ร้อยเล่ห์แค้น แสนเล่ห์รัก

ร้อยเล่ห์แค้น แสนเล่ห์รัก

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
50.2K
ชม
47
บท

“ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีใครเอามาทำเมียหรอก รู้ตัวเอาไว้บ้างน่าจะดี” “แต่ก็มีคนแก่ๆคนหนึ่งเคยบอกข้าวอยู่หรอกค่ะ ว่าอยากให้ข้าวมาเป็นมะ...” กระดากจะพูดว่าเมียตามเขาเลยเลี่ยงไปว่า “เป็นแม่ของลูก” ธนากรบดกรามอย่างฉุนจัด เพราะคนแก่ๆคนหนึ่งที่ขวัญข้าวว่านั่นหาใช่ใครที่ไหนไม่ มันตัวเขาเองชัดๆ “ใช่ ไอ้บ้านั่นมันแก่แต่ฉลาดไม่หยอกล่ะที่หลอกฟันเด็กใจแตกหัวรั้นคนนั้นได้แล้วแกล้งบอกว่าจะให้ผู้ใหญ่ไปขอน่ะ” สุดทนอีกต่อไป ขวัญข้าวยิ่งกว่าโกรธในตอนนี้เองเห็นชายตัวโตตรงหน้าเล็กเท่ามดก่อนกระโดดใส่พร้อมเงื้อมือจะชกอีกฝ่ายที่ว่าเธอเป็นเด็กใจแตก ธนากรยิ้มมุมปากก่อนตั้งรับเอาไว้ได้ทันทั้งตัว รู้ในวินาทีเองว่าได้ตกลงไปในหลุมที่เขาขุดรอเอาไว้แล้ว ทั้งยังเสียเปรียบเขาจนเอาตัวไม่รอดอีกด้วยเพราะถูกคนแก่กอดรัดเอาไว้เสียแน่นราวกับหมึกยักษ์โคลอสซัล “ทำเป็นโกรธ ที่จริงอยากกอดก็บอกมาเถอะ”

บทที่ 1 1

“นั่น! สองพี่น้องเจ้าของไร่พืชวิวัฒน์พัฒนะการกุล...ใช่ไหมข้าว”

ขวัญข้าวเหลียวมองตามเสียงถามทันที ค่อยหันกลับมาหยิบอาหารในจานตรงหน้าเข้าปากบ่น

“มีใครนามสกุลยาวกว่านี้อีกไหมเนี่ย”

“ข้าวนี่ยังไงนะ แขวะไม่เข้าเรื่องเลย”

ธิดารัตน์คู่สนทนาปรามอย่างเคืองๆแต่ไม่ได้จริงจังนัก

สองสาวปลีกตัวออกมาคุยตรงระเบียงร้าน ที่วันนี้แบ่งโซนหนึ่งไว้จัดเลี้ยงส่งให้พวกเธอและเพื่อนร่วมรุ่นที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกกันแล้ว เลยสะดุดตาเข้ากับสองหนุ่มที่เพิ่งลงจากรถยกสูงนั่นพอดีจึงได้พูดคุยสอบถามอย่างเมื่อครู่

ขวัญข้าวยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบก่อนเบือนสายตาออกไปทางอื่น ไม่คุยอะไรต่อ แต่เพื่อนตัวดียังคงสะกิดถามไม่เลิก

“ไร่ข้าวอยู่ใกล้กับไร่พี่เขา เจอกันบ่อยไหม”

ขวัญข้าวยักไหล่ก่อนเบ้หน้า ทำท่าคิดนิดหนึ่ง เจอกันบ่อยไหมอย่างนั้นหรือ แล้วตอบเพื่อนออกไป “ไม่นี่ ถามทำไม”

“ไม่มีอะไรก็แค่ถาม แล้วข้าวรู้จักพี่น้องสองหล่อนั่นไหม”

“คนไหน” ถามอย่างไม่ได้สนใจคนที่กล่าวถึงสักเท่าไร

“ก็พี่กร ลูกชายคนโตของไร่พืชวิวัฒน์พัฒนะการกุลกับนายดลนั่นไง” คนหลังนั่นพูดถึงด้วยน้ำเสียงไม่ชื่นชมเท่าคนแรกอย่างที่พอฟังออก แต่ขวัญข้าวไม่ใส่ใจ จะคนแรกหรือคนหลังเธอไม่ให้ราคาใครทั้งนั้น

“ไม่รู้จัก แล้วก็ไม่เห็นอยากรู้จักด้วย ไม่รู้เลยว่าคนไหนพี่คนไหนน้อง”

ธิดารัตน์มองอย่างหมั่นไส้แล้วจีบปากเตรียมสาธยาย

“คนพี่น่ะคนที่สูงกว่า ตัวหนาล่ำ ยืนหน้านิ่งไม่ค่อยยิ้มขรึมสง่าเป็นรูปปั้นเทพเจ้ากรีก ส่วนคนน้อง...ก็อีตาคนที่ยืนยิ้มโปรยเสน่ห์ไปทั่วยังกับว่าตัวเองหล่อนักหนานั่นไง เห็นหรือยัง”

ขวัญข้าวมองตามไปปราดเดียวแล้ววิจารณ์

“ไม่เห็นหล่อสักคน ยิ่งอีตาคนทำหน้านิ่งๆนั่นยิ่งไม่หล่อ ยืนเก๊กอยู่ได้ ทำท่ากร่างอย่างกับว่าจังหวัดนี้เป็นของตัวเอง”

ธิดารัตน์ขยับตัวอย่างไม่เห็นด้วย รีบค้าน “ไม่นะ พี่กรเขาแค่เป็นคนเงียบๆ เก๊กที่ไหนข้าวนี่”

“เราก็เห็นแกเก๊กทุกที่ ดูนั่น…” ขวัญข้าวบุ้ยหน้าไปทางคนที่กล่าวถึงก่อนว่า “ยืนหลังตรงยังกับทหารเฝ้าประตูพระราชวัง หน้าพี่แกเคยยิ้มกว้างกว่านี้ไหม ไม่เค้ย... ทำเป็นอมยิ้มจะยิ้มก็ยิ้มออกมาดิ่ ท่าทางแบบนี้เจ้าชู้เงียบแน่นอน แล้ว…”

ธิดารัตน์คงเป็นแฟนคลับคนพี่ของไร่พืชวิวัฒน์พัฒนะการกุล ได้ยินคำบาดหูนั่นแล้วรีบร้องปรามเสียงหลงทันที “พอแล้ว”

เลยยิ้มมุมปากซนๆ หยิบอาหารในจานตรงหน้าเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆต่อ เบือนหน้ามองบรรยากาศของร้านที่คึกคักกว่าทุกที ไม่สนใจชายสองคนนั่นอีกต่อไป

คืนนี้เป็นงานเลี้ยงส่งให้กับพวกเธอและเพื่อนๆมัธยมศึกษาปีที่หกที่จบกันแล้ว บางคนได้ศึกษาต่อ

อย่างธิดารัตน์ หรือ แอล เพื่อนของเธอได้ทุนเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐแห่งหนึ่ง คณะแพทยศาสตร์ ส่วนเธอ ขวัญข้าวยิ้มให้ตัวเอง เธออยากเรียนต่อเหมือนกัน ที่คิดไว้คือคณะวิทยาศาสตร์กับศิลปะศาสตร์ แต่ที่ไร่ไม่มีใครพอจะเป็นหลักช่วยงานบิดาได้เท่าเธอ

ขวัญข้าวค่อนข้างโตเกินอายุ เพราะรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างในไร่ตั้งแต่อายุสิบห้า เป็นต้นว่าทำบัญชี ติดต่อไซโล โรงงานสับไม้ ตัวแทนปุ๋ยและยา ดูแลคนงานและจัดการปัญหาเล็กๆน้อยๆตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ เธอทำเองทั้งหมด

เด็กสาวจึงมีความคิดความอ่านความรับผิดชอบเรื่องงานในไร่ราวกับเป็นผู้ใหญ่แล้วคนหนึ่ง เพราะถูกบิดาฝึกฝนให้ทำตั้งแต่พอไหว้วานได้

เธอทำงานมากกว่าเล่น ต่างจากคนอื่นที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ถึงกระนั้นวุฒิภาวะยังถือว่าเด็กอยู่มาก ก็ตามอายุนั่น เอง เด็กสาวยังเจอคนเจอโลกไม่มากจึงมีประสบการณ์ในชีวิตไม่เท่าไร แต่หลงคิดว่าตนทำงานเยอะเลยว่าตัวนั้นโตพอที่จะทำอะไรๆก็ได้ตามที่ใจปรารถนา

“ข้าว” เสียงเรียกชื่อดังมาจากธิดารัตน์อีกครั้ง เจ้าตัวขานรับทันที “หืม”

“มีคนเรียกแน่ะ”

ธิดารัตน์บอกทั้งยังส่งสายตาเชิงหมั่นไส้มาให้ด้วย เมื่อกี๊ไหนว่าไม่รู้จัก ทำไมชายหนุ่มที่กล่าวถึงเมื่อก่อนหน้าแวะมาทักที่โต๊ะได้เล่า

เอี้ยวไปด้านหลังพอเห็นว่าใคร เลยทักทายตามมารยาทอย่างทุกที “อ้าวพี่ดล สวัสดีค่ะ”

“ไงเรา หนีเที่ยวหรือคะคืนนี้”

ขวัญข้าวมองคนถามแล้วยิ้มส่งให้แทนคำตอบ

ธนดลนั่นเอง ลูกชายคนเล็กของไร่พืชวิวัฒน์พัฒนะการกุล ชายหนุ่มเจ้าสำราญ หน้าตาดีราวนักแสดงจากแดนโสม เขาขาวแลดูสะอาด ที่สำคัญกว่านั้น เธอรู้จักธนดลดีกว่าที่ธิดารัตน์รู้ เมื่อครู่นี้เพียงแค่อำเพื่อนไปเท่านั้นว่าไม่รู้จักกัน

ก่อนบอกอีกฝ่ายไป

“เลี้ยงส่งค่ะพี่ดล”

“พี่นั่งด้วยคนนะคะ” ธนดลมักพูดคะขากับเธอแบบนี้เสมอ ท่าทีดูออกชัดเจนว่าชอบเด็กสาวไร่ข้างเคียงกัน ทั้งหูตายังแพรวพราวระยิบระยับเชียวเวลามองขวัญข้าว

“ค่ะ”

ธนดลยิ้มหล่อก่อนนั่งลงตรงเก้าอี้ว่างตัวหนึ่งข้างธิดารัตน์ ธิดารัตน์ขยับตัวหนีหน่อยหนึ่งอย่างไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ไม่ชอบหน้านายนี่ ทั้งๆที่ปลื้มพี่ชายของอีกฝ่าย นี่เองที่เขาเรียกไม่กินเส้นเห็นหน้าก็นึกไม่ถูกชะตาเลยเชียว

ชายหนุ่มถามคล้ายสนิทสนมกับเด็กสาวเป็นอย่างดี

“แล้ว...ตกลงเราเรียนที่ไหนคะ เลือกได้หรือยัง”

ขวัญข้าวเสลงมองแก้วน้ำของตนเองก่อนปด

“ยังคิดไม่ออกเลยค่ะ เลยว่าจะช่วยงานในไร่ไปก่อน เอาไว้คิดได้ค่อยไปสมัคร เรียนตอนไหนก็ได้ค่ะ ยังไงก็ทัน” เล่าไปเรื่อยอย่างมีความจริงไม่จริงปนกันอยู่อย่างละครึ่ง

“พูดง่ายเนอะ” ธิดารัตน์แขวะอย่างมีโมโหขึ้นบ้าง เพราะไม่เห็นด้วยเลยที่อีกฝ่ายจะหยุดเรียนเพื่อไปช่วยงานในไร่ พี่ชายขวัญข้าวนั่นทำไมไม่มาช่วยบ้าง คิดแล้วหงุดหงิดแทน

“อ้าว จริงนะ ข้าวคิดอย่างงั้นจริงๆ” ขวัญข้าวตอบกลับทันที

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักนายสุดหื่น

ลิขิตรักนายสุดหื่น

รินธารา
5.0

เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
4.5

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ