ใยรักจอมวายร้าย

ใยรักจอมวายร้าย

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
104.8K
ชม
47
บท

ความเข้าใจผิดก่อเกิดเลือดเนื้อเชื้อไขของจอมวายร้ายอย่างปุญญ์ มีหรือที่คนอย่างนั้นจะไม่ทวงคืนไม่ใช่แค่ลูก แต่แม่ของลูกเขาก็จะเอา! ######### “ที่ผมอยากรู้คือ เรารู้จักกันก่อนมาก่อนหน้านี้อย่างนั้นใช่ไหม” “คุณจำไม่ได้? แล้วฉันบอก คุณจะจำได้หรือไง” “ผมรถคว่ำจนจำเวลาช่วงหนึ่งไม่ได้เลย และก็มั่นใจด้วยว่าอาจเป็นตอนที่ได้รู้จักกับคุณ” พิชชาอรยืนฟังจนเขาว่าจบ อดเบ้หน้าน้อยๆไม่ได้ “นิยายจัง” “ผมไม่รู้ว่ายังจะนิยายมากพอไหม ถ้าเด็กชายกตัญญ์จะเป็นลูกของผมด้วย” คราวนี้พิชชาอรมองเขาอย่างเป็นเดือดเป็นแค้น เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงบุตรชายของเธอที่มีเขาเป็นคนร่วมสร้าง ใจของเธอไม่เคยเต้นรัวเร็วขนาดนี้มาก่อน รู้สึกเหมือนว่าร่างกายกำลังจะลุกเป็นไฟด้วยโทสะที่ฝังแน่นในตัว บอกเขาด้วยเสียงเครียดๆ “ตอนนี้ไม่สำคัญแล้วว่าเขาจะเป็นลูกของคุณหรือเปล่า” ปุญญ์ขมวดคิ้วมุ่น กระชากเสียงถามอย่างไม่พอใจนัก “ทำไม” “เพราะฉันเคยติดต่อคุณไปแล้วเรื่องที่ฉันท้อง แต่คุณ คุณ....” พูดถึงเหตุการณ์วันนั้นทีไร อารมณ์ของเธอจะพรุ่งปรี้ดทันที มันเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ เกลียดชังเขาอย่างที่สุด จนอยากจะอาเจียนออกมาเลยทีเดียว “ผมทำไม” “ฉันไม่อยากนึกถึงตอนที่คุณพูดลับหลังว่าฉันยังไงบ้างน่ะ พูดอย่างไม่ใช่ลูกผู้ชาย!” พิชชาอรเค้นเสียงว่าอย่างมีโมโห จำได้มั่นว่าเขาบอกว่าผู้หญิงที่ผ่านมาก็แค่ทางผ่านของเขา แล้วนี่มาตอแยกับเธอ แฟนสาวของเขาไม่รู้เรื่องหรือไร ยิ่งคิดก็ยิ่งเดือด “ผมต้องการลูก …และคุณต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมดฐานที่พรากเขามาจากผมที่เป็นพ่อแท้ๆ” “ฝันไปเถอะ!” “มันต้องเป็นฝันที่สนุกแน่พิชชาอร ถ้าในนั้นมีคุณรวมอยู่ด้วย!”

บทที่ 1 บทนำ

ขีดสองขีดบนแท่งตรวจการตั้งครรภ์ไม่ใช่แค่อันเดียวแต่มันเด่นหราปรากฏอยู่เกือบทุกยี่ห้อที่มีในท้องตลาด ที่เจ้าตัวกว้านซื้อมาจนเกลี้ยงชั้นวางขายนั่นยืนยันผลได้เป็นอย่างดีว่าเธอ...

‘ท้อง’

เพราะคำคำนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดของผู้หญิงทำงานแบบพิชชาอรมาก่อน

เธอเป็นคนชั้นกลางที่ไม่เคยคิดจะมีครอบครัว วันๆทำงานงกๆกลับบ้านเข้านอนเพื่อตื่นขึ้นมาทำงานและวนกิจกรรมเดิมๆอยู่แบบนั้น ไม่เคยมองชายคนใด เลยไม่มีแฟน ไม่เคยตกหลุมรักใคร ไม่เคยเผลอไผลให้ใคร ไม่เคยมีใจให้กับคนไหน และไม่เคยมีอาการหลงรักใคร แต่เธอพลาดให้กับปุญญ์ ชายคนนั้นใช้ต้นทุนทางสังคมที่เขามี ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์อันหล่อเหลา บุคลิกภูมิฐาน หน้าที่การงานและฐานะทางสังคมชั้นเลิศ มาล่อลวงให้เธอหลงใหลกับสิ่งเหล่านั้น หลอมความเหย่อหยิ่งจนละลายลงแทบเท้า ยอมศิโรราบให้เขาเหมือนผู้หญิงรายอื่นๆได้อย่างง่ายดายนัก

เธอจะต้องบอกเขาว่าเธอท้อง เธอไม่ใช่นางเอกในนิยาย ที่มีลูกเขาติดมาแล้วจะพากันหอบหนีไปใช้ชีวิตอัตคัด นึกได้อย่างนั้นแล้วจึงได้แต่รอเวลาเพื่อติดต่อหาเขาที่ PKR groups เธอไม่ได้เก็บเบอร์ส่วนตัวเขาเอาไว้แล้วเพราะเหตุการณ์ในเช้าวันนั้นมันทำให้เธอนึกรังเกียจทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขา ลำคอของพิชชาอรแห้งผากมันปนไปด้วยความตื่นเต้นและวิตกกังวลต่างๆนานา สองเดือนที่ตัดการติดต่อกับเขามันไม่ได้ทำให้เธอเข้มแข็งขึ้นมาได้เลยหรืออย่างไรกัน

ทันทีที่ปลายสายเชื่อมต่อสัญญาณ จึงกรอกเสียงลงไปทันที

“ฉันต้องการเรียนสายกับคุณปุญญ์ค่ะ”

“จากไหนคะ” ทางนั้นถามกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงเอือมๆราวกับเจอปัญหาเช่นนี้บ่อยๆ

“บอกเขาว่าพิชชาอร...หวังว่าเขาจะยังจำคำพูดของตนเองได้” ประโยคหลังเธอคิดอยู่ในใจเงียบๆไม่ได้ออกปากไป

ใช่ เขาเคยบอกเธอไว้ว่าหากอยากติดต่อหาเขาบ้างให้แจ้งกับพนักงานได้เลย เพียงแค่บอกชื่อของเธอ ทุกคนจะอำนวยความสะดวกให้ทันที

ขณะรอสาย ใจที่เต้นสม่ำเสมอก็รัวเร็วขึ้นมาอย่างที่ระงับไม่อยู่ สองเดือนแล้วที่เธอกับเขาจบความสัมพันธ์กันไป ความสัมพันธ์คืนเดียวเสียด้วย เงินที่เขาหยิบยื่นให้เธอยังเก็บไว้อย่างดี ไม่ได้แตะมันแม้แต่สตางค์แดงเดียว ร่ำๆจะคืนให้หลายครั้งแล้วก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับภาระงานจนลืมไป ตอนนั้นเธอยอมรับว่ามีทิฐิจนประชดเขาเรื่องเงิน แต่ตอนนี้ขอให้ได้คุยกับเขาเรื่องเด็กในท้องเสียก่อนเถอะ…

คิดมาถึงตรงนี้ ปลายสายก็มีสัญญาณตอบรับอีกครั้ง

“คุณพิชชาอรคะ ท่านประธานให้แจ้งธุระของคุณผ่านดิฉันเลยค่ะ”

ได้ยินเช่นนั้นแล้วก็คล้ายกับเลือดในกายจะระอุเดือดขึ้นมาจนทะลุปรอท พิชชาอรหายใจหนักหน่วงตามแรงอารมณ์โกรธของตน เธอจะบอกผ่านคนอื่นได้อย่างไร ไหนเมื่อเธอต้องการคุยกับเขาเรื่องที่ ‘เธอท้อง’

แต่แล้วเสียงอีกเสียงจากปลายสายก็ดังแว่วเข้ามา

“เอามานี่มา” อึดใจทางนั้นก็ถามเธอกลับมาอีก “คุณพิชชาอร... อย่างนั้นหรือคะ”

“ใช่ค่ะ ฉันต้องการเรียนสายกับคุณปุญญ์”

“ตอนนี้พี่ปุญญ์ติดประชุมกับผู้บริหารท่านอื่นอยู่ ถ้ามีธุระสำคัญอะไร บอกผ่านทางนี้ได้เลยค่ะ ฉันจะเป็นธุระให้...ทุกเรื่อง”ปลายสายเน้นคำสุดท้ายอย่างจงใจ

“ฉันต้องการคุยกับเขา...เป็นการส่วนตัว” พิชชาอรได้ยินเสียงตัวเองเน้นคำตอบกลับไปเช่นกัน ตอนนี้เธอมือสั่นขึ้นมาแล้ว มันสั่นไปพร้อมๆกับหัวใจของเธอ เธอกำลังโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้

“เอ...ปกติถ้าพี่ปุญญ์ต้องการให้ใครติดต่อกลับเรื่องส่วนตัวเขามักจะให้เบอร์ส่วนตัวเอาไว้นี่คะ แต่ถ้าไม่มี หาทางติดต่อไม่ได้คงหมายถึงว่าเขาไม่อยากให้ติดต่อแล้วละมังคะ”

อีกฝ่ายร่ายยาวแม้จะลงท้ายคะขาทุกประโยคอย่างผู้ดี แต่ก็เต็มไปด้วยน้ำเสียงส่อเสียดทุกคำ

“ให้ฉันช่วยจัดการเรื่องเงินให้ไหมคะ แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับคุณแล้วนะคะที่พี่ปุญจะยอมจ่ายให้”

“เธอหมายถึงอะไร”

พิชชาอรถามกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เธอร้อนไปหมดทั้งใบหน้า ปลายสายพูดราวกับรู้เรื่องของเธอและปุญญ์อย่างไรอย่างนั้น

เสียงทางนั้นถอนหายใจยาว ก่อนบอก “พี่ปุญญ์อาจชอบสนุกซุกซนไปทั่วเรื่องนี้เราสองคนเข้าใจกันดี ฉันหมายถึงฉันกับพี่ปุญญ์น่ะนะคะ และคุณไม่ใช่คนแรกหรอกที่โทรเข้าเบอร์สำนักงานแต่อยากคุยเรื่องส่วนตัวกับเขา และหลังจากนี้ฉันที่กำลังจะเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายทั้งนิตินัยและพฤตินัยของพี่ปุญญ์จะเป็นคนจัดการทุกอย่างทุกเรื่องของเขาเอง ตกลงจะให้โอนเงินเข้าบัญชีเลยไหมคะ สะดวกดี เหมาะกับผู้หญิงง่ายๆแบบคุณ”

พิชชาอรไม่รู้ว่าตัวว่าเธอวางสายไปตอนไหน แต่เธอไม่อยากเชื่อคำพูดแบบนั้น เธอต้องพบเขาให้ได้ อย่างน้อยๆก็ได้ร่วมกันสร้างชีวิตน้อยๆในท้องเธอขึ้นมาด้วยกันแล้ว เขาควรต้องรับผิดชอบไปพร้อมกับเธอ และเธอจะไม่หน้าด้านหน้าทนหากไปบอกเขาแล้ว และเขาจะไม่เป็นลูกผู้ชายมากพอที่จะรับผิดชอบ เธอก็พร้อมจะเลี้ยงลูกคนเดียว!

แล้วตัดสินใจลางาน ตรงไปที่ตึกใหญ่ใจกลางเมือง เธอรออยู่ที่ด้านล่างเมื่อพนักงานไม่ยินยอมให้เธอขึ้นไปพบเขาที่ด้านบนเสียที ลุกนั่งอยู่แถบนั้นอยู่นาน จึงเดินเข้าไปยังร้านกาแฟชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วไปหมดตั้งใจจะสั่งเครื่องดื่มและนั่งรอเขาในนี้จนกว่าอีกฝ่ายจะลงมา แต่ที่นั่งที่มีเหลือกลายเป็นตัวที่ต้องนั่งหันหน้าเข้ามาในร้าน เธอจึงเลือกนั่งรอดีกว่าจะต้องไปเป็นเป้าสายตาที่ข้างนอก

นานจนเครื่องดื่มของเธอเกือบหมดแก้ว พิชชาอรเผลอหลับตาไปอย่างไม่รู้ตัว สะดุ้งตื่นก็แว่วเสียงคุยกันจากทางด้านหลัง เสียงที่พอจะจำได้ว่าเป็นของใคร เธอจึงนั่งนิ่งรอฟังพวกเขาสนทนากัน

“พี่ปุญญ์ฮะเมื่อตอนพี่ประชุมเห็นลูกศรเล่าว่ามีผู้หญิงโทรมาจะคุยกับพี่ให้ได้เลยฮะ”

“มีอะไรเหรอ”

“ไม่ทราบสิฮะ ไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร บอกแต่ว่าเรื่องส่วนตัว”

“เรื่องส่วนตัวอีกแล้วเหรอ”ปุญญ์ว่าก่อนจะหัวเราะขรึมๆขึ้นมาพร้อมกัน

“เจ้าชู้” อีกเสียงที่โพล่งพูดขึ้นมาว่านั่นเธอจำได้มั่น นั่นคือเสียงหญิงสาวผู้ซึ่งประกาศตัวว่ากำลังจะเป็นภรรยาของปุญญ์ เธอคงพูดถูกใจเขามากละมังถึงทำให้เสียงหัวเราะดังกระเพื่อมขึ้นอีกครั้งได้

“เจ้าชู้อะไรกันคะ” ปุญญ์ทอดเสียงย้อนถามอีกฝ่าย พิชชาอรบีบมือตัวเองจนแน่น เธอจะกล้าพอไหม ที่จะหันไปเจรจากับเขา

“ลูกศรจะฟ้องคุณป้า”

“ได้ยังไงกันหืม... พี่อาจจะผ่านใครมามากมายนะ แต่คนที่พี่ต้องแต่งงานด้วยก็จะมีแค่ลูกศรเท่านั้น”

จบสิ้นกันแล้ว

เธอไม่หน้าทนพอจะไปคุยกับเขาอีก ทุกๆอย่างมันฟ้องอยู่ในการกระทำและคำพูดของเขาแล้ว

พิชชาอรหนาวยะเยือกไปถึงขั้วกระดูก เธอสะอิดสะเอียนเขา ปุญญ์จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นจริง แล้วเธอล่ะ ยังมีหน้าไปบอกเขาอีกไหมว่าท้องกับเขา ทั้งๆที่เธอยอมนอนทอดกายให้เขาเอง ยอมเขาเองทั้งสิ้น แถมเขายังตราหน้าไว้แล้วด้วยว่าผู้หญิงในอดีตของเขาเป็นแค่เพียงทางผ่านเท่านั้น มันก็ไม่แคล้วที่จะรวมถึงตัวเธอด้วย พิชชาอร!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

เมียหย่ารัก

เมียหย่ารัก

Gabie Parpia
4.9

เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

สนพ. อิ่มรัก
5.0

ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------

ธิดาแค้นต้องเอาคืน

ธิดาแค้นต้องเอาคืน

Casey Haag
5.0

ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ