5.0
ความคิดเห็น
1.6K
ชม
32
บท

เธอถูกส่งมาให้เขาในฐานะ...ของบรรณาการ ทางรอดมีเพียงหนึ่งคือต้องมีทายาทกับ...เขา นายหัวหนุ่มเจ้าของเกาะ เขาคือตัวร้ายแต่หากได้ถอดรูป เขาคือผู้ชายที่ใครๆ ก็อยากจับจอง

บทที่ 1 ต้องประหยัด

“เซ็นสิ” น้ำเสียงนิ่งๆ เอ่ยบอก เมื่อเห็นคนตรงหน้ายังคงนั่งนิ่ง ไม่ยอมเซ็นรับทราบข้อตกลงในกระดาษนั่นเสียที

“ค่ะ” ร่างเล็กๆ เอ่ยรับ แต่มือข้างที่กำลังจับปากกาอยู่นั้นกลับสั่นเทาอย่างไม่อาจห้ามได้ เพราะเนื้อหาในเอกสารตรงหน้ามันช่างบีบหัวใจของเธอเสียเหลือเกิน

เธอรู้ว่าครอบครัวเป็นหนี้ผู้หญิงตรงหน้า แต่ไม่คิดว่าจำนวนจะมากมายถึงสิบล้านเช่นนี้ หนี้ที่เธอไม่ได้ก่อแต่ต้องร่วมชดใช้ เพราะคนที่ก่อหนี้คือบิดาที่เวลานี้หนีไปอยู่ที่ไหนเธอก็ไม่อาจรู้ หากตัวคนเดียวเธอก็คงหนีไปเช่นกัน แต่นี่เธอยังมีน้องสาวอีกคนให้ดูแล ส่วนแม่นั้นได้จากไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว

รินลดาสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะยอมจรดปลายปากกาเพื่อเซ็นรับทราบวิธีการปลดหนี้ด้วยหัวใจที่ถูกบีบอัด แม้ข้อตกลงในเอกสารตรงหน้าจะเกินรับได้ แต่มันก็ยังดีกว่าเธอกับน้องไม่มีที่ให้ซุกหัวนอน อีกอย่างหลังเซ็นชื่อลงไปเธอก็จะได้เงินก้อนแรกมาทันที และหากเธอทำสำเร็จลุล่วงนอกจากจะปลดหนี้ได้แล้ว ยังได้เงินอีกก้อนเพื่อไปตั้งตัว แต่ถ้าไม่ทุกอย่างก็ว่างเปล่า แถมเธอยังจะมีหนี้เพิ่มมาอีกต่างหาก

เมื่อเซ็นชื่อเสร็จ รินลดาก็ยื่นเอกสารในมือคืนให้คนตรงหน้า ที่พอเห็นว่าเธอเซ็นชื่อกำกับไว้แล้วก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ

“พรุ่งนี้ออกเดินทางได้เลย”

“พรุ่งนี้เลยเหรอคะคุณหญิง” สีหน้าของรินลดาบ่งบอกว่าเธอตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้

“ใช่...ฉันไม่อยากเสียเวลารอ” แม้จะสงสัยในความเร่งรีบนี้ แต่รินลดาก็ไม่อาจเอ่ยถามออกไปได้ นั่นเพราะไม่ใช่เรื่องที่เธอควรต้องรู้ ขนาดรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายเธอยังไม่เอ่ยถามว่าเป็นยังไง ทำราวกับปลงตกในชีวิตก็ว่าได้

คุณหญิงฤทัยพอใจในรูปร่างหน้าตาของรินลดาไม่น้อย แต่ก็เผื่อใจเพราะหากรินลดาหนีกลับมาก่อนจะเสร็จงานเหมือนคนก่อนๆ เธอจะได้มองหาคนใหม่ไปแทนที่ ต้องมีผู้หญิงสักคนที่ถูกใจลูกชายตัวดีของเธอสิ ไม่ใช่ส่งใครไปก็ทำเสียเรื่องจนเขาเสียขวัญหรือไม่ก็เกือบตายแบบนั้นทุกครั้ง

อีกอย่างคือเธอมีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะไม่อยากได้สะใภ้ที่ไม่อยากได้ อยากรู้นักว่าผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไรกัน ลูกชายของเธอถึงได้รักถึงได้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้ นิสัยต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง แถมยังเคยเป็นเมียน้อยเมียเก็บมาอีก พื้นหลังแบบนั้นเหรอจะริมาเป็นสะใภ้เธอ...ไม่มีทาง

“หรือเธอติดขัดอะไร” คุณหญิงฤทัยเอ่ยถามขึ้น พร้อมสบตาของรินลดามาตรงๆ ท่าทางที่เห็นทำเอาเธอถึงกับใจสั่นอยู่ไม่น้อย

“ปะ...เปล่าค่ะ”

“เปล่าก็ดี ฉันจะส่งคนไปรับตัวเธอทันทีที่รู้ว่าเธอท้อง”

“ค่ะ” รินลดาเอ่ยรับได้แค่นี้ ตอนนี้รู้แล้วว่าต้องไปที่ไหนและต้องเจอกับใคร แค่คิดใจมันก็สั่นเพราะความกลัวเสียแล้ว แต่ก็บอกตัวเองให้สู้ เพราะนี่คือทางที่เธอเลือกจะเดินเอง

“ห้ามบอกลูกชายฉันเรื่องเอกสารนี่อย่างเด็ดขาด เขาจะรู้แค่ว่าเธอไปในฐานะเมียที่ฉันส่งไปให้เท่านั้น อ้อ...อย่าลืมว่าถ้าเธอเปลี่ยนใจกลางครันก็จะไม่ได้อะไรเลย และต้องจ่ายหนี้คืนให้ฉันภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วย”

“ค่ะ”

“ส่วนสัญญาก็อ่านถี่ถ้วนดีแล้วใช่ไหม จะมาแย้งทีหลังไม่ได้แล้วนะ” แม้จะเคี่ยวเรื่องผลประโยชน์ แต่เพราะเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้าเหมือนลูกเหมือนหลาน ทำให้คุณหญิงฤทัยใจร้ายไม่ได้เต็มหัวใจนัก เพราะหากจะทำตามที่พูดจริงป่านนี้คงไล่ครอบครัวของรินลดาให้ออกไปจากบ้านที่เอาโฉนดมาเพื่อค้ำประกันเงินกู้นานแล้ว

แต่ที่ปล่อยให้ยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้ นั่นก็เพราะมีแผนบางอย่างในใจ และก็เพื่อต้องการให้หญิงสาวตรงหน้าโตเป็นสาวเต็มที่เสียก่อน โตทั้งรูปร่างหน้าตาและโตเรื่องความรู้ด้วย อย่างน้อยๆ ตอนนี้รินลดาก็คว้าปริญญาใบแรกมาครองได้ รูปร่างหน้าตาก็สวยคมอย่างที่คิด แถมยังไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยใดๆ

“ดีแล้วค่ะ”

“ก็ดี จะได้ไม่ต้องมาเรียกร้องกันทีหลัง”

“ค่ะ”

“ไปเตรียมตัวซะ พรุ่งนี้เช้าฉันจะให้คนไปรับเธอที่บ้าน”

“ค่ะ”

“แล้วนี่เงินก้อนแรก เอาไปสิ” เอ่ยจบคุณหญิงฤทัยก็ยื่นซอง สีน้ำตาล ที่ภายในมีเงินสดปึกใหญ่มาให้รินลดา

“ขอบคุณมากค่ะ” รินลดายกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณ จากนั้นก็รับซองสีน้ำตาลมาถือไว้ในมือ จู่ๆ หัวใจก็รู้สึกหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อหมดธุระ รินลดาก็กลับออกไปจากบ้านหลังโออ่าของครอบครัวพิทักษ์ธรรมรักษ์ โดยมุ่งตรงไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อชำระค่าเทอมของน้องสาวที่ผลัดจ่ายมาจนเลยกำหนด จากนั้นก็นำเงินส่วนที่เหลือไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟที่ติดค้างมาจนเกือบถูกตัดเช่นกัน และก่อนเข้าบ้านก็ซื้ออาหารแห้งและสดตุนไว้เป็นเสบียง

จนลดาน้องสาวที่เพิ่งกลับมาจากเรียนต้องเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

“เกิดอะไรขึ้นนะพี่ทราย ทำไมของกินถึงได้มากมายขนาดนี้”

“พอดีพี่ขายที่ได้ เจ้านายเลยให้เงินเปอร์เซ็นต์มานิดหน่อย” รินลดาเอ่ยถึงงานพิเศษที่เธอรับทำมาตั้งแต่เรียนยังไม่จบ แม้เงินเดือนจะน้อยแต่ก็อยู่ได้ด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ว่านี่แหละ

“ว้าว! มีแซลมอนด้วย รู้ได้ยังไงว่าฟ้าอยากกิน”

“รู้สิ...เพราะฟ้าเป็นน้องพี่ไง” จะว่าไปแซลมอนชิ้นสุดท้ายที่เธอเห็นลดากินคงเมื่อปีก่อนกระมัง ทำไงได้ในเมื่อเธอกับลดาต้องประหยัด แต่ถึงอย่างนั้นรินลดาก็ห้ามไม่ให้น้องสาวหางานพิเศษทำ โดยเธอรับอาสาหาเงินเข้าบ้านเพียงคนเดียว ขอแค่ลดาตั้งใจเรียนให้จบเธอก็พอใจมากแล้ว ซึ่งลดาเองก็ไม่เคยทำตัวเหลวไหลให้พี่สาวต้องกังวลเช่นกัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

มหาเศรษฐี

5.0

เธอคือ....นางโจร ส่วนเขาคือนายตำรวจ...มือหนึ่ง แต่พรหมลิขิตกลับชักพาให้นางโจรอย่างเธอปล้นความรักไปจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่าง...เขา +++++ “ผมบอกไปหรือยังว่าผมรักคุณ” “ยังค่ะ” มีนาเอ่ยตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อคืนเหมือนเธอจะได้ยินเมฆาบอกรัก แต่มันก็แผ่วเบาเสียจนคิดว่าเธอคงฝันหรือไม่ก็เพ้อไปเองคนเดียว “โอเค...ผมรักคุณ” เมฆาบอกรักคนในอ้อมกอด มันคือคำว่ารักที่แสนเรียบง่ายแต่ทว่ากลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ทั้งจากคนพูดและคนที่ได้ยิน เพราะหากไม่แน่ใจว่ารักเมฆาหรือจะพูดคำนี้ออกมา “ผู้ชายเขาบอกรักกันง่ายๆ แบบนี้เหรอคะ” “ใครบอกว่าง่าย เมื่อคืนกว่าผมจะบอกรักคุณมีนด้วยภาษากายได้ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเชียวนะ” “ทะลึ่ง” มีนามองค้อนมาให้ นั่นเพราะรู้ความหมายที่เมฆาเอ่ยว่าคืออะไร “ผมพูดเรื่องจริง” “แต่ฉันเป็นโจรที่เคยยกเค้าบ้านคุณนะคะ ถูกแจ้งจับอีก แบบนี้คุณยังจะรักฉันอย่างนั้นเหรอ” “มีกฎหมายข้อไหน ห้ามไม่ให้ตำรวจรักกับโจรบ้าง” “ก็...” คนฟังแย้งไม่ออก “ผมว่าความรักมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว รักก็คือรัก” “แต่เราต่างกันเกินไป ฉันคิดว่า...” “โลกนี้ไม่มีคำว่าต่าง ต่อให้มีเราก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันก็ได้นี่ครับ ผมขอแค่โอกาส” “ฉัน...” “ผมรักคุณมีน ต่อให้จะนอนคิดนั่งคิดหรือตีลังกาคิดก็ยังรัก” เมฆาเอ่ยคำว่ารักให้คนในอ้อมกอดได้ยินและได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอีกครั้ง “แล้วถ้าฉันปฏิเสธละคะ คุณจะว่ายังไง” “ผมคงเสียใจหนักมากแน่” เมฆาเสียใจจริงๆ แต่เขาคงไม่ถอดในจากเธอด้วยเรื่องแค่นี้แน่ แต่ทว่าคำพูดหลังจากนั้นของมีนากลับทำให้คนฟังยิ้มกว้างออกมา “แต่ฉันไม่อยากเห็นคุณเสียใจ” “งั้นก็รับรักผม ได้ไหม” “เฮ้อ! ไหนๆ ฉันก็ได้คุณแล้วก็คงต้องแมนๆ รับผิดชอบ ฉันรับรักคุณก็ได้อะ คุณจะได้ไม่ร้องไห้เสียใจเพราะฉัน” มีนาพูดติดตลก นั่นเพราะไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้อึดอัด คำพูดของเธอทำให้เมฆาถึงกับหัวเราะ ก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมโปงทั้งเธอและเขา แล้วเริ่มปฏิบัติการยืนยันว่าแท้จริงแล้วใครได้ใครกันแน่ และใครต้องรับผิดชอบใคร

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

มนุษย์หมาป่า

5.0

‘เขาเป็นแวมไพร์ที่ปฏิเสธการดื่มเลือด แต่กลับไม่ปฏิเสธหากจะได้กลืนกินเธอ’ ------------ “วันนี้นายริทเป็นอะไร ดูเหม่อๆ” “นั่นนะสิ” คนงานอีกคนเห็นด้วย ก่อนจะหยุดการสนทนาใดๆ แล้วตัดดอกไม้ต่ออย่างขะมักเขม้น ส่วนคนที่พวกเขาเอ่ยถึงนั้น ตอนนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้าเช่นเดียวกัน กระทั่งได้ดอกไม้ครบตามจำนวน เชโรมจึงเดินไปยังรถที่ตอนนี้มีดอกไม้แสนสวยอยู่ท้ายกระบะเต็มไปหมด แต่จังหวะนั้น สายตาของเชโรมกลับมองไปเห็นกระต่ายสีขาวที่เขาเลี้ยงไว้หลุดออกมาจากกรง จึงเดินไปอุ้มมันขึ้น ท่าทางเขาดูอ่อนโยนเสียจนมาศิตาที่ผ่านมาเห็น คิดว่าตัวเองตาฝาด จนต้องขยี้ตาแรงๆ สามสี่ครั้ง “ผู้ชายหน้าโหดกับกระต่ายสีขาว ดูยังไงก็ไม่เห็นจะเข้ากันสักนิด สงสัยจะเลี้ยงกระต่ายไว้กินแน่ๆ” “เลี้ยงไว้ดูจ้ะ นายริทชอบกระต่ายสีขาว ตรงนู่นเป็นกรงกระต่าย มีหลายสิบตัว” คนงานสาวคนหนึ่งเอ่ยแย้งให้ผู้เป็นเจ้านาย “ชีวิตดูมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วขัดแย้งกับหน้าตาสุดๆ แวมไพร์ตนอื่นๆ มีแต่จะเลี้ยงกระต่ายไว้ดื่มเลือด นี่อะไร เลี้ยงไว้ดูเล่น โอ๊ย! พ่อมังสวิรัติ” มาศิตาบ่นคนเดียวอีกตามเคย ตามมาด้วยอีกประโยค “สอนแวมไพร์ให้ดื่มเลือด มันจะเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำปะวะเนี่ย ของมันเป็น มันอยู่ในสายเลือด จะให้เรามาสอนเขาทำไม หืม” คนข้างๆ ที่เผลอได้ยินทั้งสองประโยคนี้เข้า กลับมีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด พอจะถามมาศิตาก็เดินตัวปลิวไปเสียแล้ว “ใครเป็นแวมไพร์หว่า หรือเราจะหูฝาดไป” คนงานสาวที่เพิ่งจะเอ่ยแก้ต่างเรื่องกระต่ายให้เชโรมไปเมื่อครู่ถึงกับคิ้วขมวด พูดกับตัวเองตามมาศิตาไปอีกคน ------------------ “แต่ศิตาไม่ยอมให้พี่ริทตายเด็ดขาด เพราะศิตารักพี่ริท” เอ่ยจบก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรม จูบที่ต่างฝ่ายต่างต้องการจากกันและกันมาโดยตลอด จูบที่ฝันว่าครั้งแรกมันต้องโรแมนติกและน่าจดจำ ไม่ใช่จูบที่ได้กลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากเขาเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เลือด! ใช่…เลือด คำๆ นี้ทำให้มาศิตานึกอะไรขึ้นมาได้ เธอคือผู้พิทักษ์ เลือดของเธอแวมไพร์ที่ยืนจ้องอยู่ตรงนั้นยังต้องการ แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้เชโรมชิงดื่มเลือดของเธอเสีย ไม่แน่ว่า หากเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์จริงๆ เชโรมอาจมีพลังขึ้นมาก็เป็นได้ มาศิตาถอนจูบออก แล้วแสร้งโอบกอดเชโรม ก่อนจะกระซิบให้เขาฝังคมเขี้ยวลงไปบนลำคอเพื่อจะได้ดื่มเลือดเธอ แต่เหมือนเชโรมกลับส่ายหน้าปฏิเสธกับแผนนี้ กระทั่งมาศิตาชิงลงมือก่อน เธอกัดริมฝีปากตัวเองสุดแรงจนเลือดไหล แม้จะเจ็บแต่ก็ยอมทน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรมอีกครั้ง ทันทีที่ได้สัมผัสเลือดของผู้พิทักษ์ นั่นทำให้เลือดในกายของแวมไพร์หนุ่ม ผู้ที่ไม่เคยลิ้มรสชาติของเลือดใดๆ มาก่อน พลันพลุ่งพล่านราวกับเปลวไฟ “เจ้าทำอะไร” แดนเองก็ได้กลิ่นเลือดของมาศิตาเช่นเดียวกัน รวมทั้งจ้องมองความผิดปกติของเชโรมอย่างไม่กะพริบตา เลือดเพียงหนึ่งหยด กลับทำให้นัยน์ตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลอ่อนแปรเปลี่ยนมาเป็นสีแดงเพลิงในทันที ร่างกายที่เคยเจ็บปวดกลับค่อยๆ หาย และรู้สึกถึงพลังที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “แววตาแบบนั้น เจ้าเป็นใครกัน หรือว่า…”

เล่ห์รักฉบับ CEO

เล่ห์รักฉบับ CEO

มหาเศรษฐี

5.0

จูบแรกก็เป็นของเขา จูบครั้งที่สอง สาม สี่ ก็ยังคงเป็นของเขา แบบนี้โสภิตาจะหนีจาก CEO หนุ่มที่เธอบังเอิญผ่านไปช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างไร ++++++++++++++++ **โปรย 1 “เท่าที่ได้คุยกันฉันว่านายเชนคนนี้นิสัยก็ใช้ได้” “อึนๆ มึนๆ นี่เหรอใช้ได้” โสภิตาอยากจะบอกเหลือเกินว่าบางครั้งราเชนก็กวนตีนเธอ “อื้อ...นายเชนเขาให้ความพิเศษกับแกนะ ขนาดปลายังแกะก้างออกให้ นี่ถามจริงๆ แกไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ” “ก็...” โสภิตาอ้ำๆ อึ้งๆ เธอนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องความรัก เรียกได้ว่าชั่วโมงบินน้อยมากๆ ใครมาดีหรือมาร้ายบางครั้งก็มองไม่ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณของตัวเองซึ่งบางครั้งมันอาจผิดพลาด “หรือคิดมากเรื่องฐานะที่นายเชนมีน้อยกว่าแก” “ไม่ใช่เรื่องนั้น ถามว่าฉันรู้สึกดีกับเขาไหมก็...อื้ม บางครั้งเวลาฉันอยู่กับเขาแล้วเหมือนตัวเองเป็นง่อย จากที่ทำอะไรได้เองก็เริ่มอยากให้เขาทำให้ อยากให้เขาช่วย” นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่โสภิตารู้ตัวเองดี “ไม่แปลกหรอก เพราะผู้หญิงเราต่อให้แข็งแกร่งยังไงลึกๆ ในหัวใจก็อยากมีใครสักคนมาดูแล” “แกก็เป็นเหรอ” “เป็นสิ บางครั้งฉันยังงอแงให้บอสจับแมลงสาบเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเห็นตอนไหนฉันกระโดดกระทืบตอนนั้น” คำพูดของรติชาทำให้โสภิตาหัวเราะออกมาเพราะนึกภาพออกทันที เวลานั้นปิลันธน์คงทั้งกลัวทั้งอยากกำจัดให้คนรักส่วนรติชาก็คงหัวเราะชอบใจแน่ๆ “นึกว่าฉันเป็นอยู่คนเดียว” “แกนะเข้มแข็งมากนะหวาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย ที่ผ่านมาอาจเพราะแกยังไม่เจอใครที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้แกเลยไม่เปิดใจ แต่ถ้าตอนนี้แกเจอคนคนนั้นแล้วฉันแนะนำว่าแกควรฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้มาก ว่าอยากอยู่แบบที่ผ่านๆ มาหรืออยากจับมือกับใครสักคนไปจนวันตาย” นั่นคือคำแนะนำจากใจของรติชาเพราะเธอเคยลังเลแบบนี้มาแล้ว หากเวลานั้นตัดสินใจผิดตอนนี้เธออาจโกนหัวบวชชีที่วัดป่าที่ไหนสักแห่ง “ฉันอยากจับมือใครสักคน” ++++++++++++++++ ***โปรย 2 “ฉันเกลียดที่สุดคือคนโกหก ที่ผ่านมาฉันรู้สึกดีกับนายเพราะเข้าใจมาตลอดมานั่นคือนาย แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่ นายจะโกหกอะไรฉันอีกไหม ฉันต้องโง่ไปอีกกี่ครั้ง” น้ำเสียงของโสภิตานั้นสั่นเครือ “ผมสัญญาว่าจะไม่โกหกอะไรคุณอีกแล้ว สาบานให้ตาย...” จังหวะที่ราเชนกำลังจะสาบานให้ตัวเองตาย โสภิตาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเขาไว้เสียก่อน “ลองตายดูสิ ฉันจะลากตัวนายขึ้นมาแล้วสับๆ” ราเชนอึ้งกับประโยคที่ได้ยินก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าโสภิตาไม่ยอมให้เขาตายง่ายๆ สินะ “โอเคๆ ผมไม่ตายแล้วก็ได้ ยกโทษให้ผมเถอะนะคุณหวาน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” “นายนี่มัน ทำฉันทั้งสุขทั้งทุกข์เหมือนคนเป็นไบโพลาร์แบบนี้ได้ยังไง รับผิดชอบสติฉันมาเลย” “ถ้าผมรับผิดชอบจริงๆ คุณหวานจะตอบตกลงไหมครับ” “อื้อ” “จริงๆ นะ” ราเชนถามย้ำ ส่วนคนที่ตามความเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ทันก็ไม่ได้เอะใจอะไรแม้แต่น้อยเช่นกัน “จะรับผิดชอบอะไรว่ามา” “แต่งงานกันไหม”

รักร้อนซ่อนใจรัก

รักร้อนซ่อนใจรัก

โรแมนติก

5.0

เขาคือพระเอกดาวค้างฟ้า เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งแรงเสมอ ในขณะที่เธอก็เป็นแค่เอ็กตร้าในกองถ่าย ที่เอ๋อๆ เด๋อๆ เพราะไม่ได้เป็นแฟนคลับของเขาเธอจึงไม่ได้แสดงออกว่าปลื้ม แต่ยิ่งเธอเฉยเขายิ่งสนใจ กระทั่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน จูบแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นก็เพราะงาน แต่หัวใจของเธอกลับถูกริมฝีปากนุ่มและแสนร้ายกาจของพระเอกกระชากจนหลุดลอยและมันมักจะลอยไปหาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ของขวัญวันเกิดปีนี้ของเธอก็ยังเป็นจูบจากเขา จูบที่ทำให้ใจสาวหวั่นไหวและยากจะต้านทาน หัวใจเธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ทางเดียวที่จะรับมือคือพุ่งเข้าชนแล้วเอาหัวใจเป็นเดิมพัน

หัวใจแพ้ทางรัก

หัวใจแพ้ทางรัก

โรแมนติก

5.0

ถึงอาดิน เรารู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้วนะคะ เป็นสิบปีที่มิลค์มีความสุขมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่มิลค์จะหยุดรักอาดินได้เลย นอกจากจะหยุดรักไม่ได้แล้ว ยังรักมากขึ้นๆ ทุกๆ วัน สิบปีมานี้มิลค์ได้บอกรักอาดินไปหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งที่บอกไปมิลค์มีความสุขมากค่ะ ถึงแม้อาดินจะไม่ตอบรับมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่มิลค์ก็ยังพยายามต่อ เพราะหวังว่าสักวันอาดินจะหันมามองเห็นความรักที่มิลค์มีให้และรับมันไป แต่ว่า...มันคงไม่มีวันนั้นแล้วจริงๆ มิลค์ขอโทษนะคะที่เอาแต่ใจ ที่ตามกวนใจอาดิน หลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันสักพัก มิลค์ขอให้อาดินเจอคนที่ใช่ คนที่อาดินรัก ส่วนมิลค์จะขอเฝ้ามองอาดินอยู่ห่างๆ แทน ลาก่อนค่ะ มิลค์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พี่เขยคลั่งสวาท

พี่เขยคลั่งสวาท

กาสะลอง
5.0

“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี

คุณหมอที่รัก NC18++

คุณหมอที่รัก NC18++

Me'JinJin
4.4

กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ

อย่ายุ่งกับมันอีก! หัวใจของนายกูกำลังจะหันกลับมาหาคุณ

อย่ายุ่งกับมันอีก! หัวใจของนายกูกำลังจะหันกลับมาหาคุณ

Scarlett
5.0

หลังจากแต่งงานกับกู้หลางเอี้ยน โจวซีได้ทำหน้าที่เป็นภรรยาของกู้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แม้ว่าเขาจะมีคนที่รักอยู่แล้วและปฏิบัติต่อเธออย่างเย็นชา เธอก็ยังยินดีรับความเจ็บปวดเหมือนเป็นความสุข เมื่อทุกคนเห็นพฤติกรรมของโจวซีที่คอยตามใจเหมือนเงา เมื่อรักแรกที่ลืมไม่ลงของกู้หลางเอี้ยนกลับมาจากต่างประเทศ ทุกคนในเมืองต่างรอคอยที่จะเห็นเธออับอาย แต่ไม่คาดคิดว่าโจวซีจะเด็ดขาดและเซ็นสัญญาหย่าโดยไม่หันกลับไปมองอีก กู้หลางเอี้ยนกลับมาขวางเธอด้วยท่าทางที่ดื้อรั้นและตาแดงก่ำ "โจวซี เธอหมายความว่ายังไง?" เธอชูแหวนแต่งงานใหม่ในมือขึ้น พร้อมยิ้มอย่างสดใส "ขอโทษนะ ฉันกำลังจะแต่งงานแล้ว ไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว" …… ทุกคนคิดว่าโจวซีรักกู้หลางเอี้ยนอย่างลึกซึ้ง ราวกับว่าเธอยอมผ่านความยากลำบากและอุปสรรคเพื่อเขา แต่ไม่มีใครรู้ว่า เธอมองผ่านกู้หลางเอี้ยนไปยังชีวิตของคนอีกคนหนึ่งในอนาคต

สามีใหม่ของฉัน สุดยอดน่าดูเลย

สามีใหม่ของฉัน สุดยอดน่าดูเลย

Thaddeus Shore
5.0

ทั้งเมืองรู้กันดีว่า หลังจากที่ลู่ซิงหลานถูกเปิดเผยว่าเป็นลูกสาวปลอม เธอก็ถูกสามีขับไล่ออกจากชีวิต พ่อแม่ก็ทอดทิ้ง พี่ชายก็รังเกียจ ครอบครัวของสามีตัดสินใจไล่เธอออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด แต่ใครจะคิดว่าเธอกลับไปพึ่งพา ลี่จิ่งเหยียน ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแทนในทันที ขณะที่ทุกคนรอให้ลี่จิ่งเหยียนถีบลู่ซิงหลานออกไปนั้น ลู่ซิงหลานก็เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอย่างใจเย็น มันมีแต่เรื่องที่ทำให้ประหลาดใจเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือบรรดาผู้ทรงอิทธิพลต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอเป็นแถว สามีเก่าที่เป็นคนไม่ดีอยากกลับมาง้อขอคืนดี ลู่ซิงหลานก็จัดการเขาทิ้งทันที และกลับยิ้มให้สามีใหม่แล้วพูดว่า "ที่รัก คุณสามารถพึ่งพาฉันได้นะ" ใครจะคิดว่าลี่จิ่งเหยียนเองก็เป็น ผู้ทรงอิทธิพลไม่เบา พร้อมยิ้มแย้ม "แต่ที่รัก ผมอยากครองใจคุณมากกว่า" องค์กรระหว่างประเทศเพิ่งเผชิญกับสามเหตุการณ์สำคัญ หนึ่งคือการที่ลู่ซิงหลานหย่าร้าง สองคือการที่ลี่จิ่งเหยียนแต่งงาน และสามคือคู่รักที่มีตัวตนลับมากมายที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อหลอกลวง ทั้งสองสมคบคิด ทำอะไรไม่ดี

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รัญจวนหลง
1

บทที่ 1 ต้องประหยัด

11/05/2022

2

บทที่ 2 เอาทำเมีย

11/05/2022

3

บทที่ 3 อย่าหวัง

11/05/2022

4

บทที่ 4 กระโดดลงไปสิ

11/05/2022

5

บทที่ 5 มีสิทธิ์อะไร

11/05/2022

6

บทที่ 6 ทำทุกวิธีทาง

11/05/2022

7

บทที่ 7 กินน้ำทะเล

11/05/2022

8

บทที่ 8 ยอมแพ้

11/05/2022

9

บทที่ 9 ลมหายใจ

11/05/2022

10

บทที่ 10 ประสบการณ์ครั้งแรก

11/05/2022

11

บทที่ 11 สำรวจเรือนร่าง

11/05/2022

12

บทที่ 12 ขอแบ่งไออุ่น

11/05/2022

13

บทที่ 13 อารมณ์ของความไม่พอใจ

11/05/2022

14

บทที่ 14 ลุกโชน

11/05/2022

15

บทที่ 15 ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เอ่ย

11/05/2022

16

บทที่ 16 ร้อนแรงราวกับพายุ

11/05/2022

17

บทที่ 17 กินไม่ลง

11/05/2022

18

บทที่ 18 ร่างกายของรินลดา

11/05/2022

19

บทที่ 19 พอแล้ว

11/05/2022

20

บทที่ 20 หนะ...นายหัว

11/05/2022

21

บทที่ 21 ไถ่โทษ

11/05/2022

22

บทที่ 22 ตรวจครรภ์

11/05/2022

23

บทที่ 23 กำลังตั้งท้อง

11/05/2022

24

บทที่ 24 ลูกกับเมีย

11/05/2022

25

บทที่ 25 ความรู้สึกผิดเกาะกุม

11/05/2022

26

บทที่ 26 ลูกน้อยวัยเดือนเศษ

11/05/2022

27

บทที่ 27 ไม่ยอมเลิกรา

11/05/2022

28

บทที่ 28 สติหลุด

11/05/2022

29

บทที่ 29 โหยหาอ้อมกอด

11/05/2022

30

บทที่ 30 เริ่มต้นใหม่

11/05/2022

31

บทที่ 31 ลองนับหนึ่งไปด้วยกัน

11/05/2022

32

บทที่ 32 ไม่เคยปฏิเสธ (จบ)

11/05/2022