สาปรักรัตติกาล

สาปรักรัตติกาล

เพลงมีนา

5.0
ความคิดเห็น
431
ชม
69
บท

“ฌาน” ชายหนุ่มเจ้าของความสูง 190 เซนติเมตร และใบหน้าคมกับดวงตาสีน้ำตาลสีเดียวกับเส้นผมที่ยาวประบ่าของเขา ดูเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าชายหนุ่มวันสายสิบสี่คนนี้ไม่ใช่คนไทยแท้แต่สำเนียงของเขามิผิดเพี้ยนจากคนไทยเลยสักนิด ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเขาอยู่อย่างสงบและปิดบังฐานะที่แท้จริงของตน จนเมื่อวันหนึ่งเขาได้พบกับ “ยิหวา” อดีตนักข่าวสายบันเทิงที่ตกอับมีปากเสียงกับดาราสาวเจ้าน้ำตาคนหนึ่งจนตัวเองถูกปลดออกจากงานแบบสายฟ้าแลบ วิญาณนักข่าวของยิหว่าทำให้เขาหงุดหงิด ความลับที่พยายามเก็บซ่อนไว้เพื่อความปลอดภัยของเธอเอง แต่มันช่างแสนยากเย็นเมื่อได้ชิดใกล้ เขายิ่งปรารถนาในตัวเธอ

บทที่ 1 บทนำ

แสงแลบแปลบปลาบจากปลายฟ้าส่องกระทบซีกหน้าของชายหนุ่มในชุดดำ แม้จะมีเพียงแสงสลัวจากโคมไฟสีส้มบนเสาไฟฟ้า แต่กระนั้นเด็กสาววัย 19 ที่ยืนเกาะหน้าต่างห้องนอนบนชั้นสองของบ้านก็มองเห็นดวงตาเรืองแสงสีแดงวับวาว มือเรียวยกขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงของตนเองไม่ให้หลุดรอดออกมา เท้าทั้งสองถูกตรึงด้วยภาพตรงหน้า

‘ฆาตกรรม!’

ชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมหนักๆ เพราะน้ำฝนที่เทกระหนำใส่ร่างของเขา รู้สึกเจ็บๆ คันๆ ที่มุมปากจนเผลอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตนเองเขามองร่างชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับเขาที่นอนชักกระตุกอย่างไร้ความเมตตาและใช้ปลายเท้าที่สวมรองเท้าหนังสีดำเขี่ยอีกฝ่ายอย่างไร้มารยาท สัญชาตญาณบอกว่าร่างของชายผู้นี้ชีพจรกำลังจะหยุดเต้นและเพียงไม่นานนักก็เป็นไปตามคาด ทว่าสัญชาตญาณอีกเช่นกันที่ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมองที่หน้าต่างห้องๆ หนึ่งบนชั้นสองของบ้านหลังนี้ เขาไม่คิดว่าเลยเที่ยงคืนที่ฝนตกกระหน่ำอย่าบ้าคลั่งจะยังมีคนตื่นอยู่ และที่สำคัญ...ท่าทางจะเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเข้าเสียแล้ว

เหมือนมีรังสีความร้อนพุ่งตรงมายังหญิงสาว เธอผงะถอยห่างจากบ้านหน้าต่างเมื่อตั้งสติได้แล้วหมุนตัวรีบก้าวไปที่ประตูทันที ในขณะที่มือเรียวเล็กที่สั่นระริกกำลังปลดกลอนเธอก็รู้สึกว่ามีหยดน้ำตกใส่แก้มเนียนสัมผัสเย็นวาบซ้อนอยู่ด้านหลัง มือของเธอชะงักงันเธอกลั้นหายใจพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับความจริงแต่แล้วดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้างเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงที่เห็นไกลๆ กลับปรากฏเบื้องหน้า ร่างของชายหนุ่มคนนั้นช่างสูงใหญ่กว่าเธอนัก เพียงแค่เงาของเขาก็ทาบทับร่างเธอจนมิดมันทำให้ร่างเธอสั่นระริกอย่างหวาดผวาและไม่รู้ตัวเลยว่าไหล่สองข้างถูกจับแน่นและเขายื่นหน้ามาใกล้จนเธอรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวของเลือดที่ปะปนในลมหายใจที่รดอยู่ปลายจมูก

ดึกๆ ดื่นๆ ทำไมไม่นอนละหนูน้อย”

“ปะ...ปล่อย...” น้ำเสียงแสนเยียบเย็นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย แต่เธอก็ไม่รู้เสียงของตัวเองไปอยู่ไหนหมด เธออยากหวีดร้องแต่ทำไมไม่ได้! แล้ว...เขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกัน! เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเขาเข้ามาในห้องเธอได้ยังไง!!!

“ก็เธอไม่ได้ล็อกหน้าต่างนี่” เขาหัวเราะในลำคอท่าทางหวาดกลัวของเธอทำให้เขาขำทั้งที่เธออยากจะร้องไห้ เด็กสาวเหลือบมองไปด้านหลังหน้าต่างบานนั้นเปิดอยู่จริงๆ ทั้งที่เมื่อครู่เธอปิดไว้แล้ว ลมฝนที่พัดผ่านทำเอาผ้าม่านขยับไหวและห้องของเธอกำลังชุ่มน้ำฝน แต่ที่น่ากลัวกว่าคือเขารู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจ

“ผมจะเข้ามาไม่ได้หรอกถ้าคุณไม่อนุญาต”ชายหนุ่มหัวเราะอีก

“ฉัน...ฉัน...ไม่ได้เรียกคุณเข้ามา....ในบ้านของฉัน...”

เด็กสาวโต้กลับอย่างขลาดๆ แต่แล้วคำพุดของเธอก็ถูกดูดกลืนเมื่อริมฝีปากหยักสวยทาบทับริมฝีปากอิ่มของเด็กสาวที่เผยอขึ้นเพื่อส่งเสียง หลังของเธอถูกดันชิดบานประตูเท้าเล็กๆ ลอยขึ้นจากพื้น ความเยียบเย็นแล่นผ่านทั่วร่างจนเหมือนเลือดจะแข็งตัวแต่เมื่อปลายลิ้นของเขาเกี่ยวกระหวัดกับเด็กสาวความร้อนรุ่มก็เข้ามาแทนที เธอได้สติและดินร้นแต่ไม่อาจต้านทานเรียวแรงมหาศาลของอีกฝ่ายได้ ดวงตากลมโตเบิกกว้างจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละและเขาก็จ้องเธอกลับ เธอสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงเขี้ยวแหลมคมที่เม้มริมฝีปากเธออยู่ เรี่ยวแรงของเธอค่อยๆ หมดลงพร้อมกับดวงตาที่หรี่และปิดลงช้าๆ และมือที่ทุบอยู่พัลวันเมื่อครู่ตกลงข้างลำตัว

ชายหนุ่มถอนจุมพิตเมื่อร่างบางกลายเป็นตุ๊กตาผ้าไร้เรี่ยวแรงจะทรงตัว เขาช้อนร่างเด็กสาวขึ้นและพาเธอลงนอนบนเตียงนุ่มของเธอเอง ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมของเด็กสาวเบาๆ ดวงตาสีแดงเมื่อครู่อ่อนโยนลงอย่างประหลาด เขาเหลียวมองรอบข้างในห้องนอนของเด็กสาวแปลกหน้า รูปหมู่ของครอบครัว รูปหมู่ของเพื่อนๆ และรูปเดี่ยวของเจ้าของห้อง หนังสือเล่มหนาและโล่รางวัลต่างๆ รวมทั้งตุ๊กตาน่ารักมากมายมันทำให้เขายิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ไม่ค่อยมีใครเห็นบนใบหน้าคมเข้มนี้เท่าไหร่นัก

“เธอยังเด็กอยู่มาก” เขาพึมพำขณะที่ปลายนิ้วลากจากริมฝีปากสวยลงมาที่ลำคอแล้วมือใหญ่ก็กำเข้าที่ลำคอขาวผ่อง

“จำไว้นะ...อย่าอนุญาตให้ใครเข้ามาง่ายๆ อย่างนี้อีก”

ชายหนุ่มยิ้มบางๆ แล้วก้มจุมพิตที่หน้าผากของเธออีกครั้ง ขอให้เขาเป็นเพียงฝันข้ามคืนของเธอก็พอ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เพลงมีนา

ข้อมูลเพิ่มเติม
ทัณฑ์อสุรา

ทัณฑ์อสุรา

ประวัติศาสตร์

5.0

นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.

คุณหมอฮอตเนิร์ดของนายมาเฟีย

คุณหมอฮอตเนิร์ดของนายมาเฟีย

โรแมนติก

5.0

หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย

ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์

ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์

ประวัติศาสตร์

5.0

“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'

พรานพิทักษ์หัวใจ

พรานพิทักษ์หัวใจ

ประวัติศาสตร์

5.0

มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.

เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's

เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's

โรแมนติก

5.0

เธอคือ ‘หลินเหยาซื่อ’ ที่มีชีวิตอยู่ในปีค.ศ.2023 แต่เพราะอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงไปในแม่น้ำ ทำให้เธอลืมตาอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในร่าง ‘หลินเหยาซื่อ’ อายุยี่สิบสอง และยังเป็นคุณแม่ลูกแฝดที่ใช้ชีวิตอยู่ในปี ค.ศ.1980 เหตุการณ์บางอย่างทำให้ 'กั๋วคังเหริน' หายสาบสูญ เมื่อกลับมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองมีลูกฝาแฝดวัยสามขวบ และผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยจำสามีตัวเองไม่ได้! “คุณต้องการพูดอะไรกันแน่” “เอ่อ...ก็...ก็...เผื่อคุณอยากจะหย่า...อุ๊บ!” ยังไม่ทันพูดจบประโยค ริมฝีปากของเขาก็ปิดปากเธอไว้สนิท มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยเธอไว้ไม่ให้หลบหนี “ห้ามพูดเรื่องหย่าอีก” เขาทำตาดุใส่แต่สายตามองที่ริมฝีปากหวานที่เพิ่งลิ้มรส “ระหว่างคุณกับผมจะไม่มีเรื่องนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ตำนานตาม่วง

ตำนานตาม่วง

Wald Bridges
5.0

"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สาปรักรัตติกาล
1

บทที่ 1 บทนำ

26/04/2022

2

บทที่ 2 ตื่นจากฝัน

26/04/2022

3

บทที่ 3 ทำงาน

26/04/2022

4

บทที่ 4 มาแล้วเหรอ

30/04/2022

5

บทที่ 5 รู้สึกได้

30/04/2022

6

บทที่ 6 จมูกดี

30/04/2022

7

บทที่ 7 มีอะไรก็พูดมา

03/05/2022

8

บทที่ 8 งานหนักเลยนะเนี้ย

03/05/2022

9

บทที่ 9 ทะเลาะวิวาท

03/05/2022

10

บทที่ 10 อย่าไป

03/05/2022

11

บทที่ 11 เป็นความผิดของผมเหรอ

03/05/2022

12

บทที่ 12 กรุงเทพฯ 33 ปีที่แล้ว

03/05/2022

13

บทที่ 13 แด่..ลูกแกะตัวที่ 5

03/05/2022

14

บทที่ 14 ต้อนรับ

03/05/2022

15

บทที่ 15 เสียงสั่น

03/05/2022

16

บทที่ 16 คิดอะไรอยู่

03/05/2022

17

บทที่ 17 มันไม่เวอร์ไปหน่อยเหรอ

03/05/2022

18

บทที่ 18 ผลประโยชน์มันเยอะ

05/05/2022

19

บทที่ 19 ลาออก

05/05/2022

20

บทที่ 20 แน่ใจแล้วเหรอ

05/05/2022

21

บทที่ 21 เขายังเหมือนเดิม

05/05/2022

22

บทที่ 22 ปีศาจร้าย

05/05/2022

23

บทที่ 23 ไร่ชงคา

05/05/2022

24

บทที่ 24 เจ้าทำร้ายผู้หญิงของข้า

05/05/2022

25

บทที่ 25 ผมแค่พนักงานในไร่คนหนึ่งเท่านั้นครับ

05/05/2022

26

บทที่ 26 หิว

05/05/2022

27

บทที่ 27 ลังเล

05/05/2022

28

บทที่ 28 ไม่กล้าสบตา

06/05/2022

29

บทที่ 29 รับบทนางรอง

06/05/2022

30

บทที่ 30 แบบนี้น่าจะเรียกว่า...Destiny

06/05/2022

31

บทที่ 31 เหยื่อก็ยังเป็นเหยื่ออยู่วันยันค่ำ

06/05/2022

32

บทที่ 32 ผมไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับคุณ!

06/05/2022

33

บทที่ 33 หวานไหม

06/05/2022

34

บทที่ 34 เคยมาที่นี่

06/05/2022

35

บทที่ 35 ช่วยลุกทีครับ

06/05/2022

36

บทที่ 36 คุณเรียกผมไง

06/05/2022

37

บทที่ 37 ทำไมไม่รัก

06/05/2022

38

บทที่ 38 มีเสน่ห์นะแต่ไม่รู้ตัว

06/05/2022

39

บทที่ 39 อยากร้องไห้

06/05/2022

40

บทที่ 40 กระหาย

06/05/2022