5.0
ความคิดเห็น
3.5K
ชม
36
บท

“อย่าทำฉันอีกเลย ฉันไม่ไหวแล้วค่ะ” เรย์ไม่พอใจสิ่งนี้แต่ไม่อยากเสียงดังให้อารมณ์หดหายเพียงบอกให้เธอรู้ว่าร่างกายเธอพร้อมสำหรับเขามากแค่ไหน มือใหญ่โลมลูบหน้าอกอวบอิ่มซึ่งชื้นไปด้วยเหงื่อเพราะแรงพิศวาสที่เพิ่งจบลง และลูบไล้ต่ำลงไปสู่เนินเนื้อที่ยังชุ่มฉ่ำพร้อมพรั่ง เสียงครางเหมือนแมวทำให้เขากระซิบเสียงพร่า “เลิกต่อต้านและบอกว่าไม่ เธอพร้อมยิ่งกว่าพร้อม” “แต่ฉันเหนื่อย” เสียงอุทรณ์ไม่นำพาให้ร่างกายแข็งแรงที่ต้องการปลดปล่อยอีกครั้งหยุดมือ ฐิตานันท์จ้องนัยน์ตาสีฟ้า ผู้ชายที่เป็นพ่อของลูก แต่ตอนนี้เขายัดเยียดบทนางบำเรอชั่วคราวให้กัน อยากจะร้องไห้แต่ครู่ต่อมาเธอต้องครวญครางอย่างน่าอาย เพราะคนแรงเยอะนำพาเธอสู่บทเรียนแห่งความเร่าร้อน เสียวซ่าน เหมือนคืนแรกที่เจอกันเพราะความบังเอิญ คืนนั้นที่เธอไม่เคยลืมเลือนมันจากหัวใจ

บทที่ 1 1

คฤหาสน์ดลยาออกแบบสไตน์โมเดิร์นสเปนนิชมีเนื้อที่ประมาณสามไร่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ตึกใหญ่มองเห็นเรือนไทยซึ่งไว้รับรองแขกสีขาว2 หลัง อยู่ในสวนท่ามกลางน้ำตกร่มรื่นเสมือนอยู่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมา เชื่อมต่อทางเดินไปยังเรือนไทยคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ไว้รองรับแขก ซึ่งแยกจากสระว่ายน้ำส่วนตัวของเจ้าของคฤหาสน์

ยามเช้าตรู่ดลลธี เรย์ วังชนันท์ ใช้เวลาอยู่บนเตียงเพื่อระบายฮอร์โมนที่พลุกพล่าน ชายหนุ่มเร่งความเร็วของสะโพกสอบเพื่อกิจกรรมเข้าจังหวะจะได้ลุล่วง สองมือขาวคนใต้ร่างดึงรั้งตนเพื่อแนบชิดใกล้ ชายหนุ่มไม่สนใจเพียงทำตามที่ตนต้องการ คือโบยบินสู่สวรรค์ไม่ถามไถ่คนที่ไขว่คว้าหาความสุข

เธอเสร็จหลายครั้ง ครั้งนี้เรย์จะตามใจร่างกายตน “อ้า” ร้องสุขสม ตอกอัดรุนแรงเมื่อถึงจุดหมาย กดแช่นิ่งนานอย่างที่ชอบ นัยน์ตาสีฟ้าหลับตาพริ้ม

“เรย์มีอะไรกันแล้วทำไมชอบหลับตาอยู่เรื่อยโมอยากให้คุณสบตามองโมนะคะ”

ร่างใหญ่เหงื่อท่วมตัวถอดถอนแก่นกายออกจากร่างอวบอัด แต่ยังคงหลับตา คู่หมั้นสาวแง่งอน “ได้ยินโมหรือเปล่า”

“เรื่องมากน่าไปอาบน้ำได้แล้วต้องออกไปต้อนรับเพื่อนผม”

“ตอบมาก่อนสิผู้ชายเย็นชา”

โมริสาตื้อไม่เลิก ใจกล้าแกล้งเอามือไปจับก้นเปลือย มือใหญ่เล็บยาวนิดหน่อยตกแต่งสะอาดสะอ้านป่ายปัดมือเรียวให้ห่าง

“อย่าเซ้าซี้สิ ทำให้เสร็จหลายครั้งอย่างที่ชอบแล้วนะ เราตกลงกันแล้วนี่น่า”

“ก็ได้ ก็ได้ เรย์จอมบงการ และไร้หัวใจ”

ร่างอวบอัดในวัยยี่สิบหกเดินลงจากเตียง ไม่มีผ้าขนหนูติดกายแต่ก็ไม่สามารถทำให้คนด้านหลังดึงเธอไปที่เตียงเหมือนทุกๆ วันที่เขาเฉยชาเพียงเสร็จกามกิจ โมริสาปัดเรื่องวุ่นวายใจทิ้ง เธอต้องการแค่เงิน ไม่อยากคิดเรื่องอื่นให้วุ่นวายใจ หญิงสาวผิวพรรณขาวผ่องดุจน้ำนมอาบน้ำด้วยความรวดเร็วเพราะรับรู้ว่าเรย์เดินไปอาบห้องอื่น จะให้เขาเสร็จก่อนไม่ได้เดี๋ยวมีน้ำโห

ดลลธียืนอยู่กลางสายน้ำจากฝักบัว เรือนร่างหกฟุตครึ่งเหยียดตัวตรงตรง ลำคอใหญ่แหงนใบหน้าเคร่งขรึม แววตาคมหลับตาแม้สายน้ำค่อนข้างร้อนแต่ไม่ระเคืองระคายผิวสีทอง เรือนผมดำมีสีดอกเลาแซมเปียกชุ่ม ชายหนุ่มไม่ชอบน้ำเย็นตั้งแต่มาเมืองไทย แม้เมืองไทยจะร้อนแต่กลับรู้สึกว่าการโดนน้ำค่อนข้างร้อนราดรดบนเรือนร่างมันสะใจดี

ความหนาวเหน็บเคยเจอมาก่อน มันเนิ่นนานสมองนั้นควรลืมแต่ยิ่งยากลืมกลับฝังแน่นเหมือนเพิ่งเกิด ซึ่งนั่นคือเรื่องที่ตนควบคุมไม่ได้ มันบ้าสิ้นดี

มือใหญ่เอื้อมเปิดน้ำให้แรงจนกระทั่งความสดชื่นมาเยี่ยมเยือน แต่เมื่อก้มมองความเป็นชายที่ใหญ่เกินมาตราฐานซึ่งชี้โด่ชายหนุ่มอายุ 30ปี ทำเสียงจิจ๊ะอย่างขัดอกขัดใจ

เสร็จแค่หนึ่งครั้งมันไม่เคยพอสำหรับเขา แต่ให้ลากโมริสาขึ้นเตียงไม่อยากทำ เรย์ตัดสินใจใช้นิ้วมือทั้งห้ารูดขึ้นรูดลงน้องชาย นัยน์ตาที่ขรึมอยู่เป็นนิจหลับลง

ใครสักคนที่นายเรย์ต้องการคิดถึง แม้อยากจะลืมแต่ทำไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร มีเพียงเขาที่รับรู้สิ่งนี้ ไม่มีใครล่วงรู้ความนึกคิด

ความสุข ความใคร่ ความต้องการในวันวานวิ่งอยู่ในสมอง เรย์ทำร้ายร่างกายที่แข็งขึงซึ่งรักมากสำเร็จ “อ้าสสส” แหงนหน้ามือรูดขึ้นรูดลงบนความยาวใหญ่ รีดพิษความกำหนัดออกจากตัว ลำคอใหญ่เส้นเลือดปูดโปน ร่างทุกส่วนเกร็งด้วยความสุขสม

เลิกจากอาการแบบนี้ จะมีวันนั้นหรือเปล่า ใครจะให้คำตอบได้บ้าง เรย์ใบหน้าแดงก่ำรู้สึกเกลียดตนเองเหมือนและเกลียดคนที่กำลังอยู่ในความคิดกำหนัดเมื่อครู่ ซึ่งการเกลียดจะเกิดขึ้นเพียงไม่นาน

เกลียดเพราะต้องรอคอย เขาคาดเดาว่าเป็นเช่นนั้น อย่าให้เจอจะบีบเค้นให้หนักหน่วง หลายปีที่ผ่านมาเธอไปทำอะไรอยู่กับใคร ที่ไหน และไม่ว่าเธออยู่ที่ไหน ในสถานะไหนกับใคร เขาจะเอาเธอกลับคืนมา!

ห้องเสื้อผ้ากว้างขวางซึ่งมีของใช้ครบครัน ล้วนเป็นแบรนด์ดังของช็อปอยู่ในห้างสรรพสินค้าของตน เรย์มองตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบเสื้อสูทสีเทาที่ใช้ไม่บ่อยนักสวมทับเชิ้ตสีขาวเรียบกริบ กางเกงสแล็คสีเดียวกับสูทใส่เรียบร้อย ใบหน้าคมเข้มซึ่งมีหนวดเคราเสมอมองตนเองในกระจก หนวดจะปล่อยไว้อย่างนั้น เขาไม่ชินกับใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา มือใหญ่บ่งบอกถึงคนที่เคยทำงานหนักเอื้อมไปหยิบหวีมาเสยผมให้เรียบ หันซ้ายขวาตรวจความพอใจอีกคราและเดินไปใส่ถุงเท้า รองเท้า

“พร้อมแล้วค่ะ” โมริสาเดินเข้ามา ดวงตาเฉี่ยวคมมองเธอจากหัวจรดเท้า “ชุดสวยที่สุดแล้วเหรอ”

“ทำไมถามแบบนั้น ปกติไม่เคยสนใจโมจะใส่อะไร” โมริสาก้มมองตนเอง

ชุดราตรีสั้นเนื้อผ้าดิสโก้ จั้มเอว ปาดไหล่ ผ่าแหวกหน้าขาพองาม มือข้างหนึ่งจัดแต่งสร้อยเพชรที่คอ ท่าทีนั้นบอกให้รู้ว่าเธอไม่ได้สนใจว่าคู่หมั้นจะชอบชุดของเธอหรือไม่

“ก็ไม่มีอะไร”

ดลลธีลุกขึ้นยืนก่อนหยิบมือถือมากดหาคนสนิท โมริสาเหลือบมองคนที่หล่อเพอร์เฟค

แม้จะหล่อเหลาแต่ชักจะเบื่อท่าทีเย็นชาเขาเข้าทุกวัน ถ้าไม่ติดว่าเซ็กซ์เยี่ยมและอยากได้เงินเพิ่มจากการได้เป็นคู่หมั้นเรย์ เธอก็อยากโบยบินออกจากกรงทองในบ้างครั้ง

“คิดอะไรอยู่ลงไปสิ คนขับรถมาแล้ว จะได้ไปต่อที่ซึ่งเธอต้องการ”

โมริสาสีหน้าสดชื่น ดีเสียจริงที่เรย์รู้ทันความคิด เธอจะไม่ยอมนั่งฟังเพื่อนทั้งสองพูดถึงความหลัง มันน่าเบื่อ โมริสาเดินไปเปิดประตู ดลลธีมองตามก่อนจะกดรับสายเพื่อนที่โทรเข้ามา

“ถึงแล้วเหรอจุล”

เสียงปลายสายบอกว่านั่งรอที่โรงแรม ย้ำว่าไม่ต้องรีบเพราะพนักงานที่นี่สวยน่ามองทั้งนั้น

“เที่ยวมาทั่วโลกอย่าบอกว่าจะมาสละโสดที่เมืองไทยนะ ไม่เคยเห็นออกอาการมาก่อน ”

“แปลกที่ไหนตอนรู้ว่านายหมั้นฉันยังช็อกแต่ตอนนี้ไม่แปลกใจเลย”

“ดูให้อิ่มตานะ เมื่อไปถึงเราจะคุยกันเรื่องที่ฉันรอมานาน จะมัวนั่งเหล่สาวไม่ได้”

“พาเมียมาจะสะดวกหรือ”

“คู่หมั้นเท่านั้นอย่าพูดมาก”

“ฟังดูเป็นผู้ชายที่ตามใจแฟนมาก ไม่อยากเชื่อนายจะทิ้งลายคาสโนว่า”

ดลลธีวางสาย ชินชากับประโยคนี้ ใครจะพูดอย่างไรไม่สนใจ ร่างสูงก้าวเดินอย่างมั่นคง วันนี้เขาเตรียมสมองให้ว่างไว้เพื่อบันทึกเรื่องราวของตระกูลเบสซอเนียน

ตระกูลซึ่งไม่เคยนับนายเรย์ เป็นญาติ ซ้ำฆ่าแม่เขา ทำให้ความแค้นฝังใจมาจนทุกวันนี้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิขิตนางฟ้า

ข้อมูลเพิ่มเติม
รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

โรแมนติก

5.0

อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ

ร้ายไม่เคยรัก

ร้ายไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ

ความผูกพันที่ไร้ค่า

ความผูกพันที่ไร้ค่า

โรแมนติก

5.0

เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง

ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

โรแมนติก

5.0

เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

Hyatt Bamberg
5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ