“แก้วแค่ถาม ทำไมต้องพูดอะไรแรงๆแบบนี้ด้วยละคะ” “แล้วมันจริงไหม เธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร เธอมีหน้าที่อะไรแก้วตา” แก้วตาตาขวางบอกเสียงเยาะใส่เขาบ้าง “อ้อ แก้วมันแส่เอง ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกัน คุณโตไม่ต้องมายุ่งกับแก้วอีก แก้วก็จะไม่ยุ่งกับคุณโต” “เดี๋ยว! ไอ้ที่ต้องยุ่งเพราะเธอมีหนี้ต้องใช้ คิดว่าพิศวาสนักหรือไง” “เหรอคะ แก้วตาพยักหน้าน้อยๆถามด้วยแววตาปวดร้าว งั้นก็เอาเงินคืนไปเลยค่ะ” พูดจบควักเช็คออกจากกระเป๋ากางเกงยัดใส่มือเขาแล้วหันหลังขวับทันทีจะกลับห้อง ราชสีห์ตาวาวโรจน์มองกระดาษในมือแล้วก้าวยาวๆมาคว้าแขนเอาไว้ แต่แก้วตาฉุนจนเห็นราชสีห์เป็นเพียงแมวตัวหนึ่งเท่านั้น เธอออกแรงสะบัดมือเขาไม่พอ ยังผลักเขาจนสุดแรง ราชสีห์ไม่ทันตั้งตัวจึงเซถอยหลังไปครึ่งก้าว พอเห็นว่าแก้วตาสู้แรงอย่างไม่เคยทำมาก่อน ราชสีห์ก็มีโทสะจนพุ่งเข้าไปจับตัวเอาไว้พอจับท่อนแขนของเธอได้ข้างหนึ่ง แก้วตาก็ใช้แขนอีกข้างเหวี่ยงใส่หน้าของเขาเข้าเต็มเปา แต่เขากลับไม่หลบ จึงออกแรงทุบเขาซ้ำๆราชสีห์ก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอ แก้วตาที่ฮึดสู้ดึงดันแขนตัวเองให้หลุดจากเขาสุดท้ายก็สู้แรงไม่ไหว ราชสีห์ตวัดทีเดียวพลิกร่างเล็กจ้อยแล้วกอดรัดเอวบอบบางทางด้านหลังตั้งท่าจะสั่งสอนให้หลาบจำเสียหน่อย “เก่งแล้วนี่” เขาว่าเสียงเหี้ยมข้างใบหูเธอ ######### “ย่าเจอยัยเด็กที่เราเคยเอามากินมานอนในบ้านเมื่อปีก่อนด้วยนะ” ทั้งห้องพากันเงียบไปทันที “คนไหนครับคุณย่า” เป็นคเชนทร์ที่ถามขึ้นมาแทน เพราะสังเกตเห็นมือพี่ชายที่กระตุกขึ้นมาทันทีเมื่อคนเป็นย่าเพียงเอ่ยออกมาคำเดียว ราวกับว่าในใจของราชสีห์คิดถึงเธอคนนั้นอยู่ตลอดไม่วางวาย “ก็ยัยอะไรล่ะ...แก้วอะไรนั่นน่ะ” “แก้วตา” ราชสีห์บอกชื่อขึ้นมาด้วยเสียงที่บังคับไม่ให้ส่ออารมณ์มากนัก ######### “คุณไม่ควรตามใจแกนะคะ” “ทำไมจะตามใจไม่ได้ ลูกฉันทั้งคน” ราชสีห์ย้อนกลับ ชนิดที่ทำเอาเธอหน้าหงายทันที “เกล้าไม่ใช่…” “ไม่ใช่อะไร ไม่ใช่ลูกของฉันน่ะเหรอ โอเคนะที่เธออาจจะโง่ แต่ฉันไม่ได้โง่เหมือนเธอ” “ดูนี่” เขายื่นอัลบั้มรูปที่ดูเก่าเก็บส่งให้เธอ แก้วตารับมาเปิดออกดู พลันใจหายวาบ ใบหน้าของบุตรชายที่เธอให้กำเนิดเหตุใดจึงดูไม่ได้ผิดแผกไปจากเด็กในรูปเลยแม้แต่นิดเดียว “ในรูปน่ะฉันเอง เหมือนกันไหม” “เอ่อ...คือ ไม่ค่ะ อาจจะคล้ายๆ แต่ไม่เหมือน” “อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะโง่เหมือนตัวเองสิแก้วตา”
“ว่าไง … สรุปว่าตกลงไหม”
เสียงเฉียบขาดทรงอำนาจถามขึ้น มันมาจากเจ้าของที่มีใบหน้าเย็นชาน่าเกรงขาม พอเขาลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ม้านั่งหินอ่อนก็ดูราวกับว่าร่างสูงใหญ่นั่นทะมึนดุดันเหมือนเทือกเขาที่ตั้งตระหง่านตรงเบื้องหน้าจนคนมองอดเย็นวาบไปทั่วสันหลังไม่ได้เมื่อสบสายตาสีดำน่ากลัวคู่นั้น
แก้วตารู้สึกว่าตนเองคล้ายหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนจะตั้งสติแล้วย้อนถามเขากลับคืนไปบ้าง
“แก้วต้องทำงานใช้หนี้ใช่ไหมคะ”
“... อย่างเธอจะทำอะไรได้นอกจากงานในไร่ หรือจะมาขัดดอก...”ราชสีห์ว่าหมิ่นๆเหยียดสายตากราดมองร่างหญิงสาวเบื้องหน้าแล้วเมินหนีราวกับเธอน่าเกลียดน่าชังอย่างไรอย่างนั้น เปรยคล้ายดูถูกเธออีกคำรบ “คงกระเดือกไม่ลง”
ได้ยินคำพูดหมิ่นแคลนเช่นนั้นแล้ว แก้วตาจึงลอบถอนหายใจเบาๆ พลางคิดขึ้นได้ ว่าคนอย่างราชสีห์คงกระเดือกเธอไม่ลงจริงๆอยู่หรอก
มันแน่นอนอยู่แล้วที่เป็นเช่นนั้น ไหนจะสวยแบบสาวฝรั่งที่เคยเห็นข่าวในโซเชียลแบบที่เขาชอบควงและออกข่าวอยู่บ่อยๆกัน แก้วตานั้นยังเป็นแค่หญิงสาวอายุยี่สิบสองที่ไม่ได้ดูโตเท่าไรนัก ทั้งเนื้อทั้งตัวยังดูราวกับเด็กกะโปโลอยู่เลย สัดส่วนทรวดทรงนั้นไม่ได้เย้ายวนแบบเพื่อนคนอื่นๆที่ดึงดูดสายตาเพศตรงข้ามได้ขนาดนั้น ตรงข้ามเสียอีกที่พวกผู้ชายมักมองข้ามเธอไปด้วยซ้ำ ด้วยว่าไม่ได้มีอะไรให้ดึงดูดใจแม้แต่นิดเดียว
หญิงสาวถอนหายใจอย่างเนือยๆลองต่อรองกับราชสีห์ดูสักตั้ง
“ให้แก้วทำงานที่นี่แล้วส่งเงินใช้คืนอย่างนั้นได้ไหมคะคุณโต” เพราะกลับไปที่ไร่ แก้วตาก็ไม่รู้ว่าจะทำงานอะไร ไม่รู้ว่าจะพอใช้หนี้หรือเปล่าด้วย
“เกิดเธอหนีขึ้นมาล่ะ” ราชสีห์ถามกลับท่าทางดูโกรธขึ้งไม่สบอารมณ์นัก
“ไม่หนีหรอกค่ะ แก้วมีความรับผิดชอบพอ” แก้วตาบอกเสียงเนือยๆกลับไปเช่นเดิม
“เอ...แล้วทำไมผู้ปกครองเธอถึงมีไม่เหมือนเธอล่ะแก้วตา” ราชสีห์เยาะทั้งวาจาและสายตาคมคู่ของเขา
“คุณโตไม่ควรว่าคนอื่นส่งเดชนะคะ อีกอย่างไม่รู้ว่าลุงกับป้าผิดจริงหรือเปล่า จนกว่าจะตามหาท่านจนเจอแล้วถามเอาความจริงกับพวกท่าน”
แก้วตาติงเจ้าของไร่ วกไปถึงลุงกับป้าที่หายไปพร้อมกับเงินเฉียดล้านตามที่ได้รับข่าวมา ใจของหญิงสาวนั้นยังคงแบ่งรับแบ่งสู้ แม้จะตกปากรับคำว่าจะใช้หนี้แทนลุงกับป้า
ภายในใจลึกๆก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าลุงกับป้าจะกล้าขโมยเงินในไร่ไป แต่จะทำอย่างไรได้ ตอนนี้เธอจะทำตัวขวางเจ้าของเงินที่ท่าทางเหมือนจะเข้ามาขย้ำคอเธอแล้วบีบให้ตายคามืออยู่ทุกวินาทีได้อย่างไรกัน
ราชสีห์ตาลุกวาวเรืองแสงขึ้นราวกับมีกองไฟสุมอยู่ในนั้น เขามองคนที่กล้าติงเขาอย่างไม่รู้จักเกรงกลัวอำนาจบารมีอย่างไม่ใคร่จะพอใจเท่าไรนัก
เด็กสาวตรงหน้านี่เป็นแค่ลูก หรือหลานสาวของนายปุยและนางมะลิก็ไม่รู้ เขาจำไม่ได้ เพราะไม่เคยมีเด็กกะโปโลคนนี้อยู่ในสายตามาก่อน
สองคนผัวเมียนั่นทำงานในไร่มาก็นาน เหตุใดถึงกล้าล้วงคอคนอย่างราชสีห์ ฉกเอาเงินสดในสำนักงานไปเกือบล้านบาท เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ
ถ้าไม่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่แอบติดเอาไว้ ราชสีห์เองก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าคนงานที่เขาไว้ใจทั้งสองคนจะกล้าทำเช่นนี้ นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ
ซ้ำยังตรวจสอบจากบัญชีธนาคารในชื่อของหญิงสาวตรงหน้า พบว่ามีเงินโอนเข้าไปเป็นจำนวนหลักแสน หากนั่นไม่ใช่เงินที่ราชสีห์ตามหา จะเป็นของใครไปได้อีก เจ้าของไร่ผลไม้มองแก้วตาด้วยสายตาหมิ่นแคลน ดูถูก ซ้ำยังไม่คิดเชื่อคำพูดสักนิดเดียว ก่อนจะสรุปความขึ้นว่า
“สอบเสร็จ บ่ายสามใช่ไหม ฉันจะรอที่หน้าห้องสอบ”
ราวกับคำสั่งสุดท้าย ราชสีห์บอกจบเขาเดินออกจากโต๊ะหินอ่อนหน้าหอพักของเธอไปในทันที
แก้วตามองตามแผ่นหลังของเจ้าของไร่ไปก่อนจะถอนหายใจเฮือกด้วยความหดหู่กับชะตากรรมของตนเอง ทั้งคลางแคลงใจไม่อยากเชื่อว่าลุงกับป้าที่เลี้ยงเธอมาจะกล้าทำเช่นนั้น
ก่อนหน้านี้เพียงสามวันแก้วตาได้รับการติดต่อจากป้าหนอม แม่บ้านของราชสีห์ที่เอื้อเอ็นดูเธอราวกับเธอเองเป็นลูกของท่านคนหนึ่ง
ป้าหนอมบอกว่า ลุงกับป้าของเธอหายไปจากไร่ พร้อมกับเงินเฉียดล้าน ซ้ำร้ายพอเปิดกล้องวงจรปิดก็เห็นว่าเข้าไปในห้องสำนักงานและออกมาพร้อมกับถุงใส่เงินจริง
หลักฐานคาตา แต่จับตัวไม่ได้ เธอซึ่งเป็นเสมือนลูกของลุงกับป้า จึงได้รับการติดต่อจากเจ้าของไร่อีกที
ราชสีห์มาพบเธอถึงหอพักแล้วถามว่าเธอจะทำอย่างไร เธอจึงตัดสินใจยินยอมกลับไปทำงานใช้หนี้แทนลุงกับป้าของเธอ นอกจากนั้นยังจะต้องตามหาความจริงด้วยว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นอย่างไรกันแน่
บ่ายสามโมงพอดิบพอดีที่แก้วตาออกมาจากห้องสอบ หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งออกเนื่องจากว่าสอบเสร็จสิ้นเสียทีก็เท่ากับว่าเธอเรียนจบขั้นปริญญาตรีแล้วด้วย
แก้วตาหยิบกระเป๋าเล็กๆที่ใส่เครื่องเขียนมาที่มุมห้องเพื่อเก็บของทั้งหมดใส่ลงในกระเป๋าผ้าป่านแล้วจึงออกมาจากห้องสอบ จิตตาที่รออยู่พอเห็นเธอก็เดินเข้ามาถามทันที
“แก้วเป็นไง ทำได้ไหม”
“อือ ก็พอได้ แต่ไม่ค่อยมั่นใจเลย”
“ทั้งปี บอกว่าไม่มั่นใจ ไม่มั่นใจ คะแนนมากกว่าเราอยู่เรื่อย แล้วนี่แก้วจะกลับหอเลยหรือเปล่า”
“อืม เอล่ะ”
“เราอยากไปดูหนัง ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ”
“แก้วไม่ไปนะ แก้วไม่อยากไป ไม่มีเงินด้วยล่ะ เหลืออยู่ห้าร้อยนี่ก็ว่าจะเอาไว้เป็นค่ารถกลับบ้าน”
แก้วตาไม่ได้มีเงินเหลือใช้มากมายเหมือนเพื่อนคนอื่นๆที่พอเครียดก็ไปซื้อของ ดูหนัง หรือเที่ยวเตร่ และทุกทีที่ถูกชวน เธอก็จะบอกไปตามตรงว่าไม่มีเงิน และไม่อยากไปนั่นก็เป็นอีกเหตุผล เธอชอบนอนอ่านหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดของทางมหาวิทยาลัยมากกว่า สนุก ประหยัดด้วย
“เดี๋ยวเอเลี้ยงเอง” จิตตาบอกอย่างใจป้ำ
บทที่ 1 1
19/07/2022
บทที่ 2 2
19/07/2022
บทที่ 3 3
19/07/2022
บทที่ 4 4
19/07/2022
บทที่ 5 5
19/07/2022
บทที่ 6 6
19/07/2022
บทที่ 7 7
19/07/2022
บทที่ 8 8
19/07/2022
บทที่ 9 9
19/07/2022
บทที่ 10 10
19/07/2022
บทที่ 11 11
19/07/2022
บทที่ 12 12
19/07/2022
บทที่ 13 13
19/07/2022
บทที่ 14 14
19/07/2022
บทที่ 15 15
19/07/2022
บทที่ 16 16
19/07/2022
บทที่ 17 17
19/07/2022
บทที่ 18 18
19/07/2022
บทที่ 19 19
19/07/2022
บทที่ 20 20
19/07/2022
บทที่ 21 21
19/07/2022
บทที่ 22 22
19/07/2022
บทที่ 23 23
19/07/2022
บทที่ 24 24
19/07/2022
บทที่ 25 25
19/07/2022
บทที่ 26 26
19/07/2022
บทที่ 27 27
19/07/2022
บทที่ 28 28
19/07/2022
บทที่ 29 29
19/07/2022
บทที่ 30 30
19/07/2022
บทที่ 31 31
19/07/2022
บทที่ 32 32
19/07/2022
บทที่ 33 33
19/07/2022
บทที่ 34 34
19/07/2022
บทที่ 35 35
19/07/2022
บทที่ 36 36
19/07/2022
บทที่ 37 37
19/07/2022
บทที่ 38 38
19/07/2022
บทที่ 39 39
19/07/2022
บทที่ 40 40
19/07/2022
หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter
ข้อมูลเพิ่มเติม