Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
แก้วตาราชสีห์

แก้วตาราชสีห์

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
4.4K
ชม
51
บท

“แก้วแค่ถาม ทำไมต้องพูดอะไรแรงๆแบบนี้ด้วยละคะ” “แล้วมันจริงไหม เธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร เธอมีหน้าที่อะไรแก้วตา” แก้วตาตาขวางบอกเสียงเยาะใส่เขาบ้าง “อ้อ แก้วมันแส่เอง ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกัน คุณโตไม่ต้องมายุ่งกับแก้วอีก แก้วก็จะไม่ยุ่งกับคุณโต” “เดี๋ยว! ไอ้ที่ต้องยุ่งเพราะเธอมีหนี้ต้องใช้ คิดว่าพิศวาสนักหรือไง” “เหรอคะ แก้วตาพยักหน้าน้อยๆถามด้วยแววตาปวดร้าว งั้นก็เอาเงินคืนไปเลยค่ะ” พูดจบควักเช็คออกจากกระเป๋ากางเกงยัดใส่มือเขาแล้วหันหลังขวับทันทีจะกลับห้อง ราชสีห์ตาวาวโรจน์มองกระดาษในมือแล้วก้าวยาวๆมาคว้าแขนเอาไว้ แต่แก้วตาฉุนจนเห็นราชสีห์เป็นเพียงแมวตัวหนึ่งเท่านั้น เธอออกแรงสะบัดมือเขาไม่พอ ยังผลักเขาจนสุดแรง ราชสีห์ไม่ทันตั้งตัวจึงเซถอยหลังไปครึ่งก้าว พอเห็นว่าแก้วตาสู้แรงอย่างไม่เคยทำมาก่อน ราชสีห์ก็มีโทสะจนพุ่งเข้าไปจับตัวเอาไว้พอจับท่อนแขนของเธอได้ข้างหนึ่ง แก้วตาก็ใช้แขนอีกข้างเหวี่ยงใส่หน้าของเขาเข้าเต็มเปา แต่เขากลับไม่หลบ จึงออกแรงทุบเขาซ้ำๆราชสีห์ก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอ แก้วตาที่ฮึดสู้ดึงดันแขนตัวเองให้หลุดจากเขาสุดท้ายก็สู้แรงไม่ไหว ราชสีห์ตวัดทีเดียวพลิกร่างเล็กจ้อยแล้วกอดรัดเอวบอบบางทางด้านหลังตั้งท่าจะสั่งสอนให้หลาบจำเสียหน่อย “เก่งแล้วนี่” เขาว่าเสียงเหี้ยมข้างใบหูเธอ ######### “ย่าเจอยัยเด็กที่เราเคยเอามากินมานอนในบ้านเมื่อปีก่อนด้วยนะ” ทั้งห้องพากันเงียบไปทันที “คนไหนครับคุณย่า” เป็นคเชนทร์ที่ถามขึ้นมาแทน เพราะสังเกตเห็นมือพี่ชายที่กระตุกขึ้นมาทันทีเมื่อคนเป็นย่าเพียงเอ่ยออกมาคำเดียว ราวกับว่าในใจของราชสีห์คิดถึงเธอคนนั้นอยู่ตลอดไม่วางวาย “ก็ยัยอะไรล่ะ...แก้วอะไรนั่นน่ะ” “แก้วตา” ราชสีห์บอกชื่อขึ้นมาด้วยเสียงที่บังคับไม่ให้ส่ออารมณ์มากนัก ######### “คุณไม่ควรตามใจแกนะคะ” “ทำไมจะตามใจไม่ได้ ลูกฉันทั้งคน” ราชสีห์ย้อนกลับ ชนิดที่ทำเอาเธอหน้าหงายทันที “เกล้าไม่ใช่…” “ไม่ใช่อะไร ไม่ใช่ลูกของฉันน่ะเหรอ โอเคนะที่เธออาจจะโง่ แต่ฉันไม่ได้โง่เหมือนเธอ” “ดูนี่” เขายื่นอัลบั้มรูปที่ดูเก่าเก็บส่งให้เธอ แก้วตารับมาเปิดออกดู พลันใจหายวาบ ใบหน้าของบุตรชายที่เธอให้กำเนิดเหตุใดจึงดูไม่ได้ผิดแผกไปจากเด็กในรูปเลยแม้แต่นิดเดียว “ในรูปน่ะฉันเอง เหมือนกันไหม” “เอ่อ...คือ ไม่ค่ะ อาจจะคล้ายๆ แต่ไม่เหมือน” “อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะโง่เหมือนตัวเองสิแก้วตา”

บทที่ 1 1

“ว่าไง … สรุปว่าตกลงไหม”

เสียงเฉียบขาดทรงอำนาจถามขึ้น มันมาจากเจ้าของที่มีใบหน้าเย็นชาน่าเกรงขาม พอเขาลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ม้านั่งหินอ่อนก็ดูราวกับว่าร่างสูงใหญ่นั่นทะมึนดุดันเหมือนเทือกเขาที่ตั้งตระหง่านตรงเบื้องหน้าจนคนมองอดเย็นวาบไปทั่วสันหลังไม่ได้เมื่อสบสายตาสีดำน่ากลัวคู่นั้น

แก้วตารู้สึกว่าตนเองคล้ายหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนจะตั้งสติแล้วย้อนถามเขากลับคืนไปบ้าง

“แก้วต้องทำงานใช้หนี้ใช่ไหมคะ”

“... อย่างเธอจะทำอะไรได้นอกจากงานในไร่ หรือจะมาขัดดอก...”ราชสีห์ว่าหมิ่นๆเหยียดสายตากราดมองร่างหญิงสาวเบื้องหน้าแล้วเมินหนีราวกับเธอน่าเกลียดน่าชังอย่างไรอย่างนั้น เปรยคล้ายดูถูกเธออีกคำรบ “คงกระเดือกไม่ลง”

ได้ยินคำพูดหมิ่นแคลนเช่นนั้นแล้ว แก้วตาจึงลอบถอนหายใจเบาๆ พลางคิดขึ้นได้ ว่าคนอย่างราชสีห์คงกระเดือกเธอไม่ลงจริงๆอยู่หรอก

มันแน่นอนอยู่แล้วที่เป็นเช่นนั้น ไหนจะสวยแบบสาวฝรั่งที่เคยเห็นข่าวในโซเชียลแบบที่เขาชอบควงและออกข่าวอยู่บ่อยๆกัน แก้วตานั้นยังเป็นแค่หญิงสาวอายุยี่สิบสองที่ไม่ได้ดูโตเท่าไรนัก ทั้งเนื้อทั้งตัวยังดูราวกับเด็กกะโปโลอยู่เลย สัดส่วนทรวดทรงนั้นไม่ได้เย้ายวนแบบเพื่อนคนอื่นๆที่ดึงดูดสายตาเพศตรงข้ามได้ขนาดนั้น ตรงข้ามเสียอีกที่พวกผู้ชายมักมองข้ามเธอไปด้วยซ้ำ ด้วยว่าไม่ได้มีอะไรให้ดึงดูดใจแม้แต่นิดเดียว

หญิงสาวถอนหายใจอย่างเนือยๆลองต่อรองกับราชสีห์ดูสักตั้ง

“ให้แก้วทำงานที่นี่แล้วส่งเงินใช้คืนอย่างนั้นได้ไหมคะคุณโต” เพราะกลับไปที่ไร่ แก้วตาก็ไม่รู้ว่าจะทำงานอะไร ไม่รู้ว่าจะพอใช้หนี้หรือเปล่าด้วย

“เกิดเธอหนีขึ้นมาล่ะ” ราชสีห์ถามกลับท่าทางดูโกรธขึ้งไม่สบอารมณ์นัก

“ไม่หนีหรอกค่ะ แก้วมีความรับผิดชอบพอ” แก้วตาบอกเสียงเนือยๆกลับไปเช่นเดิม

“เอ...แล้วทำไมผู้ปกครองเธอถึงมีไม่เหมือนเธอล่ะแก้วตา” ราชสีห์เยาะทั้งวาจาและสายตาคมคู่ของเขา

“คุณโตไม่ควรว่าคนอื่นส่งเดชนะคะ อีกอย่างไม่รู้ว่าลุงกับป้าผิดจริงหรือเปล่า จนกว่าจะตามหาท่านจนเจอแล้วถามเอาความจริงกับพวกท่าน”

แก้วตาติงเจ้าของไร่ วกไปถึงลุงกับป้าที่หายไปพร้อมกับเงินเฉียดล้านตามที่ได้รับข่าวมา ใจของหญิงสาวนั้นยังคงแบ่งรับแบ่งสู้ แม้จะตกปากรับคำว่าจะใช้หนี้แทนลุงกับป้า

ภายในใจลึกๆก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าลุงกับป้าจะกล้าขโมยเงินในไร่ไป แต่จะทำอย่างไรได้ ตอนนี้เธอจะทำตัวขวางเจ้าของเงินที่ท่าทางเหมือนจะเข้ามาขย้ำคอเธอแล้วบีบให้ตายคามืออยู่ทุกวินาทีได้อย่างไรกัน

ราชสีห์ตาลุกวาวเรืองแสงขึ้นราวกับมีกองไฟสุมอยู่ในนั้น เขามองคนที่กล้าติงเขาอย่างไม่รู้จักเกรงกลัวอำนาจบารมีอย่างไม่ใคร่จะพอใจเท่าไรนัก

เด็กสาวตรงหน้านี่เป็นแค่ลูก หรือหลานสาวของนายปุยและนางมะลิก็ไม่รู้ เขาจำไม่ได้ เพราะไม่เคยมีเด็กกะโปโลคนนี้อยู่ในสายตามาก่อน

สองคนผัวเมียนั่นทำงานในไร่มาก็นาน เหตุใดถึงกล้าล้วงคอคนอย่างราชสีห์ ฉกเอาเงินสดในสำนักงานไปเกือบล้านบาท เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ

ถ้าไม่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่แอบติดเอาไว้ ราชสีห์เองก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าคนงานที่เขาไว้ใจทั้งสองคนจะกล้าทำเช่นนี้ นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ

ซ้ำยังตรวจสอบจากบัญชีธนาคารในชื่อของหญิงสาวตรงหน้า พบว่ามีเงินโอนเข้าไปเป็นจำนวนหลักแสน หากนั่นไม่ใช่เงินที่ราชสีห์ตามหา จะเป็นของใครไปได้อีก เจ้าของไร่ผลไม้มองแก้วตาด้วยสายตาหมิ่นแคลน ดูถูก ซ้ำยังไม่คิดเชื่อคำพูดสักนิดเดียว ก่อนจะสรุปความขึ้นว่า

“สอบเสร็จ บ่ายสามใช่ไหม ฉันจะรอที่หน้าห้องสอบ”

ราวกับคำสั่งสุดท้าย ราชสีห์บอกจบเขาเดินออกจากโต๊ะหินอ่อนหน้าหอพักของเธอไปในทันที

แก้วตามองตามแผ่นหลังของเจ้าของไร่ไปก่อนจะถอนหายใจเฮือกด้วยความหดหู่กับชะตากรรมของตนเอง ทั้งคลางแคลงใจไม่อยากเชื่อว่าลุงกับป้าที่เลี้ยงเธอมาจะกล้าทำเช่นนั้น

ก่อนหน้านี้เพียงสามวันแก้วตาได้รับการติดต่อจากป้าหนอม แม่บ้านของราชสีห์ที่เอื้อเอ็นดูเธอราวกับเธอเองเป็นลูกของท่านคนหนึ่ง

ป้าหนอมบอกว่า ลุงกับป้าของเธอหายไปจากไร่ พร้อมกับเงินเฉียดล้าน ซ้ำร้ายพอเปิดกล้องวงจรปิดก็เห็นว่าเข้าไปในห้องสำนักงานและออกมาพร้อมกับถุงใส่เงินจริง

หลักฐานคาตา แต่จับตัวไม่ได้ เธอซึ่งเป็นเสมือนลูกของลุงกับป้า จึงได้รับการติดต่อจากเจ้าของไร่อีกที

ราชสีห์มาพบเธอถึงหอพักแล้วถามว่าเธอจะทำอย่างไร เธอจึงตัดสินใจยินยอมกลับไปทำงานใช้หนี้แทนลุงกับป้าของเธอ นอกจากนั้นยังจะต้องตามหาความจริงด้วยว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นอย่างไรกันแน่

บ่ายสามโมงพอดิบพอดีที่แก้วตาออกมาจากห้องสอบ หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งออกเนื่องจากว่าสอบเสร็จสิ้นเสียทีก็เท่ากับว่าเธอเรียนจบขั้นปริญญาตรีแล้วด้วย

แก้วตาหยิบกระเป๋าเล็กๆที่ใส่เครื่องเขียนมาที่มุมห้องเพื่อเก็บของทั้งหมดใส่ลงในกระเป๋าผ้าป่านแล้วจึงออกมาจากห้องสอบ จิตตาที่รออยู่พอเห็นเธอก็เดินเข้ามาถามทันที

“แก้วเป็นไง ทำได้ไหม”

“อือ ก็พอได้ แต่ไม่ค่อยมั่นใจเลย”

“ทั้งปี บอกว่าไม่มั่นใจ ไม่มั่นใจ คะแนนมากกว่าเราอยู่เรื่อย แล้วนี่แก้วจะกลับหอเลยหรือเปล่า”

“อืม เอล่ะ”

“เราอยากไปดูหนัง ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ”

“แก้วไม่ไปนะ แก้วไม่อยากไป ไม่มีเงินด้วยล่ะ เหลืออยู่ห้าร้อยนี่ก็ว่าจะเอาไว้เป็นค่ารถกลับบ้าน”

แก้วตาไม่ได้มีเงินเหลือใช้มากมายเหมือนเพื่อนคนอื่นๆที่พอเครียดก็ไปซื้อของ ดูหนัง หรือเที่ยวเตร่ และทุกทีที่ถูกชวน เธอก็จะบอกไปตามตรงว่าไม่มีเงิน และไม่อยากไปนั่นก็เป็นอีกเหตุผล เธอชอบนอนอ่านหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดของทางมหาวิทยาลัยมากกว่า สนุก ประหยัดด้วย

“เดี๋ยวเอเลี้ยงเอง” จิตตาบอกอย่างใจป้ำ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

Abelard Evans
5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
5.0

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ