อครู่ถึงกับคิ้วขมวด พูดกับตัวเองตามมาศิตาไปอีกคน ------------------ “แต่ศิตาไม่ยอมให้พี่ริทตายเด็ดขาด เพราะศิตารักพี่ริท” เอ่ยจบก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรม จูบที่ต่างฝ่ายต่างต้องการจากกันและกันมาโดยตลอด จูบที่ฝันว่าครั้งแรกมันต้องโรแมนติกและน่าจดจำ ไม่ใช่จูบที่ได้กลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากเขาเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เลือด! ใช่…เลือด คำๆ นี้ทำให้มาศิตานึกอะไรขึ้นมาได้ เธอคือผู้พิทักษ์ เลือดของเธอแวมไพร์ที่ยืนจ้องอยู่ตรงนั้นยังต้องการ แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้เชโรมชิงดื่มเลือดของเธอเสีย ไม่แน่ว่า หากเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์จริงๆ เชโรมอาจมีพลังขึ้นมาก็เป็นได้ มาศิตาถอนจูบออก แล้วแสร้งโอบกอดเชโรม ก่อนจะกระซิบให้เขาฝังคมเขี้ยวลงไปบนลำคอเพื่อจะได้ดื่มเลือดเธอ แต่เหมือนเชโรมกลับส่ายหน้าปฏิเสธกับแผนนี้ กระทั่งมาศิตาชิงลงมือก่อน เธอกัดริมฝีปากตัวเองสุดแรงจนเลือดไหล แม้จะเจ็บแต่ก็ยอมทน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรมอีกครั้ง ทันทีที่ได้สัมผัสเลือดของผู้พิทักษ์ นั่นทำให้เลือดในกายของแวมไพร์หนุ่ม ผู้ที่ไม่เคยลิ้มรสชาติของเลือดใดๆ มาก่อน พลันพลุ่งพล่านราวกับเปลวไฟ “เจ้าทำอะไร” แดนเองก็ได้กลิ่นเลือดของมาศิตาเช่นเดียวกัน รวมทั้งจ้องมองความผิดปกติของเชโรมอย่างไม่กะพริบตา เลือดเพียงหนึ่งหยด กลับทำให้นัยน์ตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลอ่อนแปรเปลี่ยนมาเป็นสีแดงเพลิงในทันที ร่างกายที่เคยเจ็บปวดกลับค่อยๆ หาย และรู้สึกถึงพลังที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “แววตาแบบนั้น เจ้าเป็นใครกัน หรือว่า…”

เล่ห์รักฉบับ CEO

เล่ห์รักฉบับ CEO

มหาเศรษฐี

5.0

จูบแรกก็เป็นของเขา จูบครั้งที่สอง สาม สี่ ก็ยังคงเป็นของเขา แบบนี้โสภิตาจะหนีจาก CEO หนุ่มที่เธอบังเอิญผ่านไปช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างไร ++++++++++++++++ **โปรย 1 “เท่าที่ได้คุยกันฉันว่านายเชนคนนี้นิสัยก็ใช้ได้” “อึนๆ มึนๆ นี่เหรอใช้ได้” โสภิตาอยากจะบอกเหลือเกินว่าบางครั้งราเชนก็กวนตีนเธอ “อื้อ...นายเชนเขาให้ความพิเศษกับแกนะ ขนาดปลายังแกะก้างออกให้ นี่ถามจริงๆ แกไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ” “ก็...” โสภิตาอ้ำๆ อึ้งๆ เธอนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องความรัก เรียกได้ว่าชั่วโมงบินน้อยมากๆ ใครมาดีหรือมาร้ายบางครั้งก็มองไม่ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณของตัวเองซึ่งบางครั้งมันอาจผิดพลาด “หรือคิดมากเรื่องฐานะที่นายเชนมีน้อยกว่าแก” “ไม่ใช่เรื่องนั้น ถามว่าฉันรู้สึกดีกับเขาไหมก็...อื้ม บางครั้งเวลาฉันอยู่กับเขาแล้วเหมือนตัวเองเป็นง่อย จากที่ทำอะไรได้เองก็เริ่มอยากให้เขาทำให้ อยากให้เขาช่วย” นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่โสภิตารู้ตัวเองดี “ไม่แปลกหรอก เพราะผู้หญิงเราต่อให้แข็งแกร่งยังไงลึกๆ ในหัวใจก็อยากมีใครสักคนมาดูแล” “แกก็เป็นเหรอ” “เป็นสิ บางครั้งฉันยังงอแงให้บอสจับแมลงสาบเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเห็นตอนไหนฉันกระโดดกระทืบตอนนั้น” คำพูดของรติชาทำให้โสภิตาหัวเราะออกมาเพราะนึกภาพออกทันที เวลานั้นปิลันธน์คงทั้งกลัวทั้งอยากกำจัดให้คนรักส่วนรติชาก็คงหัวเราะชอบใจแน่ๆ “นึกว่าฉันเป็นอยู่คนเดียว” “แกนะเข้มแข็งมากนะหวาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย ที่ผ่านมาอาจเพราะแกยังไม่เจอใครที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้แกเลยไม่เปิดใจ แต่ถ้าตอนนี้แกเจอคนคนนั้นแล้วฉันแนะนำว่าแกควรฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้มาก ว่าอยากอยู่แบบที่ผ่านๆ มาหรืออยากจับมือกับใครสักคนไปจนวันตาย” นั่นคือคำแนะนำจากใจของรติชาเพราะเธอเคยลังเลแบบนี้มาแล้ว หากเวลานั้นตัดสินใจผิดตอนนี้เธออาจโกนหัวบวชชีที่วัดป่าที่ไหนสักแห่ง “ฉันอยากจับมือใครสักคน” ++++++++++++++++ ***โปรย 2 “ฉันเกลียดที่สุดคือคนโกหก ที่ผ่านมาฉันรู้สึกดีกับนายเพราะเข้าใจมาตลอดมานั่นคือนาย แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่ นายจะโกหกอะไรฉันอีกไหม ฉันต้องโง่ไปอีกกี่ครั้ง” น้ำเสียงของโสภิตานั้นสั่นเครือ “ผมสัญญาว่าจะไม่โกหกอะไรคุณอีกแล้ว สาบานให้ตาย...” จังหวะที่ราเชนกำลังจะสาบานให้ตัวเองตาย โสภิตาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเขาไว้เสียก่อน “ลองตายดูสิ ฉันจะลากตัวนายขึ้นมาแล้วสับๆ” ราเชนอึ้งกับประโยคที่ได้ยินก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าโสภิตาไม่ยอมให้เขาตายง่ายๆ สินะ “โอเคๆ ผมไม่ตายแล้วก็ได้ ยกโทษให้ผมเถอะนะคุณหวาน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” “นายนี่มัน ทำฉันทั้งสุขทั้งทุกข์เหมือนคนเป็นไบโพลาร์แบบนี้ได้ยังไง รับผิดชอบสติฉันมาเลย” “ถ้าผมรับผิดชอบจริงๆ คุณหวานจะตอบตกลงไหมครับ” “อื้อ” “จริงๆ นะ” ราเชนถามย้ำ ส่วนคนที่ตามความเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ทันก็ไม่ได้เอะใจอะไรแม้แต่น้อยเช่นกัน “จะรับผิดชอบอะไรว่ามา” “แต่งงานกันไหม”

รักร้อนซ่อนใจรัก

รักร้อนซ่อนใจรัก

โรแมนติก

5.0

เขาคือพระเอกดาวค้างฟ้า เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งแรงเสมอ ในขณะที่เธอก็เป็นแค่เอ็กตร้าในกองถ่าย ที่เอ๋อๆ เด๋อๆ เพราะไม่ได้เป็นแฟนคลับของเขาเธอจึงไม่ได้แสดงออกว่าปลื้ม แต่ยิ่งเธอเฉยเขายิ่งสนใจ กระทั่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน จูบแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นก็เพราะงาน แต่หัวใจของเธอกลับถูกริมฝีปากนุ่มและแสนร้ายกาจของพระเอกกระชากจนหลุดลอยและมันมักจะลอยไปหาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ของขวัญวันเกิดปีนี้ของเธอก็ยังเป็นจูบจากเขา จูบที่ทำให้ใจสาวหวั่นไหวและยากจะต้านทาน หัวใจเธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ทางเดียวที่จะรับมือคือพุ่งเข้าชนแล้วเอาหัวใจเป็นเดิมพัน

หัวใจแพ้ทางรัก

หัวใจแพ้ทางรัก

โรแมนติก

5.0

ถึงอาดิน เรารู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้วนะคะ เป็นสิบปีที่มิลค์มีความสุขมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่มิลค์จะหยุดรักอาดินได้เลย นอกจากจะหยุดรักไม่ได้แล้ว ยังรักมากขึ้นๆ ทุกๆ วัน สิบปีมานี้มิลค์ได้บอกรักอาดินไปหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งที่บอกไปมิลค์มีความสุขมากค่ะ ถึงแม้อาดินจะไม่ตอบรับมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่มิลค์ก็ยังพยายามต่อ เพราะหวังว่าสักวันอาดินจะหันมามองเห็นความรักที่มิลค์มีให้และรับมันไป แต่ว่า...มันคงไม่มีวันนั้นแล้วจริงๆ มิลค์ขอโทษนะคะที่เอาแต่ใจ ที่ตามกวนใจอาดิน หลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันสักพัก มิลค์ขอให้อาดินเจอคนที่ใช่ คนที่อาดินรัก ส่วนมิลค์จะขอเฝ้ามองอาดินอยู่ห่างๆ แทน ลาก่อนค่ะ มิลค์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

แสงสว่าง ณ ทางแยกใหม่

แสงสว่าง ณ ทางแยกใหม่

Fritz Lagerquist
5.0

เจียงหยวนชอบเสิ่นตู้มาเป็นเวลาสี่ปี แม้จะต้องเผชิญความรังเกียจจากตระกูลเจียง แต่เธอก็ยังเลือกยืนหยัดเคียงข้างเขา กระทั่งวันหนึ่ง เสิ่นตู้เพื่อพี่สาวของเขา ยอมยกให้เธอไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่สุด เธอถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงก็คือไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่คนที่ใช่ งั้นเธอยอมตัดทิ้งแล้วกัน เธอหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานจนกลายเป็นนางแบบระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกตะลึง ผู้ชายที่ทำร้ายเธอรู้สึกเสียใจ“หยวนหยวน โลกของฉันขาดเธอไม่ได้ กลับมานะ” ตลกสิ้นดี ผู้ชายมันจะเทียบกับอาชีพการงานได้ที่ไหน ! ** เจี่ยงเฉินโจว ผู้นำของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนแสนเย็นชา แต่อยู่ลับหลังกลับเป็นคนคลั่งรัก เขาชอบความงามของเจียงหยวน เห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อง ต่อมา บนพรมแดงท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ชายผู้ก้าวลงจากเวทีคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าสาธารณะ“ถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไร ฉันก็ยินยอม”

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
Kissing U : จูบปรารถนา
1

บทที่ 1 เมื่อหัวใจเจ็บปวด

25/02/2022

2

บทที่ 2 ไม่รอดก็ต้องรอด

25/02/2022

3

บทที่ 3 ใช้แรงงานเด็ก

25/02/2022

4

บทที่ 4 หล่อนเป็นผู้หญิงยิงเรือนะยะ

25/02/2022

5

บทที่ 5 อยากลองดี

25/02/2022

6

บทที่ 6 ผมกำลังจะแต่งงาน

25/02/2022

7

บทที่ 7 ตะ…แตกหมดเลย

25/02/2022

8

บทที่ 8 ซ่อนไว้ซะลืม

25/02/2022

9

บทที่ 9 หยุดจินตนาการ

25/02/2022

10

บทที่ 10 ระเบิดลง

25/02/2022

11

บทที่ 11 ไม่ได้บังคับ

28/02/2022

12

บทที่ 12 เพราะความรักของเพื่อนสนิท

28/02/2022

13

บทที่ 13 สุขภาพ

28/02/2022

14

บทที่ 14 แฮงเอาท์

28/02/2022

15

บทที่ 15 คำอวยพร

28/02/2022

16

บทที่ 16 หลงดีใจ

28/02/2022

17

บทที่ 17 แค่วันเดียว

08/03/2022

18

บทที่ 18 ผลประโยชน์

08/03/2022

19

บทที่ 19 ศึกใหญ่

08/03/2022

20

บทที่ 20 อิทธิพลของนมชมพู

08/03/2022

21

บทที่ 21 เจ้าบ็อกเซอร์

08/03/2022

22

บทที่ 22 ทูนหัวของจิ้ง

08/03/2022

23

บทที่ 23 ร่วมงานมงคล

08/03/2022

24

บทที่ 24 ไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิม

08/03/2022

25

บทที่ 25 ไม่เข้าใจ

08/03/2022

26

บทที่ 26 เป็นแค่แม่บ้าน

08/03/2022

27

บทที่ 27 ผู้ชายคงจะถนัดถอด

08/03/2022

28

บทที่ 28 ชดใช้

08/03/2022

29

บทที่ 29 ในหัวใจ

08/03/2022

30

บทที่ 30 จังหวะการเต้นของหัวใจ

08/03/2022

31

บทที่ 31 ไม่มีใครสั่งใครสอน

08/03/2022

32

บทที่ 32 ทูนหัวของจิ้ง

08/03/2022

33

บทที่ 33 ต้นกำเนิดของหายนะ

08/03/2022

34

บทที่ 34 ต้นกำเนิดของหายนะ 2

08/03/2022

35

บทที่ 35 ชวนสงสัย

08/03/2022

36

บทที่ 36 ใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล

08/03/2022

37

บทที่ 37 ทิ้งระยะห่าง

08/03/2022

38

บทที่ 38 เฝ้าคิดหาวิธี

08/03/2022

39

บทที่ 39 แม่บ้านแม่เรือน

08/03/2022

40

บทที่ 40 ย้อมแมว

08/03/2022